บทที่350

ผู้แปล : N.

“มันเกิดอะไรขึ้นกับนายกัน?” ลูชินได้ถามคำถามนี้เป็นอย่างแรกหลังจากที่เขาได้พบกับจางเกวียงในรอบครึ่งปีนี้

“นายท่าน” เสียงของจ่างเกวียงยังคงไม่ได้แตกต่างจากที่ลูชินเจอครั้งที่แล้ว แต่ที่ทำให้เขาแปลกใจนั้นคือรอยสักบนแขนและการแต่งตัวที่จะออกทางแนวเด็กมีปัญหามากกว่า

“ช่วงที่ฉันไม่อยู่สมองของนายได้เกิดลัดวงจรใช้ไหม?” ลูชินได้ขมวดคิ้วออกมาหลังจากที่เขาได้สังเกตจางเกวียงให้ละเอียดมากขึ้น ถ้าเขาออกไปเดินข้างนอกคงไม่มีใครที่จะนึกถึงว่าชายที่เดินผ่านพวกเขาไปนั้นจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลก

จางเกวียงนั้นได้ม้วนแขนเสื้อขึ้น และลูยังได้เห็นว่าตรงแขนของเขานั้นได้สักรูปลูกหมู่ป่าล็อคสตาร์เอาไว้อีกด้วย

เมื่อลูชินเห็นแบบนั้น ก็คิดถึงคนหนึ่งได้ทันที: “เป็นความคิดของไอ้เซียวไบใช้ไหม?”

“ ครับ! เขาบอกว่าถ้าเติมสิ่งนี้เข้าไป มันจะทำให้ผมดูเหมือนมนุษย์มากขึ้น” จางเกวียงตอบอย่างตรงไปตรงมา

“นายรีบลบรอยสักพวกนั้นออกเลยนะ!” ลูชินพูดออกมาโดยไม่หยุดว่า “ฉันไม่คิดเลยว่าใช้เวลาตั้งนานแล้ว สมองของมันก็ยังไม่ได้พัฒนาขึ้นอีก”

“ครับ! ” จางเกวียงที่ได้ฟังคำสั่งของเจ้านาย ก็ได้รีบทำการตัดผิวหนังบริเวณที่มีรอยสักโดยตรง ก่อนที่เขาจะแทนที่มันด้วยผิวหนังชิ้นใหม่

“ พ่อ! ” เสียงของเซียวไบดังลอดออกมาจากในบ้าน “ทำไมพ่อกลับมาบ้านทั้งทีถึงไม่บอกผมก่อนละ? ถ้าผมรู้ว่าพ่อจะมา ผมคงออกไปรับพ่อด้วยตัวเองแล้ว!”

หลังจากประโยคนั้นจบลง ทางเข้าบ้านก็ปรากฏหุ่นยนต์อ้วนขึ้นมา ตอนแรกที่ลูชินเห็นแบบนี้ก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นว่าแท้จริงแล้ว ไอ้หุ่นยนต์อ้วนกลมตัวนี้คือเซียวไบนั้นเอง

ตอนนี้ตามตัวของมันได้เปลี่ยนไปมาก ไม่ว่าจะเป็นขนาดของตัว หรือไม่ก็สีของชิ้นสิ้นส่วนประกอบบนตัวของมัน จากที่เดิมๆมันเป็นสีเรียบๆน่าดู แต่ตอนนี้มันกับเต็มไปด้วยลวดลายแปลกตาจำนวนมาก

“ลายพวกนี้คืออะไร?” ลูชินได้ชี้ไปที่หนึ่งในลายที่อยู่บนตัวของมัน

“มันเป็นลายขัดใจแม่, แล้วลายที่อยู่ข้างๆกันคือลายขัดใจพ่อ และที่อยู่ตรงนี้คือลายสุดหล่อ…” เซียวไบได้อธิบายลอยสักของตัวเองอย่างภูมิใจ “ผมดูเท่ไหม?”

