ตอนที่ 444 หายนะแห่งจักรวาล

Legend of the mythological genes

ตอนที่ 444 หายนะแห่งจักรวาล

 

เอกฐานแรงโน้มถ่วงระเบิด นํามาซึ่งการสร้างโลกใหม่ แสงสีขาวปกคลุมอวกาศมืดมิด มันราวกับทุกอย่างได้กลับสู่ฉากที่จักรวาลถือกําเนิดหลังบิ๊กแบง

แสงสีขาวนับไม่ถ้วนปกคลุมจักรวาลกว้างใหญ่

 

ค่ายกลสังหารสามมิติที่สามนายพลผนึกกําลังกันถูกทําลาย

 

พลังของสามมิติไม่นับเป็นอะไรต่อหน้าการจําลองบิ๊กแบง

 

“มนุษย์ วันนี้จะไม่มีใครรอดไปได้ใจงพินาศไปพร้อมกับฉันฉันขอสาปแช่งพวกแกโขอสาปแช่งให้พวกแกเข่นฆ่ากันเอง!ฮ่ๆๆๆ.”แม่ของเผ่าวิญญาณหายไป ทิ้งไว้เพียงเสียงสาปแช่งที่ออกจากก้นบึงของหัวใจจิตสังหารของมันประทับลงมนุษย์ดวงดาวทุกคนมันทําให้พวกเขารู้สึกถึงบางสิ่งที่เลวร้าย

 

วินาทีต่อมา เสียงก็หายไปและแม่ของเผ่าวิญญาณก็เสียร่องรอยของชีวิตไป

 

มันใช้การระเบิดตัวเองเพื่อปะทุพลังอันน่าหวาดกลัว เอกบานแรงโน้มถ่วงระเบิด นํามาซึ่งหายนะอจักรวาล

 

เฟิงหลินและมนุษย์คนอื่น รวมถึงสามนายพลไม่มีโอกาสถอยก่อนจะถูกแสงกลืนกิน หายลับไปอย่างไร้ร่องรอย

 

ประมาณสิบนาทีต่อมา แสงก็กระจายตัวอีกครั้ง

 

เฟิงหลินและคนอื่นปรากฏตัวขึ้นใหม่และยืนอยู่ที่จุดเดิม มันดูเหมือนราวกับไม่มีอะ ไรเกิดขึ้นและพวกเขาก็ได้สติ

 

จบอย่างนี้?

 

พวกเขารู้สึกตกตะลึง

 

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยหลังการระเบิดครั้งใหญ่?

 

พวกเขาไม่ดีใจนัก แต่ตกใจ แม่ของเผ่าวิญญาณใช้ชีวิตมันเป็นราคาเพื่อปลดปล่อยการโจ มตีสังหาร มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเรียบง่ายอย่างนั้น

 

มันน่ากลัวเพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้น!

 

สิ่งที่ไม่รู้จักนั้นน่ากลัวสุด!

 

โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีทางที่พวกเขาจะป้องกันได้

 

ทุกคนมองกัน พวกเขาไม่กล้าประมาท

 

เหงื่อเย็นหยดลงบนหน้าพวกเขาและไม่มีใครพูดอะไรเป็นเวลานาน

 

ความเงียบนี้ดําเนินไปกว่าชั่วโมง

 

สุดท้ายก็มีคนที่ไม่สามารถทนได้และพูดขึ้น” เห้ย!ตอนนี้ทุกอย่างควรเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”

 

“เราต้องไม่ประมาทโทุกคนระวังตัวไว้!”นายพลสงครามสั่งผ่านช่องสื่อสาร กวาดตา มองรอบๆด้วยดวงตาเป็นประกาย

 

แต่ทว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้จะผ่านไปนาน แม้ทุกคนจะไม่พูดอะไร ความมุ่งมั่นพวกเขาก็ไม่พอจะรับมือกับความตึงเครียดที่ยืดเยื้อมานาน มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะผ่อนลคาย

 

อ้ากก..

