บทที่ 451 ลางบอกเหตุของการพบเจอ (5)
ชูเบิร์ท เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ กองทัพของเขามีจำนวนอย่างน้อย 5,000 คน แม้จะมองอย่างรวดเร็ว
“….”
เฟฮี มองลงไปที่ เคานต์ ชูเบิร์ท และ เรแลน ผู้ทรยศทั้ง 2 จากบนกำแพงปราสาท ชูเบิร์ท มองกลับไปที่อดีตกษัตริย์ของเขาด้วยสายตาเย็นชา
“ราชา ข้าได้ยินมาว่าท่านยอมรับศาลเตี้ยเข้าร่วมกับท่าน”
เขาพูดถึง ชินจงฮัก ขึ้นมา ไอลีน และ จินซาฮยอค ที่ยืนอยู่ข้างๆผมขมวดคิ้ว
“ท่านดูเหมือนจะได้รับทรัพยากรไม่น้อยจากกลุ่มศาลเตี้ย….”
ชูเบิร์ท ดูไม่พอใจ เขาบอกได้เลยว่ากำแพงปราสาทที่ชำรุดของ พัลซาร์ ได้รับการเสริมด้วยวัสดุที่แข็งแกร่ง
“หากท่าน ไม่ส่งมอบกลุ่มคนเหล่านี้มา ทางเราจะประกาศสงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”
“… .”
เฟฮี ไม่ตอบ ประกาศสงคราม คำ 3 คำนั้นหนักมากบนไหล่ของกษัตริย์น้อย ชูเบิร์ทสังเกตเห็นความหวาดกลัวของเธอขณะที่เขาเยาะเย้ย
“ส่งพวกเขามาตอนนี้ ไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับ พัลซาร์ ถ้าท่านทำตาม ข้าจะรับประกันว่า ท่านจะยังมีสิทธิ์อยู่อีกเล็กน้อย”
เขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง เฟฮี กำกำปั้นของเธอแน่น
“ไปตายให้หนอนแดกซะ ไอ้คนน่ารังเกียจ -!”
ในขณะนั้นเองมีคนตระโกนออกมาเสียงดัง ภาษาที่ไม่เหมาะสมดังก้องกังวานไปทั่วทั้งปราสาท ทุกคนจ้องมองไปที่เจ้าของเสียงด้วยความงุนงง
จินซาฮยอค
ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาจ้องมองที่ จินซาฮยอค โดยสงสัยว่าเขาได้ยินถูกต้องหรือเปล่า ทันทีที่ดวงตาของเขาสบกับ
จินซาฮยอค เธอก็ยิ้มกว้าง
“ฉันอยากจะบอกกับแกแบบนี้มานานแล้ว”
“…ข้ารับใช้ของเจ้าขาดมารยาท บางทีข้าน่าจะรับเธอไปหลังจาก”
ตู้มมมมมมมมมม-!
ก่อนที่ชูเบิร์ทจะสามารถกล่าวจบประโยค หอกของจินซษฮยอคก็กระแทกพื้นต่อหน้าเขา ซ่าาาา…พื้นดินแตกชิ้นส่วนของสิ่งสกปรกและหินพุ่งขึ้นไปในอากาศ พลังเวทมนต์ที่เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างอัน
น่าประหลาดใจทำให้ ชูเบิร์ท กลืนน้ำลายของเขา
“มันจะไม่พลาดในครั้งต่อไป หุบปากซะ ถ้าแกไม่อยากตาย”
จินซาฮยอค ได้แสดงความใจเย็นมากกว่าปกติออกมา ชูเบิร์ทมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“…อีก 2 เดือน พวกข้าจะมาเอาหัวของเจ้าไป ฝากไว้ก่อนเถอะ”
“น่าขัน พวกเราจะโจมตีแกก่อนแล้ว ไอ้คนทรยศสกปรก”
“… .”
ชูเบิร์ทไม่ได้พูดอะไร เขาส่ายหัวราวกับว่าเขาจะเสียเวลาถ้าจะพูดกับเธอ
“เจ้าได้ยินสิ่งที่เขาพูดใช่ไหม? ว่าเขาประกาศสงคราม”
จินซาฮยอค พูดหลังเห็นการล่าถอยทัพของ ชูเบิร์ท
“พวกเราต้องฝึกฝนอย่างหนักตั้งแต่วันนี้ ไม่สำคัญว่าพวกเจ้าจะเป็นอัศวินหรือทหารธรรมดา ถ้าพวกเจ้าไม่มา ข้าจะ -”
“ชิ.”
เสียงแหลมๆขัดจังหวะของจินซาฮยอค ดวงตาของจินซาฮยอค หันไปรอบๆที่นั่น ชินจงฮัก ยืนอยู่อย่างยโสพร้อมกอดอก
“คิดแต่เรื่องของตัวเองก่อนเถอะ”
“….”
