TQF:บทที่ 523 ตอนจบถูกกำหนดแล้ว (3)

 

ตู้มม…

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวออกแรงเบาๆ ฝ่ามือที่สว่างวาบไปด้วยแสงสีเงินพุ่งออกไปข้างหน้า ราวกับแสงมยูขผสมผสานไปกับเพลิงไฟ สว่างและร้อนแรง บดบังข้างหน้าจนหมด

 

หญิงสาวชุดแดงยิ้มเย็นๆ ไม่ได้ใส่ใจกับการโจมตีของเฉิงเสี่ยวเสี่ยว นางโบกมือเบากๆก็มีกำปั้นแสงสีม่วงพุ่งออกไปแสงแล้วแสงเล่า ราวกับสายฟ้าเริงระบำ แต่แฝงไว้ด้วยเจตนาฆ่า ท่วมท้นเฉิงเสี่ยวเสี่ยวจนมิด

 

“คุณหนู….”

 

“คุณหนู….”

 

“คุณหนู….”

 

เหล่าผู้อาวุโสตาแดงก่ำ ตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น พวกเขาลงมือพร้อมกัน พลังภายในแข็งแกร่งและหนาแน่นพุ่งไปหาหญิงสาวชุดแดง

 

“พวกฝูงมดไม่รู้จักประเมินตัวเอง” หญิงสาวชุดแดงลงมืออีกครั้ง ครั้งนี้เป้าหมายคือเหล่าผู้อาวุโส แสงสีทองรวมตัวกันในอากาศ เกี่ยวกันเป็นประกายศักดิ์สิทธิ์ราวสายฟ้าฟาดไปที่พวกเขา

 

“อ๊ากกก….”

 

เหล่าผู้อาวุโสโดนเข้า มีแววตาสิ้นหวังขึ้นในตา แต่ละคนร้องโหยหวนกระเด็นไปไกลนับ 10 เมตรอย่างกับว่าวที่ขาดออกจากด้าย

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่พร้อมจะช่วยใคร หน้าของนางซีดเผือก มีเหงื่อมากมายบนหัว นางยืนอยู่ตรงหน้าหญิงสาวชุดแดงอีกครั้ง ไม่มีความเกรงกลัวในแววตา มองอีกฝ่ายอย่างดื้อรั้น นิ่งอยู่อย่างนั้นท่ามกลางฟ้าดิน ไม่มีอะไรโยกย้ายนางได้ในตอนนี้ “คืนสามีข้ามา”

 

“บังอาจ….” พลังลมปราณไร้ขอบเขตของหญิงสาวชุดแดงระเบิดออกรอบตัวนาง ความกดดันยักษ์ใหญ่พุ่งใส่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวอีกครั้ง

 

ทันใดนั้น เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกเหมือนฟ้าดินกลับตาลปัตร ความกดดันมากมายที่ไม่น่าเชื่อถล่มเข้ามาจากทุกทิศทาง ชั้นทับชั้น ไม่มีที่สิ้นสุด จนแทบจะหายใจไม่ออก และเหมือนจะกดให้ร่างแหลก

 

กดขี่ นี่มันการกดขี่ชัดๆ

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเพิ่งจะค้นพบว่าความต่างของพลังภายในและพลังเซียนมันมากมายขนาดนั้น โดยเฉพาะพลังเซียนของอีกฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่าอาจารย์ปู่วิหารสวรรค์อีกหลายเท่า เปรียบเสมือนมีภูเขายักษ์นับพันนับหมื่นลูกถล่มลงมาทำให้กระดิกตัวไม่ได้”

 

“เจ้า จะ เอา ยัง ไง” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวขบกรามแน่น จ้อนางเขม็ง ไม่ได้ร้องขอความเมตตาจากนาง

 

“เฮอะ..”

