ตอนที่ 570 ติดสินบน
“ในเมื่อคุณเป็นผู้อำนวยการ ดังนั้นเปิดทางให้หน่อย ผมจะเข้าไปดูไม่นานก็ไป” เมิ่งไหวเซินดึงผู้อำนวยการไว้และพูดกับเขาเบาๆ
ผู้อำนวยการพูดกับเมิ่งไหวเซินเหมือนทุกๆ ครั้ง แม้น้ำเสียงจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปก็ตาม “เปิดทางน่ะได้ แต่คุณกำลังทำให้ผมลำบากใจ…”
เมิ่งไหวเซินเพียงได้ฟังคำพูดเขาก็รู้ความหมายทันที แค่ให้เงินเขาไปก็จบ อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนเรื่องนี้
“คุณต้องการเท่าไหร่ แค่บอกมา แค่ให้ผมเข้าไปได้ก็พอ” เมิ่งไหวเซินตัดสินใจทันที ผู้อำนวยการยิ้มออกมา “ได้ ผมก็ต้องการไม่มาก แค่เท่านี้”
เขาเปรียบเทียบให้เห็นด้วยหนึ่งมือ ในสายตาเมิ่งไหวเซินกลับรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้านั้นการพูดการจายิ่งใหญ่ราวกับสิงโต แต่เพื่อเป้าหมายของตัวเองแล้ว เงินเล็กน้อยแค่นี้เขายังยอม
“ได้ เท่านี้ ถึงเวลาจะเอาให้คุณ” เมื่อได้ฟังประโยคของเมิ่งไหวเซินแล้ว ผู้อำนวยการก็ไม่ได้มีท่าทีเย็นชาเหมือนเดิมอีก เงินสามารถแก้ได้ทุกปัญหาจริงๆ
ผู้อำนวยการพาเมิ่งไหวเซินไปที่โรงพยาบาล เมื่อผ่านป้อมยามสองคน เดิมทีพวกเขาคิดอยากจะขวางเพื่อถาม แต่ผู้อำนวยการโบกมือครั้งหนึ่ง “เมื่อกี้เข้าใจผิดไป เขามีบัตร ตอนนี้ฉันจะพาเขาเข้าไปเอง พวกนายไม่ต้องสนใจหรอก”
“….” สองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าดูผู้อำนวยการอยู่ตลอด เพียงแต่พูดออกไปไม่ได้ พวกเขาจะมีอำนาจอะไรไปยุ่งกับเรื่องของผู้อำนวยการเฮ่อเล่า สุดท้ายพอผู้อำนวยการฮ่าวเกษียณ ตำแหน่งนี้แน่นอนว่าต้องตกเป็นของผู้อำนวยการเฮ่อ
ตอนนี้เขาถือว่าเป็นมือรองของโรงพยาบาล จริงๆ ก็คือมือหนึ่งนั่นแหละ เพราะตอนนี้ผู้อำนวยการฮ่าวไม่ได้เข้ามาดูแลจัดการเรื่องต่างๆ แล้วเพราะฉะนั้นตอนนี้ผู้อำนายการเฮ่อจึงเป็นรองผู้อำนวยการเพียงในนามเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว เขาได้เข้ามาดูแลเรื่องราวใหญ่น้อยในโรงพยาบาลเกือบจะทั้งหมด
และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเองก็ต้องการจะอยู่ที่นี่ต่อไปนานๆ สำหรับเรื่องของผู้อำนวยการเฮ่อจึงต้องเรียนรู้ที่จะเปิดและปิดตาไว้ เพราะยังไงก็ทำงานภายใต้การสั่งการของผู้อื่นอยู่ดี
เห็นพนักงานทั้งสองเงียบ ในใจของผู้อำนวยการเฮ่อก็เหมือนจะพอใจ อีกไม่นานเขาก็จะได้เป็นหัวหน้าจริงๆ แล้ว
“ไป เข้าไปเถอะ”
“ขอบคุณมากครับผู้อำนวยการเฮ่อ” เมิ่งไหวเซินถูกพาเข้าไปในโรงพยาบาล เขาอาจคิดไปเอง แต่เขารู้สึกว่าในนี้มันน่ากลัวเกินไป ตอนเขาพูดความคิดของเขาออกมาก็ทำให้ผู้อำนวยการเฮ่อหัวเราะออกมา
“ในนี้ต้องน่ากลัวอยู่แล้ว ที่นี่ผู้ป่วยทุกคนไม่ใช่คนปกติ พวกเขาเป็นบ้า เป็นโรคจิต มีทุกอย่างนั่นแหละ นอกจากนี้ยังอยู่ในนี้มานานแล้ว บางทีคุณอาจจะสัมผัสได้”
