ตอนที่ 550 ฉันไม่ได้ตั้งใจ / ตอนที่ 551 แน่นอนว่าเธอไม่ใช่คนนอก

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 550 ฉันไม่ได้ตั้งใจ

 

 

           ฉีหย่วนเหิงส่ายหน้า “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน…”

 

 

           พอพูดจบ จู่ๆก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากเครื่องส่งเสียงข้างๆ “หัวหน้าครับ เมื่อครู่พวกเราเจอเข้ากับความปั่นป่วนในชั้นบรรยากาศ แต่ว่าตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วครับ”

 

 

           ความปั่นป่วนในชั้นบรรยากาศ?

 

 

           เฉียวซือมู่ตระหนก ฉีหย่วนเหิงเองก็ขมวดคิ้ว “คุณแน่ใจใช่ไหมว่าไม่มีอะไรแล้ว”

 

 

           “ครับท่าน!”

 

 

           เขาพยักหน้าแล้วขยับตัว เหมือนว่ากำลังจะลุกขึ้น แต่เขาก็หยุดนิ่งไป

 

 

           เป็นอะไรไปงั้นหรือ?

 

 

           เธอมองเขาอย่างประหลาดใจ

 

 

           สายตาของเขาดูลำบากใจแล้วมองมาที่มือของเธอ

 

 

           เธอเองก็มองไปตามสายตาของเขา พอเห็นท่าทางของตัวเองแล้ว ใบหน้าก็ขึ้นสีจัดขึ้นมาทันที

 

 

           ท่าทางของเธอในตอนนี้แทบจะทับอยู่บนตัวเขาทั้งตัวอยู่แล้ว ไม่เพียงเท่านั้น มือทั้งสองข้างของตัวเองยังไปยันอยู่บนแผ่นอกของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ท่าทางของทั้งสองคนดูแล้วใกล้ชิดมากอย่างบอกไม่ถูก

 

 

           เธอเห็นแบบนั้นแล้วก็ทำตัวเหมือนเป็นกุ้งทันที เธอรีบลุกขึ้นยืนขึ้นมาแล้วพูดออกไปอย่างตะกุกตะกัก “ฉัน…ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ…”

 

 

           พอฉีจื้อหย่วนได้รับอิสระก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากพื้นเช่นกัน และจัดเสื้อผ้าของตัวเองด้วยท่าทางที่สง่างาม แล้วยิ้มให้เธอ “ผมรู้ครับ แต่ว่า ผมก็ชอบนะ”

 

 

           ความเห่อร้อนที่มันลามไปทั่วร่างกายไม่มีท่าว่าจะหายไปเสียที จนกระทั่งผ่านเรื่องน่ากลัวนั่นไปแล้วกว่าหนึ่งชั่วโมง หลังจากที่ทั้งสองคนลงจอดที่สนามบินเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าของเธอก็ยังคงแดงอยู่

 

 

           ตั้งแต่หลังจากที่เธออยู่กับจิ้นหยวน ก็ไม่เคยสัมผัสหรือทำอะไรที่ใกล้ชิดขนาดนี้กับผู้ชายคนอื่นอีกเลย แต่ตอนนี้กลับ…

 

 

           พอเธอคิดขึ้นมาแบบนั้นก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก แต่ว่าเรื่องแบบนี้จะไปโทษคนอื่นก็ไม่ได้ เขาเองก็เป็นฝ่ายเสียหาย ถ้าจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาละก็ เป็นตัวเธอเองต่างหากที่ต้องขอความกรุณาจากเขา

 

 

           เธอรู้สึกอยากร้องแต่ก็ร้องไม่ออก และตัดสินใจว่าจะเก็บประสบการณ์นี่เอาไว้ในกล่องดำ จะไม่เอามันออกมาอีก

 

 

           แต่เหมือนว่าฉีหย่วนเหิงจะดูอารมณ์ดีไม่น้อย มุมปากของเขามันยกยิ้มตลอดทาง

 

 

           ยิ่งเธอเห็นแบบนั้นก็ยิ่งกลุ้มใจ

 

 

           ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นเธอจะพยายามจดจ่อไปที่งานนิทรรศการ แต่เธอก็ยังเผลอใจลอยอยู่ดี โดยเฉพาะกับตอนที่ได้เห็นรูปภาพที่เกี่ยวกับความรัก เธอก็รู้สึกไม่ดีไปหมด

 

 

           จู่ๆ เธอก็คิดขึ้นมาว่า ระหว่างตัวเองกับเขาดูสนิทสนมกันเกิดไปหรือเปล่า

 

 

           ไม่ได้ จะต้องรักษาระยะห่างจากเขาสักหน่อยแล้ว

 

 

           เธอลอบมองเขาแวบหนึ่ง พบว่าเขากำลังจ้องมองไปยังรูปวาดที่อยู่บนกำแพง ในใจก็ค่อยๆ เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา

 

 

           ในตอนที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น ก็คิดว่าตัวเองปกปิดสายตาที่มองไปที่ฉีหย่วนเหิงได้อย่างดีแล้ว แต่ไม่ได้รู้เลยว่าเขาสังเกตเห็นท่าทางของเธอได้ตั้งนานแล้ว

 

 

           หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมา เขาก็คิดว่าระหว่างพวกเขาทั้งสองคนนั้นมันเพอร์เฟคมากๆ ถ้าหากว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้มีความรู้สึกแย่ๆ ต่อกันละก็ ระหว่างพวกเขาก็คงจะเกิดปฏิกิริยาอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว แต่จากสายตาอันเย็นชาของเธอกลับพบว่าเธอไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นกับตัวเองเลยสักนิดเดียว

 

 

           และเพราะรู้แบบนั้นทำให้ในใจของเขามันหนักอึ้งไปหมด คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าทำไมมันถึงได้เป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่หน้าตาของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร ทุกครั้งที่ออกจากบ้านก็มักจะได้รับสายตาหลงใหลมาจากหญิงสาวเสมอ แต่ทำไมเหมือนว่าสายตาของเธอมันมองไม่เห็นถึงสิ่งเหล่านั้นเลยนะ

 

 

           จริงๆ แล้วจิ้นหยวนมันมีอะไรดีกันแน่ ทำให้เธอเธอเอาแต่คิดถึงมันแบบนี้

 

 

           หรือว่าเขาทำอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ หรือว่าเขาควรจะจัดการกับจิ้นหยวนก่อน

 

 

           เขาครุ่นคิด รอบตัวเริ่มแผ่รังสีอำมหิตออกมา

 

 

           แต่ในตอนนี้ จิ้นหยวนกลับกำลังอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลจิ้น

 

 

           เขานั่งอยู่บนโซฟา ตรงหน้ามีน้ำชาตั้งเอาไว้หนึ่งแก้ว กลิ่นหอมๆ ของมันลอยขึ้นมาเป็นเส้นไม่ขาดสาย บรรยากาศดูไปแล้วก็เหมือนจะสงบ แต่ถ้าหากลองมองดูสีหน้าของพวกเขาแล้วก็จะพบว่าอารมณ์ของพวกเขาไม่ได้สงบเหมือนอย่างที่เห็น 

 

 

 

 

ตอนที่ 551 แน่นอนว่าเธอไม่ใช่คนนอก

 

 

           จิ้นหยวนมองไปยังผู้เป็นบิดาและมารดาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพูดปฏิเสธออกไปโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น “ไม่มีทาง ผมไม่วันยอมแพ้เรื่องเธอเด็ดขาด”

 

 

           ฉินเพ่ยหรงมองไปลูกชายตนเองอย่างเจ็บปวด “ทำไมจนถึงตอนนี้แล้วลูกถึงได้ยังมัวหลงงมงายแบบนี้ เธอพูดออกมาเองว่าลูกในท้องนั่นไม่ใช่ลูกของลูก แล้วทำไปยังจะเอาแต่เธออีก คนไร้ยางอายแบบนั้น…”

 

 

           “พอแล้ว ผมจะไม่ยอมให้แม่สบประมาทเธออีกต่อไป!” จิ้นหยวนแทรกขึ้นมาด้วยการขึ้นเสียงดังลั่น

 

 

           ฉินเพ่ยหรงตกใจหยุดพูดไปในทันที ตามมาด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ “ลูกขึ้นเสียงใส่แม่เพื่อที่จะปกป้องหล่อนอย่างนั้นหรือ”

 

 

           จิ้นหยวนลูบหน้า ปรับน้ำเสียงให้เบาลง แล้วพูดขอโทษออกไปอย่างไม่มีทางเลือก “ขอโทษครับผมไม่ควรเสียงดังแบบนั้น แต่ว่าแม่ครับ…” เขามองไปยังมารดาที่เหมือนมีเรื่องอยากจะพูดจึงขึ้นเสียงขึ้นมาอีก “แม่ไม่ควรที่จะพูดอะไรส่งเดชเพียงเพราะไม่ชอบเธอนะครับ ผมถามเรื่องนี้กับคนรับใช้ที่บ้านมาหมดแล้ว ไม่มีใครเห็นว่าเธอจะพูดแบบนั้นสักคำ แต่กลับเป็นแม่ต่างหากที่…”

 

 

