สมาชิก ก๊กวิญญาณมังกร หนาวเข้าเส้นเลือดเพราะกลิ่นอายอันแหลมคมของ ไฮ่เฉินเฟิง พวกเขารู้สึกราวกับยืนโป๊เปลือยอยู่ท่ามกลางภูเขาน้ำแข็ง ช่วงกลางของฤดูหนาว และถูกห้อมล้อมด้วยความเย็นยะเยือก … ราวกับมีดน้ำแข็งแทรกทะลวงลงไปยังดวงวิญญาณ …

 

ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่ผู้ที่มีจิตอันแข็งแกร่งก็มิอาจต้านทานความหวาดกลัวของผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้

 

ใบหน้าของหลงต้าเห่ยซีดเผือกขณะเผชิญหน้ากับ ไฮ่เฉินเฟิง ราวกับเผชิญหน้ากับหุบผาอันน่าเกรงขาม ในขณะที่เขาเป็นเพียงหินก้อนเล็ก  ซึ่งไม่คู่ควรที่จะมองออกไป  เขาก้าวถอยห้าหกก้าว เพื่อจะได้หายใจได้สะดวกขึ้น แต่ไม่เป็นเช่นนั้น หลังของเขาปะทะกำแพงดัง ปั้ง ! เพียงเท่านั้นเขาตระหนักได้ว่าเขาถอยหลังจากกลางโถงไปจนสุดกำแพงด้านในสุดแล้ว …

 

ความกดดันแบบใหนกัน ? !

 

” ท่านคือผู้ใด ?  เหตุใดผู้ที่มีฝีมือสูงส่งเช่นท่านจึงร่วมมือกับ ก๊กจินหยางมาต่อต้าน กกวิญญาณมังกร ?  มีสิ่งใดที่ท่านจำเป็นต้องแทรกแซง ? “

หลงต้าเห่ย รวบรวมความกล้าและถามด้วยท่าทีดุดัน

” ผู้นำ ก๊กจินหยาง อยู่ที่ใด ?  จิ้นเฟิงเล่ย ไปหลบอยู่ที่ใดกัน ?  เนื่องจากเขาต้องการจะควบรวมก๊กของข้า เหตุใดเขาจึงต้องหลบซ่อน แสดงตัวเจ้าออกมา ! “

 

แม้นว่าเสียงก้อนกังวาลของเขาจะน่าเกรงขาม และเจตนาจะทำให้ตัวเขายิ่งใหญ่ขึ้น แต่กระนั้น ความสั่นเทาที่ปะปนมาเล็กน้อย ทำให้ดูเหมือนว่าเขากำลังร้องขอชายที่อยู่ตรงหน้า

 

” ผู้นำ ก๊กจินหยาง กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเจ้า !  ข้าไปหลบซ่อนเมื่อไหร่กัน ? “

ไฮ่เฉินเฟิง เพ่งมองข้ามโถงตรงไปยังใบหน้าของ หลงต้าเห่ย ด้วยสายตาที่แอบซ่อนจิตอาฆาตรเอาไว้

 

ทันใดนั้น หลงต้าเห่ยตระหนักได้ว่าหัวใจของเขากำลังสั่นเทา

 

เพียงแค่มองไปยังในตาของ ไฮ่เฉินเฟิง ก็ทำให้ผู้แข็งแกร่งระดับ ปฐพีเชวียน เช่น หลงต้าเห่ยเจ็บปวด !  แม้นว่าจะอยู่ห่างกันนับสิบหลา ความรู้สึกราวกับจวนเจียนตายก็ชัดเจนในหัวของเขา

 

แม้นว่าจะมียอดฝีมือของ ก๊กวิญญาณมังกร หลายคนอยู่ใกล้ๆ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าในพื้นที่อันกว้างใหญ่นั้น มิมีผู้ใดสามารถทำให้เขารู้สึกปลอดภัยได้เลย เขาต้องเผชิญกับยอดฝีมือที่ป่าเถือนและน่ากลัวด้วยตัวเอง !

