ตอนที่ 632 แค่เข้าใจผิด

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

“เสี่ยวหง อู๋ตี้ พวกเจ้าก็ออกไปถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าว

ตอนนี้จวินโม่ซีกำลังอยู่ในขั้นตอนที่สำคัญของการหลอมยา มิอาจให้ผู้ใดมารบกวนได้

โฮ่ก!

พรวด!

ทันใดนั้นสัตว์ตัวใหญ่มหึมาก็ปรากฏขึ้นในบริเวณรอบ ๆ หอหมอปีศาจ นั่นก็คือแมวขาวตัวมหึมาที่ดูน่าเกรงขามตัวหนึ่ง

ต่อมาเปลวไฟสีแดงฉานก็ได้ห้อมล้อมรอบบริเวณหอหมอปีศาจ และสัตว์ศักดิ์สิทธิ์สีแดงเพลิงตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน

“สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม! สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามจริง ๆ ด้วย!”

“หอหมอปีศาจมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามคอยคุ้มกันอยู่ ช่างน่าเกรงขามเกินไปแล้ว!”

“……”

ผู้ที่พลังวิญญาณยังไม่ถึงขั้นมหาจักรพรรดิไม่กล้าเข้าใกล้หอหมอปีศาจ ก็เพราะว่ามีอู๋ตี้กับเสี่ยวหงคอยคุ้มกันอยู่

แต่อย่างไรก็ตามก็มีผู้ที่วิทยายุทธ์สูงกล้าสู้กล้าทำเช่นกัน มีพลังวิญญาณขั้นมหาจักรพรรดิ มุ่งหน้าเข้าไปที่หอหมอปีศาจโดยไม่หวั่นกลัวต่อสิ่งใด

พิษและอาวุธลับของหอหมอปีศาจก็มิใช่สิ่งที่จะล่วงเกินได้ สถานการณ์ในตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมอ่อนข้อต่อกัน และในตอนนี้กลิ่นหอมหวนของเม็ดยาก็มาถึงขั้นขีดสุดแล้ว

มู่เฉียนซีถอนหายใจโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง จวินโม่ซีทำสำเร็จแล้ว!

ทันใดนั้นเอง ร่างคนชุดขาวร่างหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นบนหลังคาหอหมอปีศาจ เขาสวมชุดขาวทั้งชุด หมอกขาวกระจายอยู่รอบกายดุจดั่งเทพเซียน ราวกับเทพเซียนที่หลงมาในโลกมนุษย์จนทำให้คนต้องเงยหน้ามอง

“หอหมอปีศาจ เป็นที่ที่พวกเขาจะเข้ามาได้เช่นนั้นเหรอ!” จวินโม่ซีกล่าวอย่างเย็นชาพลางเหลือบมองพวกเขา

ผู้เชี่ยวชาญที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้ความสามารถ หากมู่เฉียนซีกับโม่จิ่นไม่รู้ว่าหน้าตาที่แท้จริงของเขาเป็นเช่นไร คาดว่าคงจะโดนเขาหลอกเอาได้แน่

พลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตแผ่ซ่านออกไป พลังธาตุอัคคีพุ่งตรงไปที่คนผู้หนึ่งในนั้น

“ผู้แข็งแกร่งขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูต!”

“จอมภูตพลังธาตุอัคคี!”

“มิน่าล่ะว่าเหตุใดถึงได้เป็นยอดปรมาจารย์นักปรุงยาได้ ช่างแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”

หลังจากที่จวินโม่ซีประเดิมลงมือไปเพียงแค่ครั้งเดียว คนเหล่านั้นก็กลับกลายเป็นผู้ที่เชื่อฟังขึ้นมาทันที

“ท่านผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ พวกข้าเพียงแค่เห็นว่ามียาระดับสวรรค์ปรากฏขึ้น พวกข้าก็เลยตื่นเต้นไปหน่อย ได้โปรดท่านผู้ยิ่งใหญ่อย่าได้โกรธเกรี้ยวไปเลยนะขอรับ!”

“พวกข้ายอมจ่ายค่าตอบแทนให้ท่านพอใจ ไม่ทราบว่าท่านผู้ยิ่งใหญ่จะขายเม็ดยาระดับสวรรค์ให้พวกข้าได้หรือไม่”

“……”

พวกเขาไม่รู้แม้กระทั่งว่าเม็ดยาระดับสวรรค์นั้นใช้เพื่อสิ่งใด แต่เม็ดยาระดับนี้พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปเป็นอันขาด

นี่มันยาระดับสวรรค์เชียวนะ!

