คำขอร้องพิเศษ

 

 

 

 

 

ถังเฉียนเดินออกมานอกห้อง นางรีบเดินไปจากห้องหนังสือของฉู่จิ่งเหยาจนแทบจะวิ่งพรวดตลอดทางไปที่เรือนฮั่นต้านของตน นางปิดประตู ยืนพิงผนังห้อง พอคิดถึงชื่อนั้นก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ 

 

 

“ท่านพ่อ ท่านพ่อ ลูกคิดถึงท่านพ่อเหลือเกิน” 

 

 

เพราะถังหรงเจินวินิจฉัยโรคผิดพลาด ทำให้ทั้งครอบครัวประสบเคราะห์กรรมถูกเนรเทศมาที่เผ่าม้ง ตัวเขาถูกตัดสินประหารชีวิตในศารทฤดู ถังเฉียนเป็นห่วงบิดามาก ตอนนี้นางก็อยากกลับบ้านเหลือเกิน 

 

 

“ท่านพ่อ ท่านพ่อ…” 

 

 

ถังเฉียนนั่งยองๆ ลงกับพื้น เพราะนางรู้ว่าที่นี่ไม่มีใครเช่นนั้นจึงกล้าปล่อยตัวตามสบายเช่นนี้ แต่กลับคาดไม่ถึงว่าขณะที่น้ำตานองหน้ากลับเห็นรองเท้าสีดำถักด้วยดิ้นทอง พอมองขึ้นไปก็เห็นชุดหมอผีสีดำตัวใหญ่ที่ทอจากไหมแมงมุมดำ 

 

 

“ดูท่าทางที่น่าสมเพสของเจ้าสิ เดิมทีคิดว่าเจ้ามาที่จวนจินซิวอ๋องระยะหนึ่งแล้ว น่าจะเก่งขึ้น ที่แท้ก็เอาแต่ร้องไห้” 

 

 

ถังเฉียนได้ยินเช่นนี้ก็เงยหน้าขึ้นทันที นางลืมไปว่ามีคนรอตนเองอยู่ที่นี่ 

 

 

“ฮว่าเหยียน ชื่อเพราะนี่ แต่น่าเสียดายที่จิตใจอำมหิตเกินไป” 

 

 

ถังเฉียนได้ยินที่นางพูดก็ค่อยๆ ยืนขึ้นหันหลังให้ประตูพลางเช็ดน้ำตา 

 

 

“เจ้าไม่รักษาสัญญาของตัวเอง ถูกเทพแมลงปีศาจทองทอดทิ้งนานแล้ว เจ้าไม่คู่ควรกับการเป็นหมอผี” 

 

 

ฮว่าเหยียนฟังที่ถังเฉียนพูดก็ไม่ได้รีบโต้แย้งแต่อย่างใด แต่กลับเป็นฝ่ายถอดหน้ากากของตนเองออก ภายใต้หน้ากากนั้นเป็นใบหน้าที่เฒ่าชรา ถังเฉียนรู้ว่านางอายุมากแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจะมากถึงเพียงนี้ 

 

 

“ยังจะเสแสร้งอะไรต่อหน้าข้าอีก คิดว่าตัวเองเป็นลูกศิษย์หมอผีศักดิ์สิทธิ์แล้วก็กลายเป็นคนสำคัญอย่างนั้นหรือ” 

 

 

ฮว่าเหยียนพูดจบก็ทำท่าจะถอดหน้ากากถังเฉียนออก ถังเฉียนเห็นนางลงมืออย่างหยาบคายก็คว้าข้อมือของนางไว้ ดวงตาภายหลังหน้ากากแดงก่ำ เลิกหวาดกลัวอย่างตอนแรกแล้ว ถังเฉียนไม่ใช่คนที่ใครจะรังแกได้ง่ายๆ 

 

 

“หมอผีฮว่าเหยียน ต่อให้เจ้าเป็นถึงหมอผีใหญ่ก็ไม่ควรสามหาวต่อหน้าหมอผีศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ เพราะอย่างไรเจ้าก็เป็นได้แค่หมอผีสมุนไพรเท่านั้น” 

 

 

“เจ้า! ข้าว่าเจ้าคงไม่อยากมีชีวิตแล้วสินะ ลืมไปแล้วหรือว่าความจริงนั้นเจ้าเป็นใคร” 

 

 

ถังเฉียนยังคงจับข้อมือนางไว้แน่น จ้องมองฮว่าเหยียนไม่วางตา 

 

 

“เจ้าคงจะลืมเรื่องหนึ่งไปแล้ว แท้จริงข้าเป็นคนที่ช่วยชีวิตจินซิวอ๋อง ต่อให้ข้าไม่ใช่หมอผีอย่างที่เขาคิดก็ไม่เป็นไร แต่เจ้าต่างออกไป หากเจ้ายินดีเปิดเผยความจริง ข้าก็ยังต้องขอขอบใจเจ้าเสียด้วยซ้ำที่ทำให้ข้าไม่ต้องเสียเวลาพูดเอง” 

 

 

ฮว่าเหยียนคาดไม่ถึงว่าเด็กสาวที่ตอนนั้นมีท่าทางขลาดกลัว กลับจะปากกล้าเช่นนี้ หลังจากตกตะลึงอยู่ชั่วครู่หนึ่ง นางก็สะบัดมือให้หลุดออกจากถังเฉียน ก่อนจะถอยหลังมายืนจ้องมองถังเฉียนอย่างโกรธแค้น 

 

 

“จวนจินซิวอ๋องเก่งเรื่องการบ่มเพาะคนไม่น้อยเลย ไม่เจอกันหลายวัน เด็กสาวซื่อๆ อย่างเจ้าปากคอร้ายกาจเช่นนี้ เวลานี้เจ้าก็มีที่พักพิงแล้ว ถือว่าข้าฮว่าเหยียนทำอะไรเจ้าไม่ได้ แต่คงมีสักวันที่เจ้าจะต้องมาขอร้องข้า” 

 

 

ถังเฉียนฟังคำพูดนางแล้วก็ไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด 

 

 

“พิธีเปิดวิญญาณของข้าหรือ” 

 

 

ฮว่าเหยียนถอยหลังเล็กน้อย ดวงตาดุจเหยี่ยวของนาง กำลังจ้องมองถังเฉียนอย่างดุร้าย 

 

 

“ใช่ หากเจ้าทำพิธีเปิดวิญญาณไม่สำเร็จ เจ้าก็จะเป็นอย่างข้า ชั่วชีวิตก็เป็นได้แค่หมอผีสมุนไพร ทางที่ดีเจ้าควรคิดหาวิธีขอร้องข้า ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกหมอผีศักดิ์สิทธิ์โยนทิ้ง แค่เด็กสาวอย่างเจ้า ข้าอยากรู้นักว่ายังจะอวดดีอย่างนี้ได้อีกหรือไม่”