ตอนที่ 447

The Novel’s Extra

บทที่ 447 ลางบอกเหตุของการพบเจอ (1)

 

[3 ปีที่แล้ว อคทรีน่า]

 

ชินจงฮัคตื่นขึ้นมาในป่า ใบไม้สั่นสะเทือนท่ามกลางความหนาวเย็นและลมพัด เสียงของธรรมชาติเท่านั้นที่เข้ามาในหูของเขา

 

“…………….”

 

ชินจงฮัคลุกขึ้นหลังจากจ้องมองใบไม้ที่เปล่า

 

ป่านั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ต้นไม้ดูแตกต่างจากที่เขาเห็นบนโลก ก่อนที่เขาจะสงสัยว่าเขาอยู่ที่ไหน

 

‘หาของกินก่อนเถอะ’

 

ชินจงฮัค เริ่มค้นหาเพื่อความอยู่รอด เขาชิมใบไม้ที่แตกต่างกันมองหารากที่กินได้และไตร่ตรองว่าร่างกายของเขาสามารถต่อสู้กับเห็ดพิษได้หรือไม่

 

หลังจากเดินในป่าเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง …

 

“หืม?”

 

เขาพบกระเป๋าหนังบนพื้น

 

‘เราได้ยินมาว่าหนังสามารถปรุงและกินได้…. เดี๋ยวก่อนนั่นมันใช่สิ่งที่เราคิดหรือเปล่า’

 

“… !”

 

ความคิดแวบขึ้นมาในหัวของชินจงฮัคเขารีบวิ่งไปที่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว

 

“อา!”

 

หลังจากตรวจสอบกระเป๋าอย่างใกล้ชิดเขาก็มั่นใจว่านี่คือ ‘ถุงอาหาร’ ที่คิมฮาจินนำมา มันน่าตื้นตันใจมากกับ [การขยายพื้นที่ระดับสูง],

[การรักษาความสดใหม่ระดับสูง] และ [การลดน้ำหนัก]

 

อึก.

 

ชินจงฮัคกลืนน้ำลายอย่างหนักและตรวจสอบของในกระเป๋า จากนั้นเขาก็อุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว

 

“ว้าวววว … .”

 

ถุงนี้เป็นคลังอาหารเคลื่อนที่ มีอาหารในกระเป๋าเพียงพอที่จะอยู่กับเขาได้ตลอดทั้งปี

 

“หืม อย่างที่คิดมันมีประโยชน์จริงๆ”

 

ชินจงฮัค ดึงเนื้อตากแห้งออกมาจากถุง งับๆ เขากินจนอิ่มท้องเขาก็เริ่มมองหาเพื่อนๆของเขา

 

แต่เขาไม่เจอใครซักคนไม่ว่าเขาจะพยายามมองหาแค่ไหนและในไม่ช้าเขาก็เริ่มตั้งแคมป์ไฟเพื่อทานอาหารที่เหมาะสมด้วยตัวเอง และแล้ว

 

“…นั่นใครน่ะ?”

 

แขกที่ไม่ได้รับเชิญมาถึง กลุ่มคน 8 คนแบกตะกร้าและหอก พวกเขาดูอ่อนแอเมื่อมองดูอย่างรวดเร็วพวกเขาดูหิวโหยมาก

 

“ฉันจะฆ่าพวกแกถ้าพวกแกไม่ตอบ”

 

ชินจงฮัคยกหอกของเขาขึ้นมา

 

“อ๊ะ ขอโทษๆ พวกเราทำผิดไปแล้ว….”

 

พวกเขาแนะนำตัวเองว่าเป็นนักล่า ประชาชนหลายคนเสียชีวิตจากสงครามที่ยืดเยื้อระหว่าง เคานต์ ชูเบิร์ท และราชวงค์ ส่วนผู้ที่รอดชีวิตนั้นเป็นผู้ไร้ที่อยู่ซึ่งรวมกลุ่มของตนเอง

 

ชินจงฮัค ไม่มีเข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูด แต่เขาต้องยอมรับว่าเขาถูกส่งมายังต่างโลกแล้วละ

 

“ถ้างั้น พาฉันไปที่ฐานพวกนายหน่อย”

 

ความอยากรู้อยากเห็นของชินจงฮัคทำให้เขาไปเยี่ยมชมฐานของนักล่า ตามชื่อของพวกเขา พวกเขาอาศัยอยู่ได้ทุกวันนี้โดยการมองหาอาหารและมักจะอดอาหารในวันที่พวกเขาไม่สามารถหามาได้

 

ชินจงฮัคเสนออาหารให้พวกเขา

 

อย่างไรก็ตามมีนักเลงที่ดมกลิ่นอาหารตามมาหาเขา

 

“…แกไปเอาอาหารจำนวนมากมาจากที่ไหน”

 

อัศวิน 3 คนปรากฏขึ้นจากความมืด นักล่าตัวสั่นด้วยความกลัว

 

“มอบมันให้กับ เคานต์ ชูเบิร์ท หากแกยังไม่อยากตาย”

 

อัศวินเหล่านี้หยิ่งและมีแข็งแกร่ง แต่ ชินจงฮัคหัวเราะเยาะและแทงหัวใจของพวกเขาด้วยหอกของเขาทันที อัศวินทั้ง 3 ถูกฆ่าตายภายในพริบตา

 

เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลงผู้ล่าก็โค้งคำนับให้ชินจงฮัค ชินจงฮัคชอบความรู้สึกที่ได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นราชาเช่นนี้

 

“ได้-ได้โปรดยอมรับพวกเรา….”

