ตอนที่ 810

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ในอดีต เฮ่อเหลียนเทียนหยุนคิดที่จะเปิดสวรรค์ แต่การเปิดสวรรค์จำเป็นต้องก่อตั้งจักรวรรดิ นั่นเป็นเพราะทวีปฮงเทียนถูกจำกัด หากไร้ซึ่งพลังแห่งจักรภพ จะไม่มีใครมีพลังมากพอที่จะเปิดสวรรค์

แม้แต่ตัวตนระดับพลังเจ้าก็ไม่สามารถทำได้ พลังของพวกเขาจะถูกสวรรค์และปฐพีปฏิเสธและยับยั้งเอาไว้

แต่ถ้าได้รับการสนับสนุนจากพลังแห่งจักรภพ สถานการณ์จะต่างกันไปเลย เพราะพลังแห่งจักรภพจะไม่ถูกจำกัดและได้รับการยอมรับจากกฎแห่งสวรรค์และปฐพี

แต่การที่จะได้รับการสนับสนุนจากพลังแห่งจักรภพก็เป็นภาระอันยิ่งใหญ่เช่นเดียวกัน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าร่างกายไม่แข็งแกร่งพอ? แม้กระทั่งความแข็งแกร่งของหยาหลงในปีนั้น ยังไม่กล้าที่จะเปิดสวรรค์ นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะแบกรับพลังแห่งจักรภพของผู้คนบนโลก

ในโลกนี้ เฮ่อเหลียนเทียนหยุนได้เปลี่ยนรูปร่างของเขาด้วยเขี้ยวมังกร ถ้าเขากลับไปเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติอีกครั้ง แน่นอนว่าร่างกายของเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้น และบางทีอาจแบกรับพลังแห่งจักรภพของผู้คนบนโลกได้

“ตอนนี้เจ้าเป็นสัตว์ประหลาดยิ่งกว่าข้าซะอีก นี่ทำให้ข้าสามารถผ่อนคลายได้โดยไม่จำต้องแบกรับความรับผิดชอบที่จะเปิดสวรรค์อีกต่อไป” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนพูดพร้อมกับหัวเราะ “สวรรค์และปฐพีล้วนแต่เคลื่อนไหวไปพร้อมกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเจ้ามีโอกาสสูงมากที่จะทำสำเร็จ”

“แล้วท่านจะช่วยเหลือข้าหรือไม่?” หลิงฮันถาม

“แน่นอนอยู่แล้ว” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนกล่าว

หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ตอนนี้ท่านเป็นแค่จอมยุทธระดับหลอมกายา แล้วท่านจะช่วยเหลืออะไรข้าได้?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า กายหยาบของข้าเป็นกายหยาบของมังกรที่แท้จริง และเคยอยู่บนจุดสูงสุดของมนุษย์ในช่วงชีวิตที่แล้ว การจะบ่มเพาะพลังอีกครั้งสำหรับข้าก็เปรียบเสมือนกับการเดินตามรอยเท้าเดิม และไม่มีอุปสรรคคอขวด เพียงแค่ขอเวลาข้าสักสองสามปี และถ้ามีทรัพยากรที่เพียงพอ มันจะเป็นเรื่องยากอันใดที่ข้าจะกลับไปอยู่บนจุดสูงสุดอีกครั้ง? ยิ่งไปกว่านั้น แรงกดดันมังกรของข้าแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อน และทุกคนที่เป็นทายาทมังกรจะต้องโค้งคำนับให้ข้าผู้นี้” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนพูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ

ตัวตนของเขามีประโยชน์มาก ถ้าเฮ่อเหลียนเทียนหยุนสามารถยึดครองมหาสมุทรได้ทั้งหมด และหม่าตั๋วเป๋ายึดครองดินแดนบนพื้นดินได้ เมื่อทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันไม่ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถยึดครองทวีปฮงเทียนได้อย่างสมบูรณ์หรอกหรือ?

หลิงฮันคิดย้อนกลับไปและพูดว่า “ยังไงก็ตาม ดอกวิญญาณอมตะถูกท่านดูดกลืนไปหมดแล้ว แล้วพวกเราจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง?”

“เจ้าโง่ ในเมื่อข้ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง เจ้ายังเป็นต้องใช้มันอยู่อีกรึ?” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนกล่าว

แม้ว่าตอนนี้เขาจะอ่อนแอมากก็ตาม แต่มันก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่เขาเคยเป็นมังกรที่แท้จริง

หลิงฮันลังเลอยู่สักพักและพูดว่า “ข้าจะแนะนำให้ท่านรู้จักใครบางคน”

“อ่า!” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนรู้สึกประหลาดใจมาก เขาไม่เห็นใครแม้แต่คนเดียว แต่เจ้ากลับพูดว่าจะแนะนำให้ข้ารู้จักใครบางคน? แต่ทว่าเขายังคิดไม่ทันจบก็เห็นคนปรากฏตัวออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่า

นี่ทำให้เขารู้สึกตกใจมากและพูดว่า “อุปกรณ์มิติระดับศักดิ์สิทธิ์! มันเป็นอุปกรณ์มิติระดับศักดิ์สิทธิ์จริงๆ! เจ้าเป็นสัตว์เลี้ยงของพวกที่อยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นเรอะ ถึงมีอุปกรณ์มิติระดับศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือ!”

เขากวาดสายตามองและช่วยไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “พวกเจ้าเป็นลูกหลานมังกรของข้าอย่างนั้นรึ ข้าจำกลิ่นอายของพวกเจ้าได้!” เขาชี้นิ้วไปที่เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนและหลิงเจี้ยนเสวี่ยน

เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนมองไปที่หลิงฮันด้วยสีหน้ามึนงงและพูดว่า “เด็กนี่เป็นใคร?”

