ตอนที่ 685 หนีการแต่งงาน
“ถ้าอย่างนั้น เสด็จพ่อ ท่านคิดเห็นเช่นไรหรือเพคะ” อวี้อาเหราถามกลับ
“หากไม่ได้จริงๆ ถอนหมั้นไม่ได้ พ่อก็จะส่งเจ้าออกนอกเมืองไปให้ไกลจากเมืองเฟิ่งเฉิง”
“เสด็จพ่อ เช่นนั้นก็เท่ากับขัดราชโองการนะเพคะ! จะต้องถูกประหาร…” อวี้อาเหราทราบถึงผลลัพธ์ร้ายแรงของการทำเช่นนั้นดี
คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของหลิงอ๋องมีตั้งมากมาย หากนางหนีการแต่งงาน อย่างไรฮ่องเต้และไทเฮาคงไม่มีทางปล่อยจวนหลิงอ๋องเอาไว้แน่ เพราะฉะนั้นหนีการแต่งงานหรือ? นางเพียงคนเดียวจะหนีไปที่ไหนใด? อีกอย่างพระประสงค์ของฮ่องเต้และไทเฮาก็เป็นนางมาตั้งแต่แรก อย่างไรก็ต้องส่งกองทัพทหารหลากหลายไปตามจับตัวนางแน่ นางเพียงคนเดียว จะสามารถต้านทานทั้งกองทัพได้หรือ?
เป็นไปไม่ได้แน่!
ดังนั้นการหนีการแต่งงานย่อมไม่ใช่แผนการที่ดี
ไม่เพียงเพื่อนางคนเดียว แต่ยังเป็นการทำร้ายคนทั้งจวนอีก
แม้ว่าอวี้อาเหราจะปฏิเสธความคิดนี้ แต่หลิงอ๋องก็ได้ตัดสินใจไปแล้ว
หลังจากที่จากไป เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้ก็เริ่มกระวนกระวายใจ แต่เมื่อเห็นท่าทีนิ่งขรึมของอวี้อาเหรา ก็ไม่อาจเอ่ยจำปลอบใจออกมาได้แม้แต่คำเดียว
“พวกเจ้าออกไปก่อน” ไม่ต้องให้กล่าวอะไรมาก อวี้อาเหราก็เอ่ยกับคนทั้งสอง
“คุณหนู…” เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้ชะงัก
“ออกไป!” สีหน้าของอวี้อาเหราเคร่งขรึม
นางนิ่งคิด ไทเฮานั้นคิดที่จะปกป้องตำแหน่งรัชทายาทของจวินฉางอวิ๋น ดังนั้นจึงต้องแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับจวนหลิงอ๋อง เมื่อมองเหล่าคุณหนูตระกูลสูงในเฟิ่งเฉิง ท่านหญิงแห่งจวนเซิ่นอ๋องถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ในความจริงแล้วอำนาจทั้งหลายนั้นอยู่ในมือของฉู่ป๋าย เพราะฉะนั้นจึงไม่ค่อยเป็นผลดีเท่าใดนัก
อีกอย่าง หากฉู่เกอได้ขึ้นเป็นฮองเฮา ต่อไปอำนาจของฉู่ป๋ายก็คงจะยิ่งใหญ่คับฟ้า เมื่อเป็นเช่นนั้น อำนาจของฮ่องเต้ก็คงตกอยู่ในอันตราย
ดังนั้นจึงต้องทิ้งตัวเลือกนี้ไปเสีย
และในเหล่าท่านอ๋องใหญ่ทั้งสาม มีเพียงหลิงอ๋องและเซิ่นอ๋องเท่านั้นที่มีพระธิดา
เมื่อพิจารณาคุณหนูทั้งสองอย่างละเอียดแล้ว อวิ๋นเซิ่นแห่งจวนราชเลขากรมกลาโหมนั้นก็ไม่มีอำนาจเท่ากับจวนหลิงอ๋อง อีกอย่างยังเป็นเพียงหลานสาวของเจ้าของจวนเท่านั้น
และคุณหนูคนอื่นๆ ก็ยังไม่คู่ควร
ทว่าอวี้อาเหรานั้นไม่เหมือนคนอื่น นางมีมารดาเป็นพระชายาหลิงอ๋อง ทั้งยังเป็นธิดาล้ำค่าแสนรักของหลิงอ๋อง และหลิงอ๋องยังจงรักภักดีต่อต้าเยี่ยนยิ่ง อายุอานามก็มากโข ทรงอำนาจจนแทบจะชิงอำนาจของราชวงศ์มาไว้ในมือได้ อีกทั้งยังเก่งกาจ ไม่มีมีกำลังทหาร ทว่ายังมีคนมากมายเลื่อมใสศรัทธา
ดังนั้นการแต่งงานครั้งนี้จึงตกมาสู่อวี้อาเหรา
อวี้จื่อเยียนไม่มีอาจเอื้อมต่อสถานะนี้ได้
ความรู้สึกเหมือนถูกรางวัลเช่นนี้ช่างประหลาดนัก ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องดีแท้ๆ อวี้อาเหราคิดว่านางคงจะได้รับความเอ็นดูจากฟ้า เทวดาคงว่างงานไม่มีอะไรทำ จึงได้จับตามองนางเช่นนี้
หลังจากนิ่งไปเนิ่นนาน ในที่สุดนางก็ได้สติ
นางลืมไปได้อย่างไรว่ายังมีหนิงจื่อเย่อยู่ เขาพูดเอาไว้ ว่าเขาจะช่วยนาง…
แม้ไม่รู้ว่าเขาจะช่วยได้อย่างไร แต่ฟังเอาไว้ก็คงไม่เสียหาย
ทว่านางก็เกือบลืมไปเสียแล้ว หนิงจื่อเย่นั้นเหมือนผีที่ไร้ตัวตน นางไม่รู้เลยว่าจะไปหาเขาพบได้ที่ใด
นั่งเฉยๆ แล้วจะหาทางได้หรือ?