 

หัวหน้านักล่าวิงวอน เนื่องจากชินจงฮัคต้องการให้พวกผู้ชายตามหา

เพื่อนๆของเขา เขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมกับพวกเขาเหล่านี้

 

…ผ่านไป 1 เดือน

 

ชินจงฮัคค้นพบที่ดินทำนาและหาเมล็ดพันธุ์ให้กับนักล่า เขาเลือกชายและหญิงที่มีความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้ สอนวิธีแห่งหอก

 

เนื่องจากบรรยากาศมีมานาเพียงพอพวกเขาจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว

 

…ผ่านไปอีกครึ่งปี

 

พวกเขาหมดอาหาร ฟาร์มขนาดเล็กของพวกเขาไม่เพียงพอที่จะเลี้ยง ปากท้องกว่า 500 คน ชินจงฮัคไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจัดตั้ง

ศาลเตี้ยเพื่อขโมยสิ่งของจากดินแดนต่างๆ

 

…ผ่านไปอีก 1 ปี

 

ชินจงฮัคกลายเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของศาลเตี้ย ผมของเขายาวถึงไหล่

เขาไว้เคราแพะเพื่อความดูดี

 

สมาชิกของศาลเตี้ยเข้มแข็งขึ้นในเวลาต่อมา สาวกที่ทำงานหนักได้เรียนรู้หลายสิ่งจากอาจารย์ที่ดีของพวกเขาและพวกเขามีพลังมากพอที่จะเรียกว่า ‘อัศวิน’

 

…ผ่านไปอีก 2 ปี

 

ในขณะที่ปกป้องนักล่าจากมอนสเตอร์ ขโมยเสบียงจากดินแดนต่างๆและต่อสู้กับอัศวินแห่งเคานต์ ชูเบิร์ท ชินจงฮัคได้ตระหนักรู้ครั้งใหญ่ หอกเพลิงทมิฬของเขาก็สามารถเผาผลาญพลังเวทมนต์ของศัตรูได้เช่นกัน

 

ชินจงฮัค ตั้งชื่อใหม่ให้กับพรสวรรค์สุดวิเศษของเขา ‘กลืนกินเวทมนต์’ แต่นั่นกลับเพิ่มความปรารถนาของเขาที่จะกลับไปยังโลกและความเกลียดชังของเขาสำหรับคนที่พาเขามายังโลกใบนี้ก็เพิ่มขึ้น

 

…ผ่านไป 3 ปีต่อมาหรือปัจจุบัน

 

ในที่สุด ชินจงฮัค ก็พบคนที่เขากำลังตามหา

 

คิมฮาจิน

 

เขาถูกต้อนจนมุมโดยอัศวินของ เคานต์ ชูเบิร์ท ชื่อ เรแลน แต่ เรแลน ไม่อยู่ในสายตาของ ชินจงฮัค

 

“ฉันรอมาถึง 3 ปี!!!”

 

เขาชี้หอกไปที่คิมฮาจิน ย้าาาาาาา…เปลวเพลิงสีดำพุ่งออกมาจากหอกของเขาอย่างรุนแรง

 

“เกิดอะไรขึ้นและที่นี่คือไหน … ”

 

ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาชินจงฮัคฆ่ามอนสเตอร์นับพันและโด่นอัศวินนับร้อย เขาต่อสู้บ่อยมากกว่าที่เขากินข้าวและความอยู่รอดเป็นสิ่งเดียวในจิตใจของเขา ในโลกที่ไม่รู้จักนี้เขาต้องดูแลกว่า 500 ชีวิต ถ้าประมาทเพียงนิดเดียวอาจหมายถึงความตาย เขาจึงต้องระวังทุกวินาที

 

“แกไปทำอะไรมาถึง 3 ปี…”

 

ภายใต้ความหนักหน่วงของความรับผิดชอบและสถานการณ์ที่อยู่ในชีวิตและความตาย ชินจงฮัค ได้ไปถึงขอบเขตที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

 

“แกต้องอธิบายมาให้ดี ถ้าแกไม่อยากตาย”

 

ในฐานะที่เป็นมือหอกระดับปรมจาร์ยตอนนี้เขาได้ก้าวข้ามเกินขีดจำกัด ของตัวเองไปแล้ว ชินจงฮัคปลดปล่อยพลังเวทมนต์ที่ไร้ขอบเขตออกมา

*************************************************************************

 

“เอ่อ….”

 

ผมพูดไม่ออก ผมรู้สึกตกใจกับการเติบโตอย่างฉับพลันของชินจงฮัค

แต่จิตสังหารของเขาคือสิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจมากกว่า ดูเหมือนว่ามันจะแทงหัวใจของผมอยู่ตลอดเวลา

 

“เขารับมือได้ยาก ถอย.”