 

ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องบาดหัวใจก็เงขึ้น มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด สิ้นหวัง พยาบาทชวนให้ขนหัวลุก

 

เกิดอะไรขึ้น?

 

ทุกคนมองรอบๆอย่างหวาดกลัวและเห็นนักรบดวงดาวกําลังกุมหน้าด้วยมือสองข้าง ใช้นิ้วเขาข่วนอย่างรุนแรงราวกับกําลังขาดสติ เนื้อเขาถูกลอก เผยให้เห็นกระดูกขาวน่าขนลุกและเลือดก็ไหล มันใช้เวลาไม่นานก่อนคนๆนั้นจะกลายเป็นคนน่าเกลียดเหมือนผีร้าย

 

ร่างเขากระตุกและผิวก็ปะทุ มีหนองไหลออกมา และระเบิดจากภายใน

 

อ้ากก..

 

ฉากสุดสยองดังกล่าวทําให้หลายคนอยากอาเจียน

 

ร่างกายเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเป็นขี้เถ้า ราวกับแก่นชีวิตถูกสูบจนแห้ง

 

“ระวัง!” ดวงตาของเฟิงหลินหดลง และเขาก็ส่งเสียงร้อง เขามีสัญชาตญาณรุนแรงถึงสิ่งผิดปกติ

 

แม้ร่างกายของนักรบดวงดาวคนนั้นจะถูกทําลาย พลังวิญญาณเขาก็ยังกระจายออกไปตรวจพบบางสิ่งที่มองไม่เห็น

 

วินาทีที่สิ่งที่มองไม่เห็นปรากฏ มันก็พุ่งในอวกาศ กระโจนใส่นักรบดวงดาวคนต่อไป

 

มันคือสิ่งมีชีวิต!

 

เขาบีบพลังวิญญาณเข้าตา เฟิงหลินเห็นวิญญาณหมอกรูปร่างคล้ายมนุษย์ ที่เหมือนกันนักรบดวงดาวก่อนตาย

 

ตอนนี้ เขาไม่มีลักษณะของมนุษย์อีก แต่เต็มไปด้วยความอาฆาตแทน เขากระโจนใส่สหายเขา

 

เฟิงหลินอยู่ไกลและไม่สามารถหยุดเขาได้ทัน วินาทีต่อมา คนที่สองก็ล้มลงและเริ่มโหยหวนเหมือนคนก่อนหน้า ร่างกายเขาเริ่มแตกและวิญญาณก็เปลี่ยนเป็นวิญญาณอาฆาต

 

ความผิดปกตินี้กระจายออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนโรคระบาด

 

มนุษย์หลายคนร้องโหยหวน กรีดร้องขณะเปลี่ยนเป็นวิญญาณ!

 

“อะไรกัน?”

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

ความไม่รู้นั้นน่ากลัวสุด

 

นักรบผู้กล้าหาญหลายคนที่ไม่เกรงกลัวตอนสู้กับกองทัพวิญญาณต่างหวาดผวา

 

สหายพวกเขาเปลี่ยนเป็นวิญญารและพวกเขาก็ไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุ

 

นี่น่ากลัวยิ่งกว่าความตาย!

 

พวกเขากระจัดกระจายกันโดยสัญชาตญาณ แต่สถานการณ์ก็เหมือนโรคระบาด ไม่มีทางให้พวกเขาหลบ การต่อสู้ทั้งหมดต่างเปล่าประโยชน์

 

หลายคนเปลี่ยนเป็นวิญญาณใหม่ไม่หยุด กระจายออกไปในอัตราที่ไม่อาจหยุดยั้ง ทุกอย่างเหมือนคําสาปจากนรกที่ตามหาชีวิตพวกเขา ไม่มีที่ให้หนี

 

“อย่าตื่นตระหนกในเมื่อพวกมันเปลี่ยนเป็นวิญญาณ งั้นก็ฆ่าวะมาทําให้ผู้พลีชีพเหล่านี้ตายอย่างสงบ อย่าปล่อยให้พวกเขาแปดเปื้อน!” นายพลสงครามประกาศอย่างไร้ปราณีและเป็นคนแรกที่ลงมือ

