จวินโม่เซี่ยมิอาจทนต่อภาพที่ปรากฏขึ้นมาและเสียงครวญนั้นได้  อย่างไรก็ตาม เขายังอยากรู้และประหลาดใจ

หญิงใดเล่าจะทนต่อผู้ที่หนักเกือบร้อยกิโลนี้ได้ ?

 

พวกเขากินมื้อเช้าพร้อมหรี่ตา  จากนั้นพวกเขาเบิกกว่าขณะเฝ้าคอยเวลาที่จะมาถึง  พวกเราเรียกหาองครักษ์เมื่อใกล้เวลา และออกไปเพื่อพบหญิงสาว

 

” นายท่าน จะเป็นเช่นไรหากสิ่งที่เจ้าพูดนั้นจริง และหลานสาวสกุล ซุนไม่ชอบข้าเพราะว่าข้าอ้วน ?  ข้า … “

ในหัวของถังหยวนเต็มไปด้วยความกังวล  เขาตดใส่ม้าที่กำลังขี่เนื่องจากรู้สึกกดดัน  ม้าทำจมูกบานประหนึ่งบ่น ฟองก่อตัวขึ้นริมฝีปากเนื่องจากความทุกข์ทน

 

จวินโม่เซี่ยครวญตอบ ขณะดวงตากวาดไปทั่วถนน เหม่อลอยมองไปข้างหน้า

 

ในอีกด้านหนึ่ง เจ้าอ้วนถังไม่รู้ถึงสีหน้าเหม่อลอยของนายน้อยจวินเลย  เขาจดจ่ออยู่กับการเพ่งมองความอ้วนของตัวเอง และถอนหายใจขณะความคิดนั้นปรากฏขึ้น  เขาหันหน้ามองไปยังเพื่อนอย่างรุนแรง และถามด้วยความตื่นเต้น

 ” นายน้อยสาม เจ้าเคยพูดว่าการที่ข้าจะลดน้ำหนัก ….​มันจะได้ผลหากเจ้าเป็นคนจัดการ ? “​

 

ขณะเขาโบกไม้มือ ม้าที่อยู่ใต้ก้นของเขาร้องขึ้นด้วยเจ็บปวด ขณะกีบเท้าทั้งสี่ของมันสั่นเครือ  ม้าที่เหนื่อยหอยหันหัวอย่างโมโห และ ทำสีหน้าไม่พอใจ จากนั้นมันลดความเร็วลง  ราวกับว่า เจ้าอ้วนถังบังคับให้ม้าเซไปข้างหลังด้วยการบิดเอว

 

” เอ่อ ข้าจักช่วยเจ้าลดน้ำหนักหลังจากที่การบาดเจ็บของเจ้าหายดีแล้ว “

จวินโม่เซี่ย ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาแตะคาง และต่อ

 “​ ข้าจะทำให้เจ้าผอมดั่งเช่นถั่วงอก “​

 

“​ดี  มันจะทำให้เจ้าได้รู้ … ว่าข้านั้นหล่อเหลาหากข้ามิได้อ้วน “

ถังหยวนทำนิ้วเป็นเชิงสัญลักษณ์ขณะชี้ตรงไปยังจวินโม่เซี่ย ขณะมองเขาด้วยความเสน่หา

 

” ไฮ่ย๊ะ ! “

จวินโม่เซี่ยฟาดแซ่ลงไปบนหลังม้า และ พุ่งไปข้างหน้า  จากนั้นเขาหันหน้ามาและทำสีหน้ารังเกียจ

 

สีหน้ามารยาของเจ้าอ้วนถังเป็นดั่งอาวุธร้าย

มันจะมากเกินไปแล้ว …

 

