ตอนที่ 450

The Novel’s Extra

บทที่ 450 ลางบอกเหตุของการพบเจอ (4)

 

คิมฮาจิน

 

ชื่อของเขาเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำลายอารมณ์ของ

จินซาฮยอค

 

“ยัยคนแคระนั่น….”

 

‘เธอไม่สามารถพูดชื่อเขาง่ายๆแบบนั้น เขาไม่ใช่คนที่เธอคู่ควร เขาเป็นคนรับใช้ของฉัน เขามีชีวิตอยู่เพื่อฉันเท่านั้นไม่ใช่เธอ…. ‘

 

เป็นอีกครั้งที่เธอสับสน

 

จินซาฮยอค กัดฟันของเธอแน่นแล้วปิดหน้าต่าง เธอดึงผ้าม่านแล้วนอนบนเตียงในห้องมืดๆ

 

ตอนนี้เธอต้องการเวลามากในการพิจารณาและตัดสินใจ

 

*************************************************************************

 

[ชั้น 30 ปราสาทราชาปีศาจ]

 

ประกายแห่งทองคำและแสงสีดำปะทะกันในทุกทิศทาง พลังเวทมนต์และพลังงานอสูรหมุนวนก่อให้เกิดวังวน วังวนกลายเป็นพายุไต้ฝุ่นยักษ์ที่ทำลายท้องฟ้าแลแผ่นดินอย่างรุนแรง ประกายไฟทำให้ทุกอย่างดูน่ากลัวและผลลัพธ์ของการต่อสู้นี้อยู่ใจกลางดวงตาของพายุ

 

ชาย 2 คนยืนอยู่ตรงกลางพายุการปะทะกันของพลังเวทมนต์และพลังปีศาจ ร่างกายทั้งหมดของคิมซูโฮเปล่งประกายสดใสและดาบของเขาแทงอยู่ในหน้าอกของราชาปีศาจ นี่เป็นการบาดแผลที่ร้ายแรง ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าใครเป็นผู้ชนะ

 

ความเงียบงันทำให้ปราสาทราชาปีศาจเองก็เงียบสงบ

 

คิมซูโฮ ตัวแข็งค้างพร้อมดาบของเขาที่ติดอยู่ในร่างของราชาปีศาจ ราชาปีศาจไม่เคลื่อนไหว เมื่อมองจากระยะไกลดูเหมือนทั้ง 2 กำลังกอดกันและกัน ความสุขแปลกๆปรากฏในดวงตาของราชาปีศาจ

 

“เจ้าทำได้แล้ว…เกือบครึ่งปี”

 

เสียงของราชาดังก้องกังวาน

 

“ข้ามีช่วงเวลาที่ดี…. มันสนุกมาก…ที่ได้….เฝ้ามองเจ้าเติบโต….”

 

ราชาปีศาจยิ้มอย่างมีความสุข เขายื่นมือออกไปจับหัวของคิมซูโฮ

ผมสีน้ำตาลซึ่งตอนนี้ค่อนข้างยาวแกว่งไปมาเบาๆตามที่สัมผัสของเขา

 

“ข้า…จะไม่…ลืมเจ้า…เพราะเจ้าทำให้ความตาย….ของข้า”

 

ร่างของกษัตริย์เริ่มกลายเป็นฝุ่น ตั้งแต่หัวจรดเท้าร่างกายของเขาเริ่มจางหายไปอย่างช้าๆ คิมซูโฮมองราชาปีศาจด้วยสายตาที่แน่วแน่

 

คำพูดสุดท้ายของราชาปีศาจสั้นลง

 

“ขอบคุณ…. ข้ายินดีที่จะ…ยอมรับความตายนี้….”

 

เขาพูดเบาราวสายลม

 

ราชาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยและคิมซูโฮในตอนนี้ได้แต่มองดูบัลลังก์ ว่างเปล่า บัลลังก์ที่เคยถูกครอบครองโดยราชาปีศาจบัดนี้มันช่างว่างเปล่า

 

“…ชั้นสุดท้ายยังอยู่”

 

แม่มดเข้ามาหาเขา เธอยืนอยู่ข้างหลัง คิมซูโฮ และพูดอย่างใจเย็น

 

“มันถูกเรียกว่า [ชั้นแห่งการตัดสินใจ]”

 

บันไดทองคำลอยขึ้นมาเหนือบัลลังก์ เส้นทางสุดท้ายส่องแสงจ้า

คิมซูโฮ พยักหน้าเมื่อเห็นมัน

 

“ฉันเข้าใจแล้ว.”

