1841-1 vs 1841-2 vs 1842-1 โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1841-1
การมีแฟนเป็นคนไอคิวสูงเหนือมนุษย์ ใจโหดหน้ายิ้ม แถมยังปากร้าย จะให้ความรู้สึกยังไงกัน เอาเป็นว่าจูบเขาเสียเลยแล้วกันจะได้ไม่ต้องพูดอีก ซึ่งป๋อจิ่วก็ลงมือทำจริงๆ ยื่นมือโอบแผ่นหลังของเขา ก่อนจะเงยหน้าขึ้น
จูบนี้ ฉินมั่วคาดไม่ถึง เป็นการจูบที่เกิดขึ้นกะทันหัน แต่ไม่นานเขาก็กลับมาเป็นฝ่ายรุกเสียเอง ดึงป๋อจิ่วออกห่างก่อนจะก้มหน้าชนเธอ “ยังมีของจะให้เธอ”
ยังมีอีกเหรอ? ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว ทว่าฉินมั่วโยนของมาให้แล้ว
ทะเบียนบ้านเล่มแดงเข้ม?
ป๋อจิ่วยังไม่ทันพูด ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นข้างหู “ก็เคยบอกแล้วไงว่า ฉันจะยกตัวเองให้เธอ ตอนนี้ให้เป็นทางการแล้ว”
ป๋อจิ่วช้อนสายตามองในทันทีที่ได้ยิน “พี่เอาทะเบียนบ้านมาได้ยังไง?”
คนที่เป็นทหารย่อมต้องเอามายากอยู่แล้ว
“ให้แม่สามีเธอจัดการไง จะไปยากอะไร?” ฉินมั่วพูดอย่างเรียบเรื่อย ก่อนจะจุ๊บที่ตาเธอทีหนึ่ง
ป๋อจิ่วกระแอมอย่างไม่เป็นตัวของตัวเอง ใบหูแดงเรื่อ แม่สามีอะไรนี่ ท่านเทพพูดออกมาเสียเป็นเรื่องธรรมดาเชียว
แต่เมื่อมีสำมโนครัวของท่านเทพแล้วก็ถือเป็นเจ้าของเขาได้อย่างหมดจด
อื้ม ท่านประธานสุดโหดได้ทะเบียนบ้านจากสาวคนรัก จะว่าไปก็เหมาะกับเธอในบางด้านเหมือนกัน แน่ล่ะ ถ้าท่านเทพไม่พูดประโยคถัดไป โลกก็จะสมบูรณ์แบบ “ฉะนั้น พวกเราควรกลับไปคุยกันยาวๆ เรื่องที่เธอแอบนอกใจฉันทางกายเมื่อตอนแข่งดีไหม หืม?”
ป๋อจิ่วอับจนคำพูด เธอประเมินความแค้นแรงของท่านเทพต่ำไปจริงๆ
ผลของการคุยกันยาวๆ ก็คือ หลังจากที่กลับถึงบ้าน เขาก็อุ้มเธอไปที่โซฟา พูดจาให้เธอขวยเขิน
เสน่ห์ที่ทำให้คนหลงใหล ทำให้เธอฝืนได้ไม่นาน ลมหายใจที่หนักหน่วงของเขา รวมถึงเหงื่อบางๆ ที่ผุดพรายบนใบหน้าหล่อเหลา ดูสูงส่งต้องห้ามจนทำให้คนไม่อาจปฏิเสธได้ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม
ป๋อจิ่วไม่รู้ว่ากิจกรรมดังกล่าวจบลงเมื่อไร ได้ยินแต่เสียงชีพจรและหัวใจเต้นที่ค่อยๆ ลดความร้อนแรงลง ความวาบหวามในกายยังไม่คลายลงก็ถูกเขาอุ้มขึ้นมาอีก
อุณหภูมิภายในห้องทวีขึ้นสูงอีกครั้ง จนเมื่อได้เสียงน้ำกระทบพื้นดังขึ้น ควันร้อนประสานกับเสียงร้องที่ออกมาจากเรียวปากได้รูป
ด้วยเกรงว่าคนอื่นจะได้ยินเสียง ป๋อจิ่วพยายามกลั้นไว้สุดฤทธิ์ แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาของเขา “คิดว่าพวกคนใช้จะอยู่ด้วยเหรอ? ที่นี่มีแค่เราสองคนเท่านั้น” เมื่อชายหนุ่มพูดจบ เขาฝังตัวเข้าร่างเธอลึกขึ้น หนักหน่วงขึ้น ทั้งยังเร็วยิ่งขึ้น กระทั่งน้ำในอ่างอาบน้ำยังร้อนระอุ
ป๋อจิ่วตัวสั่น ความหวามไหวโจมตีเธออย่างยากจะต้านทานและจนหนทางจะควบคุม กระทั่งเรียวขาขาวนวลยังเกร็งแน่น “ช้า เอ่อ ช้าลงหน่อย”
ช่างไม่รู้ตัวเลยว่าเสียงของเธอจะยิ่งทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉินมั่วคิดว่าเธอคงไม่รู้ว่าตัวเองสวยแค่ไหน ผิวเธอขาวเป็นยองใย ทั้งยังเนียนละเอียด ดังนั้นผิวเธอจะเป็นสีชมพูไปทั่วร่างทุกครั้งที่ ‘รักกัน’ แถมใบหน้าเธอยังเย้ายวนเสมอ เส้นผมที่แนบติดหลังหู โดยเฉพาะเวลาที่เสื้อผ้าเปียกน้ำ ยิ่งทำให้เขาอยากครอบครองตัวเธอมากขึ้น…
ทันใดนั้น จุมพิตรุ่มร้อนต้องบนร่างเธอเหมือนกลีบใบไม้ ป๋อจิ่วหลับตารองรับความรู้สึกดังกล่าว
“เด็กดี” เสียงของชายหนุ่มทุ้มต่ำ เมื่อเข้าสู่ยามกลางคืนก็ยิ่งเซ็กซี่เร้าใจ
………………………………….