 

นิ้วเขาเคาะซ้ําๆ ส่งก้อนพลังงาน ยิงออกไปอย่างรุนแรง การโจมตีเขาทําให้วิญญาณ เหล่านั้นสลายเขานั้นไร้ปราณี ไม่ยอมออมมือเลย

 

นายพลลงมือก่อน เฟิงหลินและคนอื่นสวมสีหน้าเคร่งขรึม แต่เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติพวกเขาต้องไม่ถูกกําจัดที่นี่ พวกเขาทําได้แค่เลือกยกดาบขึ้นเพื่อสู้กับสหายที่เริ่มเปลี่ยนเป็นวิญญาณ

 

ในความเป็นจริง เหล่าคนที่ทุกข์ทรมานนั้นอยู่ในสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย ยังมีบางคนที่ขอร้องให้ฆ่าตัวเอง”เร็วเข้าไฆ่าฉัน!อย่าปล่อยให้ฉันเป็นวิญญาณ!”

 

เมื่อดาบสับลงมา คนเหล่านั้นก็เผยสีหน้าโล่งใจและยิ้ม” ขอบคุณ…”

 

การฆ่าเผ่าตัวเองนั้นเป็นฉากที่น่าสยดสยองอย่างมาก

ทันใดนั้นสนามรบก็เต็มไปด้วยการฆ่าฟันกันเองของมนุษย์ คําสาปที่แม่แห่งเผ่าวิญญาณกล่าวไว้ก่อนตายได้เป็นจริงแล้ว

 

แต่ทว่า ขณะที่การสังหารดําเนินต่อไป เฟิงหลินก็พบสิ่งผิดปกติ

 

พวกเขาเริ่มฆ่าคนที่เปลี่ยนเป็นวิญญาณทันที และการตอบสนองพวกเขาก็เร็วพอจะตัดต้นตอแหล่งโรคระบาดทําไมมันถึงยังมีคนเปลี่ยนเป็นวิญญาณเรื่อยๆ?

 

ต้องมีเหตุผลที่ลึกซึ้งกว่านี้ หากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ มนุษย์จะต้องถูกกวาดล้างแน่

 

“หยุด!”เฟิงหลินตกใจและร้องเสียงดังทันที”วิญญาณมนุษย์เป็นแค่ตัวนําคําสาปเต้องมีเหตุผลที่ว่าทําไมสหายเราถึงเริ่มเปลี่ยนเป็นวิญญาณ!”

 

อย่างไรก็ตาม เลือดยังสาดกระเซ็นในสนามรบและทุกคนก็ตึงเครียดเกินไป

 

เสียงเขาเหมือนจมหายไป ไม่ได้รับคําตอบ

 

เฟิงหลินเหลือบมองเห็นว่าแม้แต่สามนายพลก็ยังดูผิดปกติ สีหน้าพวกเขาดํามืด พวกเขาถูกขับเคลื่อนด้วยความบ้าคลั่ง แต่ละคนปล่อยกลิ่นอายน่าขนลุกและเยือกเย็นเหมือนเผ่าวิญญาณ

 

กลิ่นอายของความสิ้นหวังและความตายกระจายออกไป ไม่มีใครสามารถหลบหนีได้

 

บูช?

 

เฟิงหลินพลันรู้สึกแปลกๆเมื่อเขตปกครองราชาลิงดูเหมือนจะได้รับผลกระทบบางอย่างมีบางอย่างอยากบุกเข้าตัวเขาแต่ก็ถูกขับออกไป

 

พลังลิงหัวใจสามารถปิดกั้นคําสาปได้!

 

เฟิงหลินอิ่มเอมใจ พลังงานลึกลับที่บุกเข้ามาในเขตปกครองราชาลิงคือสาเหตุที่ทําให้มนุษย์เปลี่ยนเป็นวิญญาณ?

 

แต่ทว่า สิ่งที่แปลกคือไม่ว่าเขาจะใช้พลังวิญญาณตรวสอบยังไง เขาก็ไม่พบร่องรอยเลย!

