ตอนที่ 560 นับญาติจากการแต่งงาน
หลินเหยาส่ายหน้า ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องดองกับบ้านโจวโจวให้ได้ เพียงแต่เธอคิดว่าการหมั้นหมายนี้เป็นเรื่องดี ถ้าไม่รีบจับคู่ก็น่าเสียดายแย่
“คุณคิดดูนะว่าเสี่ยวอวี่กับลูกในท้องของโจวโจวตอนนี้ อีกหน่อยเราก็ต้องมองดูเขาเติบโตขึ้น นิสัยใจคอเราก็ต้องรู้อย่างชัดเจน ฉันคิดเพื่อลูกของพวกเรานะ”
หลินเหยาคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว ถ้าตัวเองคลอดลูกสาวก็จะให้แต่งานกับเสี่ยวอวี่ ถังโจวโจวเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ต่อไปคงจะไม่รังแกลูกสาวเธอแน่
มีแม่สะใภ้ดีต่อลูกสะใภ้ เรื่องนี้สำคัญมาก
“แต่ก็ไม่ต้องรีบร้อนคิดก็ได้นี่ เรื่องของเด็กๆ ก็ค่อยๆ ดูไป ตอนนี้ลูกสาวยังไม่ได้เกิด คุณก็คิดจะให้เธอแต่งงานออกไปแล้ว” ฟังหยวนคิดว่าหลินเหยาสะเพร่าเกินไป เรื่องเกี่ยวกับชีวิตของลูก จะคิดง่ายๆ ได้ยังไง
“ก็แค่เผื่อเอาไว้น่า ถ้าเสี่ยวอวี่ถูกคนอื่นแย่งไปก่อน ฉันคงเสียใจแย่” หลินเหยาคิดว่าถ้าตัวเองต้องเจอเหตุการณ์อย่างนี้จะเสียใจขนาดไหนกันนะ
“เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว รอให้ลูกคลอดก่อนแล้วค่อยว่ากัน ถึงตอนนั้นก็ยังไม่สาย คุณเชื่อผม โจวโจวก็คงไม่รีบให้ลูกชายตัวเองหมั้นหมายหรอก นอกจากนี้ลูกในท้องตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายด้วย”
ถ้าทั้งสองฝั่งเป็นผู้ชายทั้งหมด พอถึงตอนนั้นลูกจะเป็นยังไง ถ้าทั้งสองบ้านล่วงรู้ความคิดของหลินเหยาเข้า คงจะหัวเราะกันยกใหญ่
โชคดีที่คำพูดเหล่านี้มีแค่สองสามีภรรยาที่สนทนากันและไม่มีใครได้ยิน เรื่องแบบนี้ไม่ควรพูดออกมาง่ายๆ ไม่อย่างนั้นถึงเวลาคนอื่นจะคิดว่าลูกสาวตระกูลฟังกังวลแต่เรื่องแต่งงาน
“ก็ใช่ ตอนนี้พูดเรื่องนี้ก็เร็วไป”
หลินเหยาแค่คิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ อีกอย่างความคิดแบบนี้ก็ยังเป็นแค่เรื่องเลื่อนลอยยังไม่ถึงขั้นนั้นจริงๆ
ถังโจวโจวเห็นหลินเหยากลับไปแล้ว ตัวเองก็เดินเชื่องช้าออกไปด้านนอก ลั่วเซ่าเชินใกล้มาถึงแล้ว เธอจึงตัดสินใจไปรอข้างนอกก่อน อย่างไรก็ตามตอนนี้อากาศก็กำลังดี
ถังโจวโจวเพิ่งจะถึงนอกร้าน ลั่วเซ่าเชินก็ขับรถมาจอดข้างกายเธอแล้ว เขาวิ่งลงจากรถทันที “ทำไมออกมาแล้วล่ะ ผมให้คุณรอข้างในไม่ใช่เหรอ”
