บทที่ 1748 - ออกเดินทาง หัวใจที่สั่นไหว

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

AST
  บทที่1748 – ออกเดินทาง หัวใจที่สั่นไหว
  เหล่าหญิงสาวรู้ดีว่ามันจะเป็นการใช้ประโยชน์ที่จะคัดค้านการตัดสินใจของชิงสุ่ยดังนั้นพวกนางจึงไม่ตอแยต่อไป แล้วการส่งมูหยุนชิงเก้อไปช่วยเหลือชิงสุ่ยก็ถือเป็นเรื่องสมควรเพราะตอนนี้เธอคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด และอาจจะแข็งแรงกว่าสัตว์อสูรที่ชิงสุ่ยทิ้งเอาไว้ปกป้องบ้านของเขา
  และแล้วเวลาก็ใกล้เที่ยงชิงสุ่ยได้ตัดสินใจออกเดินทางหลังจากรับประทานอาหารมื้อเที่ยง เมื่อเห็นชิงสุ่ยรีบร้อน หลัวชิงเฉิงรู้สึกได้ถึงจิตใจที่หวั่นไหว แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรกับชิงสุ่ย
  ในเมื่อหลัวชิงเฉิงไม่ได้พูดอะไรกับชิงสุ่ยคนอื่นจึงไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน ทุกคนล้วนเป็นกังวลกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับชิงสุ่ย
  ทุกคนช่วยกันจัดเตรียมอาหารมื้อเที่ยงแสนหรูหราแม้ว่าแต่ละคนจะพยายามสรรหาเรื่องคุยให้มีความสุข แต่ในใจของทุกคนก็ยังโศกเศร้า และแล้วมื้ออาหารก็หมดลงอย่างรวดเร็ว
  หลังจากรับประทานอาหารมื้อกลางวันชิงสุ่ยได้ตรวจสอบค่ายกลเพื่อความปลอดภัย จากนั้นเขาก็ปลดปล่อยวิหคอัคคีทมิฬ แมงมุมอสูรเศียรมังกร และมังกรไอยราออกมาเพื่อคอยดูแลทุกคน สัตว์อสูรเหล่านี้ถือครองพลังอำนาจที่จะ แข็งแกร่งมากพอที่จะต่อต้านผู้คนที่คิดจะทำร้ายคนของชิงสุ่ย เพียงแค่ วิหคอัคคีทมิฬคนเดียว ก็มีพลังมากพอจะสั่งหารคนที่อยู่ในระดับเดียวกับมันให้ดับสูญสิ้นเหมือนกับเครื่องตัดหญ้า
  ชิงสุ่ยและมูหยุนชิงเก้อได้กล่าวอำลาทุกคนและเร่งรีบออกเดินทางไปสู่ปลายทางของทั้งสองคนนั่นก็คือถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ novel-lucky
  ถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์คือพื้นที่ส่วนลึกที่แสนอันตรายซึ่งอยู่ไหนมหาสมุทรแดนเหนือชิงสุ่ยได้รับแผนที่ในการเข้าถึงจุดหมายปลายทาง แต่ระหว่างทางพวกเขาจะต้องผ่านเขตน่านน้ำลึก ซึ่งเต็มไปด้วยภัยอันตราย
  ทั้งสองคนเร่งรีบการเดินทางเพื่อเข้าสู่ส่วนลึกของภูมิภาคแดนทะเลเหนือชิงสุ่ยใช้ทักษะโล่วารีวชิระผสมผสานกับทักษะย่าง 9 ก้าวเทวา เพื่อให้การเดินทางภายในแดนมหาสมุทรทะเลเหนือเป็นไปด้วยความราบรื่น
  หลังจากผ่านไป90 ย่างก้าว 9 เทวา ชิงสุ่ยก็หยุดการเคลื่อนที่ ทั้งสองคนเดินทางออกห่างจากดินแดนพระราชวังอาทิตย์อัสดงเข้าสู่ดินแดนที่อยู่ห่างไกลแสนไกล แม้ว่าพวกเขาจะมีทักษะย่าง 9 เทวาแต่ทั้งสองก็จำเป็นต้องวางแผนสำรองเพื่อใช้หลบหนี เพราะสถานที่แห่งนี้ไม่เหมือนกับเขตแดนทะเลเหนือที่พวกเขารู้จักเลย
  ผืนน้ำมหาสมุทรแห่งนี้เป็นไปด้วยรูปแบบสิ่งมีชีวิตทรงพลังมากมาย บางตัวก็เหมือนภูเขาขนาดย่อม บางตัวก็เป็นสัตว์ทะเลที่เป็นไปด้วยเกราะเกล็ดหนา บางตัวก็สืบทอดสายพันธุ์ปลานานาชนิด แต่พวกมันล้วนแล้วแต่หวาดกลัวกลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างของชิงสุ่ย
  มูหยุนชิงเก้อเรียกอสูรมังกรหยกขาวของเธอออกมา
  มังกรหยกขาวคือสัตว์อสูรที่สืบทอดสายเลือดมังกรอย่างแท้จริงก่อนหน้านี้ มันเป็นเพียงสัตว์ที่อ่อนแอ และอยู่ภายใต้การควบคุมของชิงสุ่ย แต่ชิงสุ่ยก็ได้มอบหมายให้มูหยุนชิงเก้อฝึกฝนมัน เมื่อได้รับการช่วยเหลือทางด้านยาโอสถจากชิงสุ่ย มันก็ได้พัฒนาสายเลือดจนก้าวเข้าสู่ขอบเขตพลังที่น่ากลัว
