”ชูฮันนี่มัน?” ฉางกวนหลงร้องเสียงสั่นออกมาเป็นครั้งแรกให้ได้ยิน มันแฝงไปด้วยความวิตกกังวลอย่างสุดๆ แม้ว่าคลื่นซอมบี้นั้นจะอยู่ห่างไกลออกไปอีกพอสมควร แต่จากการสังเกตการณ์แล้วเขาพบว่าความเร็วของพวกมันนั้นรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ
  คลื่นซอมบี้ครั้งนี้มันใหญ่มากถึงขนาดไหน?
  จากการคาดคะเนด้วยสายตาแล้วดูเหมือนมันสามารถกลืนกลินทั้งค่ายหนานตู้ได้เลย!
  ชาวบ้านค่ายหนานตู้ที่มามุงดูอยู่ตรงประตูค่ายไปก็รีบวิ่งกรูอพยพหนีกันอย่างสุดกำลังตอนนี้ทุกคนกำลังตกอยู่ในความกลัวและหวาดวิตก ทำไมจู่ๆถึงได้มีคลื่นซอมบี้ขนาดยักษ์ปะทุขึ้นมาได้กระทันหันอย่างนี้?
  ชูฮันจ้องไปที่ภาพน่าหวาดกลัวข้างหน้าซึ่งอยู่ไกลออกไปแววตามีประกายวาววับ จากนั้นก็หันไปสั่งการกับฉางกวนหลง “กองกำลังแรกให้ประจำอยู่ตรงประตูค่ายและเข้าสู่โหมดพร้อมรบทันที กองกำลังที่สองให้เตรียมตัวพร้อมเข้าแทนที่กลุ่มแรก กองกำลังที่สามให้เตรียมพร้อมเปลี่ยนตัว ทุกกองกำลังเตรียมรอต่อไปเรื่อยๆ ส่วนทีมนักยิงที่ระยะ 2 ขึ้นไป 500 คนและทีมที่มีอัตรายิงต่ำ 1,500 คนให้สลับระดมยิงโจมตีทุกๆสิบนาที!”
  การออกคำสั่งของชูฮันรวดเร็วมากการสั่งการดูเหมือนอยู่ๆก็ร่วงลงมาจากฟ้าโดยไม่มีใครทันตั้งตัว ทุกคนยังใช้เวลาประมวลผลว่าเมื่อครู่ชูฮันพูดอะไรไปบ้าง
  ”ทำสิ!”เสียงคำสั่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของฉางกวนหลงดังขึ้นทันที พร้อมกับหันไปจ้องชูฮันด้วยแววตาประหลาดใจปนทึ่ง
  ที่ชูฮันแบ่งกองกำลังพลทั้งหมด30,000 คน ออกเป็น 100 ทีมนั้นก็เพราะว่าประตูค่ายหนานตู้ค่อนข้างยาวทั้งตัวกำแพงก็สูงและหนาอย่างมากเนื่องจากเดิมทีมันถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการบุกเข้ามาของซอมบี้ ทำให้ตอนนี้ชูฮันจึงใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้จำกัดสนามรบไว้เพียงแค่ที่ประตูเมืองเท่านั้นโดยให้กองกำลังทั้ง 300 ผลัดกันเข้ามารับมือกับซอมบี้แค่ตรงประตู
  เพียงแค่กวาดตามองพริบตาเดียวชูฮันก็สามารถวางแผนการได้ แต่ถ้าซอมบี้ผ่านประตูค่ายเข้ามาได้ขึ้นมา ประชากรทั้งค่ายจะไม่ตายกันหมดเหรอ?
  จากสถานการณ์ปัจจุบันการตัดสินใจของชูฮันนั้นเหมาะสมอย่างคาดไม่ถึงเลย!
