บทที่ 1119 วงจรสมองมีปัญหา / บทที่ 1120 กลัวเมียได้ยังไง

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1119 วงจรสมองมีปัญหา

ดังนั้นกงซวี่จึงลองถ่ายใหม่อีกรอบ

กงซวี่ถ่ายหนึ่งครั้งก็ดีกว่าอีกหนึ่งครั้ง แต่ไม่พอ ยังต้องถึงความต้องการของเยี่ยหวันหวั่นที่มักรู้สึกว่าขาดอะไรบางอย่าง

เธออยากให้กงซวี่แสดงอารมณ์ที่ ‘อำมหิต’ กว่าคนชั่ว อารมณ์ที่ใกล้เคียงกับความบ้าคลั่ง!

พอจำนวนครั้งมากขึ้นอีก กงซวี่ก็ไม่ทำแล้ว “ผมโหดพอแล้วนะ! ยังต้องโหดยังไงอีก! ผมโคตรโหดเลย!”

เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดชั่วครู่ จากนั้นจึงเรียกกงซวี่มาด้านข้างคนเดียว “มานี่”

“โอ้…” กงซวี่เดินเตาะๆ ไปหา

เยี่ยหวันหวั่นคิดเล็กน้อย จากนั้นมองกงซี่แล้วเอ่ย “ตอนนี้ นายหลับตา จากนั้นก็ฟังที่ฉันพูด ลองจินตนาการดู ตอนนี้นายกำลังฝึกพิเศษอยู่ในป่าดึกดำบรรพ์ พกแค่ขนมปังแข็งชิ้นเดียวแต่ต้องทนอยู่เป็นเวลาหนึ่งเดือน นายลำบากลำบนทนมาแล้วยี่สิบเก้าวัน ตอนวันที่สามสิบในที่สุดก็ใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว เตรียมต้องใช้เสบียง แต่ตอนนี้ ขนมปังแข็งชิ้นนี้กลับถูกคนชั่วแย่งไป จากนั้น นายคิดจะทำอะไร”

กงซวี่เอ่ย “ฆ่า! มัน! ซะ!”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “…ดีมาก”

ครั้งนี้กงซวี่ผ่านฉลุย

คนสวมบทตัวร้ายเป็นทหารปลดประจำการ หลายครั้งก่อนตอนที่สู้กับกงซวี่ เขาล้วนยังออมมือให้ แต่ครั้งนี้ เขากลับถูกกงซวี่บีบจนจำต้องเอาจริง

“คัต! สมบูรณ์แบบ! ดีมาก! อารมณ์อัดแน่นเป็นพิเศษ สมบทบาทมาก!” หลิวชิงแสดงความพอใจมาก

เยี่ยมู่ฝานมุมปากกระตุก ขยับเข้าใกล้เยี่ยหวันหวั่นกระซิบถามอย่างสงสัย “เธอพูดอะไรกับกงซวี่ จู่ๆ ก็บ้าขนาดนี้!”

เยี่ยหวันหวั่นตอบ “ไม่ได้พูดอะไร แค่ให้เขาจินตนาการว่าถ้าถูกแย่งขนมปังแข็งไปหนึ่งชิ้นเขาจะรู้สึกยังไง”

เยี่ยมู่ฝานตาโตอ้าปากค้าง “วงจรสมองเด็กนี่มีปัญหาหรือเปล่า”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “พี่เพิ่งรู้วันแรกเหรอ”

เยี่ยมู่ฝานพูดไม่ออก

ฉากที่สองของวันนี้เป็นฉากต่อสู้ตอนใกล้จบเรื่อง

สุดท้ายเซวียเส้าหยางที่เหลวแหลก อ่อนแอขี้ขลาด กระทั่งเมินเฉยเห็นแก่ตัว ก็ตายเพื่อช่วยเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง

เฉินเยวี่ยที่หลังผ่านความทุกข์ยากมาหลายครั้ง มองเซวียเส้าหยางเป็นพี่น้องคนหนึ่งแล้วอุ้มร่างของเซวียเส้าหยาง โศกเศร้าเหลือคณา

ไฮไลท์ของฉากนี้อยู่ที่ตัวลั่วเฉิน

ครั้งเดียวลั่วเฉินก็ผ่านแล้ว

“คัต! ผ่าน! ดีมาก!” พริบตาที่หลิวชิงตะโกนคัต เสียงปรบมือก็ดังสนั่นหวั่นไหวทั่วกองถ่าย

ลั่วเฉินโค้งตัว สีหน้าโศกเศร้าบนใบหน้าหายไปฉับพลัน

ลั่วเฉินถึงขั้นเก็บสีหหน้าตามใจอยากได้แล้ว…

เยี่ยหวันหวั่นมองลั่วเฉิน มีความรู้สึกยินดีอย่าง ‘บุตรบ้านข้าเติบใหญ่แล้ว’

ลั่วเฉินพัฒนาก้าวกระโดดเกินไปแล้วจริงๆ!