ใบหน้าของ จินซาฮยอค แข็งทื่อ ประกายไฟลอยไปมาระหว่างดวงตาของพวกเขา … อัศวินรอบข้างและทหารถอยออกไปอย่างเงียบๆ ขณะที่ไอลีน ใช้วาจาสิทธิ์พูดออกมา
“หากพวกเธอจะต่อสู้จงลงไปซะ อย่ามาทำลายกำแพง”
จินซาฮยอค และ ชินจงฮัก เชื่อฟังเธอโดยลงไปจากกำแพงปราสาท ทันทีที่พวกเขามาถึงพื้นดินพวกเขาก็เริ่มต่อสู้กับอย่างดุเดือด
ตู้มมมมม – เปรี้ยงงงงงงงง -!
พลังเวทมนต์ระเบิดกลางอาการ การต่อสู้นั้นร้อนแรงพอๆกับบุคลิกของพวกเขา
*************************************************************************
[หอคอยแห่งความปรารถนา ชั้นสุดท้าย – กลุ่มดาวแห่งการตัดสินใจ]
คิมซูโฮเดินตามนักบุญไปที่ชั้น 31 พื้นที่ว่างเปล่าห้อมล้อมรอบด้วยบานกระจกทุกทิศทุกทาง ฉากของหอคอยแห่งความปรารถนาถูกแสดงบนบานกระจก
“ฉันดีใจที่เธอเป็นคนที่มาถึงที่นี่”
นักบุญพูด คิมซูโฮยืนนิ่งและจ้องมองไปที่บานกระจก ชั้น 2,ชั้น 3,ชั้น 8, ชั้น 16 ,ชั้นที่ 21 … เขาเห็นผู้เล่นหลายคนและผู้พักอาศัยอยู่บนหอคอย
“นี่คือสิ่งที่เธอได้ประสบความสำเร็จ”
นักบุญพูดด้วยรอยยิ้ม อย่างไรก็ตามเสียงของเขาแบ่งออกเป็นหลายเสียง คิมซูโฮ รู้สึกแปลกๆ ที่นั่นเขาเห็นสิ่งมีชีวิตมากมายในรูปแบบของวิญญาณ พวกเขาล้วนเป็นสิ่งมีค่าที่อยู่แถวหน้าของศาสนามนุษย์
: พระพุทธเจ้า นบีมุฮัมมัด เป็นต้น
“…ผมขอถามหน่อยได้ไหม”
คิมซูโฮถามพวกเขาในสิ่งที่เขาอยากรู้
“ทำไมผมถึงมาเกิดใหม่ในโลกนี้”
มันช่างโง่ที่จะถามถึงเหตุผลของมัน นักบุญยิ้มเบาๆแล้วส่ายหัว
“เธอจะตระหนักถึงคุณค่าและชะตากรรมของเธอในอนาคตอันใกล้นี้…ยิ่งไปกว่านั้นฉันอยากจะถามเธอ เธอคิดว่าหอคอยนี้ดูเป็นยังไง”
เมื่อได้ยินคำถามนี้คิมซูโฮมองกลับไปที่หน้าต่างบานหน้าต่าง เขาเห็นเมื่อต่างๆ อาณาจักรปีศาจและปีศาจที่กำลังร้องไห้ให้กับข่าวการตายของเจ้านาย พวกเขา
“เธอต้องตัดสินใจ”
คิมซูโฮ มองกลับไปที่นักบุญ
“…การตัดสินใจ คุณเรื่องอะไร”
นักบุญพยักหน้า
“เลือกว่าจะรักษาโลกนี้หรือทำลายมัน”
หอคอยแห่งความปรารถนา มันถูกเรียกเช่นนี้เพราะมันถูกบรรจุความปรารถนาของมนุษยชาติทั้งหมด ผู้อยู่อาศัยหลายคนอาศัยที่อยู่ที่นี่และผู้เล่นจากโลกที่เข้ามาเพื่อท้าทายและเปลี่ยนแปลงตนเองในที่แห่งนี้
ผู้เล่นมีความหวัง ความโลภและความคาดหวัง ผู้อยู่อาศัยให้การต้อนรับพวกเขาในขณะที่อิจฉา อิสระของพวกเขา
อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้ง 2 พอใจในต้นกำเนิดของพวกเขาเหมือนกัน
ผู้อยู่อาศัยในหอคอยพบความสุขในแบบของตัวเอง บางคนยิ้มในขณะที่มองดูลูกๆของพวกเขาเติบโตขึ้นและบางคนก็พบรักใหม่กับผู้เล่นจากโลก
“ผม….”
หอคอยแห่งความปรารถนาได้กลายเป็นโลกเช่นเดียวกับ อคทรีน่า และโลกดาวเคราะห์สีฟ้าที่มนุษย์อาศัยอยู่
ดังนั้น…ไม่มีใครมีอำนาจไปทำลายมันได้
“ผมอยากรักษาโลกนี้เอาไว้”
นักบุญยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของคิมซูโฮ
“ฉันเข้าใจ แต่การที่จะเกิดขึ้นเธอต้องทำลายหอคอยด้วยมือเธอเอง”
“…อะไรนะ?”