” นางพบเจ้าที่นี่ ?  ไม่น่าแปลกใจเลย ! “

จวินโม่เซี่ยเบิกตากว้างขณะมองไปยังโรงเตี๊ยมที่อยู่เบื้องหน้า

 ” คู่หมั้นตัดสินใจพบเจ้าที่ โรงเต๊ียมนี้นะหรือ ?  ข้าประหลาดใจยิ่ง หรือว่าเจ้าเป็นผู้เสนอสถานที่ ? “​

 

” มิใช่ข้า ข้าไม่คิดว่าจะพบนางที่ โรงเตี๊ยม แห่งนี้ … แม้นข้าจะเชื่อว่ามันเป็นความคิดที่ดี ! “

ถังหยวนมองไปยังจวินโม่เซี่ยท่าทางสับสน และถาม

” เจ้าพบว่ามันผิดปกติกระไรหรือ ? “​

 

” อะไรแปลก ?  ผู้ชายพบกันในโรงเตี๊ยมนั้นถือเป็นเรื่องปกติ  แต่ หญิงสาวจะพบคู่หมั้นของนาง … มันไม่ใช่ธรรมดาสามัญ ! “

จวินโม่เซี่ย แจ๊บลิ้นสองครั้งขณะพูด

” จ้าอ้วน ดูเหมือนว่าอนาคตเมียเจ้าจะไม่เหมือนคนอื่นๆ “

 

” โอ้ว ?  ข้าคาดว่านางจะเลือกซ่องแทน ? “

ถังหยวนกระพริบตาขณะ บานจมูกแสดงความเย้ยหยันต่อความคิดเพื่อน

 

จวินโม่เซี่ยยังมิทันได้ตอบ ขณะที่เงาสีขาวพุ่งจาก โรงเตี๊ยมนั้นตรงมาที่เขาและ มายืนอยู่บนไหล่ของเขา ความเร็วของเงาสีขาวนั่นไม่น้อยไปกว่ายอดฝีมือระดับสูง

 

เขาไม่มีเวลาได้ตอบโต้เลยเมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นนี้ และจำยอมให้สิ่งมีชีวิตสีขาวนั่นอยู่บนไหล่ของเขา  สัตว์ตัวน้อยส่งเสียงครวญครางก่อนจะขยับลงไปที่ท้องของจวินโม่เซี่ย  จากนั้นมันกอดอยู่ที่อกของจวินโม่เซี่ยพร้อมเสียงฮึมฮัม ตะเกียจตะกาย และเกาะติดอยู่ที่อกของจวินโม่เซี่ย   มันยื่นหัวน้อยๆออกมาพักที่ไหปลาร้าของจวินโม่เซี่ย และไม่ไหวติงดั่งการได้อยู่ในอ้อมกอดที่ปลอดภัย …

 

จวินโม่เซี่ยสัมผัสถึงสิ่งนี้ได้นานแล้วเนื่องจากความสามารถในการสัมผัสของเขา

” โว้ !  เจ้ามาทำอะไรที่นี่ เจ้าตัวน้อย ? “

เขาถามอย่างนุ่มนวลขณะคว้าหูของสิ่งมีชีวิตนั้นซึ่งติดอยู่กับอกของเขา

 

สัตว์ตัวน้อยนี้มิใช่สิ่งอื่นใดเว้นแต่ เสือดาวปีกเหล็ก ของ ตู่กู้เซี่ยวอี้ !  เห็นได้ชัดว่าสิ่งมีชีวิตตัวนี้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาในเวลาอันสั้นหลังจากที่จวินโม่เซี่ยมิได้พบเจอมัน …

 

ยิ่งไปกว่านั้น ก้อนเนื้อเล็กๆสองชิ้นใกล้ๆซี่โครงของ เสือดาวปีกเหล็กนั้นสามารถเติบโตเป็นปีกได้ในวัยอันสมควร  แต่กระนั้น มันก็เป็นปีกที่ทำจากเนื้อหนัง  ตัวอ่อนนี้สามารถสร้างปีกขึ้นได้แม้นว่าอายุจะน้อยนิด  ความสามารถของมันนั้นไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง !

 

เจ้าตัวน้อยมองขึ้นมาด้วยแววตาแจ่มใสขณะได้ยินนายน้อยที่รัก  จากนั้นร้องครวญสองหน แลบลิ้นสีชมพูอันน้อย และ เริ่มเลียหน้าอกและคอของนายน้อยที่รักของมัน  จากนั้นหันไปหนึ่งหน และเริ่มเสาะหาคอของจวินโม่เซี่ยด้วยเท้าเล็กๆของมัน  สัตว์ตัวน้อยเงยหน้าขึ้นด้วยความสุขเมื่อได้พบกับเป้าหมายที่ปรารถนา อาจบอกได้ว่ามันจะเกาะติดกับจวินโม่เซี่ยต่อไปอีกนับห้าร้อยปี …

 

อย่าไรก็ตาม เจ้าตัวน้อยอาจจะคิดว่าจวินโม่เซี่ยอาจไหวตัวและทิ้งมันไป

 

เจ้าตัวนี้เป็นสุดที่รักของเด็กสาวผู้นั้น … ซึ่งหมายความว่า …

 

จวินโม่เซี่ยพยักหน้า เนื่องจากเขามิต้องไตร่ตรองสิ่งใดอีก  หากเจ้าตัวน้อยอยู่ที่นี่ หมายความว่า ตู่กู้เซี่ยวอี้  ก็ต้องอยู่ไม่ไกลนัก !  เมื่อคิดถึงเด็กสาวเกเรนั่นทำให้จวินโม่เซี่ยปวดหัว

 

นายน้อยจวินยังไม่มีโอกาสได้พบกับผู้ที่อยู่ในเทียนเชียงอีกหลายคน ดั่งเช่นองค์จักรพรรดิ  แต่กระนั้น องค์จักรพรรดิอาจจะมิใช่ผู้ที่เขาอยากเจอ  ในอีกมุมหนึ่ง ก็ยังมีอีกรายชื่อ ที่นายน้อยจวินไม่ต้องการพบ ตู่กู้เซี่ยวอี้ก็เป็นหนึ่งในรายชื่อนั้น

 

อย่างไรก็ตาม เขามาถึงหน้าประตูแล้ว และไม่อาจล่าถอยได้  ดังนั้น เมื่อไม่มีทางเลือก นายน้อยจวินจึงเรียกเจ้าอ้วนถัง ทั้งคู่ลงจากหลังมา และเดินเข้าไป

 

พวกเขาไม่รู้เลยว่า เส้นทางที่เขาเลือกไปนั้น … กลายเป็นการวิ่งเข้าหาเสือ

 

เห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายอุสาหะอย่างมากที่จองโถงแห่งนี้เพื่อการพบกันระหว่าง หลานสาวสกุลและนายน้อยถัง  ยิ่งไปกว่านั้น มีที่สำหรับแข และมันอยู่ตรงกลาง

 

แขกทั้งสอง นั่งอยู่แล้ว !

 

หนึ่งในสอง คือร่างเล็กๆที่สวมชุดสีเขียวอ่อน นั้นเห็นได้ชัดว่าคือ ตู่กู้เซี่ยวอี้  เห็นได้ชัดจากผมเปียของนางโบกไปมาขณะพูด  แต่กระนั้น ชายผู้ที่นั่งกับนางนั่นคือ …

 

ผู้ที่นั่งอยู่ด้านข้าง ตู่กู้เซี่ยวอี้ มีรูปร่างกำยำ ไหล่กว้าง แขนหนา และมีผมเพียงเล็กน้อย ขณะมองไปที่เขา  สามารถบอกได้เลยว่าเขาช่างน่าเกรงขาม  เห็นได้ชัดว่า สกุลตู่กู้ยังคงไม่สบายใจกับการพบเจอนี้ และส่งพี่ตู่กู้เซี่ยวอี้เพื่อเป็นองครักษ์ อยู่เคียงข้างนาง  แต่ผู้นี้คือ วีรบุรุษและตำนานผู้มุ่งต่อไป หรือ ?