 

หญิงสาวสุดแดงสบถเสียงเย็น ยิ่งเห็นผู้หญิงตรงหน้านางก็ยิ่งไม่ถูกชะตา โดยเฉพาะเมื่อได้ยินนางเอ่ยคำว่าสามีออกมา ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเลยจริงๆ

 

เมื่อนางไม่พอใจ ก็ย่อมทำให้อีกฝ่ายอยู่ไม่เป็นสุข อยากจะถล่มนางให้ราบคาบ พลังลมปราณในร่างยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

 

ความกดดันบนตัวเฉิงเสี่ยวเสี่ยวหนักขึ้นเรื่อยๆ เสียงกระดูกสันหลังนางส่งเสียง แป๊ะๆ งอลงไปทีละข้อจนแทบจะหมอบลงที่พื้น ความรู้สึกแทบจะกระอักเลือดออกมา

 

เหล่าผู้อาวุโสที่บาดเจ็บเมื่อเห็นฉากนี้แต่ละคนมีสีหน้าตกใจเป็นอย่างมาก

 

พวกเขาเข้าใจดีว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหญิงสาวชุดแดงคนนี้ ต่อให้รวมพลังกันโจมตีก็ไม่สามารถทำอะไรนางได้แม้แต่นิดเดียว

 

โม่ซวนซุนที่ถูกขังอยู่ในฟองอากาศทั้งร้อนใจทั้งโมโห โดยเฉพาะเมื่อเห็นเฉิงเสี่ยวเสี่ยวถูกพลังกดจนสั่นไปทั้งตัว แต่ฝืนกัดฟันแน่น เขาทั้งโกรธทั้งปวดใจ

 

“ยอมแพ้ซะ ไม่อย่างนั้น….”

 

เสียงเย็นยะเยือกปานน้ำแข็งลอยมา หญิงสาวชุดแดงต้องการได้ยินคำว่ายอมแพ้จากปากเฉิงเสี่ยวเสี่ยว

 

ไม่รู้ว่าทำไม แต่นางอยากได้ยินอีกฝ่ายยอมแพ้ ส่วนจะเป็นเพราะอะไรนั้นนางก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

 

“เจ้า อย่า หวัง…..”

 

สายตาเฉิงเสี่ยวเสี่ยวชวนกดดันให้หนาว นัยน์ตาที่หม่นหมองในตอนแรกจู่ๆก็มีประกายทิ่มแทงขึ้นมา

 

หญิงสาวชุดแดงนัยน์ตายิ่งเย็นขึ้น ความกดดันที่มองไม่เห็นนั้นเพิ่มพูนขึ้นอีกหลายเท่า แทบจะทำให้วิญญาณของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวแหลกสลาย

 

“เจ้าไม่ต้องคิดอะไรให้เสียเวลา ข้าจะพาเขาไป”

 

“เจ้าคงไม่ใช่คนของผืนดินนี้สินะ เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ทำไมต้องลักพาตัวสามีข้าด้วย” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวถามหน้าตึง มองไปยังผู้หญิงสุดผยองตรงหน้า

 

ใบหน้าของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวกระตุกด้วยความเจ็บปวด แต่แววตาของนางกลับเป็นประกายมากยิ่งขึ้น

 

ไม่ยอมแพ้ นางจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด

 

ผู้ชายของตัวเองก็ต้องเป็นของตัวเองตลอดไป จะยกให้ใครไม่ได้เด็ดขาด

 

แล้วก็ต้องแก้แค้นให้หยูเฮงด้วย

 

หัวของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่เหงื่อไหลเป็นทางก้มลง ข้อกระดูกถูกกดให้งอลงไปเรื่อยๆ ในใจของนางแค้นเคือง ยังไงนางก็จะไม่ยอมแพ้ ดั่งเช่นต้นสนแข็งแรงบนหินผาที่ไม่โอนอ่อนแม้ลมจะพัดแรงแค่ไหน

 

“อืมม…”

 

ไม่รู้ทำไม ยิ่งหญิงสาวชุดแดงเห็นท่าทางไม่ยอมแพ้ของนางก็ยิ่งรู้สึกเกลียด พูดเย็นๆ “ไม่รู้ตัวจริงๆ เฮอะ เห็นว่าเจ้ายังมีความสามารถอยู่บ้าง ข้าขี้เกียจจะลงมือเอง ไว้ชีวิตต่ำต้อยของเจ้าก็แล้วกัน”

 

พูดจบ หญิงสาวชุดแดงก็โบกมือเรียกฟองอากาศที่ห่อหุ้มโม่ซวนซุนเข้ามาและหายตัวไปพร้อมกัน โดยไม่มองใครอีก

 

“ปล่อยเขานะ….”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวโกรธมาก พุ่งไปหาอีกฝ่ายด้วยแรงทั้งหมดที่มี

 

แต่ร่างของอีกฝ่ายก็หายไปกลางอากาศในพริบตาเดียวราวกับไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน

 

“ซวนซุน….”