  เจ้ามังกรหยกขาวเคลื่อนที่ผ่านพื้นน้ำโดยมีชิงสุ่ยและมูหยุนชิงเก้อยืนอยู่บนแผ่นหลังของมัน
  ”ชิงสุ่ยเมื่อไหร่พวกเราจะไปถึงถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์?”มูหยุนชิงเก้อรับรู้ได้ถึงระยะทางที่ไกลแสนไกล
  ”อย่างมากที่สุดก็ครึ่งเดือนแต่ถ้าหากเกิดเหตุระหว่างทาง ก็คงจะประมาณ 10 วัน”ชิงสุ่ยคิดคำนวณขณะกล่าว แน่นอนว่าการคำนวณนี้ได้บวกรวมการเดินทางโดยอาศัยทักษะย่างก้าว 9 เทวาไปแล้ว
  มูหยุนชิงเก้อตกใจเล็กน้อยเพราะว่าถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ควรจะเป็นสถานที่ที่อยู่ส่วนลึกที่สุดของแดนทะเลเหนือ หากพิจารณาตามความคิดของมูหยุนชิงเก้อ การเดินทางที่เธอคาดไว้อย่างเร็วที่สุดก็คงจะเป็น 2 เดือน ในขณะที่หลัวชิงเฉินนั้นมีเวลาใช้ชีวิตอยู่ได้อีกเพียงแค่ 10 เดือน ถ้าหากการเดินทางของพวกเขาใช้เวลาไปกลับเกือบครึ่งปี โอกาสในการค้นหาภายในถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ก็ใช้เวลาเพียงไม่มาก ดังนั้นเวลาในตอนนี้คือโอกาสอันล้ำค่า
  แต่เมื่อเธอได้ยินว่าการเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งเดือนหรืออย่างเร็วที่สุดก็แค่10 วัน เธอจึงจ้องมองชิงสุ่ยด้วยสายตาที่มีความสุข “ยอดเยี่ยมไปเลย!! พวกเราใกล้เข้าถึงความหวังแล้วW
  ”อืมมม!!”
  ”แต่สิ่งที่ข้าเป็นกังวลมากที่สุดคือข้าไม่รู้ว่าโอกาสที่พวกเราจะได้เจอดอกมุทราศักดิ์สิทธิ์แล้วมีมากน้อยเพียงใด?”ชิงสุ่ยบอกความกังวลให้มูหยุนชิงเก้อรับรู้
  ”แต่ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ได้ดอกมุทราศักดิ์สิทธิ์กลับไปข้าก็จะทำให้ชิงเฉิงรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ให้จงได้”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความมุ่งมั่น
  มูหยุนชิงเก้อเข้าใจความหมายในคำพูดของชิงสุ่ยเธอรู้ดีว่าโอกาสในการพบเจอดอกมุทราศักดิ์สิทธินั้นต่ำมากถึงมากที่สุด
  ”เจ้าอย่าได้วิตกกังวลเลยข้ามั่นใจ”เมื่อชิงสุ่ยเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของชิงเก้อ ชิงสุ่ยจึงเรียกความเชื่อมั่นในใจของเธอกลับมา
  ”ชิงเฉิงนั้นใช้ชีวิตอยู่บนความลำบากมาโดยตลอดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเราทั้งสามคนใช้ชีวิตร่วมกันจนสนิทสนมยิ่งกว่าพี่สาวน้องสาวร่วมสายเลือดกันเสียอีก ข้ากังวลเหลือเกิน ข้ากลัววันที่พวกเราจะต้องเสียใครไปสักคนนึง”
  ”เจ้าลืมอะไรไปหรือเปล่าข้าคือหมอเทวดาเจ้าจำไม่ได้แล้วหรือ?”ชิงสุ่ยยิ้ม
  ”ข้ารู้ข้าจำได้เจ้าต้องสัญญากับข้า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เจ้าจะต้องรักษาพี่ชิงเฉิงให้จงได้”มูหยุนชิงเก้อจ้องมองไปที่ชิงสุ่ย
  ชิงสุ่ยพยักหน้า”ข้าจะไม่ยอมให้พวกเจ้าต้องเป็นอะไรไปอีกเด็ดขาด”
  มูหยุนชิงเก้อยิ้มขณะที่เธอมองดูใบหน้าอันจริงจังของชิงสุ่ย หัวใจของเธอก็เต้นรัว
  ”วันนี้พวกเราจะพักที่นี่ก่อนอย่าได้เร่งรีบเดินทางเร็วเกินไป เราต้องใช้เวลาในการดูดซึมพลังจากไข่มุกที่เราได้รับ แล้วเตรียมพร้อม เพื่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน เราจะได้รับมือมันได้ง่ายขึ้น”ชิงสุ่ยกล่าว
  จากนั้นชิงสุ่ยก่อสร้างค่ายที่พักและเรียกอสูรสยบมังกร รวมทั้งอสูรนรกรัตติกาลออกมาเฝ้าระวังภัย ส่วนตัวของชิงสุ่ย เขากลับเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะ
  แก่นพฤกษาสวรรค์!!
  ชิงสุ่ยทำการฝึกฝนแก่นพฤกษาสวรรค์ที่เป็นทักษะวิชาที่อยู่ภายในไข่มุกพฤกษาอย่างจริงจัง