ทันใดนั้น ก็เกbดเสียงดังขึ้นนอกหน้าต่าง ก้อนหินกระทบหน้าต่าง นางระวังตัวทันทีพ ก่อนจะหันไปมอง
ประตูและหน้าต่างปิดสนิท มองไม่เห็นด้านนอกแม้แต่น้อย ในใจคิดถึงใครบางคน แต่ไม่กล้าที่จะมั่นใจ นางจึงจำต้องเปิดหน้าต่างไปดู เห็นหนิงจื่อเย่เดินออกมาจากด้านหลังของต้นไม้ เพียงไม่นานอวี้อาเหราก็จำใบหน้าที่สวมหน้ากากของเขาได้
“เป็นเจ้าเองหรือ!”
“คุณหนูรองกำลังหาข้าอยู่หรือ? ไม่ใช่สิ ที่จริงแล้วต้องเป็นองค์หญิงจีซูต่างหาก”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร…” อวี้อาเหราชะงัก เหตุใดเขาถึงปรากฎตัวได้เร็วถึงเพียงนี้ หรือว่าตัวของหนิงจื่อเย่ติดอุปกรณ์อะไรเอาไว้ แต่เมื่อคิดอีกทีในยุคโบราณเช่นนี้จะมีของใช้ไฮเทคเช่นนั้นได้หรือ?
ตอนที่ 686 ปลดองค์รัชทายาท
“การเคลื่อนไหวของเจ้าอยู่ในความควบคุมของข้า” หนิงจื่อเย่คุยโว
อวี้อาเหรามอง “เจ้าคงรู้แล้วสินะว่าข้าคือองค์หญิงจีซู?”
“ใช่” หนิงจื่อเย่พยักหน้า
“แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าฉู่ป๋ายรู้ถึงสถานะของข้าตั้งนานแล้ว?” อวี้อาเหราถามอย่างหยั่งเชิง
“เขารู้หรือ?” หนิงจื่อเย่ลังเลอยู่ชั่วครู่ มองนางอย่างละเอียด จากนั้นก็หัวเราะออกมา “เขารู้แต่เขากลับไม่เปิดโปงเจ้า ตอนแรกข้าก็มองคนไม่ผิดจริงๆ ข้าก็รู้ว่าเขาคงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเจ้ามากเท่าไรนักหรอก”
อวี้อาเหรารู้สึกแปลกประหลาด เหตุใดเขาถึงหัวเราะเล่า นางจะร้องไห้ก็ไม่ทันเสียแล้ว!
“แล้วเขาว่าอย่างไร” เมื่อเขาหยุดหัวเราะแล้ว หนิงจื่อเย่ก็ถาม
“เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร” อวี้อาเหราคิดอยู่สักครู่ แล้วจึงตอบออกมา
หนิงจื่อเย่ว่าเสียงหนักๆ “แล้วเรื่องที่เจ้ารับปากข้าก่อนหน้านี้เล่า? อยากจะได้ยินข้อคิดเห็นจากข้าหรือไม่ ตอนนี้แม้แต่ฉู่ป๋ายก็รู้แล้ว ต่อไปคงจะปิดความลับเอาไว้ไม่ได้นานแน่ เจ้าควรคิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาให้ดี อย่าได้คิดว่ายามนี้เขาไม่พูด แล้วเจ้าจะวางใจได้”
“…ถ้าเช่นนั้นเจ้าคิดจะทำอะไร” อวี้อาเหราลังเลอยู่นาน แล้วจึงเอ่ยปากขึ้น
“หึ ง่ายมาก” หนิงจื่อเย่ดูถูก แล้วค่อยๆ เดินไปข้างหน้า “เจ้าจะว่าอย่างไรเล่า ถ้าหากแม้แต่ไทเฮาก็ไม่สามารถบังคับเจ้าให้แต่งงานกับจวินฉางอวิ๋นได้?”