 

เสียงกรีดร้องด้วยความโศกเศร้าดังสะท้อนไปทั่วฟ้า ความเจ็บปวดในใจของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวมีมากเกินจนนางกระอักเลือดออกมา หลังจากนั้นทุกอย่างก็มืดลง เฉิงเสี่ยวเสี่ยวร่วงลงมาจากอากาศ

 

“คุณหนู…”

 

ผู้เฒ่าหยิงที่บาดเจ็บหนักกระโจนตัวขึ้นรับนางไว้โดยไม่ห่วงบาดแผลของตัวเอง

 

เหล่าผู้อาวุโสคนอื่นก็ไม่กล้าชะล่าใจ พากันพุ่งเข้าไป พวกเขาทั้งตกใจและงุนงง เอ่ยถามกันขึ้น

 

“ผู้เฒ่าหยิง คุณหนูเป็นอย่างไรบ้าง”

 

“นี่มันเรื่องอะไรกัน ผู้หญิงคนนั้นมาจากไหน ทำไมนางต้องจับคุณชายโม่ไปด้วย”

 

“คุณหนูเป็นอะไรมากรึเปล่า ผู้หญิงชุดแดงคนนั้นใช่คนของเมืองโลกทมิฬมั้ย”

 

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่”

 

……

 

“พอได้แล้ว ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”

 

ผู้เฒ่าหยิงจับชีพจรดู ขัดคำถามของเหล่าผู้อาวุโสลง เขาพยายามจะใจเย็นลงแม้จะเป็นห่วงและร้อนใจ “ตาเฒ่าฉิน ตาเฒ่าจี้ ที่นี่ให้เป็นหน้าที่ของพวกเจ้า ทุกคนอยู่ที่นี่และจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ข้าจะรีบนำคุณหนูกลับดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวน”

 

“ได้ ไม่มีปัญหา”

 

“พวกเราจะจัดการให้เรียบร้อย”

 

ทั้ง 2 ผู้เฒ่าตอบพร้อมกัน พวกเขารู้ว่าเกิดเรื่องที่ไม่ธรรมดาขึ้นอีกแล้ว ปัญหานี้พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ มีแต่ต้องรีบกลับไปจัดการที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวน

 

ผู้เฒ่าหยิงไม่ได้สนใจใครอีก เขาหยิบยาเม็ดออกมาใส่ในปาก แล้วจึงอุ้มเฉิงเสี่ยวเสี่ยวทะยานออกไป

 

เมื่อผู้เฒ่าหยิงลับตาไป เหล่าผู้อาวุโสมองหน้ากัน แล้วหันไปมองยังซากศพที่กองกันเหมือนทะเลภูเขา ก่อนจะมองไปยังเมืองโลกทมิฬที่อยู่ด้านหน้า แล้วหันกลับมามองกันเองอีกครั้ง

 

ปัญหานี้ต้องจัดการนะ

 

จากเมืองโลกทมิฬไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวนถ้าขี้ม้าไปก็ต้องใช้เวลา 2 เดือนอย่างเร็วที่สุด ถ้าขี่สัตว์อสูรหรือสัตว์ศักสิทธิ์ก็ต้องใช้เวลาวันครึ่งหรือ 2 วัน

 

ส่วนจะใช้พลังภายในทะยานไปในอากาศหรือเคลื่อนย้ายด้วยความไวก็ต้องใช้เวลาครึ่งวันอย่างเร็วที่สุด

 

ตอนที่ผู้เฒ่าหยิงถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวนก็ปาเข้าไปกว่าวันครึ่งแล้ว เมื่อเขาปรากฏตัว ทุกคนตกใจกันมาก

 

——————————————–