 

“และนี่.”

 

ทันใดนั้นแม่มดก็ส่งกระดาษให้เขา แม้ว่าเขาจะจับมันไว้โดยสัญชาตญาณ แต่ในไม่ช้าคิมซูโฮก็สับสน

 

“นี่คือ…?”

 

“เจ้าได้รับสิทธิ์ให้นำ 1 ในผู้พักอาศัยของหอคอยออกไปข้างนอกในฐานะผู้สนับสนุนของเจ้า”

 

[คูปองอัญเชิญ]

 

“และสำหรับข้อมูลของเจ้า  Lv.ของข้าคือ 40”

 

แม่มดกล่าวดึงดูดเขาอย่างชัดเจน คิมซูโฮยิ้มเบาและยืนอยู่หน้าบันไดที่ทอดไปสู่ชั้น 31

 

วลีต่างๆถูกจารึกไว้บนหน้าของบันไดทองคำ

 

[บุคคลผู้ใดยังมีบกพร่องทางวิญญาณ ผู้นั้นจะเป็นสุขเพราะอาณาจักรแห่งสวรรค์เป็นของเขาอย่างแท้จริง”

 

คิมซูโฮ ปีนบันไดโดยอ่านแต่ละวลีทีละคำ

 

[บัญญัติใหม่แก่ข้าซึ่งรักเจ้าแม้ในขณะนี้ข้าก็ยังรักเจ้า]

 

หลังจากอ่านวลีนั้นคิมซูโฮก็ค่อนข้างเข้าใจว่าใครเป็นผู้ดูแลคนสุดท้าย

 

[แม้ว่าเจ้าทำให้ข้าเห็นปัญหามากมาย เจ้าก็จะฟื้นฟูชีวิตของข้าอีกครั้ง; จากส่วนลึกของโลก เจ้าได้นำข้าขึ้นมาอีกครั้ง]

 

นักบุญที่เกิดจากหญิงพรหมจารีและเป็นศูนย์กลางของศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งผู้ที่เกิดมานั้นเป็นจุดเริ่มต้นของปฏิทินใหม่

(ก่อนคริสต์ศักราช)

 

พระเยซู.

 

“อ่า … .”

 

ในก้าวสุดท้ายของบันได คิมซูโฮยิ้มอย่างสดใส คิมซูโฮปีนขึ้นบันไดไปเพื่อไปหาเขาอย่างขยันขันแข็ง

 

*************************************************************************

[ทวีป อคทรีน่า]

 

2 เดือนผ่านไปใน อคทรีน่า ในระหว่างที่พวกเราสร้างกำแพงปราสาทและที่พักอาศัยของชุมชนเสร็จ ปัญหาการขาดแคลนอาหารก็ได้รับการดูแลเป็นส่วนใหญ่

 

“…แล้วเธอไม่ชอบเรียนเหรอ?”

 

ขณะนี้ผมกำลังเดินเล่นในสวนและสอน เฟฮี ที่เปล่งประกายพพร้อมดอกไม้เริ่มเบ่งบานในสวนหลวงซึ่ง แต่ว่า….

 

“ไม่ใช่…ครูของข้าเป็นคนทรยศมันมากเกินไปแม้ว่าข้าจะเป็นราชา”

 

เฟฮีบ่นอย่างรุนแรง แน่นอน จินซาฮยอค เป็นอาจารย์ของเธอ

 

“แต่เธอต้องเรียนอย่างหนักเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น”

 

เฟฮี อยู่ข้างๆผม นี้เป็นภาพของอดีตที่ปรากฏ ดังนั้นการสนทนานี้จึงไม่มีความหมาย แต่ผมก็ยังอยากกระตุ้นเธอ

 