  คลื่นซอมบี้จะถูกปิดกั้นโดยกำแพงหนาสูงของตัวค่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าต่อสู้โดยพุ่งตัวออกไปรับมือกับที่นอกค่ายโดยไม่คำนึงต่อจำนวนของคลื่นซอมบี้ตรงหน้า มันจะเป็นการรนหาที่ตายอย่างเปล่าประโยชน์เปล่าๆ
  แต่พวกเขาที่มีจำนวนทหารทั้งหมดน้อยกว่า40,000 คนด้วยซ้ำ จะสามารถต่อสู้กับคลื่นสีดำซึ่งคาดว่าน่าจะมีซอมบี้ประมาณ 100,000 ตัวได้อย่างไร!   แต่ถ้าการต่อสู้ถูกจำกัดอยู่แต่ตรงประตูเมืองสถานการณ์มันก็จะแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง
  เป็นที่ทราบกันดีว่าประตูค่ายนั้นมีพื้นที่จำกัดและซอมบี้ที่มุ่งหน้ามาก็ไม่รู้ประตูเข้าออกของค่ายเหมือนกับคนในค่าย เมื่อซอมบี้เบียดอัดพยายามจะแทรกตัวเข้ามาที่ประตูจำนวนที่จะแทรกเข้ามาได้ก็จะอยู่ที่ 100-200 ตัวต่อครั้ง ในขณะที่มีทีมทหารละ 100 คนต่อทีมเตรียมรอรับมืออยู่ ซึ่งซอมบี้คลื่นลูกแรกส่วนใหญ่นั้นจะมีต่อระยะที่ 1 แม้ว่าจะไม่สามารถพูดได้ว่าทหารซึ่งเป็นคนธรรมดาจะสามารถฆ่าซอมบี้ระยะ 1 ได้ง่ายๆเหมือนเชือดไก่ แต่แน่นอนว่าพวกเขาสามารถรับมือได้ไม่ยาก
  หลังจากกองกำลังแรกรับมือกับซอมบี้เสร็จกองกำลังที่สองก็จะเข้าไปรับมือต่อทันที ส่วนกองกำลังที่สามก็เตรียมพร้อมรออยู่เสมอ ทีมต่อไปก็รอเข้าไปทีละทีมๆไปเรื่อยๆ ซึ่งวิธีการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดพลังงานในการรบและพละกำลังของทุกคนแล้ว แต่มันยังทำให้ทุกคนได้แสดงฝีมือของตัวเองออกมาเต็มที่และมีเวลาพักเพื่อฟื้นกำลัง
  รวมถึงการวางแผนการรบของชูฮันที่ก่อนหน้านี้ได้สั่งให้วิวัฒนาการระยะ1 กระจายตัวไปรวมอยู่ในแต่ละกองกำลัง มันเป็นอะไรที่ชัดเจนและเป็นการตัดสินใจที่ละเอียดอ่อน มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 1 ไม่ว่าอย่างไรก็ดีกว่ามนุษย์ทั่วไปในทุกด้านอยู่แล้ว และก็มีหน้าที่รับผิดชอบซอมบี้ที่เก่งกาจเกินกว่ามนุษย์ทั่วไปในแต่ละกองกำลังจะรับมือได้ เป็นผู้ช่วยยามสถานการณ์ฉุกเฉิน
  ส่วนมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่เหลือที่มีระยะ2 ขึ้นไปนั้นต้องเตรียมตัวพร้อมรอสำหรับการปรากฏตัวของซอมบี้ระยะสูงขึ้นไป!
  ส่วนการกระจายพลรบของมือปืนนั้นเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายในจังหวะที่คลื่นซอมบี้คลื่นแรกทยอยบุกเข้ามาที่ประตูและต่อสู้อยู่กับกองกำลังที่หนึ่ง มือปืนที่ประจำอยู่บนกำแพงก็จะเริ่มยิง
  และเพราะมันไม่มีใครอยู่นอกกำแพงค่ายเลยนอกจากซอมบี้
  ดังนั้นทุกคนจึงสามารถหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บหรือการตายได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
  ในเวลาเดียวกันกองกำลังมือปืนก็จะถูกแบ่งออกตามอัตราความแม่นยำ ซึ่งมันก็มีความหมายแตกต่างกันชัดเจน ทีมที่มีอัตราความแม่นยำสูงกว่ามีจำนวนทั้งหมด 500 คน และทีมที่มีอัตราแม่นยำต่ำกว่าจะมีทั้งหมด 1,500 คน
  ในเวลาสิบนาทีทุกคนต้องระดมกระสุนยิ่งใส่ฝูงซอมบี้รัวอย่างไม่ต้องยั้งมือ!
  ด้วยความคิดเช่นนี้หัวใจของฉางกวนหลงเต้นรัวที่ความเร็วกว่าสองครั้งต่อนาที ไม่ใช่เพราะคลื่นซอมบี้มหาศาลที่กำลังมุ่งหน้ามาที่ค่ายของเขา แต่เป็นเพราะกลยุทธ์ในการรบทีละขั้นตอนที่ชูฮันสามารถคิดและสั่งการออกมาได้ภายในเสี้ยววินาทีจนน่าช็อคต่างหาก!   สามารถจัดการวางแผนทุกอย่างให้สมบูรณ์ได้ภายในระยะเวลาแสนจะจำกัดการประสานงานของทุกฝ่ายโดยไม่มีคำสั่งที่เปล่าประโยชน์หรือสิ้นเปลืองพลังงาน การให้ทหารทุกคนในค่ายมาร่วมต่อสู้ด้วยกัน และแม้แต่ยังใช้ข้อได้เปรียบทางที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของค่ายอีก novel-lucky
  ชูฮันเป็นพ่อมดทางทหารอย่างแท้จริง!