“คนอย่างพวกเจ้าไม่มีปัญญาซื้อหรอก แล้วก็ไม่อาจนำไปใช้ได้ด้วย ตัดใจเสียเถอะ!” จวินโม่ซีกล่าวพลางมองพวกเขาอย่างทะนงองอาจ

ยาระดับสวรรค์มีราคาที่สูงเหยียดฟ้า ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิ สะสมเงินเอาไว้มากแต่ก็ใช่ว่าจะซื้อมันไปได้

อีกอย่างนี่คือยาเม็ดหนึ่งที่สามารถเสริมพลังวิญญาณของนักปรุงยา พวกเขาไม่ใช่นักปรุงยา ไม่อาจใช้ยานี้ได้อยู่แล้ว

ความทะนงตนของจวินโม่ซีได้กระตุ้นคนเหล่านี้เข้าแล้ว

“อะไรนะ เจ้าว่าข้าไม่มีปัญญาซื้องั้นเหรอ เจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว”

“ได้! ข้าไม่มีปัญญาซื้อ แล้วเจ้าคิดว่าข้าทำอะไรเจ้าไม่ได้งั้นเหรอ ?”

“……”

อีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิเพียงผู้เดียว แต่ฝ่ายพวกเขาไม่ได้มีแค่คนเดียว คิดเหรอว่าจะสู้เขาไม่ได้ ?

ตูม!

พวกเขาลงมือแล้ว และโม่จิ่นก็เข้าไปสนับสนุนทันที

หลังจากทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันได้ไม่นานนัก ทันใดนั้นเองร่างหลายร่างก็ปรากฏตัวขึ้น

“ที่นี่คือเมืองเสีย ได้โปรดทุกท่านจงมีมารยาทสักหน่อย คิดจะใช้พลังขั้นมหาจักรพรรดิแย่งชิงยาวิญญาณในเมืองเสีย ไม่เห็นสำนักศึกษาซวนเสียอยู่ในสายตาเลยใช่หรือไม่!”

“เหล่าบรรดาท่านผู้อาวุโสของหน่วยสำนักปรุงยาของสำนักศึกษาซวนเสียมาแล้ว”

“พวกเขายื่นมือมาช่วยหอหมอปีศาจจริง ๆ ด้วย!”

“……”

หลายคนที่อยู่ข้าง ๆ ที่ยังกระเหี้ยนกระหือรือจะลงมือก็ไม่กล้าที่จะผลีผลามแล้ว สำนักศึกษาซวนเสียเป็นถึงกองกำลังระดับสองเพียงหนึ่งเดียวในเสียโจว อีกอย่างหน่วยสำนักปรุงยาก็สำคัญเป็นพิเศษของสำนักศึกษาซวนเสีย พวกเขาไม่กล้าที่จะล่วงเกินผู้อาวุโสเหล่านี้

“เป็นเพียงแค่การเข้าใจผิดกันเท่านั้น พวกข้าแค่ตื่นเต้นเกินไปแล้ว”

“ถึงอย่างไรเสียมันก็คือการปรากฏของยาระดับสวรรค์เชียวนะ!”

“……”

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว “อยู่ในเมืองเสียพวกเจ้าควรจะสงบเสงี่ยมเอาไว้บ้างก็ดี อีกอย่างเจ้าของหอหมอปีศาจมู่ซีแห่งหน่วยสำนักปรุงยาก็เป็นถึงอาจารย์นักปรุงยาที่มีความนิยมมากในสำนักศึกษาของพวกเรา ก่อนที่พวกเจ้าคิดอยากจะทำสิ่งใด ทางที่ดีควรจะไตร่ตรองให้ดีก่อน”

“หมอปีศาจเป็นอาจารย์ของหน่วยสำนักปรุงยาจริง ๆ ด้วย!”

“นั่นก็หมายความว่าหอหมอปีศาจมีสำนักศึกษาซวนเสียคอยหนุนหลังอยู่หน่ะสิ”

“……”

ร่างสีเขียวอ่อนร่างหนึ่งปรากฏขึ้น มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “ตาเฒ่าอย่างพวกท่านนี่ ช่างมีความชอบธรรมยิ่งนัก!”

การปรากฏตัวของชายหนุ่มผู้รูปงามราวกับภูตปีศาจทำให้ดวงตาของทุกคนเปล่งประกายขึ้น!

“หมอปีศาจออกมาแล้ว”

มู่เฉียนซีเหลือบผู้คนเหล่านั้นตรงหน้า “ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าวู่วามได้แค่ครั้งเดียว หากมีครั้งต่อไปแล้วหล่ะก็……”

“ทางที่ดีพวกเจ้าค่อย ๆ คิดและใจเย็น ๆ จุดจบของการล่วงเกินนักปรุงยาระดับสวรรค์ทั้งสองมันจะเป็นเช่นไร!”

“ทั้งสอง!”

“หอหมอปีศาจมียอดปรมาจารย์นักปรุงยาสองคนจริง ๆ ด้วย!”

ทุกคนต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหล

“หมอปีศาจเป็นเจ้าของหอหมอปีศาจ หัวหน้านักปรุงยาของหอหมอปีศาจเป็นถึงยอดปรมาจารย์นักปรุงยา แล้วเขาจะไม่ใช่ได้เช่นไร ?”