“ทำอย่างไร?” อวี้อาเหราชะงัก
แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องให้ความเกรงใจต่อไทเฮา จนถึงขนาดต้องอดทนต่อการกระทำของจวินฉางอวิ๋น จะต้องทำอย่างไรกันเพื่อที่จะไม่ให้นางและจวินฉางอวิ๋นต้องแต่งงานกัน? ทันใดนั้นนางก็นึกขึ้นมาได้ เงยหน้าขึ้นมองหนิงจื่อเย่ “เจ้าคงไม่ได้หมายความว่าให้ข้าไปฆ่าเขาให้ตายหรอกใช่หรือไม่?”
เช่นนี้ก็เกินไป เรื่องที่จะให้ฆ่าคนนั้น นางทำไม่ได้จริงๆ!
หนิงจื่อเย่หัวเราะ ก่อนจะปรายตามองนาง “ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะโง่เช่นนี้ หากง่ายถึงเพียงนั้น เจ้าคิดว่าข้าจะได้รับผลประโยชน์อะไรได้อีก?”
“ถ้าอย่างนั้นจะให้ทำอย่างไร” อวี้อาเหราสัมผัสได้ว่าเขาจะต้องมีความคิดที่ไม่ค่อยดีแน่
เป้าหมายของเขานั้น นางเข้าใจดี ว่าคือฉู่ป๋ายแน่
แต่เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่นางและจวินฉางอวิ๋นจะแต่งงานกันเล่า?
หนิงจื่อเย่กล่าวว่า “วิธีที่จะทำให้ไทเฮาปฏิเสธการแต่งงานของเจ้านั้น ก็คือการปลดองค์รัชทายาท ทำให้เขากลายเป็นผู้ที่มีศีลธรรมบกพร่อง ให้ไทเฮาเสียหน้าเสียจนไม่อาจยัดเหยียดเขาให้เจ้าได้ เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าก็ให้ความร่วมมือเสียหน่อย ทำท่าให้น่าสงสารสักหน่อย ให้หลิงอ๋องช่วยเสียหน่อย เมื่อถึงตอนนั้นฮ่องเต้ก็ต้องถอนหมั้น เจ้าว่าเรื่องนี้ดีหรือไม่?”
“ปลดองค์รัชทายาทหรือ?” อวี้อาเหราคิดไม่ถึง นางไม่กล้าแม้แต่จะคิดได้เลย
นางจะสามารถทำให้ฮ่องเต้ปลดรัชทายาทได้อย่างไร? นี่ช่างเพ้อฝันยิ่งนัก แต่เมื่ออยู่ในกำมือของหนิงจื่อเย่แล้ว ก็ดูเป็นเรื่องที่น่าจะเป็นไปได้ ทว่าเขาหาใช่คนที่จะช่วยเหลือนางโดยง่าย อยากเอาเท้าก่ายหน้า เมื่อคิดแล้วเขาก็คงจะต้องทำไปตามความต้องการของเขาเท่านั้นเอง!
“ใช่แล้ว” หนิงจื่อเย่พยักหน้า “เจ้าว่าหากองค์รัชทายาทสะสมกำลังส่วนตัวเพื่อก่อการกบฏ แปดเปื้อนศีลธรรมจรรยา เห็นผิดเป็นชอบ เจ้าลองคิดดูซีว่าหากเกิดข่าวลือเช่นนี้ขึ้นแล้วเขาจะเป็นอย่างไร?”
“นี่เจ้ากำลังจะทำให้เขาต้องตายหรือ?” เหตุใดอวี้อาเหราจะไม่รู้ว่าโทษของการกบฏนั้นคืออะไร!
นั่นคือโทษประหารเก้าชั่วโคตร จวินฉางอวิ๋นก็จะตาย! แต่เรื่องที่เขาจะตายนั้นก็ยังถือว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่หากทำเช่นนั้นคนบริสุทธิ์ก็จะติดร่างแหไปด้วย
นางทำสิ่งที่ทำลายคนจำนวนมากถึงเพียงนั้นไม่ลงแน่!
แต่หนิงจื่อเย่กลับหัวเราะ “ขอเพียงผลักความรับผิดชอบทั้งหมดไปในจวินฉางอวิ๋นก็ได้แล้ว เมื่อถึงตอนนั้นฮ่องเต้ก็คงไม่ลากคนอื่นเข้ามาเกี่ยวด้วยมากนัก และไทเฮาก็คงไม่ปล่อยหลานชายของตัวเองให้ตายแน่ เพราะฉะนั้นอย่างไรเขาก็คงไม่ตายหรอก หรือเจ้าก็ลืมไปแล้วหรือว่าจวินฉางอวิ๋นนั้นทำให้เจ้าตายอย่างไร? ไม่สิ หากจะกล่าวให้ถูกควรจะเป็นคุณหนูรองหลิงตัวจริงสินะ”