 

แม้แต่ เรแลน ผู้ที่แนะนำตัวเองว่าอยู่ในฐานะปรมจารย์แห่งดาบก็ยังไม่กล้าสู้กับเขาตรงๆ เขาถอยกลับทันทีที่ชินจงฮัคเคลื่อนไหว อัศวินของเขาไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

จินซาฮยอค สะบัดผม

 

“เฮ้ หมอนั้นเป็นอะไรไปเหรอ?”

 

“…ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ที่นี่มา 3 ปีแล้ว”

 

“3 ปีเหรอ”

 

“ใช่มันเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว เขาถูกขังอยู่ในเวลาที่แตกต่างจากคนอื่น”

 

เมื่อเรแลนและอัศวินของเขาหายตัวไปชินจงฮัคและสมาชิกศาลเตี้ยก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พวกเขาล้อมรอบพวกเราในพริบตา

 

ชินจงฮัคมองมาที่ผมและผมก็จ้องมองเขา ดูเหมือนว่าเขาจะอายุเยอะขึ้นอย่างน้อย 6 ~ 7 ปี

 

“อธิบายมา คิมฮาจิน ฉันอาจจะฆ่าแก เพราะงั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับ

คำตอบของแก”

 

เขาโกรธแค้นมากจริงๆ เพราะการปรากฏตัวของเขานั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงกับ ชินจงฮัคที่ผมรู้จัก

 

“…ฉัน……อะแฮ่ม. พวกเราก็ตามหานายด้วยเช่นกัน”

 

ผมล้างคอและชี้ไปที่จินซาฮยอค

 

“ก่อนอื่นมันเป็นเพราะเธอ”

 

… 1 ชั่วโมงต่อมา

 

ผมอธิบายทุกอย่างให้ชินจงฮัคฟัง เขาโกรธมากเมื่อได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นและเขาก็เข้าโจมตีจินซาฮยอค

 

น่าตกใจ พวกเขาต่อสู้กันอย่างเท่าเทียม ไม่สิจริงๆแล้วชินจงฮัคครอบความได้เปรียบตั้งแต่แรก มันเป็นเรื่องของความเหมาะสมอีกครั้ง

 

เปลวเพลิงสีดำของ ชินจงฮัค ทำให้พลังเวทมนต์ของ จินซาฮยอค ดับลงและ จินซาฮยอค เสียเปรียบหากไม่มี [การปล่อยอาวุธวิเศษ] ของเธอ

 

เมื่อดูการต่อสู้ของพวกเขา ขนลุกขึ้นมาบนร่างของผม ฉันไม่เคยคาดคิดว่าชินจงฮักจะต่อสู้กับจินซาฮยอคได้อย่างทัดเทียม เขาเข้าใกล้ชัยชนะมากในตอนนี้ ความตกใจของผมไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำพูด

 

แน่นอนถ้าการต่อสู้ยืดเยื้อจินซาฮยอคก็จะใช่พรสวรรค์แสนวิเศษ

[การจัดการความเป็นจริง] ของเธอ

 

แต่ไม่ว่ายังไงหลังจากการสนทนาด้วยหมัดจบลง พวกเราก็กลับไปที่เมืองของชินจงฮัค

 

“คริสตัลที่นายพูดถึงอยู่ในเมือง”

 

ชินจงฮัคมีเศษคริสตัลอยู่ในเมือง แต่ผมรู้สึกประหลาดใจกับเมืองนี้มากกว่าเศษคริสตัล มันมีรั้ว,ยาม,หอสังเกตการณ์และสิ่งต่างๆที่เมืองต้องการ

 

“…นายสร้างทั้งหมดนี้ด้วยตัวเองเหรอ?”

 

จินซาฮยอค ถาม ชินจงฮัค ด้วยการต่อสู้เมื่อกี้ เธอเองก็ต้องยอมรับในความแข็งแกร่งของชินจงฮัค

 

“ทุกคนช่วยกัน แน่นอนว่าเพราะฉัน 70% ได้และมีคนที่นี่อยู่ 673 คน”

 

ชินจงฮัคอธิบายอย่างภาคภูมิใจ แต่ไม่นานเขาก็มองมาที่ผมด้วยท่าทางที่ซับซ้อน

 

“ว่าแต่สถานที่นี้เป็นเพียงโลกปลอมๆที่เกิดขึ้นจริงเหรอ”

 

“…ใช่.”

 

ผมพยักหน้า.

 

“… .”

 

ชินจงฮัคไม่พูดอะไรมากนัก แต่เขาไม่สามารถซ่อนความขมขื่นเอาไว้ได้

 

“เอาล่ะ เอาไปนายสามารถย้อนกลับไปได้ ถ้านายมีมันครบ 6 ใช่ไหม?”

 

ชินจงฮัคส่งมอบเศษคริสตัลให้ผม

 

===

[ชิ้นส่วนของแผ่นดิน]

– คริสตัลที่เก็บรักษาอดีตที่บันทึกเอาไว้

– ต้องการพลังเวทมนต์เพื่อการเติบโต

===