เขาไม่ได้สนใจคำพูดของผู้อำนวยการเฮ่อ เมื่อเมิ่งไหวเซินคิดถึงฉินอวิ๋น จู่ๆ กายก็สั่นสะท้าน ฉินอวิ๋นคงจะไม่ได้รับผลกระทบจากข้างในนี้มาหรอกนะ อีกเดี๋ยวยังจะจำเขาได้ไหม
“คนที่คุณจะเยี่ยมคือใครเหรอ” ผู้อำนวยการเฮ่อพาเมิ่งไหวเซินเข้ามาในเขตเยี่ยมถึงเพิ่งคิดได้ว่ายังไม่ได้ถามว่าเขามาเยี่ยมใคร
“ฉินอวิ๋น”
“ใครนะ” เขาไม่ได้ฟังผิด
“ฉินอวิ๋น ทำไม มีปัญหาเหรอ” เมิ่งไหวเซินไม่คิดว่าที่ตัวเองพูดไปจะมีอะไรผิด หรือเพราะชื่อฉินอวิ๋นมีความพิเศษในโรงพยาบาลนี้เหรอ ชื่อหนึ่งชื่อมีอะไรพิเศษ หรือมีคนสั่งอะไรเอาไว้
“ไม่มีอะไร ผมคิดว่าผมฟังผิดไป เพราะบุคลากรที่นี่ก็มีคนชื่อฉินอวิ๋นเหมือนกัน ไม่มีปัญหาเดี๋ยวผมจะพาคุณไปเอง” ผู้อำนวยการเฮ่อซ่อนแววตาไว้ภายใต้เลนส์ ดูเหมือนคนคนนี้คงจะเป็นเมิ่งไหวเซินสินะ
“ดี ผมยังคิดว่าฉินอวิ๋นเกิดเรื่องอะไรเสียอีก” เมิ่งไหวเซินเห็นผู้อำนวยการเฮ่ออธิบายแล้วก็เข้าใจ เขาเองก็ไม่อยากคิดมาก
“แน่นอน ผมขอเสียมารยาทถามหน่อย ฉินอวิ๋นเป็นอะไรกับคุณเหรอ เธอเข้ามาที่นี่ได้ยังไง ดูเหมือนผมไม่เคยเห็นคุณมาที่ที่มาก่อนเลย”
“เธอถูกคนทำร้ายแล้วพามาที่นี่ ไม่ต้องสนว่าเมื่อก่อนผมเคยมาไหม หรือคุณจ้องประตูอยู่ตลอดเหรอ”
เมิ่งไหวเซินรู้สึกว่าผู้อำนวยการเฮ่อคนนี้จะสงสัยมากไปแล้ว ทำไมเขาถึงได้ถามละเอียดขนาดนี้ นอกจากนี้เขาเป็นผู้อำนวยการก็น่าจะอยู่ในห้องทำงาน เขาจะเคยมาหรือเปล่า อีกฝ่ายจะรู้แน่ชัดได้ยังไง
“แค่ถามมากไปนิดหน่อยเอง คุณก็รู้ พวกเราอยู่ที่นี่มีคนนอกเข้ามาน้อยมาก เห็นคุณมาก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นธรรมดา”
ตอนที่ 571 ได้เจอฉินอวิ๋น
หลังจากนั้นผู้อำนวยการเฮ่อก็ไม่พูดอีก เพราะกลัวว่าเมิ่งไหวเซินจะสงสัย นอกจากนี้วันนี้เขาก็แค่บังเอิญเจออีกฝ่าย ไม่ได้ตั้งใจมาเจอ
ถึงแม้ผู้อำนวยการเฮ่อจะได้รับการแจ้งข่าวจากหัวหน้าแล้วว่าให้จับตาดูผู้หญิงคนนั้นไว้ให้ดี แต่นอกจากจะมีผู้หญิงคนหนึ่งมาเยี่ยมเธอแล้วก็ไม่มีใครมาเยี่ยมเธออีกเลย
ผู้อำนวยการได้ยินเรื่องที่ฉินอวิ๋นทำมาแล้ว ที่นี่มีทั้งคนที่บ้าและไม่บ้า แต่ขอแค่เข้ามาในนี้ก็ยากที่จะออกไปแล้ว เพราะในสายตาของคนอื่น คุณไม่ใช่คนปกติอีกต่อไปแล้ว
ผู้อำนวยการเฮ่อพาเมิ่งไหวเซินมาที่ห้องพักของฉินอวิ๋น “เสี่ยวหู คุณดูแลคุณผู้ชายท่านนี้ด้วย ผมมีธุระต้องขอตัวก่อน” เขากวักมือเรียกพยาบาลคนหนึ่งมา
พยาบาลคนนี้อ้วนท้วนสมบูรณ์ ใบหน้าไร้ความรู้สึก ดูเหมือนเป็นคนเงียบๆ ทำให้ในใจเมิ่งไหวเซินเต้นรัว ไม่ใช่ว่าคนคนนี้โดนข้างในนี้เปลี่ยนไปหมดแล้วหรอกนะ
“ผมต้องการเยี่ยมฉินอวิ๋น” เมิ่งไหวเซินมองว่าเสี่ยวหูเป็นแค่พยาบาล ไม่น่าใช่ปัญหาใหญ่อะไร ดังนั้นท่าทีที่แสดงกับผู้อำนวยการเฮ่อก่อนหน้านี้พลันเปลี่ยนไปแทบจะทันที
เสี่ยวหูมองที่ผู้อำนวยการเฮ่อครั้งหนึ่ง เอ่ยรับคำสั่งของเขาและเปิดประตูให้เมิ่งไหวเซินทันที ให้เขาเข้าไปในห้องฉินอวิ๋น
เมิ่งไหวเซินยืนอยู่ในห้องผู้ป่วยสีขาว เสี่ยวหูกระแทกประตูปิด เดิมทีเมิ่งไหวเซินก้าวเข้าไปอย่างระมัดระวังจึงถูกเสียงประตูทำให้ตกใจ