“ฉันนั่งคนเดียวแล้วเหงา แล้วคุณก็ใกล้มารับแล้วด้วย ฉันเลยอยากออกมา ไม่มีอะไรหรอกได้ออกกำลังกายหน่อย พอถึงเวลาจะได้คลอดง่าย” ถังโจวโจวเชื่อมั่นในเรื่องนี้มาก เพราะมีประสบการณ์ตอนท้องเสี่ยวอวี่แล้ว
“”ผมกลัวคุณจะเป็นอันตราย เอาล่ะ ในเมื่อออกมาแล้วพวกเราก็กลับกันเถอะ” ลั่วเซ่าเชินพยุงเธอขึ้นรถ หลังจากรอให้ถังโจวโจวนั่งได้แล้ว เขาถึงเข้าประจำที่นั่งคนขับ
“โจวโจว ช่วงนี้ใกล้วันเกิดของเสี่ยวอวี่แล้ว คุณเตรียมตัวจะทำยังไง”
“จะทำอะไร ไม่ใช่ว่าเหมือนกับปีที่แล้วเหรอ เด็กเล็กๆ ไม่ต้องทำอะไรมากหรอก” ถังโจวโจวคิดว่าตอนนี้ลูกยังเล็ก แค่คนในครอบครัวกินข้าวพร้อมหน้าก็พอแล้ว ไม่ต้องทำอะไรมากมาย
“ตั้งแต่ที่เสี่ยวอวี่มาเป็นสมาชิกตระกูลลั่วก็ยังไม่ได้แสดงฐานะให้ชัดเจนเลย ผมรู้สึกผิดกับเขา ผมอยากจะถือโอกาสในวันเกิดของเสี่ยวอวี่ปีนี้ จัดงานใหญ่ ให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ว่าตระกูลลั่วมีหลานชายแล้ว”
“คุณคุยกับคุณพ่อคุณแม่รึยัง “ ถังโจวโจวรู้ว่าไม่ต้องทำอะไรคุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วจะเห็นด้วยโดยไม่ลังเลแน่นอน ต้องรู้ว่าพวกเขาอยากจะทำเรื่องนี้มาก นอกจากนี้คุณแม่ลั่วก็หวังที่จะให้เปิดตัวเสี่ยวอวี่มาตลอด
ตอนที่ 561 นกอินทรีกับลูกเจี๊ยบ
“ยังไม่ได้คุย แต่ผมคิดว่าพวกท่านคงจะไม่คัดค้านอยู่แล้ว ตอนนี้ผมแค่อยากถามความเห็นคุณ คุณเป็นแม่ของเสี่ยวอวี่ ให้คุณเป็นแม่งานถึงจะดี”
“ตอนแรกฉันคิดว่าแค่กินข้าวฉลองกันในครอบครัวก็พอแล้ว คุณพูดเรื่องนี้มา ฉันคิดว่าคุณพ่อคุณแม่ก็น่าจะคิดเหมือนกับคุณ ถึงเวลาก็ทำอย่างนั้นแหละ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้พูดถึง พวกเราก็ทำแบบเรียบง่ายก็พอแล้ว
“อืม ผมว่าตามคุณแล้วกัน วันนี้ได้คุยกับหลินเหยาสนุกไหม” ลั่วเซ่าเชินรู้สึกว่าถังโจวโจวตั้งท้องตอนนี้ช่างประจวบเหมาะ ตอนนี้เสี่ยวอวี่กับลูกในท้องอายุห่างกันพอดี ลูกทั้งสองคนจะได้เติบโตไปด้วยกันได้
“คุณจะทำอะไร นี่ลูกชายฉันนะ คุณห้ามทำอะไรเขาเด็ดขาด” ตอนนี้ถังโจวโจวเหมือนแม่ไก่ที่เผชิญหน้ากับนกอินทรี คอยขวางอยู่ตรงหน้าเสี่ยวอวี่ ขัดขวางเขาอย่างจริงจัง