“หากไม่ใช่ แล้วจะบังคับบัญชาหักหน้านักปรุงยาได้เช่นไร”

ยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิเหล่านั้นที่คิดจะแย่งชิงเม็ดยาวิญญาณเมื่อครู่ ตอนนี้เหงื่อเย็นผุดพรายขึ้นเต็มหลังแล้ว

ล่วงเกินยอดปรมาจารย์นักปรุงยาสองคน หากฝ่ายตรงข้ามโกรธเกรี้ยวขึ้นมาจริง ๆ เกรงว่าทั่วทั้งแดนใต้คงจะไม่มีที่ยืนสำหรับพวกเขา

“นายท่านหมอปีศาจ วันนี้พวกข้าวู่วามเกินไปแล้ว นี่เป็นสิ่งที่ข้าชดใช้ให้ โปรดท่านรับไว้ด้วย!”

คนผู้นี้เอาสมุนไพรวิญญาณระดับปฐพีออกมาต้นหนึ่ง สำหรับผู้ที่เป็นนักปรุงยา คาดว่าคงมีเพียงแค่สมุนไพรวิญญาณระดับปฐพีเท่านั้นที่จะเข้าตา

“ขอแสดงความยินดีกับท่านยอดปรมาจารย์จวินที่หลอมยาระดับสวรรค์ออกมาได้สำเร็จ สิ่งนี้เป็นการแสดงความยินดีเล็ก ๆ ของข้า ได้โปรดพวกท่านอย่าถือสาเลย!”

“……”

มีคนแรกก็ต้องมีคนต่อไป พวกเขาต่างก็มอบสมุนไพรวิญญาณนานาชนิดเพื่อเป็นการขอโทษ หวังว่าหมอปีศาจกับจวินโม่ซีจะไม่เคียดแค้นพวกเขา

หากถูกยอดปรมาจารย์นักปรุงยาเคียดแค้นเข้า คงไม่ใช่เรื่องดีแน่

มู่เฉียนซีไม่ได้เกรงใจอันใดพวกเขาแล้ว นางเก็บสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นมา ก่อนจะกล่าวว่า “เดิมทีข้าก็คิดจะให้พวกเจ้าอยู่ในบัญชีดำของหอหมอปีศาจแล้ว แต่เห็นแก่ที่พวกเจ้ามีน้ำใจเช่นนี้ การล่วงเกินครั้งนี้ก็ถือว่าช่างมันเถอะ”

“เพียงแต่ อย่าให้มีครั้งต่อไปอีกหล่ะ”

ดวงตาสีเขียวอ่อนที่เต็มไปด้วยการกดขี่ข่มเหงจับจ้องไปที่พวกเขา

พวกเขาเหงื่อเย็นไหลพลั่ก “จะไม่มีครั้งต่อไปแน่นอน!”

สมกับเป็นยอดปรมาจารย์นักปรุงยาจริง ๆ แววตาการกดขี่ข่มเหงช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก

“พวกข้าไม่กล้าล่วงเกินหอหมอปีศาจอีกแล้ว”

“……”

หลังจากที่กล่าวขอโทษขอโพยเสร็จสิ้น พวกเขาต่างก็แยกย้ายกันกลับไป

หอหมอปีศาจก็กลับมาสงบอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์นี้ หอหมอปีศาจก็ยิ่งมีชื่อเสียงอันลือเลื่องในเสียโจวยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกินอีกด้วย

มู่เฉียนซีมองไปยังเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลาย และกล่าวว่า “พวกท่านทั้งหลายยึดมั่นในความเป็นธรรมจริง ๆ!”

“อย่างไรเสีย เมืองเสียก็เป็นที่ตั้งของสำนักศึกษาซวนเสีย แน่นอนว่าควรจะทำตามกฎ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะทำอะไรตามอำเภอใจได้”

“อีกอย่าง เจ้าก็เป็นอาจารย์ของหน่วยสำนักปรุงยาของพวกเรา ตาเฒ่าอย่างพวกข้าไม่ช่วยเจ้าแล้วจะช่วยใครกันหล่ะ”

“พวกข้าได้มีโอกาสรู้จักกับยอดปรมาจารย์นักปรุงยา ก็นับว่าเป็นเรื่องที่เป็นเกียรติมาก”

มู่เฉียนซีกล่าว “ถึงเมื่อพวกท่านกล่าวเช่นนี้ งั้นข้าก็จะไม่เกรงเจ้าพวกท่านแล้วนะ”

ผู้อาวุโสเหล่านี้ก็ร้อนขึ้นแล้ว “เจ้าหนูมู่ เจ้าควรจะมีความเกรงใจสักหน่อยนะ!”

“เจ้าหนูมู่ เจ้ายังมีสูตรยาโบราณอยู่หรือไม่ เอามาให้พวกข้าดูสักหน่อยสิ!”

จวินโม่ซีหลอมยาระดับสวรรค์ออกมาสำเร็จแล้ว มู่เฉียนซีเอายาระดับสวรรค์กลับไปยังสำนักศึกษา และวันที่นางได้ท้าทายอาจารย์เหล่านั้นก็มาถึงแล้ว ผู้อาวุโสสูงสุดเรียกมู่เฉียนซีไป และกล่าวถามนางว่า “เจ้าหนูมู่ ไม่มีปัญหาแน่ใช่หรือไม่ ?”