บทที่ 1744 - ปัดป้องลูกศรพิชิตอมตะ ก้ำกึ่งระหว่างความเป็นความตาย การรับรู้ที่เปลี่ยนไปจากภาพหยิน-หยาง

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

AST
  บทที่1744 – ปัดป้องลูกศรพิชิตอมตะ ก้ำกึ่งระหว่างความเป็นความตาย? การรับรู้ที่เปลี่ยนไปจากภาพหยิน-หยาง
  ก่อนที่ลูกศรพิชิตอมตะจะถูกยิงธนูทลายสุริยาผู้ชายจะทำการกำหนดเป้าหมายศัตรูโดยยึดจากปราณจิตที่จำแนกตัวบุคคล เมื่อมันถูกยิงออกไปแล้ว มันก็จะไม่หยุดจนกว่าจะอัดกระแทกเป้าหมาย หรือจังหวะพลังงานในตัวลูกศรพิชิตอมตะจะหมดสิ้นลง เมื่อภัยอันตรายมาถึง ชิงสุ่ยก็ดึงเอาง้าวทองทะลวงศัตรูขึ้นมาปกป้องตัวเองจากลูกศรพิชิตอมตะ
  ปัง!!!
  หลังจากที่ลูกศรพิชิตอมตะปะทะเข้ากับง้าวทองทะลวงศัตรูชิงสุ่ยก็ถูกอัดกระแทกจนต้องถอยหลัง พร้อมกับเลือดที่ทะลักออกจากปาก เขาไม่อาจต้านทานแรงของลูกศรนี้ได้ แม้เขาจะใช้ง้าวทองทะลวงศัตรูก็ตาม และที่สำคัญลูกศรพิชิตอมตะ ก็ยังคงบินเข้าหาชิงสุ่ยด้วยพละกำลังเท่าเดิม
  ปังงงงง!!
  ทันใดนั้นแสงสีทองก็ปรากฏครอบคลุมร่างกายชิงสุ่ยนี่คือผลของชุดเกราะทองคำวชิระที่ชิงสุ่ยสวมใส่ เงื่อนไขการใช้งานก็คือ ตราบใดที่ความเสียหายทางร่างกาย เจ้าของร่างยังคงรับไหวมันจะไม่ทำงาน แต่เมื่อไหร่ที่การโจมตีพร้อมจะสังหารเจ้าของร่างที่สวมใส่มัน มันจะทำงานด้วยการเปิดเกราะทองคำเพื่อช่วยให้เจ้าของรอดจากความตาย
  ร่างของชิงสุ่ยอัดกระแทกพื้นพร้อมกับกระเด็นไปด้านหลังเหมือนลูกอุกกาบาตและลูกศรพิชิตอมตะก็ยังคงพุ่งเข้าหาชิงสุ่ยโดยไม่มีทีท่าว่ากำลังจะลดลง
  สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนรู้สึกประหม่าแล้วหวาดกลัวมันคือลูกธนูที่พร้อมจะสังหารทวยเทพ ความเร็วเหมือนฟ้าร้อง ไม่ปล่อยให้เหยื่อได้มีโอกาสพักหายใจ นี่คือความแข็งแกร่งของศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของชิงสุ่ยก็ยังไม่อาจต้านทานมันได้
  ชิงสุ่ยมองดูลูกศรพิชิตอมตะด้วยสายตาสิ้นหวังเป็นบางครั้งในขณะเดียวกันเขาก็เห็นรอยยิ้มมันเย็นชาและโหดเหี้ยมบนใบหน้าเหยียนสือหยุน
  ทันใดนั้นร่างๆหนึ่งก็ปรากฏกายต่อหน้าเขาชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจอย่างมากขณะมองดูร่างที่แสนงดงาม ในช่วงเสี้ยววินาที ก่อนที่ลูกศรพิชิตอมตะจะพุ่งทะลุหน้าอกของชิงสุ่ย ร่างที่ปรากฏกายเอาตัวเองเข้ารับลูกศรพิชิตอมตะ จนมันแทงทะลุร่างกายของเธอและหายไปก่อนถึงตัวชิงสุ่ย
  เมื่อลูกศรพิชิตอมตะเผชิญหน้ากับพลังที่แสนบริสุทธิ์พลังทั้งสองทำการหักล้างกันจนหมดสิ้น ในขณะเดียวกันชิงสุ่ยทำได้แค่มองดูร่างกายของหญิงงามที่กำลังสั่นไหวและล้มลงในอ้อมอกของเขา ในใจของชิงสุ่ยปวดร้าวราวกับมีมีดพันๆเล่มคอยเฉือนแทง
  เจ้าของร่างกายผู้นี้ก็คือนายหญิงแห่งพระราชวังสุริยา
  แม้ว่าพลังที่ลูกศรพิชิตอมตะแต่ยังคงรุนแรงแต่เธอตัดสินใจขวางกั้นลูกศรพิชิตอมตะโดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