“ไม่! มันดูปัญญาอ่อนตั้งหาก!” ลูชินได้พูดดูถูกเหยียดหยาม “ทำไมนายถึงไม่เอาเวลาที่มาศึกษาพวกนี้ ไปใช้ในการเพิ่มอีคิวให้สมองของตัวเองกัน”

“อะไรนะ? มันแย่มากเหรอ?” เซียวไบได้ถามออกมาอย่างไม่เชื่อ มันไม่คิดว่าลายที่ตัวเองภูมิใจจะถูกมองว่าปัญญาอ่อนไปได้ : “ไม่น่าแปลกใจที่พี่สาวฟานจะไม่เต็มใจที่จะขี่ผม ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว! “

ลูชินไม่ได้สนใจเซียวไบอีก เขาได้เข้าไปตรวจสอบบ้านที่ไม่ได้มาตั้งครึ่งปีว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เขาพบว่ามันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก นอกจากมีหุ่นยนต์ทำความสะอาดเพิ่มขึ้นมาสามสี่ตัว และห้องของเซียวไบเองก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย

มันได้ทำให้ห้องของตัวเองเปลี่ยนไปเป็นห้องอัดเสียงเต็มตัว และยังมีตรงมุมห้องเองก็เปลี่ยนไปเป็นที่ว่างอะไหล่ของมันเช่นกัน

“เฮ้ย! ฉันไม่ได้เปิดห้องให้พวกเด็กมีปัญหาอยู่นะ ทำไมห้องของนายมันถึงเละแบบนี้!” ลูชินได้ถามกลับมาอย่างคาดคั้น

“อ่า! เดียวผมจะรีบจัดการเก็บกวาดให้เรียบร้อย”

……

หลังจากผ่านเหตุการณ์สำรวจบ้านมาแล้ว ลูชินได้นำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องของคอมพิวเตอร์ควอนตัมออกมาและแสดงให้ดู

“โอ้, สิ่งนี้มันซับซ้อนเกินไป! แค่ตัวทฤษฎีควอนตัมอะไรนี้ก็ทำให้ผมปวดหัวไปหมดแล้ว” เป็นเซียวไบที่พูดออกมาพร้อมกับส่ายหัว “ผมดูยังไงก็ไม่เข้าใจมันเลย ผมคิดว่าเรื่องนี้ต้องยกให้กับพี่ใหญ่จางแล้วละ!”

“มันก็คงเป็นแบบนั้น เพราะยังไงจางเกวียงเขาก็ฉลาดกว่านายมาก!” ลูชินได้พูดวิจารณ์ออกมาเล็กน้อย

“มันไม่ใช้แบบนั้นเสียหน่อย! มันก็แค่วัสดุของพี่เขาสูงกว่าผมก็แค่นั้น” เซียวไบยังพูดต่อว่า “ถ้าตอนที่พ่อสร้างผมด้วยวัสดุเดียวกับพี่ใหญ่ละก็ ผมรับรองว่าจะต้องฉลาดเหมือนพี่ใหญ่อย่างแน่นอน!”

ลูชินที่ได้ฟังข้อแก้ตัวแบบนั้นก็รู้สึกขี้เกียจที่จะฟัง เขาจึงหันไปทางจางเกวียงก่อนที่จะส่งมอบข้อมูลให้

แม้ว่าหุ่นยนต์เซียวไบจะทนไม่ได้ แต่ไม่ใช้กับจางเกวียง หลังจากที่เขาอ่านไปได้ไม่นาน เขาก็พูดขึ้นว่า: “นายท่าน! รายละเอียดหลักของเทคโนโลยีนี่ผมทำความเข้าใจแล้ว ผมคิดว่าสิ่งแรกที่เราจำเป็นต้องทำนั้นคือการสังเคราะห์วัสดุใหม่เพื่อสร้างเครื่องควอนตัม”

“แต่ดูเหมือนว่าศูนย์วิจัยออปโตอิเล็กทรอนิกส์ของเราจะไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้ได้ ดังนั้นผมคิดว่าเราจำเป็นจะต้องสร้างศูนย์วิจัยคอมพิวเตอร์ควอนตัมแห่งใหม่แยกขึ้นมาต่างหาก”

……

จางเกวียงได้ระบุเงื่อนไขทั้งหมดออกมาอย่างชัดเจน และนั้นทำให้ลูชินรู้สึกปวดหัวอย่างมาก เพราะถ้าเขาไม่สร้างศูนย์วิจัยคอมพิวเตอร์ควอนตัมขึ้นมา แผนงานต่อไปของเขาก็ไม่สามารถทำได้

“ศูนย์วิจัยคอมพิวเตอร์ควอนตัม?” เมื่อรู้แผนล่าสุดของลูชิน ไดเหลียงพูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ

“ประธานลู! นี่ไม่ใช่โครงการที่เราจะทำการศึกษาให้สำเร็จได้ในหนึ่งหรือสองปี” เขาได้พูดเน้นว่า “ถ้าพูดให้ละเอียดขึ้นก็คือ ตอนนี้บริษัทของเราไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ควอนตัมอยู่เลย นี้ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องของเงินลงทุนจำนวนมากที่จะต้องใช้ตลอดทั้งโครงการนี้อีกด้วย…”