“ผมคิดจะแตะต้องเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ คุณอย่าลืมล่ะว่าในท้องคุณยังมีลูกอีกคน” ลั่วเซ่าเชินไม่กล้าขยับอีก ถ้าถังโจวโจวเกิดปัญหาขึ้นเพราะการกระทำเล็กน้อยของเขา ทั้งชีวิตนี้เขาคงไม่อาจสงบใจ
“รู้แล้ว คุณไม่ควรทำอะไรเสี่ยวอวี่นะ ตอนนี้เขายังเด็ก ค่อยๆ สอนเขาไป” เธอรู้สึกว่าเขามีความอดทนน้อยลง หรือว่าจะให้ความสำคัญลูกสาวกับลูกชายไม่เท่ากัน
“ผมไม่ทำอะไรเขาหรอกน่า โจวโจว เอาล่ะ พวกเราเข้าไปกันเถอะ” ลั่วเซ่าเชินจับมือเธอไว้ ให้เสี่ยวอวี่เดินนำหน้าไป ทั้งสามคนเดินเข้าไปในบ้านอย่างมีความสุข
“ลั่วอิงจะกลับมาตอนไหน” วันนี้คือวันที่ต้องไปเรียน ตอนนี้ลั่วอิงอยู่ประถมหนึ่งแล้ว เวลาก็ไม่เหมือนตอนเรียนอนุบาล
“เดี๋ยวผมจะไปรับ วันนี้พวกเราไปกินข้าวกันนอกบ้านดีไหม”
“วันนี้มีกิจกรรมอะไรเหรอ” ทำไมจู่ๆ ถึงจะไปกินข้าวนอกบ้าน จะว่าไปแล้วตั้งแต่เธอท้องจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเลย บางครั้งก็แค่ไปกับแม่หรือไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้หลินเหยาเท่านั้น
“ถ้าไม่มีอะไรก็ไปกินข้าวข้างนอกไม่ได้เหรอ”
ลั่วเซ่าเชินแค่คิดว่าช่วงนี้ถังโจวโจวเหนื่อย และตัวเองก็อยากใช้เวลากับถังโจวโจวและลูกในท้องจึงสนใจลั่วอิงน้อยลง เอาแต่ดูแลเสี่ยวอวี่ตลอด เรื่องนี้จึงจะละเลยไม่ได้
เขากลัวลูกสาวจะคิดมาก ต้องรู้ว่าลั่วเซ่าเชินเฝ้ารอมาตลอดที่จะให้ลั่วอิงมาเป็นลูกสาว แน่นอนว่าต้องไม่หวังให้เธอเกิดปัญหาระหว่างเธอกับตน
“เปล่า แค่แปลกใจน่ะ”
“มีอะไรน่าแปลกใจหรอก ต่อไปยังมีโอกาสอีกมาก แค่คุณยอมออกไป ผมสามารถหาที่ดีๆพาคุณไปได้ตลอด” ลั่วเซ่าเชินรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา
“โอเค คุณพูดเองนะ” ถังโจวโจวตอบอย่างรวดเร็ว
“อืม ผมพูดเอง” ลั่วเซ่าเชินหันไปก็พบว่าลูกชายไม่อยู่แล้ว “โจวโจว เสี่ยวอวี่ล่ะ”
แค่ชั่วครู่ เสี่ยวอวี่ก็หายไปแล้ว โชคดีที่ที่นี่คือที่บ้าน ถ้าอยู่ที่อื่น ลั่วเซ่าเชินคงตกใจแย่
“อ้าว หายไปจริงด้วย รีบหาเร็ว คงไม่ได้เดินไปตรงไหนแล้วออกมาไม่ได้หรอกนะ” ถังโจวโจวกลัวว่าเขาจะไปเล่นแล้วซ่อนแอบโดยไม่บอกพวกเขา
ทั้งสองคนตามหากันทั่วห้องรับแขกก็ไม่เจอเสี่ยวอวี่ คงไม่ได้วิ่งหายไปเร็วขนาดนั้นได้ ทั้งสองคนคิดหนัก ทำไมแค่ช่วงเวลาครู่เดียวก็หาไม่เจอแล้ว