  ชิงสุ่ยในตอนนี้บาดเจ็บสาหัสเช่นกันแต่เขาก็ยังพอเคลื่อนไหวได้ เขากอดนายหญิงแห่งพระราชวังสุริยา พร้อมกับมองหน้ามันซีดเซียวแต่ยังคงไว้ซึ่งความงดงาม เลือดหลั่งไหลออกจากหน้าอกเธออย่างต่อเนื่อง เขาพยายามยื่นมือออกมาปิดแผล แต่ดูเหมือนความพยายามจะไม่เป็นผล เลือดยังคงทะลักออกมาเหมือนบ่อน้ำพุ
  ”ชิงสุ่ยมันเปล่าประโยชน์!!”นายหญิงแห่งพระราชวังสุริยาส่ายหน้า
  มูหยุนชิงเก้อที่กำลังมองดูอยู่รู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบของเธอถูกความมืดมิดปกคลุม น้ำตาค่อยๆรินไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง เหมือนกับสายน้ำที่กำลังเกรี้ยวกราด
  ”เจ้าจะต้องไม่เป็นไรข้าจะไม่ยอมให้มันพรากเจ้าไปจากข้า!!”ดวงตาของชิงสุ่ยแดงกล่ำ เขาคิดทบทวนเป็นอย่างหนัก และทันใดนั้นกลีบของดอกบัวพุทธองค์ทองคำก็พลันปรากฎขึ้นในมือของเขา
  ในขณะเดียวกันอสูรของชิงสุ่ยและสุ่ยหยุนเฟิงก็มาปรากฏกายเพื่อป้องกันและรับมือกับการโจมตีของพวกอสูรแดนสมุทร
  แทบไม่ต้องสงสัยในพลังของกลีบดอกบัวพุทธองค์ทองคำอย่างไรก็ตาม เมื่อร่างกายของนายหญิงแห่งพระราชวังสุริยาถูกเจาะทะลวงจนเป็นรู กลีบดอกบัวพุทธองค์ทองคำก็ทำได้เพียงแค่รักษาสภาพร่างกายที่อ่อนแอของเธอ ชื่อของลูกศรเป็นข้อบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า แม้แต่คนที่เป็นอมตะก็ยังผู้พิชิตโดยมัน
  ”ชิงสุ่ยหยุดนำยาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ออกมาใช้ให้เสียประโยชน์เถิด!”นายหญิงแห่งพระราชวังสุริยากล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง หลังจากกินกลีบดอกบัวพุทธองค์ทองคำเข้าไป
  ”ชิงเก้อเจ้าคอยดูแลชิงเฉิงเอาไว้ เดี๋ยวข้าจะทำให้แน่ใจว่าพวกมันจะไม่มีวันกลับมาทำร้ายคนของข้าได้อีก”ชิงสุ่ยฝากอ้อมกอดของนายหญิงพระราชวังสุริยาเอาไว้ในมือของมูหยุนชิงเก้อ จากนั้นเขาก็เดินตรงเข้าหาเหยียนสือหยุนพร้อมกับง้าวทองทะลวงศัตรู
  ในตอนนี้รอบตัวของชิงสุ่ยอัดแน่นไปด้วยจิตสังหารอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเขาโมโหจนถึงขีดสุด และต้องการสังหารศัตรูเพื่อปลดปล่อยความโกรธทั้งหมดออกมา มิฉะนั้น หากยังคงเก็บความรู้สึกโกรธแค้นนี้เอาไว้ เขาจะต้องกลายเป็นคนบ้า
  กฎแห่งพระราชวัง9 เทวา
  ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็ทิ้งไว้แค่เพียงร่างเงาก่อนจะปรากฏตัวณใจกลางของสมรภูมิสงคราม
  เถาวัลย์อสูรกระหายเลือด!!
  ฝูงเถาวัลย์สีแดงโลหิตขนาดมหึมาพวยพุ่งออกมาอย่างฉับพลันกระจายตัวเหนือพื้นดินเปิดช่องว่าง ณ ใจกลาง ค่ายกลของศัตรู
  ร่างกายของชิงสุ่ยพุ่งออกไปข้างหน้าพร้อมกับง้าวทองทะลวงศัตรูเหมือนกับกรรไกรยักษ์
  ก้าวพสุธาเอราวัณ!!
  มังกรไอยราเกล็ดทองคำปรากฏกายพร้อมกับกระทืบเท้าสร้างคลื่นแผ่นดินไหวขนาดมหึมาเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับจิตใจของเหล่าอสูรแดนสมุทร แน่นอนว่ามันส่งผลต่อค่ายกลที่ศัตรูพยายามรักษาไว้
  ย่างก้าวเก้าเทวาจักรวาลหวนคืน!!
