บทที่ 324 ความลับของเมืองหยูหลัน
อู่จิ๋ว ซึ่งนำหลิงตู้ฉิงเข้ามาก็ตกตะลึงเมื่อเห็นภาพเช่นนี้จนเขาพูดอะไรไม่ออก
เขาจะไปจินตนาการออกได้อย่างไรว่าชายที่เขาพาเข้ามาจะสามารถทำให้เจ้านายของเขาคุกเข่าลงคำนับให้เขาได้
เขามั่นใจเป็นอย่างมากว่าเจ้านายของเขาคือตัวตนที่ไม่มีใครเทียบได้แน่นอนในอาณาเขตนภาทั้งหมด
หากจะพูดถึงเก๋อชิงโห เจ้าสำนักวิญญาณเร้นลับ เมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้านายของเขานั้น นางไม่มีค่าพอที่จะเป็นคนขัดรองเท้าให้เจ้านายของเขาด้วยซ้ำ!
“ลุกขึ้น!” หลิงตู้ฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ข้ามาที่นี่เพราะว่ามีเรื่องจะถามเจ้าและข้ายังต้องการให้เจ้านำสิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ 2 สิทธิ์ออกไปประมูลให้กับข้า”
ลั่วหยุนยืนขึ้นและพยักหน้า “ไม่ว่านายท่านจะอยากรู้อะไร โปรดท่านถามมาได้เลย!”
เมื่อพูดจบ ลั่วหยุนรีบเชิญให้หลิงตู้ฉิงมานั่งด้านในศาลา และในเวลาเดียวกันเขาก็โบกมือส่งสัญญาณให้อู่จิ๋ว และพูดว่า “จงรีบไปลงทะเบียนประมูลสิทธิ์เข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ 2 สิทธิ์ทันที! กำหนดเวลาในการประมูลไว้ 2 เดือนก่อนที่กล้วยไม้หยกจะเบ่งบาน!”
อู่จิ๋วพยักหน้าและรีบเดินออกไปทำตามที่เจ้านายเขาสั่งทันที
หลังจากที่อู่จิ๋วจากไป ลั่วหยุนก็หันกลับมาและมองไปที่หลิงตู้ฉิงและถามว่า “นายท่านไปได้รับการถ่ายทอดมุทราของปรมาจารย์แห่งตำหนักเทพโชคลาภของเรามาจากไหน? แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าท่านได้มาจากไหน แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านจะเป็นเจ้านายของตำหนักเทพโชคลาภของเรา”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ทำไม?”
ลั่วหยุนพูดว่า “เพราะท่านไม่มีกลิ่นเงิน! ใครก็ตามที่เป็นคนของตำหนักเทพโชคลาภต่างก็ต้องมีกลิ่น ‘เงิน’ ที่รุนแรงมากบนร่างกายของพวกเขา!”
“นั่นก็จริง!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “คราวนี้ข้ามีสองเรื่องที่สำคัญมากที่จะคุยกับเจ้าเกี่ยวกับหอการค้าเชื่อมสวรรค์ของเจ้า เรื่องแรก ข้าได้พบผู้ที่เหมาะสมจะเป็นผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งเทพแห่งโชคลาภ
ประการที่สอง ข้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเมืองหยูหลันและทำไมทั่วทั้งเมืองถึงได้มีกลิ่นอายของปีศาจตลบอบอวลอยู่แบบนั้น แน่นอนว่าถ้าเจ้าเต็มใจ เจ้าสามารถบอกข้าได้ว่าทำไม ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งก้าวจักรพรรดิ อย่างเจ้าถึงเหลือเพียงแค่วิญญาณของเจ้าที่อยู่ตรงหน้าข้า”
ลั่วหยุนขมวดคิ้วและจ้องไปที่หลิงตู้ฉิง
คนที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานทะเลปราณ เขามองไม่ผิดแน่ ๆ
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานทะเลปราณตัวกระจ้อยเช่นนี้ กลับสามารถบอกระดับการบ่มเพาะที่แท้จริงของเขาได้อย่างแม่นยำ?