ตอนที่ 1841-2
เมื่อเข้าสู่รุ่งสาง ก็รู้สึกได้ถึงมือของชายหนุ่มที่ล้วงเข้ามาในชุดนอนของเธอ ป๋อจิ่วเอ่ยเพียงว่า “เหนื่อย”
ทว่าจุมพิตของเขากลับสัมผัสบนริมหูเธอ “เด็กดี ใส่ยาก่อน มันดีต่อร่างกาย”
ยาเหรอ? ป๋อจิ่วไม่ได้คิดถึงในแง่นี้มาก่อน เธอรู้สึกถึงสัมผัสที่อ่อนโยนมาก รวมถึงกลิ่นหอมของยาที่เคล้าจมูก
สิ่งที่อยู่ในมือของฉินมั่วเป็นยาจริงๆ ให้คนปรุงมาเป็นพิเศษ สูตรยายังหาได้ยากอีกด้วย จะต้องไปหาแพทย์แผนจีนชราให้ปรุงให้ ทั้งยังใช้ยาสมุนไพรที่สูงค่าจากแถบธิเบตอีก เป็นประโยชน์มากต่อผู้หญิง ใช้บำรุงร่างกาย
แต่ยานี้ได้มาอย่างไม่ง่ายนัก แถมหมอยังเป็นคนมีนิสัยประหลาด ต่อให้มีเงินก็ใช้ทุ่มหัวไม่ได้ ฉินมั่วไปเสาะหามาหลังจากที่ทะเลาะกับเธอเรื่อง ‘ยาคุม’ เมื่อครั้งที่แล้ว
คุณหมอชราคิดว่าผู้ชายแบบนี้น่าจะไปเอาไปทำเรื่องชั่วที่ไหน ถึงได้ต้องใช้ยาดังกล่าวมารักษา ‘บริเวณนั้น’
เมื่อไปมาหาสู่หลายครั้ง คุณหมอจึงรู้ในที่สุดว่าชายหนุ่มเป็นห่วงคนรักสุดหัวใจ เกรงว่าตัวเองจะทำร้ายคนรัก ถึงได้มาขอตัวยาแบบนี้ เขาว่า “คนรักของผมอายุยังน้อย”
คุณหมอได้ยินแล้วหนวดแทบกระดิก “ยังน้อย อายุเท่าไร?” เพราะเจ้าหนุ่มนี่ก็ยังไม่โตสักเท่าไร
ฉินมั่วหัวเราะเบาๆ “เป็นผู้ใหญ่แล้วครับ ปีนี้เข้ามหาวิทยาลัย”
“งั้นก็ดี” คุณหมอจึงยอมให้ยามา แต่ท้ายที่สุดเป็นเพราะชายหนุ่มเล่นหมากล้อมเก่ง เอาชนะผู้ชราได้แทบทุกกระดาน จนหาข้ออ้างไม่ได้ ในสายตาของคุณหมอ ชายคนนี้เอาใจใส่สาวน้อยคนรักเอามากๆ
คนที่ประสบความสำเร็จอย่างพวกเขา หลายๆ คนจะบอกว่าเงินสำคัญที่สุด อันที่จริงสำหรับพวกเขาแล้ว เวลาต่างหากที่สำคัญ แต่ไม่ว่าเขาจะหาข้ออ้างมาลากเวลาให้ยืดเยื้ออย่างไร ชายคนนั้นก็อดทนเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังทดสอบตัวยาแต่ละชนิดด้วยตัวเอง การกระทำของเขาบ่งบอกให้รู้ว่ารักเธอคนนั้นจนลึกซึ้งเข้ากระดูก จึงทำได้ถึงขั้นนี้
คุณหมอคิดต่อว่า ถ้าครั้งหน้าอีกฝ่ายพาสาวน้อยมาด้วย เขาจะบอกแม่สาวน้อยว่าต้องทะนุถนอมผู้ชายคนนี้ให้ดี เพราะเดี๋ยวนี้มีผู้ชายดีๆ ไม่เยอะหรอกนะ
ไม่เยอะจริงๆ ด้วยล่ะ ต้องพูดกันตามตรง ผู้ชายที่ช่วยสวมเสื้อผ้าให้ผู้หญิงมีไม่เยอะหรอก
