ตอนที่ 106 ถูกหลอก 

 

 

 

 

 

เถิงเสวี่ยมอบสร้อยคอประดับศิลาสีน้ำเงินให้นาง แล้วบอกนางเกี่ยวกับการเลื่อนขั้นของหมอผี 

 

 

หมอผีแบ่งออกเป็นสามส่วน คือหมอผีศักดิ์สิทธิ์ หมอผีสมุนไพรและหมอผีดำ หมอผีศักดิ์สิทธิ์กับหมอผีดำเป็นปฏิปักษ์กัน ส่วนหมอผีสมุนไพรรักษาความเป็นกลางและมีจำนวนคนมากที่สุด คนเหล่านี้ส่วนใหญ่นอกจากใช้แมลงพิษแล้วก็ไม่มีวิธีโจมตีหรือป้องกันตัวมากนัก จัดอยู่ในระดับล่างของเหล่าหมอผี 

 

 

เถิงเสวี่ยเป็นผู้นำของหมอผีศักดิ์สิทธิ์ มีพลังทิพย์เหนือคนธรรมดา ได้ยินว่าตอนที่นางเปิดวิญญาณ มังกรพันรอบตัวนางถึงห้ารอบ เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง 

 

 

การพันสามรอบเท่ากับมีคุณสมบัติทั่วไป พันสี่รอบมีคุณสมบัติขั้นสูง พันห้ารอบเป็นพรสวรรค์สูงสุด ยากที่จะพบเจอ ในรอบร้อยปีจะมีสักคน เวลานี้ในเผ่าหมอผีนอกจากเถิงเสวี่ยแล้ว ยังอีกคนที่มีพรสวรรค์เป็นพิเศษ คือศิษย์คนหนึ่งของเถิงเสวี่ยและเป็นศิษย์พี่ของถังเฉียน แต่นางไม่เคยพบ 

 

 

บัดนี้หมอผีขั้นสูงมีเพียงเถิงเสวี่ยผู้เดียว ไม่มีหมอผีที่มีฤทธิ์เดชเหมือนนางอีกแล้ว ถังเฉียนสามารถเป็นศิษย์ของนางได้ก็ไม่รู้ว่าเป็นที่อิจฉาของหมอผีมากมายแค่ไหน ส่วนหมอผีดำใช้รูปแบบที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้มาอธิบาย นั่นก็คือเป็นองค์ประกอบสำคัญของนิกายมังกรเทพ 

 

 

“พลังทิพย์ของเจ้าไม่สูง ดังนั้นวันหน้าเจ้าต้องทุ่มเทให้มาก” 

 

 

เถิงเสวี่ยไม่พอใจที่ถังเฉียนต่อต้านความหวังดีของตน วันนี้จึงมีสีหน้าแข็งกร้าว ถังเฉียนไม่กล้าพูดมาก หลังพิธีเปิดวิญญาณเถิงเสวี่ยก็ผละไป ที่แห่งนี้จึงเหลือเพียงนางและฮว่าเหยียน ฮว่าเหยียนอดพูดแดกดันนางไม่ได้ 

 

 

“ไม่เชื่อแม่ ลำบากแล้วใช่หรือไม่” 

 

 

“อย่าพูดกับข้าด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้คลื่นเ**ยนเช่นนั้น ข้าจะจดจำตลอดไปว่าเจ้าทำให้น้องสาวข้าต้องตาย!” 

 

 

พอฮว่าเหยียนได้ยินเช่นนี้ก็โยนดอกเถิงเวยสีขาวแสนสวยในมือทิ้งไป หันมามองถังเฉียนด้วยสายตาแหลมคม 

 

 

“เด็กที่ชื่อถังอวิ๋นน่ะหรือ เด็กคนนั้นเป็นไข้ป่า ตายไปแล้วไม่เกี่ยวอะไรกับข้า ส่วนคนที่ชื่อถังเวย ข้าพานางไปด้วยความหวังดี แต่ระหว่างทางนางกลับหนีไป พลัดตกหน้าผาก็เป็นเคราะห์กรรมของนาง ข้าไม่ได้ทรยศคำสาบานต่อเทพแมลงปีศาจ แต่กลับเป็นเด็กอย่างเจ้า รู้หรือไม่ว่าอะไรถูกอะไรผิด” 

 

 

ถังเฉียนกำหมัดแน่น หลังจากถอดหน้ากากออกแล้วก็ไม่อาจซ่อนน้ำตาไว้ได้ นางเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองดูฮว่าเหยียน 

 

 

เวลานี้ทั้งถังเวยและถังอวิ๋นไม่อยู่ นางย่อมจะพูดอะไรก็ได้ แต่ถังเฉียนไม่ไว้ใจฮว่าเหยียนอีกแล้ว 

 

 

“เด็กดี วันหน้าเจ้าต้องติดตามหมอผีศักดิ์สิทธิ์ดีๆ เราแม่ลูกต้องพึ่งพากัน เจ้าไม่รู้หรอกว่าเผ่าหมอผีเป็นสถานที่ที่กินคนแล้วไม่คายกระดูกออกมา ตอนนี้เจ้าทะเลาะกับข้า วันหน้าถ้าเจ้าเห็นหมอผีอื่นๆ เจ้าก็จะรู้เองว่าพวกนั้นไม่ได้จริงใจต่อเจ้าเช่นข้าหรอก” 

 

 

ถังเฉียนถึงกับตัวสั่นเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ 

 

 

“อย่างน้อยอาจารย์ก็ไม่ชั่วร้ายอย่างเจ้า” 

 

 

ฮว่าเหยียนส่ายหน้า แล้วพูดว่า 

 

 

“จะอย่างไรก็ยังเป็นเด็ก เจ้าไปหาอาจารย์เจ้าเดี๋ยวนี้เลย ดูว่าที่นางรับเจ้าเป็นศิษย์เพราะเจ้ามีเลือดพิเศษใช่หรือไม่ คนที่มีพรสวรรค์อย่างเจ้าในเผ่าหมอผีมีถมไป เจ้าคิดว่าที่เขาเลือกเจ้าเพื่อคนรุ่นหลานคนหนึ่งอย่างนั้นหรือ นางก็แค่จะใช้ประโยชน์จากเจ้าเท่านั้นเอง” 

 

 

ถังเฉียนไม่สามารถโต้แย้งคำพูดเหล่านี้ได้ นอกจากที่ตนเองมีเลือดพิเศษแล้ว ก็ไม่มีความสามารถอื่นใดอีก 

 

 

“ข้าต่างจากนางตรงที่ข้าตรงไปตรงมากว่า ข้าอยากได้เลือดเจ้า ข้าก็บอกกับเจ้าตรงๆ แต่นางเป็นอสรพิษ ใช้ภาพลวงที่สวยงามล่อลวงเจ้า จากนั้นก็ค่อยๆ พันรอบตัวเจ้า รอจนเจ้ารู้สึกหายใจไม่ออก ก็ถึงคราวตายของเจ้าแล้ว” 

 

 

ฮว่าเหยียนขยับเข้าใกล้ถังเฉียน คว้าไหล่ของนางไว้ ถังเฉียนตกใจจนตัวสั่น พอเห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของนาง ก็ผลักนางออกไป หันหลังกลับแล้ววิ่งหนี