“บอกชื่อของท่านมาหน่อยได้ไหม?” ลั่วหยุนถาม
“ข้าคือหลิงตู้ฉิง!” หลิงตู้ฉิงตอบ
“ท่านไม่ใช่ตัวของท่านเองตอนนี้หรอก!” ลั่วหยุนส่ายหัวด้วยความมั่นใจ
“คำถามนี้ไม่สำคัญ การพูดคุยปัญหาของเราสำคัญกว่า” หลิงตู้ฉิงยิ้ม
ลั่วหยุนพยักหน้าและคิดสักพักก่อนที่จะพูดว่า “ถ้าเช่นนั้นใครคือผู้ที่เหมาะสมจะเป็นผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งเทพแห่งโชคลาภ และคนผู้นั้นเขาอยู่ที่ไหน?”
“เขาอยู่ในทะเลชางหมาง เขาชื่อมี่ตั้วตั้ว!” หลิงตู้ฉิงตอบ
“มี่ตั้วตั้ว!” ดวงตาของลั่วหยุนสว่างขึ้นทันที “เป็นชื่อที่เหมาะจะมี ‘เงิน’ มากจริง ๆ มันคุ้มที่จะส่งคนไปดูสักหน่อย อย่างไรก็ตามหากท่านบอกว่าเขาสามารถเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งเทพเจ้าแห่งโชคลาภได้นั้น ข้าคิดว่าเขาคงยังไม่มีคุณสมบัติถึงขนาดนั้น!”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “ผิดแล้ว เขามีสมบัติวิเศษแห่งโชคชะตาหลอมรวมอยู่ในร่างของเขาและชื่อของมันคือเจดีย์เชื่อมเก้าสวรรค์แ ละมันสามารถใช้เชื่อมต่อกับเผ่าอสูรทมิฬได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วหยุนรู้สึกตื่นเต้นทันที เขาพูดอย่างมีความสุขว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เยี่ยมเลย แต่น่าเสียดายจริง ๆ ที่ข้าไม่สามารถเข้าไปรับเขาได้ด้วยตัวเอง เอาล่ะท่านไม่ต้องห่วง ข้าจะรีบส่งคนไปพาเขาออกจากทะเลชางหมางเพื่อมาพบข้าที่ข้างนอกนี่แน่นอน!”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “คำถามที่สองคือ ทำไมพลังปีศาจจึงปรากฏในเมืองหยูหลัน และร่างกายของเจ้าไปไหน ทำไมเจ้าถึงเหลือแต่ดวงวิญญาณแบบนี้!”
ลั่วหยุนจ้องไปที่หลิงตู้ฉิงและพูดว่า “แม้ว่าท่านจะมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา แต่ข้าไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่ท่านสามารถแก้ไขได้”
หลิงตู้ฉิงหน้ามุ่ย “เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าไม่มีความสามารถในการแก้ปัญหานี้?”
ทันใดนั้นแสงแห่งธรรมก็ปรากฏขึ้นด้านหลังศีรษะของหลิงตู้ฉิง ซึ่งทำให้เขาดูคล้ายนักบวชนิกายพระพุทธศาสนา
ลั่วหยุนมองไปที่แสงธรรมที่อยู่ด้านหลังศีรษะของหลิงตู้ฉิงอยู่พักใหญ่ จากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า “คำถามสองข้อที่ท่านถามนั้น จริง ๆ แล้วมันคือเรื่องเดียวกัน”
“เหตุผลที่พลังปีศาจปรากฏในเมืองหยูหลันก็เพราะมีวิญญาณปีศาจถูกผนึกอยู่ที่นี่ ส่วนสาเหตุที่ข้าเหลือเพียงวิญญาณนั่นก็เป็นเพราะข้าใช้ร่างกายของข้าปิดผนึกวิญญาณปีศาจเอาไว้”
“แต่เมื่อมันถูกข้าใช้ร่างกายปิดผนึกและเมื่อมันไม่สามารถหนีไปไหนได้ มันจึงเปลี่ยนวิธีการจากการพยายามหนีเป็นการก่อกวนแทน ซึ่งวิธีการของมันก็คือมันทำการสร้าง เมล็ดพันธุ์ปีศาจขึ้นมา เพื่อก่อปัญหาต่าง ๆ ขึ้นในเมืองและบริเวณรอบ ๆ”
