ตอนที่ 55

Rise of The Undead Legion

Chapter 55: คำสัญญาเก่า

ด้านทางฝั่งตะวันออกของบ้านหรูในแมนฮัตตัน เด็กสาวกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดบิดตัวไปมาและคุยโทรศัพท์อยู่

” งั้นนนนน ก็เอาเลขบัญชีนายมาสิ …” – เธอพูดขึ้นพร้อมกับเอามือม้วนผมสีม่วงสั้นๆของเธอ

ถ้าเดฟได้มาเห็นหน้าของเธอจริงๆเขาจะพบว่าหน้าของเธอเหมือนกับตัวละครในเกม

เธอน่ะกำลังคุยกับผู้เล่นที่เป็นอันเดตหนวดอยู่

” ฉันจะให้บัญชีไปเพื่อ เธอส่งเงินให้ฉันทางนั้นก็ได้ ” – เดฟ ตอบกลับ

เธอคิดว่าเขาโง่หรือไง ? ด้วยเลขบัญชีของเขา เธอน่ะสามารถหาทุกอย่างเกี่ยวกับเขาได้ เธอคงต้องล้อมันเล่นแน่ๆ….

” ชิ นายนี่ไม่ตลกเลย ” – เธอหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง – ” ฉันไม่บอกตัวตนนายหรอก ฉันน่ะโพสต์เบอร์นายลงบนวิดีโอก็ได้ถ้าฉันอยากทำเรื่องแบบนั้น นายก็รู้นิ “

” อย่าทำแบบนั้นเลย ฉันเองก็ช่วยเธอด้วย เราต่างคนต่างได้นิ “

” ก็จริง มันเป็นธุรกิจแต่ไม่เอาน่า นายไม่อยากเห็นว่าสาวสวยที่นายเจอในเกมหน้าจริงๆเป็นยังไงเหรอ ? ” – เธอถามต่อด้วยน้ำเสียงกวนๆ

” มันไม่มีค่าสำหรับฉัน เธอไม่กลัวหรือไงว่าฉันอาจจะเป็นพวกฆาตกรโรคจิต ? ” – เขาแหย่กลับ

” หึหึ มันก็คุ้มอยู่ดี ฉันจะบอกได้ว่าฉันเจอกับคุณโครงกระดูกผู้ลึกลับ แม้ว่าฉันจะกลายเป็นศพก็ตามเถอะ ” – เธอพูดขึ้น

” อ่ะ งั้นก็เอาตามนี้ ฉันจะเป็นคนที่ลึกลับต่อไป “

” ก็ได้ นายจะได้ส่วนแบ่งในไม่ช้าแต่ฉันต้องไปเก็บเวเลเพิ่ม นายจะกลับไปเล่นต่อมั้ย เราจะได้ลงดันเจี้ยนด้วยกันอีกมั้ย ? “

” ใช่ ทำไมจะไม่ล่ะ เราทำแบบนั้นได้ เธอกลับไปเกิดที่ไหน ? “

” ใน Meldiva อาณาจักรทางเหนือ ” – เธอตอบกลับ

” อืม ค่อนข้างไกลเลย…ฉันจะบอกเธอละกันว่าฉันอยู่ที่ไหนตอนกลับเข้าไปและอย่าเอาใครมาด้วย ฉันคงไม่ต้องอธิบายว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีเรื่องแบบนั้นขึ้นมา….” – เดฟตอบกลับ

” ว๊าว นี่ฟังดูเหมือนขู่เลยนะ ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันไม่เอาใครไปยุ่งกับการเดทของเราหรอก ” – เธอเถียงกลับก่อนจะตัดสายไป

เดฟมองไปที่โทรศัพท์ของเขาด้วยความสับสน เขาไม่ค่อยได้คุยกับผู้หญิง อย่างมากก็แค่คุยกับพนักงานร้านของชำ

เขาไม่เข้าใจผู้หญิง เขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไรหรือพูดอะไรแม้แต่ในเรื่องง่ายๆก็ตาม คำพูดของเขามักจะผิด สิ่งที่เขาพูดและทำนั้นมักจะดูผิดพลาดไปหมด

นี่คือความจริงที่เขาไม่ได้สงสัยหลังจาก….เจอเหตุการณ์ที่น่าอึดอัดมาหลายครั้ง

มุมมองของเดฟในฐานะและการศึกษาของเขาได้ส่งผลต่อการเข้าหาผู้หญิง เขาเป็นคนเจียมตัว

แต่เมื่ออยู่กับ Lone Arrow มันกลับต่างไปจากเดิม เขาพูดได้อย่างชัดเจน เขาไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอหรือคาดหวังอะไรนอกจากเรื่องร่วมมือกันซึ่งส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่ายอย่างเท่าเทียม