เขาหันกลับไปดูพบว่าประตูสีเทาถูกล็อก จู่ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในคุก เพียงแต่ตอนนี้เข้ามาแล้วก็ต้องสู้
เขาสูดลมหายใจ มองไปด้านในต่อ ที่จริงในห้องนี้ไม่ได้ใหญ่มากนัก มีแค่เตียงกับโต๊ะ เมิ่งไหวเซินคิดว่ามันค่อนข้างคับแคบ
เมื่อคุณได้อาศัยอยู่ในบ้านขนาดหลายร้อยเมตร จู่ๆ จะให้คุณมานอนห้องเล็กขนาดสิบเมตร คุณทนได้หรือ นั่นนิสัยที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกันได้
แน่นอนเมิ่งไหวเซินเองก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน ท้ายที่สุดเขาก็คือคน มีความสุขและความเศร้าโศก แต่เขามีความอดทนมากกว่าปกติ หมายความว่าหัวใจของเขาแข็งแกร่งปกติ
เขาเห็นผู้หญิงในชุดสีฟ้าลายสีขาวนั่งอยู่บนเตียงของเธอ เธอกำลังก้มหน้า ปากก็ไม่รู้ว่าพึมพำอะไร เมิ่งไหวเซินไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นคือฉินอวิ๋น
เมิ่งไหวเซินยอมรับว่า ตอนนี้ฉินอวิ๋นไม่ต่างอะไรกับคนบ้า เขารู้สึกเหมือนกำลังสับสน
“ฉินอวิ๋น” เมิ่งไหวเซินเรียกเธอ ก็ไม่มีคนตอบ
“อาฉิน ผมไหวเซิน คุณจำผมไม่ได้แล้วเหรอ” เมิ่งไหวเซินเข้าใกล้ฉินอวิ๋นที่นั่งอยู่บนเตียง กลัวว่าเธอจะตื่นตระหนก การเคลื่อนไหวของเขาจึงค่อนข้างช้า
ผู้อำนวยการเฮ่อและเสี่ยวหูอยู่ที่ประตู “เฝ้าพวกเขาไว้ มีอะไรมารายงานฉัน”
“ได้ค่ะ ผู้อำนวยการ ฉันจะทำตามที่คุณบอก” เสี่ยวอวี่คิดถึงก่อนหน้านี้ของเมิ่งไหวเซินที่มีท่าทางหยิ่งผยอง ยังคิดว่าเธอกลัวเขาแล้ว เดี๋ยวจะทำให้เขาได้เห็นเสียหน่อย
“ไหวเซิน ไหวเซิน คุณคือไหวเซินใช่ไหม” ฉินอวิ๋นเหมือนได้ยินเสียงคนทักทายเธอ เธอเงยหน้าขึ้นมอง พบว่าเมิ่งไหวเซินยืนอยู่ตรงหน้าเธอ นี่เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม
“อาฉิน คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ทำไมผมเรียกตั้งนานแล้วไม่ตอบ” เมิ่งไหวเซินยังรู้สึกว่าฉินอวิ๋นเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก ดูเหมือนว่าปฏิกิริยาของเธอช้าไปมาก
“ไหวเซิน ทำไมตั้งนานคุณไม่มาหาฉันเลย” ฉินอวิ๋นพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดเขา ร้องไห้และตะโกนใส่เขา เดิมทีเธอคิดว่าจะต้องอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตเสียแล้ว
พูดได้ว่าอาจจะเพราะได้รับผลกระทบจากสถานที่ ฉินอวิ๋นจึงสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ได้ติดต่อกับใครเป็นเวลานาน อยู่ในนี้ทั้งวัน เธอก็ไม่กล้ารับรองเหมือนกัน และตอนนี้เธอก็พบว่าตัวเองเริ่มกระสับกระส่าย ควบคุมอารมณ์ได้ยากกว่าเมื่อก่อนมาก
“อาฉิน ผมขอโทษ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ที่นี่ลั่วเซ่าเชินมีส่วนเกี่ยวข้อง ผมไม่สามารถช่วยคุณออกไปได้ ตอนนี้ลูกสาวพวกเราก็ถูกจับอยู่ ผมคิดหาวิธีแล้วแต่ก็ช่วยเธอออกมาไม่ได้”