 

ความรู้สึกหม่นหมองอันหาที่เปรียบไม่ได้ปะทุขึ้นในหัวใจของ หลงต้าเห่ย เขารู้สึกว่าหัวเข่าของเขาอ่อนกำลังด้วยความเจ็บปวด ขณะเหงื่อเริ่มเปียกชุ่ม  รู้สึกต้องการคุกเข่าและยิมรับในทันที …​

 

ไฮ่เฉินเฟิง ผู้ที่มองไปยัง ฝ่ายตรงข้ามราวกับ อินทรีย์ ทันใดนั้นเขาสบัดแขนและทำให้ผ้าคลุมสีครามของเขาหมุนวน  ด้วยสัญญาณนั้น เสียงดังราวกีบเท้าม้านับพันที่เร่งฝีเท้าพุ่งเข้ามาดังให้ได้ยินจากที่ห่างไกล !

 

” สังหาร ! “

 

เสียงกึกก้องดังขึ้นและทันใดนนั้นมีชายถือกระบี่นับร้อยพุ่งมาตรงหน้าของพวกเขา ในขณะที่พลธนูพร้อมขึ้นศรปรากฏตัวขึ้นบนกำแพง ล้อมร้อบ ก๊กวิญญาณมังกร  ด้วยเกาทัณฑ์ที่เป็นดั่งฟันของเทพแห่งความตายที่ส่องประกายขึ้นในโถงนี้

 

ไฮ่เฉินเฟิง สังหารหน่วนสอดแนมที่ปกป้องสถานที่นี้ไปหมดแล้ว โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้

 

” ยอมจำนน หรือตาย หากเจ้าไม่ยินยอม พวกเราจะสังหารให้สิ้น  ข้าจะนับเพียงสาม และ หาก หลงต้าเห่ย ไม่ตอบสนองสิ่งใด พวกเจ้าทั้งหมดจักต้องตายโดยไม่สำคัญว่าตัวพวกเจ้าจะรู้สึกเช่นไรกับเรื่องนี้ ! “

ดวงตาของ ไฮ่เฉินเฟิงเยือกเย็นขณะพูดสิ่งนี้ และยกมือขวาขึ้นขณะที่มีแสงสีฟ้าเปล่งประกายขึ้นที่ฐานนิ้วที่ยกขึ้น

 

” หนึ่ง ! “

 

ทุกคนใน ก๊กวิญญาณมังกร เคลื่อนที่อย่างวิตก แม้นว่า พวกเขาจะมองไปยัง หลงต้าเห่ยอ้อนวรให้ช่วยเหลือ  ” นายท่าน …​” น้ำเสียงของพวกเขาดังราวกับการอ้อนวร

 

” สอง ! “

 

สีหน้าอันเยือกเย็นของ ไฮ่เฉินเฟิง ไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อยในเวลาที่เขาทำงานสกปรกนี้พร้อมกับนับเลยถัดไปพร้อมกับยกนิ้วที่สองขึ้น  ราวกับการปรับแต่งเสียงดนตรี

 

” .. “

ใบหน้าของ หลงต้าเห่ย ซีดราวคนตาย ขณะเขาอ้าปากอันสั่นเทาขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความโศกและสิ้นหวัง

 

” พลธนู เตรียมตัว ! “

ไฮ่เฉินเฟิง มองออกไปด้วยโทสะ ยกมือขึ้นขณะออกคำสั่งด้วยนำ้เสียงถาโถมดั่งซึนามิ

 

” อ๊าร์กก ! “

พลธนูตอบกลับพร้อมกันขณะดึงเกาทัณฑ์บนคันศร จนโก่งดังพระจันทร์เต็มดวง ในตอนที่ ไฮ่เฉินเฟิง นับสาม เกาทัณฑ์ ของพวกเขาจะตกลงยังเป้าหมายดั่งห่าฝน !

 

ราวกับ ยมทูต ถูกส่งจาสรวงสวรรค์ลงมานำพาพวกเขาไปสู่ความตาย !