           “แม่ทำไม แม่พูดอะไรผิดงั้นหรือ เธอก็เป็นแบบนั้นไปแล้ว แล้วถ้าลูกตกหลุมพรางอีกล่ะ พูดก็พูดเถอะ บนโลกนี้ยังมีผู้หญิงดีๆ อีกตั้งมากมาย อย่างเช่นจื่อเสียน…” พอพูดถึงตรงนี้หล่อนก็แสร้งลากเสียงยาว และจงใจมองไปอีกทาง ตรงที่เจียงจื่อเสียนกำลังนั่งหน้าแดง สายตาลอบมองไปที่จิ้นหยวน

 

 

           แต่จิ้นหยวนกลับขมวดคิ้วแน่นและมองไปที่มารดาของตนเอง “พวกเรากำลังพูดถึงเรื่องภายในครอบครัวอยู่ แล้วทำไมแม่จะต้องดึงเธอเข้ามาเกี่ยวด้วย นี่คงไม่เหมาะสมเท่าไหร่มั้งครับ”

 

 

           พอเขาพูดแบบนั้นออกมา หน้าแดงๆ ของเจียงจื่อเสียนก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวในทันที น้ำตาเริ่มเอ่อคลอขึ้นมา และมองไปที่ฉินเพ่ยหรงอย่างขอความช่วยเหลือ

 

 

           ฉินเพ่ยหรงใจอ่อนยวบทันที พูดได้ว่าหล่อนดีต่อเจียงจื่อเสียนมาก แต่กับเฉียวซือมู่นั้นเรียกได้ว่าย่ำแย่ หล่อนพูดต่อจิ้นหยวนด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทแม่ ไม่นับว่าเป็นคนนอกหรอกนะ แน่นอนว่าเข้ามาร่วมด้วยได้”

 

 

           จิ้นหยวนลอบมองหล่อนแวบหนึ่ง เห็นดวงตาของหล่อนที่กำลังเคลือบไปด้วยน้ำตาแบบนั้นแล้วก็รู้สึกรำคาญขึ้นมา ถึงแม้ว่าเฉียวซือมู่จะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่นิสัยของเธอนั้นเป็นคนที่เข้มแข็ง น้อยมากที่เขาจะเห็นเธอร้องไห้ต่อหน้า ทำให้ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เริ่มรำคาญผู้หญิงที่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ร้องไห้แบบนี้

 

 

           แต่เจียงจื่อเสียนไม่รู้เลยสักนิด ก่อนหน้านี้หล่อนก็ยังคิดทบทวนกับตัวเองอยู่เลยด้วยซ้ำ ว่าทำไมจิ้นหยวนถึงไม่มองตัวหล่อนเลยสักนิด แต่หลังจากนั้นก็มีคนเตือนเธอขึ้นมา ดูเหมือนว่าฝ่ายชายจะเป็นพวกขี้สงสาร แต่ที่ผ่านมาหล่อนแสดงออกว่าเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมาตลอด แล้วถ้าทำแบบนี้จะทำให้เขามองว่าเธอเป็นเพศตรงข้ามได้หรือเปล่านะ

 

 

           ด้วยเหตุนี้ วันนี้เธอจึงตั้งใจเลือกสวมเสื้อผ้าที่มีความเป็นผู้หญิงอย่างชุดสีชมพู แถมยังทำท่าทางน่าสงสารเวลามองไปที่จิ้นหยวน และพบว่าจิ้นหยวนเองก็มองมาที่หล่อนอยู่หลายครั้งด้วย ในใจจึงก็อดไม่ได้ที่จะเต้นแรงขึ้นมา

 

 

           ดีจัง ในที่สุดเขาก็มองหล่อนแล้ว ดูสิ แค่เขี่ยเฉียวซือมู่ออกไปผลลัพธ์ก็เกิด รู้อย่างนี้คงลงมือไปตั้งนานแล้ว…

 

 

           พอหล่อนคิดว่าวันเวลาหลังจากนี้จะผ่านไปอย่างสวยงาม ดวงตาของเธอมันก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างชัดเจน

 

 

           แต่หล่อนไม่รู้เลยว่า ที่จิ้นหยวนลอบมองเธออยู่หลายครั้ง ก็เพราะว่าเขาเริ่มรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลย สามารถเอาอกเอาใจแม่ของเขาที่เอาใจยากแบบนี้ได้เป็นอย่างดี ดูท่าว่าคงมีแผนอะไรอยู่ในใจแน่ๆ

 

 

           ในหัวสมองของเขามันเริ่มคิดขึ้นมาอีกครั้ง ไม่แน่ว่านิสัยที่เปลี่ยนไปของแม่เขาก็อาจจะเป็นเพราะหล่อนก็ได้ เขาจำได้ว่าเมื่อก่อนถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะไม่ชอบมู่มู่ แต่ก็ไม่เคยที่จะเกลียดมากอย่างไม่มีสาเหตุแบบนี้ แถมยังพูดออกมาอีกว่า ลูกในท้องของเธอไม่ใช่ลูกของเขา…