กงซวี่บ่นอิจฉาอยู่ด้านข้าง “จิ๊ๆ แสดงได้ปลอมจริงๆ แค่มองก็รู้ว่าแสดงออกมา! ถ้าฉันตาย หมอนั่นต้องจุดดอกไม้ไฟถึงจะถูก!”

การถ่ายบรรดาฉากไฮไลท์ทั้งหมดผ่านไปอย่างราบรื่นภายใต้ประสิทธิภาพสูง ทุกคนในกองถ่ายโล่งใจกันถ้วนหน้า

เห็นด้วยกับคำพูดโบราณที่ว่า การลับขวานไม่ทำให้ตัดไม้ช้าลง เวลาที่ใช้กับการฝึกพิเศษในที่สุดก็ไม่เสียเปล่า

พร้อมกับการถ่ายทำอันเคร่งเครียด เวลาก็ผ่านไปวันแล้ววันเล่า

กระบวนการถ่ายทำราบรื่นมาก สุดท้ายเวลาปิดกล้องที่คาดไว้ก็เร็วกว่าที่กำหนดครึ่งหนึ่ง

วันปิดกล้อง เยี่ยหวันหวั่นให้เจียเหวินจองห้องส่วนตัว จัดงานเลี้ยงปิดกล้องให้สมาชิกกองถ่ายทุกคน

กลางคืน เมื่อถึงห้องส่วนตัวกงซวี่ก็เริ่มโวยวาย

“พี่เยี่ย เวลาปกติก็ช่างเถอะ แต่วันนี้เป็นวันน่ายินดีขนาดนี้ พี่ต้องดื่มสักแก้ว!”

พูดจบยังดึงลั่วเฉินที่อยู่ด้านข้างมาร่วมด้วย “ไอ้เซ่อ นายว่าถูกไหม”

ลั่วเฉินเอ่ย “ไม่ถูก”

กงซวี่สบถ “เชี่ย! คนทรยศ! ไหนว่าเพื่อนเป็นเพื่อนตายกันไง!”

เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาใส่กงซวี่ “นายสงบหน่อย ฉันจะไปโทรศัพท์”

“เฮ้ เดี๋ยวก่อน ตกลงดื่มไม่ดื่ม พี่เยี่ยยังไม่บอกผมเลยนะ!” กงซวี่รีบเอ่ย

เยี่ยหวันหวั่นชูมือถือขึ้น “ดื่มได้หรือเปล่า ฉันต้องโทรไปขอคำแนะนำก่อน”

กงซวี่นิ่งเงียบ

……………………………..

บทที่ 1120 กลัวเมียได้ยังไง

กงซวี่อดแขวะไม่ไหวจริงๆ ”ก็แค่ดื่มเหล้า จำเป็นด้วยเหรอ”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “จำเป็น ฉันกลัวเมีย”

กงซวี่สำลักพูดไม่ออก

“พี่เป็นผู้ชายตัวโต กลัวเมียได้ยังไง!” กงซวี่เอ่ยอย่างเจ็บแค้น

กงซวี่พูดจบก็พบว่าไม่ถูก เฮ้ย ‘เมีย’ คนนั้นของพี่เยี่ยก็คือผู้ชายนี่นา…

เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจการคร่ำครวญของกงซวี่ เดินไปโทรศัพท์ในที่เงียบๆ แล้ว

โทรศัพท์ถูกรับอย่างรวดเร็ว

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ฮัลโหล คุณเก้าๆ!~”

ในเวลาเดียวกันนี้ ในคฤหาสน์กุหลาบ ซือเยี่ยหานกำลังนั่งรับสายมือถือของเยี่ยหวันหวั่นอยู่บนโซฟา

ถังถังที่อยู่ด้านข้างทันทีที่ได้ยินเสียงริงโทนที่บอกว่าเยี่ยหวันหวั่นโทรมานี้ ก็วิ่งตึกๆ เข้ามาหา มองซือเยี่ยหานอย่างเฝ้ารอจดจ่อทันที

ซือเยี่ยหานเหลือบมองเด็กน้อยแวบหนึ่ง จากนั้นก็เปิดลำโพงแล้วเอ่ยปาก “อืม ไม่ใช่ว่าไปงานเลี้ยง? ”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินเสียงครางต่ำเซ็กซี่ของชายหนุ่มดังขึ้นจากปลายสาย ก็รีบเอ่ยว่า “ใช่ๆ เพราะงั้น…มีเรื่องหนึ่งอยากขอคำแนะนำจากคุณ…คืนนี้ฉันขอ…”

ซือเยี่ยหานเอ่ย “ห้ามดื่มเหล้า”

เยี่ยหวันหวั่นยังพูดไม่จบ ซือเยี่ยหานก็ราวกับพยาธิในท้องเธอมองทะลุปรุโปร่งว่าเธอจะพูดอะไร

“เอ่อ…นิดเดียว! ฉันดื่มนิดเดียวเท่านั้นก็ไม่ได้เหรอ วันนี้น่าดีใจจริงๆ นะ! ละครเรื่องแรกที่พวกเราทุกคนวางแผนถ่ายปิดกล้องแล้ว! วันน่ายินดีขนาดนี้ ทำไมดื่มเหล้าไม่ได้ล่ะ งานเลี้ยงปิดกล้องที่ไม่ดื่มเหล้า ก็ไม่มีจิตวิญญาณของงานเลี้ยงแล้ว!”