 

ท่าทางของเขานั้นดีว่าพี่น้องตู่กู้คนอื่นๆ … ดวงตาอันคมกริบของจวินโม่เซี่ยไม่อาจจะบอกได้ว่า ผู้ที่เป็น วีรบุรุษและตำนานผู้มุ่งต่อไป จะเป็นใคร

หรือเขาจะเป็นลูกชายคนที่แปดแห่งสกุลตู่กู้ ?

 

ถังหยวน และ นายน้อยจวินผ่านเข้าประตูมา  อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เห็น สองคนนั้นรู้สึกว่ามีบางอย่างเกินขึ้นขณะพวกเขาเดินตรงเข้าไป

 

จวินโม่เซี่ยตบผากตัวเอง  เขามางานนัดบอดของถังหยวน มิใช่ของตัวเอง  แต่ หลานสาวสกุลซุนนั้นอยู่ที่ใดกัน ?  ไม่มีหญิงสาวผู้อื่นที่นี่ นอกเสียจากตู่กู้เซี่ยวอี้ !  เขาบอกไม่ได้ว่าทำไม แต่ทันใดนนั้น ความรู้สึกแปลกประหลาดได้ก่อตัวขึ้นใหัวใจของเขา

 

ด้วยความงุงงง นายน้อยจวินคิดถึงสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เขาละทิ้งมันไปในทันที  เขาคว้าปลอกแขนของถังหยวนอย่างรวดเร็ว และถามเบาๆ

” เจ้าอ้วน คู่หมั่นของเจ้า … แม่นางจากสกุลซุน … เจ้าไม่เคยเจอนางมาก่อนใช่หรือไม่ ? “​

 

ฝ่ามือของถังหยวนเปียกชุ่มด้วยความกังวลใจเนื่องจากเขาวางแผนจะทำให้คู่หมั่นประทับใจ  เขารู้สึกอ่อนแรงเมื่อถูกดึงเช่นนี้ เขาตอบจวินโม่เซี่ยด้วยเสียงเบาขณะที่หันหัวอ้วนๆไป และยืดตัวขึ้นอีกครั้ง

” ไม่ แต่คู่หมั่นของข้านั้นสง่างามและเป็นสุภาพสตรี  พวกเราเพิ่งจะเข้ามาที่นี่ … เราจะมั่นใจได้เช่นไรว่าไม่มีผู้ใดอื่นอีกแล้ว ? “​

 

หลังจากถังหยวนพูดจบ และขยับเข้าไปใกล้หูของจวินโม่เซี่ยขณะพูดต่อ

” อย่างไรก็ตาม ข้าคาดว่าสิ่งที่ข้าได้ยินมานั่นถูกต้อง เพราะข้าเคยได้ยินท่านปู่พูดถึงหลานสาวของสกุลซุน เขาต้องตัดสินใจเป็นอย่างดีเนื่องด้วยการมองการไกล … “

 

” ปู่ของเจ้าพูดว่าอะไร ? “

จวินโม่เซี่ยอยากรู้อยากเห็น

 

” ปู่ของข้าพูดว่า หลานสาวสกุลซุนนั้นก้นใหญ่มาก และข้าแน่ใจว่าจะต้องมีลูกชาย  พวกเจ้าทั้งสองนั้นถือว่าเหมาะควรกัน ! “

ขณะเอ่ยสิ่งนี้ ถังหยวนหัวเราะหยาบคาย ขณะคิ้วทั้งสองกระตุกขึ้นลงด้วยความตื่นเต้น

” นายน้อยสาม เจ้าอาจจะไม่รู้ แต่นั้นชอบหญิงสาวก้นใหญ่ดั่งเช่นคู่หมั่นมาก !  แต่กระนั้น หญิงสาวในฝันข้า ฮี่ ฮี่ ฮี่ ฮี่ … “

 

จวินโม่เซี่ย กรอกตาและเดินไปด้านใน เขาเห็นเจ้าอ้วนอนาจารเพียงพอแล้ว  อย่างไรก็ตาม คู่หมั่นของเจ้าอ้วน นั้นน่าเห็นใจ …

กระนั้น เด็กสาวเช่นไรกันที่จะเหมาะควรกับเจ้าอ้วนนี่ ?