  ฉางกวนหลงตัดสินใจมอบอำนาจสั่งการรบให้กับชูฮันไปโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องการบาดเจ็บล้มตายของทหารเลยในตอนนั้นหัวใจของฉางกวนหลงเต้นแรงด้วยความกังวลต่อการเสียชีวิตของผู้คนของตัวเอง เพราะถีงอย่างไรแล้วขนาดของคลื่นซอมบี้นมันไม่ใช่ขนาดที่พวกเขาจะรับมือได้ไหว อย่างไรมันก็ต้องมีคนเจ็บตายกับสงครามในครั้งนี้
  ส่วนสำหรับความเสียหายที่กำแพง?
  ฉางกวนหลงไม่สนใจ…
  ตราบใดที่พวกเขาชนะสงครามในครั้งนี้และรอดไปได้พวกเขาสามารถมาซ่อมแซมปรับปรุงมันใหม่ในอนาคตได้เสมอ!
  ทุกคนซ่อนตัวอยู่หลังการตัดสินใจของชูฮันแม้ว่าไม่ใช่ทุกคนจะสามารถวิเคราะห์เจตนาของชูฮ้นออกมาได้อย่างฉางกวนหลง แต่เวลานี้พวกเขาไม่มีเวลามาคิดอะไรให้มากความแล้ว? พวกเขาควรทำอย่างไรและควรอยู่ตรงไหน? ควรทำตัวอย่างไร?
  ชูฮันหมุนตัวหันหลังเดินกลับผ่านเข้าไปในประตูค่ายค่อยๆเดินผ่านแต่ละกองกำลังที่กำลังเตรียมตัวรออยู่
  มีแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์และคนวันหนุ่มสาวพวกเขาส่วนใหญ่เป็นแค่คนธรรมดาที่ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นทหารกับค่ายหนานตู้เพื่อความอยู่รอด บางคนอาจจะเคยฆ่าซอมบี้มาแล้ว บางคนอาจจะไม่เคยต้องต่อสู้มาเลยในชีวิต แต่ในเวลานี้ตอนนี้มีความกลัวฉายชัดเต็มสีหน้าของทุกคน เนื้อตัวสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง
  คลื่นซอมบี้มหาศาลกำลังมุ่งหน้ามาโดยไม่มีคาดการณ์ไว้เลยว่ามันจะเกิดขึ้น!
  ฮวงชูเจิ้นเองก็เริ่มพากลุ่มผู้รอดชีวิตที่พึ่งผ่านประตูค่ายเข้ามาเข้าไปอยู่ในตัวเมืองชั้นในสงครามกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วและพื้นที่รบในครั้งนี้จะอยู่ที่ประตูค่าย ดังนั้นบริเวณนี้มันจึงไม่ใช่ที่ที่ทุกคนควรอยู่
  แต่แล้วเมื่อกลุ่มผู้รอดชีวิตกว่าหมื่นคนเริ่มถูกจับไปเบียดอัดแน่นอยู่ในพื้นที่กว้างในตัวเมืองชั้นในจู่ๆหลายคนก็พุ่งตัวออกมามุ่งหน้าไปหาชูฮันพร้อมกับอาวุธในมือตัวเอง
  ซึ่งคนพวกนี้ล้วนเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะสูงกันทั้งสิ้น!
  ”พวกคุณกำลังทำอะไรอยู่!หยุดอยู่ตรงนั่น!” ฮวงชูเจิ้นช็อคและรีบตะโกนส่งเสียงเตือนชูฮันให้หลบ
  ชูฮันที่กำลังตรวจสอบพละกำลังและความพร้อมของแต่ละกองกำลังอยู่ก็มีแววตาประกายวาวเขาค่อยๆกำด้ามขวานซิ่วโหลที่มือขวาแน่นขึ้น จากนั้นก็หมุนตัวหันกลับไปเผชิญหน้ากับกลุ่มมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะสูงที่กำลังพุ่งตัวมาหาเขา
  คนที่เหลือเองก็ตกอยู่ในภาวะตกใจกันหมดตอนนี้ที่คลื่นซอมบี้มหาศาลกำลังบุกมา และจะถึงประตูค่ายในอีกไม่นาน แต่เวลาแบบนี้ยังมีคนคิดจะลอบสังหารชูฮันอยู่อีก?
  มันจะเกินไปรึเปล่า?
  เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองแล้วแม้แต่ชีวิตของเพื่อนมนุษย์จำนวนมากด้วยกันจะต้องตายไปก็ไม่สนใจงั้นเหรอ?
  ขณะที่ทุกคนกำลังกลัวจนสติหลุดและในเมื่อเวลามันสายเกินกว่าจะตอบสนองได้ทันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นต่อหน้าทุกคน
  ”พลเอกชูฮัน!พวกเราต้องการเข้าร่วมต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย!” ผู้รอดชีวิตหลายคนที่เป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ซึ่งวิ่งมายังไม่ทันถึงตัวชูฮันตะโกนร้องบอกถึงเจตนารมณ์ของตนเองพร้อมกับจิตสังหารรุนแรงที่ปล่อยออกมาอย่างพร้อมสำหรับการต่อสู้