 

ตอนนี้ การต่อต้านจะนำพาพวกเขาไปสู่ความตาย และมีเพียงทางเดียวที่จะรอดนั้นคือ …

 

” ช้าก่อน ! “

หลงต้าเห่ยคำรามขึ้นทันใด แม้นจะมีร่องรอยดั่งการร้องไห้อยู่ในน้ำเสียง

 ” ข้า…ข้า…ข้ายอมจำนน … “

ดูเหมือนว่าเขาจะอับอายกับคำเหล่านี้ขณะเข่าอ่อนคุกลง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อของคนของเขาแสดงถึงความผ่อยคลายในตอนที่ได้ยินคำพูดของเขาพร้อมกับทิ้งอาวุธลงทีละคน ราวกับได้รับการอภัยจากโทษประหาร

 

” ดี ! “

ไฮ่เฉินเฟิง พูดยอมรับ

 ” เนื่องจากเจ้า สวามิภักดิ์  จากนี้ไปพวกเราจะเป็นครอบคัวเดียวกัน และเจ้าจะต้องปฏิบัติตามกฎนั้น !  ตอนนี้เจ้าดูแลการดำเนินงานของ ก๊กวิญญาณมังกร  “​

 

” ขอรับ และจะปฏิบัติตตามคำสั่งของนายท่านด้วยความจริงใจ ! “

เงาร่างสูงและกำยำแสดงตัวออกมาจากเงามืดด้วยก้าวยาว เขามีคิ้วหนา หนวดราวกับของมังกร จมูกอันใหญ่โต และ ปากที่กว้างราวกับสิงโต

 

ชายผู้นี้มิใช่ใครอื่นนอกจาก จิ้นเฟิงเล่ย

 

” จิ้นเฟิงเล่ย เจ้า … “

หลงต้าเห่ยชี้ไปที่เขาด้วยความเหลือเชื่อ และไร้ซึ่งวาจาจะเอ่ย

 

” ฮ่า ฮ่า !  การที่ข้าสละตำแหน่งมันน่าตกใจเช่นนั้นเลยหรือ ? “

จิ้นเฟิงเล่ย หัวเราะด้วยท่าทีไร้กังวล

 

หากพูดตามจริง จิ้นเฟิงเล่ย มิได้สนใจถึงความจริงที่ว่า ไฮ่เฉินเฟิง ได้รับตำแหน่ง ผู้นำ ก๊กแทนเขา ตำแหน่งนั้น ไม่สำคัญเกินกว่า ความสัมพันธ์ระหว่าเขากับ ไฮ่เฉินเฟิง อีกทั้งเขาคิดว่า ก๊กจินหยาง จะไม่ประสบกับความเสี่ยงด้วยการนำของ ไฮ่เฉินเฟิง มีเพียงผลประโยชน์เท่านั้น !

 

” เป็นปราณเชวียน และอำนาจที่น่าประทับใจ !  การเอาชนะทั้ง ก๊ก เพียงไม่กี่วาจา เป็นยอดฝีมือเชวียนที่น่ายกย่องยิ่ง เจ้านั้นไม่ธรรมดา นายท่าน !”

เสียงอันโดดเดี่ยวดูเหมือนจะดังขึ้นชั่วครู่ มันแปลกประหลาด และห่างไกล

 

” ใครกัน ? “

ไฮ่เฉินเฟิงถาม เขาเพ่งมองไปทั่วโถง ร่างของเขา ปกคลุมไปด้วยแสงสีฟ้า และเหาะขึ้นสู่หลังคาอย่างรวดเร็ว

 

” เป็นข้าเอง ! “

ชายผู้หนึ่งพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มเหน็บแนมขณะที่ พลธนู หลายคนกรีดร้อง ขณะร่วงลงไป พร้อมกับมีชายชุดดำสองคนแทนที่พวกเขาบนกำแพง เพ่งมองไปยัง ไฮ่เฉินเฟิง อย่างดุร้าย

 ” เมืองหลวงนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่า เพียงก๊กเดียวจะกลืนกินเป็นของตัวเอง แม้นว่าเจ้าจะพยายามเท่าไหร่ เจ้าก็จะสำรอกทุกสิ่งออกมา ! “

 

กลิ่นอายของ ไฮ่เฉินเฟิง รุนแรงขึ้น ปลดปล่อยลำแสงสีครามสว่างไกล

 ” ดีที่เจ้าได้ยินว่าตัวเจ้าเองโดดเด่น แต่ความจริงนั้น ผู้ที่อ่อนแอจักโดนผู้แข็งแกร่งกำจัด มันเป็นธรรมชาติของ เกมส์ ! “