“ข้าเป็นบรรพบุรุษของตระกูลเจ้า!” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนพูดขณะปลดปล่อยกลิ่นอายที่เก่าแก่ออกมา

แน่นอนว่าเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนไม่เชื่อคำพูดของเด็กที่อยู่ตรงหน้า แต่ทว่าเมื่อเขาปลดปล่อยกลิ่นอายมังกรที่น่าเกรงขามออกมา มันทำให้ร่างกายของนางสั่นเทาและขาอ่อนแล้วทรุดตัวไปด้านหลัง

หลิงฮันเดินเข้ามาพยุงนางเอาไว้

เมื่อเห็นเช่นนั้น หลิงเจี้ยนเสวี่ยนรู้สึกโกรธมาก แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กที่มีอายุครึ่งปี แต่มีความฉลาดมากกว่าคนธรรมดา เขารีบกระโดดออกไปจากอ้อมแขนเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนทันทีและนั่งลงบนพื้นหันไปเผชิญหน้ากับเฮ่อเหลียนเทียนหยุน

“นี่มัน!” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนรู้สึกตกตะลึง “เด็กน้อยนี่มีสายเลือดมังกรที่บริสุทธิ์มาก ถึงขั้นสามารถเทียบได้กับข้าผู้นี้ได้! อ๊าก!”  เขากรีดร้องออกมา เพราะหลิงเจี้ยนเสวี่ยนกระโดดเข้ามาต่อยหน้าเขา และทำให้ร่างของเขากระแทกกับพื้น

แม้ว่าเขาจะเคยเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ และมีกลิ่นอายมังกรที่น่าสะพรึงกลัว แต่ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้อยู่แค่ระดับหลอมกายา แล้วหลิงเจี้ยนเสวี่ยนล่ะ? เขาทะลวงผ่านระดับก่อเกิดธาตุแล้ว แน่นอนว่าแข็งแกร่งกว่าเฮ่อเหลียนเทียนหยุน

เจ้าตัวน้อยทุบตีอีกฝ่าย และเฮ่อเหลียนเทียนหยุนทำได้แค่กรีดร้องเท่านั้น

ใครขอให้เจ้ารังแกแม่ของข้ากันล่ะ?

แต่เฮ่อเหลียนเทียนหยุนกลับรู้สึกมีความสุขและพูดว่า “เจ้าเด็กนี่ยอดเยี่ยมมาก ข้าต้องการเขามาเป็นศิษย์ของข้า!”

ใบหน้าของหลิงฮันแสดงออกอย่างแปลกประหลาดและพูดว่า “ท่านแน่ใจแล้วหรือที่จะรับลูกของข้าเป็นศิษย์?”

“ลูกชายของเจ้า?” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนรู้สึกตกใจและพูดว่า “ไม่แปลกใจเลยที่เขามีสายเลือดบริสุทธิ์ถึงเพียงนี้ และสามารถต่อกรกับกลิ่นอายมังกรของข้าได้! ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ายอมรับเจ้าเด็กนี่เป็นศิษย์ของข้า!”

แม้จะถูกหลิงเจี้ยนเสวี่ยนทุบตี แต่เขาก็ยังคงพูดตะโกนออกมา

หลิงฮันพูดกระซิบกับเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน และทำให้สีหน้าของเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนดูดีขึ้นมาทันตาเห็น เขาเป็นบรรพบุรุษของนางจริงๆ! แต่ถ้าเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนยอมให้หลิงเจี้ยนเสวี่ยนเป็นศิษย์ของเขา ไม่ใช่นางและหลิงฮันต้องเคารพเขาเป็นอาจารย์ด้วยหรอกหรือ?

หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “ตกลง ด้วยคุณสมบัติและประสบการณ์ของท่านแล้ว ข้าจะให้ลูกชายของข้าเป็นศิษย์ของท่าน!”

หลิงฮันเดินเข้าไปอุ้มหลิงเจี้ยนเสวี่ยนและพูดว่า “ในเมื่อข้ายอมให้ลูกของข้าเป็นศิษย์ของท่านแล้ว แต่ด้วยสภาพของท่านในตอนนี้ข้าเกรงว่าจะมีแต่คนดูถูกท่าน!”

เฮ่อเหลียนเทียนหยุนหัวเราะ เขาอยู่ถ้ำมังกรผีมานานจนไม่รู้กี่ปี มีผู้คนมากมายไหลเวียนผลัดกันเข้ามาและทิ้งชีวิตอยู่ที่นี่ แล้วเขาจะได้รับสมบัติอะไรมาบ้าง? เขารีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “ข้าจะมอบทุกอย่างในชีวิตของข้าให้กับเจ้าเด็กนี่ ซึ่งมีค่ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด!”

“ช่างไปเถอะ แต่สภาพของท่านในตอนนี้ดูน่าสงสารมาก!” หลิงฮันนำสมุนไพรจำนวนมากออกมาและพูดว่า “รับสมุนไพรพวกนี้ไป มันจะทำให้ท่านแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะได้ไม่อ่อนแอไปกว่าศิษย์ของท่าน”

เฮ่อเหลียนเทียนหยุนหัวเราะ เขาไม่รู้สึกอาย และรับสมุนไพรที่หลิงฮันมอบให้ หลังจากนั้นไม่นาน กลิ่นอายของเขาก็ก้าวเข้าสู่ระดับก่อเกิดธาตุ

แน่นอนเขาไม่มีปัญหาคอขวด และไม่จำเป็นต้องสะสมพลัง การทะลวงผ่านระดับของเขาเหมือนกับการดื่มน้ำเท่านั้น