เมื่อเห็นความสับสนของ คิมซูโฮ นักบุญก็ชี้ไปที่ มิสเทลทีน
ดาบศักดิ์สิทธิ์
“ตัด ‘เปลือก’ ที่จำกัดสถานที่นี้ว่าเป็น ‘หอคอย’ แทนที่จะเป็น ‘โลก’ สถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับโลก”
ดวงตาของคิมซูโฮเบิกกว้าง
“ …หอคอยแห่งความปรารถนาจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับโลก”
เขาถามด้วยความอยากรู้จริงๆ นักบุญส่ายหัวและอธิบายต่อไป
“ไม่ พวกมันจะแยกจากกัน ผู้พักอาศัยของ Tower ยังคงไม่สามารถออกเดินทางได้ ในขณะที่ผู้เล่นสามารถเข้าและออกได้ตามต้องการ ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือขอบเขตระหว่างโลกนี้กับหอคอยที่ปรากฏการณ์จะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับโลกนี้จนกลายเป็นนิรันดร์”
คิมซูโฮก็รู้คำว่า ‘ปรากฏการณ์มหัศจรรย์’ มันเป็นสิ่งที่ผู้บริหารบางคนหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้
“แต่สิ่งนี้อาจทำให้วายร้ายที่เลวร้ายที่สุดหรือฮีโร่ผู้กล้าหาญที่สุดในประวัติศาสตร์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง”
คิมซูโฮพยักหน้า เขาไม่จำเป็นต้องคิดมากเกี่ยวกับการตัดสินใจของเขา เขาตัดสินใจแล้วเมื่อนักบุญบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ผมเข้าใจแล้ว.”
การตัดสินใจของคิมซูโฮนั้นไม่ได้เกิดจากความสุขของผู้อยู่อาศัยในหอคอยหรือผู้เล่นของโลก ไม่มีอุดมการณ์ทางปรัชญาหรือเจตนาทางอารมณ์อยู่เบื้องหลัง
“ผมแค่อยากรักษาโลกนี้เอาไว้”
เป็นเพราะนี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
เพราะคิมซูโฮเชื่อมั่นว่ามันเป็นเรื่องที่ ‘ถูกต้อง’
“…ถ้างั้นตัด ‘หอคอย’ แห่งนี้ซะ”
คิมซูโฮยกดาบขึ้น พลังเวทมนต์แผดเผาอยู่รอบตัวเขาในขณะที่เขาเปิดใช้ทักษะขั้นสูงสุดของเขา แสงสีทองที่เปล่งประกายออกมาและคมดาบของ มิสเทลทีน ก็เปล่งประกายอย่างสวยงาม
คิมซูโฮเหวี่ยงดาบศักดิ์สิทธิ์ของเขาลงเพื่อตัด ‘เปลือก’ ที่จำกัดโลกใบนี้กับหอคอยเอาไว้
“-”
ดาบศักดิ์สิทธิ์ ทะลวงไปในจุดกำเนิดของหอคอย
*************************************************************************
[Pandemonium, ฐานของ Chameleon Troupe]
“ …มันโอเคไหม?”
ที่ชั้นใต้ดินชั้น 6 ของฐาน Chameleon Troupe, ชอคจุนกยอง เกาคอของเขาอย่างเชื่องช้า
“ดูเหมือนว่าคุณลงมือหนักเกินไปในขณะที่ใช้ทักษะ ระเบิดพลัง คุณไม่ควรใจร้อนเกินไป”
ยียูริ ตบไหล่ของ ชอคจุนกยอง ต้องขอบคุณเธอเพราะเธอทำให้
ชอคจุนกยอง ได้ค้นพบอาการบาดเจ็บภายในที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำ
“อ๊ะ ขอบคุณนะ…อะแฮ่ม”
ชอคจุนกยอง ลุกขึ้นโดยแสดงความขอบคุณ ในขณะที่เขากำลังจะจากไป แม่ของยียูริก็จับเขาเอาไว้
“รอเดี๋ยวก่อน…คือ…พวกเราจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่”
“…อะไรนะ?”
ชอคจุนกยอง หยุดและหันหลังกลับ ใบหน้าที่ดุร้ายของเขาทำให้
ผู้ปกครองของยียูริสะดุ้ง
“ฉันบอกพวกคุณไปแล้วพวกคุณจะกลับไปไม่ได้”
“ตะ-แต่…”
“ถ้าพวกคุณทำแบบนั้น พวกคุณจะไม่ได้เห็นลูกสาวของพวกคุณอีก เธอจะไม่เจอพวกคุณเช่นกัน พวกคุณต้องอยู่ที่นี่อย่างน้อย 5 ปี
มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นเพราะพวกคุณจะได้อยู่ด้วยกันใช่มั้ย”
พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง ด้วยเหตุนี้ยียูริจึงต้องได้รับการฝึกฝนอย่างเป็นระบบเป็นเวลา 5 ปี ก่อนที่เธอจะสามารถใช้ ‘พลัง’ ของเธอได้อย่างเหมาะสมตามร่างกายของเธอและต้องสามารถจัดการกับมันได้อย่างสมบูรณ์
“ตะ-แต่พวกเราทำแบบนั้นไม่ได้ พวกเรามีงานต้องทำและ -“
“อ้าวนี่.”