ตอนที่พวกเขาลงดันเจี้ยนด้วยกัน มันไม่สำคัญว่า Lone Arrow จะเป็นใคร เธอจะอายุมากหรืออ้วนหรือไม่ก็ตาม….เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนั้นด้วยหลังจากที่ได้ยินเสียงเธอผ่านโทรศัพท์

เขาไม่ได้คาดหวังอะไรจากความสัมพันธ์ของเขากับเธอ

เขารับโทรศัพท์และคุยกับเธอเหมือนที่เขาคุยกับเพื่อน ทุกอย่างเหมือนกับที่เพื่อนทำกัน…..ยกเว้นแค่เรื่องการพูดถึงเรื่องเดท

เขาส่ายหน้า การลงดันเจี้ยนกับเธออีกไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขา…มันยิ่งดีเข้าไปใหญ่แต่อย่างน้อยก็ต้องระวังตัวบ้าง

เพราะเขาเข้าใจนิดๆว่าการคุยกับผู้หญิงนั้นไม่ได้หมายความว่าเขาจะโง่พอที่จะเชื่อใจใครไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ

ดังนั้นเขาจึงไม่ให้ตำแหน่งในเกมของเขากับเธอไปจนกว่าที่พวกเขาจะพบกันอีกครั้ง

เดฟลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปที่ห้องน้ำเล็กๆก่อนจะรีบอาบน้ำ จากนั้นเขาก็ได้ไปทำอาหารเช้าหรืออย่างน้อยก็พอเรียกมันได้ว่าเป็นอาหารเช้า

โทรศัพท์เขาสั่นก่อนจะมีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา มันเป็นอีเมล์ที่บอกว่ามีเงินเข้า 250 ดอลลาร์

” โอ้ ดีแหะ “

” แต่ฉันต้องการเงินเพิ่มอีกเยอะ ของที่ได้จากมอนสเตอร์นั้นคงทำเงินได้ไม่มาก บางทีถ้าฉันขายของที่ได้ซื้อจากร้านคะแนนที่ไม่มีขายที่อื่นแล้วฉันคงทำเงินได้เยอะโดยเฉพาะถ้าฉันเข้าไปประมูลมันได้ด้วย “

เดฟออกจากบ้านแล้วออกไปเดินเล่นเพื่อให้สมองปลอดโปร่ง เดฟรู้ว่าชีวิตเขาว่างเปล่าแค่ไหนหากไม่ได้ทำงานหรือเล่นเกม

เขาคิดหลายอย่าง รวมไปถึงชายสองคนที่เขาเจอที่โรงพยาบาลด้วย

ถ้าเขาไม่ได้ช่วยผู้หญิงในรถคนนั้น…..

แต่อาจนี้ได้ทำให้เขาได้มาเล่นเกมที่เปลี่ยนชีวิตของเขาให้ดีขึ้น แม้ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะไม่ได้ดีที่สุดแต่อนาคตของเขาก็ยังเป็นเรื่องไม่แน่นอน

เดฟโบกมือเมื่อเห็นคลีเมนไทด์กำลังเปิดร้านของเธอ

” สวัสดีตอนเช้า เดฟนายน่าจะแต่งตัวให้ดูหนุ่มกว่านี้หน่อยนะ ผู้หญิงน่ะชอบผู้ชายมีสไตล์แต่อย่ามากเกินไปล่ะ เราคงไม่อยากให้พวกเธอคิดว่านายเป็นเพื่อนสาวหรอกนะ ฮี่ฮี่ ” – เธอแหย่พร้อมกับเปิดร้านไปด้วย

เดฟใส่กางเกงยีนส์ตัวเดิมทุกวัน ส่วนเสื้อที่เขามีไม่กี่ตัวก็ใส่สลับกันไปเรื่อยๆ

เดฟยิ้มให้กับเธอ

” พ่อหนุ่ม นายน่าจะเริ่มหางานได้แล้ว ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาเริ่มรับคนทำงานที่….”