ป๋อจิ่วบิดขี้เกียจอย่างคร้านๆ เส้นผมยุ่งเหยิง เสียงยังแหบเหมือนเพิ่งตื่นนอน แถมยังดูโอหังอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ด้วยเสียงดูดีไม่ทำให้คนรังเกียจ “น้ำ”
“ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อน น้ำน่ะมีให้อยู่แล้วล่ะ” ฉินมั่วยืนพูดพลางก้มตัวลง น้ำเสียงจึงกระทบริมหูของป๋อจิ่ว ทุ้มนุ่มดึงดูดใจเหมือนขนนกที่ไล้โดนหัวใจ
ขอยอมแพ้ พูดเสียจนเธอตัวอ่อนไปหมด เอาเหอะ สวมเสื้อผ้าก่อนก็ได้
“แขนเสื้อ” ท่านเทพฉินทนดูไม่ไหว ลงมือทำให้ทันที
ป๋อจิ่วถูกปรนนิบัติจนเหลิง ก่อนหน้าที่ท่านเทพจะออกปาก ก็ยื่นมือไปก่อนตั้งแต่แรกแล้ว
หากดูจากการแต่งตัวของฉินมั่ว ไม่ว่าเธอสวมอะไรก็รู้สึกว่าเธอดูเป็นเด็กเกเรอยู่ ตอนเด็กก็เป็นแบบนี้ สองคนนี้คนละสไตล์จริงๆ เธอเป็นประเภทสบายๆ ส่วนเขากลับดูสมบูรณ์แบบจนทำให้คนสงสัยว่า คนแบบนี้จะมีความสุขในวัยเด็กบ้างไหม
จะว่าไป ท่านเทพเองก็สมกับที่เป็นชายโฉดจริงๆ
เธอมองดูชายหนุ่มที่สวมเชิ้ตตัวขาว บุคลิกสะอาดสูงส่ง กระทั่งนิ้วมืออย่างสวยจนแทบจะเปล่งแสงได้ ใครบ้างรู้ว่าผู้ชายที่มีภาพลักษณ์แบบนี้ เวลาอยู่บนเตียงจะดุเดือดแค่ไหน
“ยัยหื่น วางแผนเรื่องร้ายอะไรอยู่? หืม?” ฉินมั่วเลิกหางคิ้ว ปลายจมูกชนกับปลายจมูกเธอ น้ำเสียงเรียบเรื่อย “ท่าทางเมื่อคืนฉันจะทำให้เธอจำได้ไม่ลืม…”
………………………………………….
ตอนที่ 1842-1
ด้วยเหตุนี้ ป๋อจิ่วจึงนึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องน้ำเมื่อคืนวาน โดยเฉพาะตอนที่เขาพูดสิ่งเหล่านั้นโอ้โลมเธอ…
หลังหูของป๋อจิ่วแดงก่ำ ก่อนจะหัวเราะอย่างเจ้าชู้ ก้มหน้าแนบหลังหูเขาบ้าง กะจะสร้างรอยประทับคืน
ใครจะคิดล่ะว่าเธอยังไม่ทันขยับปาก ลมหายใจเขาก็กระทบตัวแล้ว แววตาของเขาเคร่งขรึม “บอกหลายครั้งแล้วนะว่าอย่ายั่วฉันแบบนี้”
ป๋อจิ่วรู้สึกถึงความอันตรายตามสัญชาตญาณ กำลังจะผละหนี แต่เขากลับล้มเธอไว้บนเตียงนุ่ม เสื้อที่เขาสวมให้เป็นอย่างดี ถูกกระชากออก เมื่อได้ยินเสียงกระดุมกระทบพื้น ลมหายใจหนักหน่วงของชายหนุ่มก็ตามมา แต่เขาไม่ได้ทำอะไรเธอ ทว่ายิ่งเป็นเช่นนี้ ป๋อจิ่วยิ่งรับไม่ได้ เขาซบหน้าลงบนซอกคอเธอ น้ำเสียงเซ็กซี่จนทำให้คนใจสั่น “อยากให้ฉันตายเหรอ? หืม?”