 

ทันใดนั้น ร่างที่อาบไปด้วยแสงสีครามของเขาพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า และพุ่งตรงไปยังชายสองคนนั้น ไปถึงพวกเขาและโจมตีในชั่วพริบตา ซึ่งพวกเขามิอาจหลีกเลี่ยง

 

ชายชุดดำทั้งสองหัวเราะเย้ยหยัน

” ยอดฝีมือสวรรค์เชวียนนั้นยากที่จะรับมือใช่หรือ ? “

ในการตอบโตการโจมตีนั้น ชายทั้งสอง ก็มีแสงสีฟ้าปกคลุมทั้งร่าง พวกเขาพุ่งออกไปพร้อมกัน ขณะปะทะกับฝ่ายตรงข้าม ทำให้เกิดประกายดอกไม้ไฟขึ้น

 

ทั้งสามผงะถอยเล็กน้อย พวกเขาหยุดอยู่กลางอากาศในเวลาเดียวกัน จากนั้น แปรขบวนพุ่งเข้าหาเพื่อจู่โจมกันอีกครั้ง

 

ใบหน้าของ ไฮ่เฉินเฟิง เผยรอยยิ้มอันสุขุมขณะฝ่ามือของเขาโจมตีคู่ต่องสู้อย่างต่อเนื่อง ปราณเชวียนสีครามเข้มของเขาปรากฏขึ้นราวกับพระจันทร์เซี่ยว

 

การโจมนั้นคล้ายดั่งขวานยักษ์ที่สามารถตัดฝ่าหุบผาได้ แม้การโจมตีที่รุนแรงเช่นนั้นทำให้พวกเขาต้องดิ้นรน แต่มันยังไม่มากพอจะทำให้พวกเขาล่าถอยแต่น้อย !

 

ทันใดนั้นเอง พวกเขาหนึ่งคนถอยห่างออกไปขณะที่เปล่งเสียงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่อีกคนนั้นโจมตีเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง  ในขณะนั้น ชายผู้ที่ล่าถอยไปนั้นได้มายืนอยู่บนกำแพง และร่างปกคลุมด้วยปราณเชีวยนสีคราม  ไม่นาน ฝ่ามือ และทั่วทั้งร่างของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำ และชี้นิ้วหนึ่งไปยัง ไฮ่เฉินเฟิง ผู้ที่ยังคงอยู่กลางสมรภูมิ

 

ไฮ่เฉินเฟิง มั่นใจถึงชัยชนะ แม้นว่าจะต้องเผชิญกับพวกเขาด้วยตัวคนเดียว ดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่าเขาจะทำได้ดีกว่าเมื่อต้องเผชิญกับเพียงหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การต่อสู้อันรวดเร็วของ คู่ต่อสู้สวรรค์เชวียนนั้นก็มิอาจะเป็นไปได้สำหรับเขาตราบใดที่ความปลอดภัยของเขาต้องมาก่อน  ดังนั้น การต่อสู้นี้จึงยังคงดำเนินต่อไปอีกระยะ เนื่องจากเขาไม่ต้องการทำให้ตัวเองต้องบาดเจ็บ

 

สำหรับไฮเฉินเฟิงนั้น มีความได้เปรียบกว่าฝ่ายตรงข้าม และสามารถเอาชนะพวกเขาเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ  ในขณะนั้นเอง อากาศอันหนาวเย็นได้ปกคลุมบรรยากาศโดยรอบ อาบฉโลมพื้นที่นั้นด้วยความแสบร้อน หลังจากที่ทุกคนสูดมันเข้าไป ทำให้พวกเขาต้องสั่นด้วยความหวาดกลัว  ขณะที่ล่าถอยเล็กน้อย หลังจากยิ้มอย่างโหดร้าย ไฮ่เฉินเฟิง ถามด้วยท่าทีดุร้าย

” นั่นคือ องคุลีเลือดเย็นไร้ปราณีจากสำนักปรมาจารย์ ลี่วูเบ้ยใช่หรือไม่ ? “

 