ความจริงคืนนี้กงซวี่ไม่พูด เยี่ยหวันหวั่นก็ตั้งใจเตรียมดื่มนิดหน่อย เธอทนไม่ไหวนานแล้ว

ฟังเหตุผลข้างๆ คูๆ ต่างๆ นานาของฝั่งเยี่ยหวันหวั่น ซือเยี่ยหานไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย ยังคงตอบสองคำอย่างเปี่ยมหลักการ “ไม่ได้”

เยี่ยหวันหวั่นไม่ถอดใจ “กฎคือของตาย คนคือของเป็นนะ! ยกเว้นสักครั้งไม่ได้เหรอ โอเคไหม คุณเก้า…ที่รัก…เบบี๋…สามี? ”

ซือเยี่ยหานเอ่ย “…แน่ใจว่านิดเดียว? ”

ทันทีที่ได้ยินว่าเห็นแววเยี่ยหวันหวั่นก็พยักหน้ารัว “แน่ใจแน่นอนรับรอง คุณยังไม่เชื่อฉันเหรอ ฉันเชื่อฟังจะตาย!”

ซือเยี่ยหานแสดงท่าทีสงสัยอย่างหนักไม่เอ่ยพูด

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “โอเคไหม ชอบคุณที่สุด! รักคุณที่สุดเลย! จะไม่ดื่มเยอะจริงๆ!”

ผ่านไปนาน ในที่สุดซือเยี่ยหานก็เอ่ย “หยุดแค่พอดี”

นี่คืออนุญาตแล้ว!

เยี่ยหวันหวั่นดีใจทันควัน “รู้อยู่แล้วว่าคุณดีที่สุด!”

ถังถังที่ได้ยินบทสนทนาของพ่อแม่ทุกขั้นตอน เวลานี้ดวงหน้าเล็กบึ้งตึงมองซือเยี่ยหาน เปี่ยมความไม่เห็นด้วยอย่างเห็นได้ชัด ราวกับกำลังต่อว่าพ่อว่าไร้เหตุผลมาก

“คุณพ่อ คุณพ่อทำแบบนี้ไม่มีเหตุผลเกินไปแล้ว แบบนี้ไม่ถูกต้อง ดื่มเหล้าไม่ดีต่อร่างกาย” เด็กน้อยเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง

ซือเยี่ยหานเลิกคิ้วเบาๆ หันมองเด็กน้อย จากนั้นก็ส่งโทรศัพท์ให้เขา “เธอลองดูได้”

ลองก็ลอง!

เด็กน้อยรับโทรศัพท์มาอย่างโมโห “คุณแม่!”

ทันทีที่ได้ยินเสียงถังถัง เยี่ยหวันหวั่นก็พลันดีใจยิ่ง “ถังถัง คิดถึงแม่แล้วหรือเปล่าจ๊ะ”

“อื้ม ถังถังคิดถึงแม่แล้ว!” เด็กน้อยตอบอย่างซื่อสัตย์มาก ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของแม่จากปลายสาย ใบหน้าบึ้งตึงของเด็กน้อยก็พลันเปลี่ยนไปอ่อนหวานน่ารักผิดปกติ

“เด็กดีจุ๊บๆ เบบี๋ลูกนอนก่อนเลยนะ ห้ามนอนดึกเกินไป แม่จะรีบจบงานกลับไปนอนเป็นเพื่อนลูกให้เร็วที่สุดจ้ะ!”

“อื้ม คุณแม่ไม่ต้องห่วง ถังถังจะดูแลตัวเองดีๆ”

“ลูกรักเป็นเด็กดีที่สุด แม่ชอบลูกที่สุดเลย! งั้นแม่วางสายก่อนนะ ม๊วฟ~”

“อื้ม บายๆ คุณแม่~”

หลังคุยกับแม่เสร็จ เบบี๋ถังถังก็กอดโทรศัพท์ วางสายย่างพึงพอใจ

อืม ผู้ใหญ่นั้นแค่ไม่มีหลักการ ส่วนเด็กนั้นลืมเรื่องที่ต้องชักจูงแม่ไม่ให้ดื่มเหล้าซะสนิท…

…………………………..