 

ไม่ นั่นไม่ถูกต้อง!

 

เฟิงหลินสังเกตเห็นว่าการแผ่รังสีพื้นหลังของจักรวาลเปลี่ยนไป มันมืดขึ้น เมหือนดวงดาวที่ปกคลุมด้วยชั้นเงา

 

อวกาศด้านนอกจริงๆคือความมืดสัมบูรณ์ที่แผ่รังสี

 

ตามการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับพื้นหลังไมโครเวฟของจักรวาล(CMR) มันถูกพบว่ามีการแผ่รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าหลงเหลืออยู่หลังบิ๊กแบง พวกมันเกี่ยวกับแก่นแท้ของจักรวาล

 

เงาไร้รูปแบบนี้ได้ซึมเข้าไปในแก่นแท้ของจักรวาลแล้วและแม้แต่สามนายพลก็ไม่สา มารถหลบหนีจากมันได้

 

นี่คือระดับของการเปลี่ยนแปลงข้อมูลจักรวาลและบิดเบือนกฏของจักรวาล

 

นี่หมายความว่าภายใต้เงานี้ ทุกสิ่งมีชีวิตที่มีฐานเป็นสสารจะแตกสลายโดยอัตโนมัติ กลายเป็นรูปแบบชีวิตวิญญาณ นี่คือกฏของจักรวาลที่เกิดขึ้นหลังการบิดเบือน

 

แม้เฟิงหลินจะมองออก เขาก็ยังหมดหนทาง

 

เขาเป็นแค่สุดยอดผู้บ่มเพาะและยังห่างไกลกับความสามารถในการแก้ไขกฏจักรวาล

 

หายนะแห่งจักรวาล!

 

หายนะที่แท้จริงของจักรวาลได้แทรกซึมเข้าอวกาศ ไม่มีใครสามารถรอดพ้น

 

เมื่อการเปลี่ยนจากมนุษย์เป็นวิญญาณเพิ่มขึ้น คนที่หมกมุ่นกับการสังหารก็เริ่มรู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง พวกเขาสังเกตเห็นว่าพวกเขาถูกทําร้ายโดยคําสาปและกําลังแสดงอาการเปลี่ยนเป็นวิญญาณ

 

ภายใต้ความตกใจ พวกเขารีบหมุนวนยืนในตํานานเขาเพื่อป้องกันการจู่โจมของคําสาป

 

แต่ทว่า สิ่งนี้ทําได้แค่ชะลอกระบวนการเปลี่ยนพวกเขาเป็นวิญญาณ

 

ไม่มีใครรู้ว่าคําสาปเริ่มอย่างไรและไม่มีทางกําจัดมันได้

 

ไม่ว่าการบ่มเพาจะสูงส่งแค่ไหน แต่พลังทางพันธุกรรมก็มีจํากัด แต่พลังคําสาปนี้ดูเหมือนไร้สิ้นสุด

 

เมื่อพลังทางพันธุกรรมหมดลง พวกเขาจะกลายเป็นวิญญาณ

 

เฟิงหลินเองก็ไม่ได้อยู่ในสภาพดี

 

เขตปกครองราชาลิงได้แยกพื้นที่โดยรอบและปิดกั้นพลังคําสาปไว้

ท่ามกลางการปะทะพลังลิงหัวใจลดลงอย่างรวดเร็ว

 

ถ้ายังเป็นแบบนี้ เขาต้องตายแน่

 

เมื่อเห็นสามนายพลกําลังต่อสู้ เฟิงหลินก็รู้ว่าไม่มีใครที่เขาจะพึ่งพาได้แล้ว เขาต้องพึ่งพาตัวเอง!

 

ในเมื่อความสามารถเขายังไม่พอ งั้นสิ่งที่เขาควรทําก็คือก้าวไปให้สูงขึ้น!

 

เฟิงหลินได้มาถึงคอขวดนานแล้ว

 

ไม่มีทางเลือกอื่นอีก

 

ตอนนี้ เขาต้องทําการปลุกยืนซุนหงอคง จากนั้นเขาถึงมีโอกาสรอด