ป๋อจิ่วไม่ขยับอีก เพราะความร้อนที่ถ่ายทอดจากตัวเขาบอกเธอให้รู้ว่า เขา ‘แข็งแกร่ง’ แค่ไหน
“ถ้าไม่กลัวว่าร่างกายเธอจะรับไม่ไหวล่ะก็ เธอคิดว่าฉันจะอดทนได้ขนาดนี้ไหม” เขาพูดพลางอ้าปากงับคอเธอคำเล็กๆ
ป๋อจิ่วสะดุ้งขึ้นมา กอดคนที่อยู่เหนือร่างตัวเอง ความทรงจำที่คลุมเครือเริ่มชัดเจน ท่านเทพใส่ยาให้เธอแล้วก็จริง แถมยังเป็น ‘ตรงนั้น’ ด้วย… ป๋อจิ่วคิดมาถึงตรงหน้าก็หน้าร้อนผ่าว นิ่งเรียบร้อยทันที คิดในใจแค่ว่าได้แต๊ะอั๋งอย่างนี้ก็ยังดี พอสนิทกันแล้วก็ไม่ดีตรงนี้เอง เมื่อก่อนเธออ่อยเขาได้สบายๆ แต่เดี๋ยวนี้แค่อ่อยนิดเดียว เขาก็ไม่ยอมให้เธอจุ๊บแล้ว ทว่าเมื่ออ่อยหนัก เขาก็จะอุ้มเธอทันที จากนั้นฝ่ายที่เมื่อยเอวปวดหลังกลับกลายเป็นเธอแทน
จากนั้นความร้อนบนร่างก็ค่อยๆ ลดทอนลง ป๋อจิ่วรู้ว่าท่าทีเช่นนี้เธอน่ะได้เปรียบ เพราะน้อยครั้งจะเห็นท่านเทพอยู่ในอ้อมกอดของใครด้วยท่าทีออดอ้อน แต่เมื่อโดนออดอ้อนเช่นนี้ เธอก็จนปัญญาแล้ว
ผู้ชายของตัวเองช่างอ่อนโยนเหลือเกิน ป๋อจิ่วยิ้มมุมปาก สัมผัสเส้นผมของฉินมั่ว
“ทำตัวเรียบร้อยหน่อย” เขาเอ่ยประโยคสั้นๆ แล้วรั้งข้อมือเธอไว้ ก่อนจะอุ้มเธอไปยังหน้าตู้เสื้อผ้าทั้งอย่างนี้
ป๋อจิ่วขายาว ทั้งยังขาวมาก เมื่อออกมาทั้งอย่างนี้ ย่อมทำให้ดูสวยหยาดเยิ้ม หากบอกว่าเป็นกุลสตรี แน่ล่ะว่าป๋อจิ่วย่อมไม่ใช่ เพราะเธอยังไม่มีกิริยาอ่อนหวาน แต่กลับสวยเย้ายวน กระทั่งก้นบึ้งนัยน์ตายังเหมือนจะสะท้อนหมอกดำ ต่างไปจากออร่าของฉินมั่ว
เคยมีคนพูดว่า ฉินมั่วจะต้องชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนใสซื่อบริสุทธิ์ไม่เสแสร้งแน่นอน เพราะคนพวกนี้กิริยาอ่อนหวาน แต่ถ้าพวกเขาได้เห็นภาพในเวลานี้ รับรองว่าต้องพูดไม่ออกแน่ เพราะชายหนุ่มชอบแบบนัยน์ตาเรียว มีไฝเสน่ห์ใต้ตา ขายาวเนียนขาว มีเสน่ห์
รวมกันแล้วก็คือเธอนั่นเอง
ใช่ เขาชอบอย่างเธอ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินมั่วก้มหน้าจูบเธออีก
ป๋อจิ่วไม่แคร์ นิ้วมือไล่เสื้อผ้าด้านใน เมื่ออุ้มเธอมาก็น่าจะให้เธอเลือกเสื้อผ้าเอง
ใครจะคิดว่าท่านเทพไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เขาเลือกสเวตเตอร์มาสวมลงบนศีรษะของเธอ แล้วพูดเพียงว่า “อุ่นดี”
ป๋อจิ่วในฐานะคนที่เลือกทุกอย่างเพื่อให้หน้าตาดูเท่ “พี่มั่ว ทำแบบนี้ฉันจะไม่หล่อเอานะ เฮ้อ เดี๋ยว พี่จะทำอะไรกับผมฉัน”
ผ่านความทุลักทุเลมาได้สิบนาที ป๋อจิ่วที่ถูกแต่งตัวเสียเหมือนหมีจึงได้รับอิสระเสียที แต่เดินไม่ถึงสองก้าว ชายหนุ่มก็เลิกคิ้ว “หนูน้อยป๋อเสียวจิ่ว”
………………………………………….