“ทำไมเราถึงไม่มุ่งความสนใจไปในเรื่องการพัฒนาชิปคอมพิวเตอร์แบบนาโนก่อนละครับ!? “

“ ฉันรู้เรื่องนั้นดี! แต่ตัวโครงการนี้ได้รับการจัดตั้งขึ้นแล้ว และฉันยังให้จางเกวียงเป็นผู้รับผิดชอบหลัก!” ลูชินได้ตอบกลับมาเรียบๆ

“ศาสตราจารย์จางเหรอ?” ไดเหลียงได้เพียงยินชื่อนี้ ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว

ต้องบอกว่าทีมวิจัยและพัฒนาที่นำโดยจางเกวียงนั้นถือว่าเป็นตำนาน ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่ยากขนาดไหนเมื่อเป็นการนำของเขา โครงการนั้นก็จะสำเร็จไปได้ทุกงาน

เนื่องจากประธานลูได้พูดชื่อนี้ออกมา เขาก็มีความรู้สึกว่าโครงงานนี้มีเปอร์เซ็นต์ที่จะสำเร็จมากขึ้น

“ประธานลู! ถ้าอย่างนั้นเดียวผมจะชวนรุ่นพี่ของผมที่ทำงานเป็นผู้อำนวยการสถาบันวิจัยคอมพิวเตอร์ควอนตัมมาด้วย ผมคิดว่าเขาคงจะช่วยเราได้ไม่มากก็น้อย!” ไดเหลียงรีบพูดออกมา

ที่เขาเสนอมาแบบนั้น ก็เนื่องมาจากการศึกษาคอมพิวเตอร์ควอนตัมนั้น ทางสถาบันการวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายแห่งเองก็ได้ริเริ่มมาก่อนหน้าพวกเขามานานแล้ว แม้แต่ในปี 2009 ทางสหรัฐอเมริกาเองก็สามารถพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมเบื้องต้นสำเร็จ

ทางประเทศแถบแคนาดา เยอรมนี และประเทศอื่นๆ เองก็มีความคืบหน้าบ้างถึงแม้จะไม่เท่ากับประเทศสหรัฐก็ตาม

“ โอเค! ฉันจะรอข่าวดีจากนายก็แล้วกัน!” ลูชินก็รู้สึกว่าการแนะนำของไดเหลียงนั้นก็ไม่เลวเลย

หลังจากจบการพูดคุยครั้งนี้ ทางกลุ่มผู้บริหารได้ออกมาประกาศว่า พวกเขาจะริเริ่มศึกษาคอมพิวเตอร์ควอนตัมทันที โดยที่พวกเขาได้มีการจัดตั้งทีมที่แข็งแกร่งที่สุดเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย

และเนื่องจากเหตุนี้ พวกเขาจึงได้ทำการยกเลิกการสั่งซื้อตัวอุปกรณ์ผลิตชิปตามแผนเดิมไป

ประเทศเยอรมนี สำนักงานใหญ่แฮงเกอร์

เฟร็ดกำลังอ่านรายงานสถานการณ์ล่าสุดผ่านตัวอุปกรณ์การฉายภาพเสมือนว่า “ท่านสุภาพบุรุษ! ผมมีทั้งข่าวร้ายและข่าวดีมารายงานให้ทราบ”

“ข่าวดีก็คือ ตอนนี้บริษัทลู่เทคโนโลยีตัดสินใจไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ล่าสุดของเราเป็นที่เรียบร้อย” เฟร็พูดด้วยความเสียใจกับเรื่องนี้

นี่จึงทำให้ผู้บริหารหลายคนแสดงสีหน้าสีใจออกมา

“แล้วข่าวร้ายล่ะ?”

“ ข่าวร้ายก็คือ บริษัทลู่เทคโนโลยีได้ทำการหันความสนใจของพวกเขาไปยังคอมพิวเตอร์ควอนตัม และนั้นทำให้ตอนนี้พวกเขาได้ยกเลิกคำสั่งซื้ออุปกรณ์ทุกอย่างก่อนหน้านี้ทั้งหมด” เฟร็ดเดอริกรายงาน

“คอมพิวเตอร์ควอนตัม” มีคนได้หัวเราะออกมา “ พวกนั้นมันบ้าไปแล้ว! ขนาดประเทศที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงมากมายอย่างประเทศสหรัฐเอง พวกเขายังมีความคืบหน้าในเรื่องนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น “