เฉินโม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่ทรงพลังของกระบวนท่านี้ของเซี่ยงชง ซึ่งมันทรงพลังกว่าของเหรินเทียนหยู่และซุนบาเทียนหลายสิบเท่า

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ระดับพลังบำเพ็ญของเฉินโม่ก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้เฉินโม่อยู่ที่ชั้นหกแดนรวมพลัง หากเขาดูดซับหินหยาบจากทะเลลึกทั้งหมด ก็จะสามารถบรรลุถึงชั้นเจ็ดแดนรวมพลังได้

หนทางการบำเพ็ญยังอีกยาวไกล ยิ่งอยู่การปรับปรุงระดับก็ยิ่งยากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะระหว่างชั้นที่หกถึงชั้นที่เจ็ด ซึ่งระหว่างสองชั้นนี้มีเขตแดนเล็ก ๆ กั้นอยู่

เมื่อบรรลุถึงชั้นเจ็ดแดนรวมพลังแล้ว พลังความแข็งแกร่งของเฉินโม่ก็จะก้าวกระโดด

“เจ้าหนู ลองดูสิว่ากระบวนท่านี้ของฉันนั้นทรงพลังเพียงใด?” เซี่ยงชงเยาะเย้ยเสียงดัง และเสียงทุ้มนั้นทำให้ผู้คนแสบแก้วหู และทำให้รู้สึกอึดอัด ราวกับว่ามันดังออกมาจากสมอง

ใบหน้าของเฉินโม่ราบเรียบ เดินออกไปหนึ่งก้าว “ท่าที่หนึ่งหมัดเทพเทียนเสวียน สยบภูเขา!”

เซี่ยงชงกล่าวด้วยความเหยียดหยามว่า “เจ้าหนู กระบวนท่านี้ไม่ได้ผลหรอก เพราะลูกศิษย์ของแกเคยใช้แล้ว แกเปลี่ยนกระบวนท่าอื่นเถอะ!”

“เหรอ?” เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “แกลองรับพลังของกระบวนท่านี้อีกครั้งสิ!”

“ฮ่า ๆ หรือว่ากระบวนท่านี้ของแกจะทรงพลังกว่าลูกศิษย์ของ…….”

เซี่ยงชงพูดยังไม่ทันจบ เขาก็ไม่สามารถพูดได้อีกต่อไป เขามองเฉินโม่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ราวกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ

เมื่อเทียบกับเฉินซงจื่อแล้ว พลังหมัดนี้ไม่เพียงแค่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้น แต่แข็งแกร่งกว่าเป็นร้อยเท่า!

เซี่ยงชงรู้สึกว่าถึงแม้ตอนนี้จะมีภูเขาอยู่ข้างหน้าเฉินโม่ หมัดนี้ก็สามารถแยกภูเขาออกจากกันได้

“หมัดปีศาจวอก!”

เซี่ยงชงเคลื่อนไหวแขนทั้งแปดพร้อมกัน แล้วพุ่งเข้าไปหาเฉินโม่

แขนยักษ์ทั้งแปดนั้นเสมือนโซ่แปดเส้น ไม่ว่าแขนใดก็ใหญ่กว่าร่างกายของเฉินโม่ เมื่ออยู่ต่อหน้าเซี่ยงชงแล้ว เฉินโม่ตัวเล็กราวกับมด

เพียงแต่ไม่มีใครกล้าดูถูกมดตัวนี้

เฉินโม่ปล่อยพลังหมัดกระแทกวอกแปดแขนขนาดใหญ่ที่อยู่กลางอากาศ จนเซี่ยงชงตกลงไปในทะเลสาบกลับคืนรัง

“โอ้สวรรค์ หมัดนี้สามารถทำให้สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ตกลงไปในทะเลสาบ หมัดนี้มันแข็งแกร่งแค่ไหน!” มีคนอุทานด้วยความตกใจ

“นี่เป็นเคล็ดวิชาบู๊อะไรกันแน่? ถึงได้ทรงพลังขนาดนี้!”

“นึกไม่ถึงว่าวอกแปดแขนที่กวาดล้างโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ยเมื่อสามสิบปีที่แล้ว จะพ่ายแพ้ให้กับเด็กหนุ่มที่อายุสิบแปดปีด้วยหมัดเดียว!”

“โลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ยมีทายาทสืบทอดแล้ว!”

ขณะนี้ ชายชราสวมชุดลัทธิเต๋าคนหนึ่ง เดินไปหาชายชราที่สวมชุดกีฬาสีเทาอีกคนอย่างเงียบ ๆ และกล่าวว่า “เด็กคนนี้ต้องมีความลับอย่างแน่นอน หากพวกเราสามารถบีบบังคับให้เขามอบความลับเหล่านั้นออกมาได้ พวกเราก็มีความหวังที่จะบรรลุถึงแดนเทพแล้ว!”

“อืม ผมก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ถ้าอาศัยแค่พวกเราสองคน เกรงว่าคงจะไม่สามารถบีบบังคับให้เขาคายความลับออกมาได้ ต้องหาคนเพิ่มอีกสองคน!”

ชายชราสวมชุดลัทธิเต๋ากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “วางใจเถอะ ด้วยแรงจูงใจของแดนเทพแล้ว ผมเชื่อว่าหาคนไม่ยาก”

“เยี่ยมมาก!”

พวกเขาสองยิ้มเล็กน้อย เข้าใจซึ่งกันและกันโดยไม่จำเป็นต้องพูด

เซี่ยงชงพุ่งขึ้นมาจากทะเลสาบกลับคืนรัง หยดน้ำกระเซ็นไปทั่ว ด้วยท่าทางน่าสังเวช

“เจ้าหนู แกกับนักพรตเฒ่าคนนั้นใช้กระบวนท่าเดียวกัน แต่ทำไมพลังหมัดของแกถึงได้ทรงพลังกว่าเขามาก!” เซี่ยงชงตะโกนด้วยความโกรธ เขามีความรู้สึกเหมือนถูกหลอกลวง

เฉินโม่กล่าวเยาะเย้ย “แล้วฉันบอกแกตอนไหนว่าฉันเหมือนกับเขา?”

“แก!”เซี่ยงชงมองเฉินโม่ด้วยความโกรธ แต่หลังจากครุ่นคิดอย่างละเอียดแล้ว เฉินโม่ไม่ได้พูดจริง ๆ เขาเป็นฝ่ายคาดเดาเอง

สีหน้าของเซี่ยงชงค่อย ๆ ดีขึ้น มองเฉินโม่และกลับมาสงบอีกครั้ง

“เจ้าหนู แกแข็งแกร่งมาก เมื่อสามสิบปีที่แล้วฉันมาที่หัวเซี่ย แล้วกวาดล้างโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ย แต่ฉันไม่เคยเห็นคู่ต่อสู้อย่างแกมาก่อน สามสิบปีต่อมา พลังบำเพ็ญของฉันก้าวหน้าไปมาก และฉันกลับมาที่หัวเซี่ยอีกครั้ง แต่นึกไม่ถึงว่าจะสู้สามสิบปีที่แล้วไม่ได้!”

เฉินโม่เยาะเย้ย “นั่นเป็นเพราะว่าตอนนั้นแกไม่ได้พบฉัน มิเช่นนั้น เมื่อสามสิบปีก่อนแกอย่าคิดว่าจะได้ออกไปจากหัวเซี่ย!”