สกุลซุนมิได้ยกเลิกการหมั่นหลังจากเห็นพฤติกรรมอันน่ารังเกียจของเจ้าอ้วนนี่ ดูเหมือนจะผิดปกติอย่างมาก ….

 

นายน้อยจวินครุ่นคิดถึงเรื่องแปลกประหลาดนี้ เมื่อเสียงดังก้องทำให้เขาตกใจอย่าง ! รวดเร็ว

 

” จวิน .. พี่โม่เซี่ย !  เจ้าก็มาด้วย ! “

ตู่กู้เซี่ยวอี้ เป็นฝ่ายเริ่ม และทักทายเขาอย่างตื่นเต้น

” ข้าคิดไว้แล้วว่าเจ้าจะต้องตามเจ้าอ้วนมาที่นี่  แล้วข้าก็ติดตามพี่ซุนของข้ามเช่นกัน  ฮี่ฮี่ … ข้าคิดไว้ไม่ผิด !  เจ้ามาจริงๆ ! “

 

ทั้งร่างจวินโม่เซี่ยสั่นเทา ตู่กู้เซี่ยวอี้ เพิ่งเรียกเขาว่า ” พี่โม่เซี่ย ” เป็นครั้งแรก  ความหนาวเย็นพุ่งผ่านร่างของเขาขณะเขากำลังคิดว่า

เหตุใดเจ้าเด็กสาวนี่ถึงสุภาพนัก ?

 

” แม่นางตู่กู้ !  ช่างเป็นโชคชะตาที่ข้ามีความสุขที่ได้พบเจ้าที่นี่ แต่ประสงค์ที่แท้จริงขอพวกเราที่มาสถานที่นี้คือพบกับพี่สาวของเจ้า หลานสาวสกุลซุน  แล้ว นางอยู่ที่ใด ? “

จวินโม่เซี่ย ตอบกลับรวดเร็ว เพื่อมองหาแผนการของนาง

 

” เจ้ายังคงเรียกข้า แม่นางตู่กู้ ?! “

ตู่กู้เซี่ยวอี้ มองเขาเล็กน้อยและครุ่นคิด  ขณะเดียวกัน มือของจวินโม่เซี่ยยกขึ้นมาที่อก และดึงเจ้าขาวน้อยที่อยู่ในเสื้อของเขาออกมา เจ้าตัวน้อยยังคงเกาะแน่นอนไม่ยอมจากเขา  ตู่กู้เซี่ยวอี้ อีกมุมหนึ่ง ยังคงกระพือริมฝีปากต่อ

” เจ้าไม่ได้ ? “

 

เพียงได้ยินเรื่องนาง ถังหยวนถึงกับน้ำลายไหล  เขาเกาคอมองหาหญิงสาว แต่กลับไม่พบผู้ใดอื่นนอกจาก ตู่กู้เซี่ยวอี้  ขณะเดียวกันก็เห็นเข้ากับ ร่างกำยำซึ่งกำลังดื่มเครื่องดื่มของตัวเองอยู่

 

เวลานั้น ความคิดจวินโม่เซี่ยก่อตัวขึ้น

นั่นคือหลานสาวสกุล ซุนหรือ ?

 

นายน้อยจวินคิดกับตัวเอง

ปู่ถังพูดไม่ผิด !  ทั้งสองนั้นเป็นคนที่เหมาะควร พวกเขาเป็นคู่ที่สวรรค์สรรสร้าง !