  ชิงสุ่ยปรับเปลี่ยนตำแหน่งทันทีกับหนึ่งในกลุ่มของอสูรแดนสมุทรเขาเหวี่ยงง้าวทองทะลวงทองคำทันทีที่เขาสลับตำแหน่ง ด้วยความเร็วป่านสายฟ้าฟาด พลังที่ผสมผสานระหว่างทักษะความแม่นยำและความบ้าคลั่ง ยิ่งทำให้ความแข็งแกร่งของมันแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
  เหล่าอสูรแดนสมุทรไม่เข้าใจว่าทำไมชิงสุ่ยถึงมาปรากฏกายณ ที่แห่งนี้ได้ แล้วทำไมสหายของพวกเขาถึงได้ไปปรากฏตัว ณ ที่ที่ห่างไกล แน่นอนว่าเมื่อค่ายกลไม่สมบูรณ์ข้อผิดพลาดก็ตามมา
  การโจมตีที่เกิดขึ้นในพริบตาทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนพวกอสูรแดนสมุทรตั้งตัวไม่ทัน
  ชิงสุ่ยแทงง้าวทองทะลวงศัตรูทะลุร่างกายหนึ่งในผู้โชคร้ายหลังจากนั้นชิงสุ่ยก็หายตัวไปอีกครั้ง
  วังวน9 เทวา!!
  อสูรสยบมังกรที่ถือครองความเร็วๆน่ากลัวทะยานตรงเข้ามาช่วยชิงสุ่ยต่อสู้แม้ว่าความโกรธแค้นจะครอบงำดวงตา แต่เขาก็ยังคงมองเห็นทุกอย่างภายใต้สติได้อย่างชัดเจน แม้แต่การเคลื่อนไหวเพียงแค่เล็กน้อยก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของเขาไปได้ มันให้ความรู้สึกว่าทุกอย่างเคลื่อนไหวช้าลง
  แน่นอนว่า…….นี่คือผลกระทบที่เกิดจากภาพหยิน-หยางภายในทะเลแห่งปัญญา
  เมื่อเขาหลับตาลงชิงสุ่ยสามารถรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของศัตรูได้อย่างแม่นยำเหมือนกับมีดวงตาทิพย์
  แม้จะมีเงากระบี่พุ่งตรงมาทางด้านหลังชิงสุ่ยอย่างเงียบๆมันก็ไม่อาจรอดพ้นญาณทิพย์ของชิงสุ่ยไปได้ ชิงสุ่ยยังคงยืนสงบนิ่งไม่ไหวติ่ง ขณะเดียวกันคลื่นพลังปราณกระบี่วชิระก็ถูกปลดปล่อยครอบงำพื้นที่ ชิงสุ่ยรู้สึกถึงไอเย็นที่จ้องจะทำร้ายเขา จากนั้นเขาก็เบี่ยงตัวหลบเหมือนกับการรู้ล่วงหน้า เขาโบกสะบัดง้าวทองทะลวงศัตรูในมือของเขาสวนกลับไป
  ชิงสุ่ยสลับการโจมตีทั้งในเชิงรุกและเชิงรับการจู่โจมของเขาทำให้ศัตรูตื่นตระหนก ส่วนตัวของชิงสุ่ยยิ่งรู้สึกตื่นเต้น novel-lucky
  แต่ทุกครั้งที่เขาคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับนายหญิงแห่งพระราชวังสุริยาความสุขที่พลังของเขาพัฒนาก็พังทลายลง
  เหล่าอสูรแดนสมุทรตอนนี้กำลังถูกไล่เข่นฆ่าโดยชิงสุ่ยแม้ว่าพวกเขาจะสามารถยกศาสตราวุธเพื่อป้องกันการโจมตีจากชิงสุ่ยได้ แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยร่างกายที่บาดเจ็บหนัก
  ย่างก้าวเก้าเทวา!!
  ชิงสุ่ยในตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพญาเหยี่ยวที่ยืนอยู่หน้าเป็ดน้อยเพิ่งเกิดซึ่งกำลังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
  พลังในการหยั่งรู้ในชั่วพริบตาเกิดขึ้นเพราะการเปลี่ยนแปลงอำนาจประหลาดของรูปภาพหยิน-หยางภายในทะเลแห่งปัญญาซึ่งมันก็ส่งผลต่อทักษะย่างก้าวเก้าเทวาและหุบเขาก้าวเทวาเช่นกัน มันเหมือนกับเคล็ดวิชาเหล่านี้ถูกเชื่อมต่อและเพิ่มพูนพลังผ่านรูปภาพหยิน-หยาง
  หากให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนกับการขับรถบนถนนที่กว้างขึ้น และปราศจากพื้นที่ที่เป็นหลุมเป็นบ่อ แน่นอนว่ามันย่อมทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถดีขึ้นทันตา
  ชิงสุ่ยบุกเข้าไปโจมตีด้วยง้าวทองทะลวงศัตรูซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนจะลาถอยกลับมาทุกครั้งที่เขาโจมตีมันเปรียบดังการเข้าไปขัดขวางรูปแบบที่ศัตรูพยายามสร้างกลับขึ้นมาใหม่ หลังจากนั้นไม่นานนัก ค่ายกลของศัตรูก็เสื่อมพลัง จนกระทั่งพรรคพวกของกลุ่มอสูรแดนสมุทรได้ตายภายใต้เงื้อมมือของชิงสุ่ยไปอีก 1 คน