” ฮ่า ฮ่า พวกเราช่างโชคดีเช่นไร ที่คนเย่อหยิ่งเช่นเจ้ารู้จัก องคุลีเลือดเย็นไร้ปราณี “

ชายชุดดำยิ้ม

 ” และในเมื่อเจ้ารู้จักมันแล้ว เหตุใดเจ้าจึงยังไม่คุกเขาร้องขอความเมตตาอีก ? “

 

ชายชุดดำเป็นศิษย์ของ หนึ่งใน แปดยอดปรมาจารย์ และพวกเขาเป็นยอดฝีมือสวรรค์เชวียน และด้วยเหตุนี้เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้อ่อนแอ  อีกทั้ง การแสดงว่า อาจารย์ของเขาหนุนหลังในความพยายามนี้เป็นวิธีที่กล้าหาญ ไฮ่เฉินเฟิงไม่ต้องการจะขัดใจ ลี่วูเบ้ย  อย่างไรก็ตาม หากเขาล่าถอยในตอนนี้ เขาจะสูญเสียการควบคุม ก๊กจินหยาง และ ก๊กวิญญาณมังกร  อย่างแน่นอน

 

อีกมุมหนึ่ง ชายชุดดำทั้งสองนั้นเริ่มวางแผนการมาเป็นอย่างดีก่อนจะลงมือเนื่องจากพวกเขานั้นมั่นใจถึงชัยชนะ

 

ช่างน่าเสียดายที่ความปราถนาไม่เป็นจริงในโลกนี้

 

” อย่ามาไร้สาระ ! “

ไฮ่เฉินเฟิงสถบด้วยโทสะเนื่องจากคำพูดอันอวดดีนั้น  เขาเลื่อนมือไปข้างหลังและ ดึงกระบี่ยาวออกมา พร้อมกับเสียงกึกก้อง ขณะที่เขาพุ่งตรงไปยังศัตรูราวกับคลื่นกระแทกอีกครั้ง มันดูเหมือนกันกลิ่นอายสีครามของเขาปะปนเข้ากับละอองสีเงินดั่งหิมะของกระบี่ขณะที่เขาโจมตี

 

” กระบี่พายุหิมะสีคราม !  ดังนั้น เจ้าก็คือ ศิษย์ของ ปรมาจารย์สีคราม ! “

ชายชุดดำหัวเราะ

” ดีมาก ตอนนี้เรามาดูกันว่า สำนัก ของผู้ใดจะเป็นเลิศและอ่อนด้อยกว่ากัน “

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไฮ่เฉินเฟิง มีโทสะมากยิ่งขึ้น !

 

เขามั่นใจในการเอาชนะชายสองคนนี้ และเดิมทีเขาวางแผนจะปล่อยพวกเขาให้นอนกองอยู่บนพื้น อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้ใช้การเคลื่อนไหวที่น่ากลัว และไม่ต้องการให้พวกเขาโจมตีอย่างประมาท และเสี่ยงชีวิตตัวเองเนื่องจาก พวกเขานั้นเป็นศิษย์พี่น้องกัน  ดังนั้น เขาจึงกวาดกระบี่เพื่อจะกำราบพวกเขา แต่มันยังไม่เป็นไปตามคาดหวัง ฝ่ายตรงข้ามยังคงโอ้อวดเช่นเดิม

 

เขาไม่รู้ว่า ลี่เจียนฮ้ง สัญญากับ ลี่โย่วหลานในการ รวบรวม ขบวนการใต้ดินของเมืองหลวง และพวกเขาทัั้งสองนั้นเป็นศิษย์พี่น้องกัน  พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวในคืนนี้ แต่กลายเป็นว่าพวกเขานั้นเดินตามหลังอยู่  อย่างไรก็ตาม พวกเขามิอาจถอยได้อีกแล้ว แม้ว่าสุดท้ายพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับ ไฮ่เฉินเฟิง

 

หากพวกเขาไม่สามารถเข้าควบคุมก๊กนี้ได้ก็ไม่อาจไปเผชิญหน้ากับพี่ใหญ่ และแม้แต่นายน้อยของพวกเขาได้อีก  แม้นจะรู้สึกความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้ที่เกี่ยวข้อง พวกเขาก็มิอาจยอมแพ้ได้