“ทุกครั้งที่เมล็ดพันธุ์ปีศาจปรากฏขึ้น ข้าก็ต้องลำบากลำบนคิดหาวิธีฆ่าพวกมัน อย่างไรก็ตามมันก็มีบางทีที่ข้าก็พลาดปล่อยให้พวกมันรอดไปได้ และเมื่อพวกเมล็ดที่เหลือรอดมันได้ตกไปอยู่ในมือของผู้บ่มเพาะ และด้วยความโง่งมของคนเหล่านั้นที่กลืนกินมันเข้าไป ซึ่งผลของเมล็ดพันธุ์ปีศาจนั่นทำให้ระดับการบ่มเพาะของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในทันที มันจึงกลายเป็นการทำให้เกิดตำนานลวงโลก กล้วยไม้หยก ขึ้นมา”
“แล้วทำไมเจ้าไม่ปล่อยให้มันกลับไปที่ เขตแดนอุดรทมิฬ แทนที่จะมากักตัวมันไว้ที่นี่กัน?” หลิงตู้ฉิงถามอย่างสงสัย
ลั่วหยุนพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ “แม้ว่ามันจะเป็น วิญญาณปีศาจ แต่มันไม่ใช่ วิญญาณปีศาจ จาก เขตแดนอุดรทมิฬ มันเป็นวิญญาณที่เกิดจากแดนกระดูกขาว ซึ่งทำให้มันกลายเป็นวิญญาณปีศาจที่มีจิตสังหารอันเข้มข้นและที่สำคัญวิญญาณดวงนี้มันพรากชีวิตคนรักของข้าไปต่อหน้าต่อตาของข้า แถมข้ายังไม่สามารถฆ่ามันได้อีกต่างหาก!”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ
“เอาล่ะ ในเมื่อท่านรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว ตอนนี้ท่านจะว่ายังไงต่อ?” ลั่วหยุนถาม
“วิญญาณปีศาจที่เจ้าฆ่าไม่ได้มันคงจะเป็นวิญญาณปีศาจระดับจักรพรรดิด้วย!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “เรื่องแบบนี้แก้ไม่ได้ง่าย ๆ แต่ข้าคิดว่าข้ามีวิธีช่วยเจ้าได้อยู่ แต่มันก็มีราคาที่เจ้าต้องจ่าย!”
“ราคาเท่าไหร่?” ลั่วหยุนเลิกคิ้ว
หลิงตู้ฉิงคิดสักพักแล้วถามว่า “วิญญาณของเจ้ากลับเข้าร่างของเจ้าได้ไหม?”
ลั่วหยุนหัวเราะ “ร่างนั้นได้ถูกครอบงำโดยวิญญาณปีศาจไปแล้ว ข้าจะกลับไปได้อย่างไร? นอกจากนี้แม้ว่าข้าจะกลับเข้าไปได้ แต่ข้าก็ไม่ต้องการมันอีกแล้ว!”
หลิงตู้ฉิงเกาหัว “ถ้าเจ้าเหลือแต่วิญญาณของเจ้าแบบนี้ ความแข็งแกร่งของเจ้าก็ลดลงไปกว่าครึ่งแล้ว ถ้างั้นเจ้าจงสัญญากับข้าสองเงื่อนไข ข้าถึงจะช่วยกำจัดวิญญาณปีศาจให้”
“เงื่อนไขอะไร!” ลั่วหยุนถามขึ้น
เขาไม่ได้โต้แย้งหลิงตู้ฉิงเกี่ยวกับเรื่องที่ความแข็งแกร่งของเขาลดลง เพราะนั่นคือความจริง
“เงื่อนไขแรกคือเจ้าต้องตกลงปกป้องลูกของข้าเป็นเวลา 300 ปี เงื่อนไขที่สองคือข้าจะเลือกของวิเศษ 10 รายการจากเจ้า” หลิงตู้ฉิงพูด
ลั่วหยุนพูดอย่างแผ่วเบา “ถ้าท่านสามารถแก้ปัญหานี้ให้ข้าได้จริง ๆ การให้ข้าต้องไปปกป้องลูกของท่าน 300 ปี ข้าก็ไม่มีปัญหา! เพราะยังไงซะมันก็ดีกว่าที่ข้าต้องมาผนึกไอ้ปีศาจนี่ไปเรื่อย ๆ ซึ่งมันไม่ต่างอะไรจากการถูกคุมขังแม้แต่น้อย สำหรับการเลือกของวิเศษ 10 ชิ้น ข้าก็ไม่มีปัญหา แต่ข้าจะวางใจในความสามารถของท่านได้อย่างไร? เพราะถ้าหากท่านจะพึ่งพาแค่แสงแห่งพลังธรรมที่อ่อนแอในร่างกายของท่าน มันคงไม่เพียงพอที่จะทำลายวิญญาณปีศาจนี้ได้แน่นอน”