เขารีบขัดเธอขึ้นมา -” อ่ะ คุณคลีเมนไทด์ ผมหางานได้ในอินเตอร์เน็ตแล้ว ” – หวังว่าเธอจะหยุดพูดเรื่องนี้ได้

เธอเป็นคนดี แต่เธอน่ะดีเกินไปในบางครั้งและสนิทกับเขามากๆด้วยซึ่งมันทำให้เดฟกังวล

สำหรับเขาแล้ว การอยู่อย่างสันโดษถ้าไม่ใช่เรื่องต่อต้านสังคม การพูดคุยกับคนอื่นเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดยกเว้นแค่กับราฟเพื่อนตอนเด็กของเขา

” ดี ขยันเข้าล่ะ ! และเปลี่ยนชุดซะบ้าง หาชุดดีๆใส่ก่อนจะเริ่มงานด้วย ” – เธอพูขึ้นแล้วชี้เสื้อผ้าเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า

” ได้ครับ ได้ ” – เขาพูดขึ้นพร้อมกับเกาหัวซึ่งเป็นนิสัยติดตัวที่เขาทำตอนรู้สึกอึดอัด

” งั้นวันนี้มีอะไรขายบ้าง ? ” – เขาถามพร้อมกับเดินดูของในร้าน เขากำลังหาเดินหาส้ม ตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินชื่อของตัวเอง

” เฮ้ ! เดฟ ? ” – มันเป็นเสียงของผู้หญิง

ใจของเดฟหล่นวูบ หน้าของเขานิ่งไป เขาหันกลับมาและเห็นหน้าเธอที่มองมาที่เขาด้วยสีหน้าดีใจพร้อมกับจับมือกับชายอีกคนอยู่

เธอดูสวยผมดำยาวและสายตาที่ดูอบอุ่น เธอใส่กระโปรงสั้นกับเสื้อคลุมและรองเท้าส้นสูงพร้อมกับถือกระเป๋าที่ดูแพง

ชายที่เธออยู่ด้วยอายุประมาณ 30 ปีทั้งสูงและหุ่นดี เขาใส่ชุดสูทที่ทำให้เขาดูเหมือน CEO หรือไม่ก็นักลงทุน

” แอนนา ” – เดฟพึมพำออกมา

” เกิดอะไรขึ้นกับนาย ? ” – เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่น่ารังเกียจนิดๆและมองไปที่ขากับแขนของเขา

คลีเมนไทด์ กำลังจะพูดบางอย่างแต่เดฟก็ส่ายหน้าให้กับเธอและหันกลับเตรียมที่จะเดินออกจากร้าน

” เฮ้ ! เดี๋ยวก่อน ทำไมนายต้องเดินหนีไปด้วย ? ” -เธอพูดขึ้นพร้อมกับเดินตามเดฟมา ก่อนจะจับไปที่ไหล่ของเขา

” เธอต้องการอะไร ? ” – เดฟพูดขึ้นพร้อมกับสลัดมือเธอออก

” เฮ้ ! ระวังท่าทีแกด้วย นี่เป็นคู่หมั้นของฉัน อย่าทำตัวหยาบคาย ” – ชายคนนั้นพูดขึ้น

” ฉันไม่อยากคุยกับเธอ แอนนาหรือคู่หมั้นของเธอด้วย ” – เดฟพูดขึ้นมา

” ไม่เอาน่า เดฟมันนานแล้วนะตั้งแต่ที่เราเจอกันครั้งที่แล้ว ทำไมนายถึงทำแบบนี้ ? “

” ฉันเคยบอกเธอแล้ว ฉันไม่อยากคุยกับเธอ “

” ก็ได้ เห็นว่านายรีบ เผื่อว่านายไม่ได้ข่าว จะมีรวมรุ่นในอีก 3 เดือน “

” ฉันได้ข่าวแล้ว ฉันไม่สนใจ ” – เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้จริงๆ

แอนนาถอนหายใจออกมา – ” นายดูเศร้านะ มันก็แค่บังเอิญที่ฉันมาเจอนายที่นี่ นายน่าจะทำตัวเป็นมิตรดูบ้างนะ ” – เธอพูดต่อ – ” แต่ดูเหมือนว่านายจะไม่เปลี่ยนไปเลย “

ในตอนที่เธอหันกลับเพื่อจะเดินกลับไป เธอก็พูดทิ้งท้ายเอาไว้ – ” นายจะทำตามสัญญาได้ยังไง ? “

ชายในชุดสูทมองเยาะเย้ยมาที่เดฟ ก่อนจะเดินตามเธอไป

เดฟได้ยินคำว่า ‘ สัญญา ‘ ที่เขาเคยพูดกับเธอไว้ตอนเด็ก มันทำให้เขาปวดหัวขึ้นมาและตัดสินใจที่จะกลับห้อง เขาส่ายหน้าพร้อมกับพยายามจะกลับไปที่ห้อง เขาแค่ออกมาสูดอากาศแท้ๆ….