“อย่างที่เธอรู้แล้วพวกเราไม่ได้อยู่ที่นี่นานหรอก”

 

พวกเรามีคริสตัลอยู่ในความครอบครองแล้ว มันใช้เวลาไม่นานที่พวกเราได้เศษที่เหลือ 2 ส่วนมา เนื่องจากพวกเราทราบแล้วว่าพวกมันอยู่ในดินแดนของ ชูเบิร์ท

 

“….จริงเหรอ พวกคุณอยู่ที่นี่ไม่ได้งั้นเหรอ”

 

ทันใดนั้นเฟฮีก็หยุดขยับ เธอเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยสายตาที่สิ้นหวัง

 

“จริงสิ…เธอคนนั้นเคยเตือนฉันถึงคนรับใช้เก่าของฉันสินะ”

 

“… คนรับใช้?”

 

ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีทิ่มแทงผม เธอกำลังพูดถึง คิมชุนดง สินะ

 

“ใช่ แต่เขาแก่กว่าคุณมาก ฉันส่งเขาไปเข้าคุกก่อนหน้านี้ดังนั้นฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว แต่ …เขาเป็นคนรับใช้ที่มีค่าที่สุดของฉัน”

 

เฟฮี กล่าวต่อไปอย่างเคร่งขรึม แต่ผมอดไม่ได้ที่จะคิดว่าเธอนั้นดูน่ารักแม้ว่าจะอารมณ์เสีย ผมอยากหยิกแก้มอ้วนๆของเธอซะ

 

“แม้ว่าการส่งเขาไปจะเป็นความผิดของฉัน แต่ฉัน…?”

 

แต่ฉันทำอะไรไม่ได้ เพราะบางคนขวางทางฉัน

 

“…จินซาฮยอค ว่าไง?”

 

ราชา สั่นในคำพูดของผม เธอลืมตากว้างและถอยห่าง

 

“ทำไมเธอมาที่นี่อีกแล้วละ พวกเราเรียนเสร็จแล้วนะวันนี้”

 

เฟฮี กลัว จินซาฮยอค อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม จินซาฮยอค เข้าหา เฟฮี โดยไม่ลังเล

 

“ดะ..ดูที่นี่สิ ฉัน…รู้วิธีควบรวมพลังเวทมนต์แล้ว มันไม่ดีพอใช่ไหม…?”

 

ราชาแสดงท่าทางหวาดกลัวออกมาและเริ่มท่องทุกสิ่งที่เธอเรียนรู้ในก่อนหน้านี้ออกมา อย่างไรก็ตามจินซาฮยอค เข้าหาราชาน้อยและจับข้อมือของเธอเอาไว้ เฟฮี สั่นเล็กน้อยและหลับตาลง

 

“หากเธอมีเวลามาคุยกัน เธอควรฝึกฝนให้มากกว่านี้”

 

จินซาฮยอค จ้องมองผมขณะที่เธอดึงเฟฮีไปหาเธอ

 

“เดี๋ยวก่อน….เดี๋ยวก่อน…ฉันยังไม่ได้ทาน….”

 

เฟฮี อ้อนวอนแต่จินซาฮยอค ไม่สนใจ เธอลากราชาน้อยออกไปแบบบังคับ

 

“…โธ่.”

 

ผมมองดูพวกเธอจากไปขณะที่เอา [แว่นขยายลึกลับ] ออกมา เพื่อค้นหาว่าเกิดอารมณ์ความรู้สึกแบบใดในตัวจินซาฮยอค มันคือ……

 

[อิจฉาริษยา]

 

จินซาฮยอค รู้สึกอิจฉาตัวเองในอดีตที่คุยกับผม เธอยังคงเชื่อว่าผมเป็นคนรับใช้เก่าของเธอ นั้นเป็นเหตุผลสำหรับเรื่องนี้สินะ

 

“เฮ้ออออออออ… .”

 

ผมถอนหายใจหนัก

 

“นักบวชคิมๆ! ชูเบิร์ท มาที่นี่! เขามาล้อมปราสาทเอาไว้แล้ว!”

 

ทันใดนั้นอัศวินก็วิ่งมาและตะโกนหาผม