บทที่351

ผู้แปล : N.

“นี่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ก่อนหน้านี่ที่เราได้ตัดสินใจเสนอขายอุปกรณ์ผลิตชิปที่มีความแม่นยำสูงให้กับพวกเขาไป ทำให้ทางกลุ่มแนชั่นนอล เซคคิวลิที แอดมินิสเทรชั่นได้ออกคำเตือนให้กับเรา ดังนั้นตอนนี้เหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ก็ถือว่าช่วยเราไปได้มาก”

“ไม่เป็นไร! ตราบใดที่พวกนั้นต้องการก้าวเข้ามายังอุสาหกรรมคอมพิวเตอร์นี้ ยังไงพวกนั้นจะต้องมาหาเรา”

……

“บริษัทลู่เทคโนโลยีได้ทำการยกเลิกแผนการจัดซื้อตัวอุปกรณ์ผลิตชิป!” ข่าวดังกล่าวได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์

“โอ้! แม้แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำลายการผูกขาดของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ได้! ” บางคนที่ได้ฟังข่าวนี้ ก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้อย่างแท้จริง เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าบางทีบริษัทลู่เทคโนโลยีอาจทำให้อุตสาหกรรมภายในประเทศเปลี่ยนไปก็เป็นไปได้

“บริษัทลู่เทคโนโลยีไม่ได้โง่! การลงทุนในเรื่องนี้มันก็เหมือนกับเล่นน้ำนั้นแหละ ถึงทำให้ตายยังไงก็ไม่ได้ผลตอบแทนอยู่ดี!”

“ ดูเหมือนว่าการก้าวเข้ามาในอุสาหกรรมนี้ของบริษัทลู่เทคโนโลยีจะล้มเหลวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

ทุกการกระทำของบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นต่างก็ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างเสมอ มันจึงไม่แปลกใจเลยที่ทุกการกระทำของพวกเขาจะเป็นที่จับตามองจากทุกคน

หลังจากข่าวนี้ออกมา บริษัทในประเทศที่อยู่ในวงการนี้ก็เหมือนกับยกภูเขาออกจากอกไปได้ เพราะในที่สุดพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเผชิญกับคู่แข่งที่น่ากลัวนี้อีก

….

สถาบันวิจัยคอมพิวเตอร์ควอนตัมแห่งชาติประเทศจีน ลูชินและไดเลียงได้เดินทางมาที่นี่เพื่อเยี่ยมชมโดยเฉพาะ

สถาบันไม่อนุญาตให้พวกเขาคเข้าไปยังส่วนลึกอย่างเด็ดขาด ดังนั้นพวกเขาจึงต้องมารอคุยกันที่ห้องรับแขกด้านนอกแทน

“ประธานลู! ผมขอแนะนำนี่คือศาสตราจารย์จู้ เขาเป็นศาสตราจารย์อาวุโสจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศจีน เขายังเป็นสมาชิกแกนหลักของแนชั่นนอล เซคคิวลิที แอดมินิสเทรชั่น และเขายังเป็นคณบดีสถาบันวิจัยคอมพิวเตอร์แห่งนี้อีกด้วย ” ได้เหลียงได้พูดแนะนำศาสตราจารย์ที่อยู่ตรงหน้าของลูชินอย่างละเอียด

ลูชินสังเกตว่า ศาสตราจารย์จู้นั้นจะมีอายุมากกว่าสิบปีกว่าไดเหลียงไปสิบปี ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่หัวหน้าศูนย์วิจัยไดเหลียงของเขาจะเคารพเขามากขนาดนี้

อาจกล่าวได้ว่าก่อนที่ไดเหลียงจะเข้าร่วมกับบริษัทของลูชินนั้น เขาได้ทำงานผู้ช่วยส่วนตัวของศาสตราจารย์จู้มาก่อน และหลังจากที่ไดเหลียงได้มาเข้าร่วมกับบริษัทของเขาต่างหากที่ได้ถูกเรียกว่าศาสตราจารย์

“สวัสดีคณบดีจู้” ลูชินได้จับมือทักทายกับเขาและพูดว่า: “ผมเป็นซีอีโอของบริษัทลู่เทคโนโลยี, คุณสามารถเรียกผมว่าลูชินได้”

“สวัสดีคุณลู! สวัสดีได้เหลียง!” คณบดีจู้เองก็ได้จับมือกับลูชิน ก่อนที่เขาจะหันไปทักทายไดเหลียง

หลังจากนั้น เขาก็พูดด้วยอารมณ์ว่า: “ผมนั้นได้ยินชื่อเสียงของคุณลูมาตลอด ผมไม่คิดว่าคุณลูจะยังดูเป็นเด็กมากขนาดนี้!!”

“ฮาฮาฮา! ” ลูชินได้ตอบกลับมายิ้มๆว่า “คณบดีจู้ก็พูดชมผมเกินไป! ผมขอเข้าเรื่องแล้วกันนะครับ! คณบดีจู้คงได้ฟังรายละเอียดคร่าวๆจากหัวหน้าฝ่ายวิจัยของผมแล้วว่าที่ผมมาหาคุณในครั้งนี้เพราะอะไร?”

คณบดีจู้ที่ได้ฟังแบบนั้นก็ไม่ได้ตอบโดยตรง แต่เขากับเปิดเผยสีหน้าที่ลำบากใจออกมาว่า : ไดเหลียงได้บอกผมเกี่ยวกับการมาครั้งนี้ของพวกคุณเอาไว้แล้ว! แต่ผมต้องขอบอกว่าเรื่องนี้ผมไม่สามารถติดสินใจได้ด้วยตัวเอง ผมต้องขอโทษด้วย”

“แต่ตามจริงแล้วทางเรายินดีอย่างมากที่จะร่วมมือกับบริษัทของคุณเพื่อร่วมกันพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขึ้นมา เพราะโครงการนี้มันจำเป็นจะต้องใช้เงินจำนวนมาก!”

“ ฮ่าฮ่า.” ลูชินได้ยิ้มออกมาและพูดว่า :“ ผมคิดว่าคณบดีจู้ควรจะรู้ว่าในแง่ของเงินทุนในการวิจัยนั้น ทางผมไม่เคยขี้เหนียวกับเรื่องนี้มาโดยตลอด!”

“เรื่องนั้นผมเองก็พอรู้มาบ้าง!” คณบดีจู้ได้พยักหน้าออกมา “ก่อนหน้านี้ก็มีนักเรียนของผม ต่างก็มาพูดถึงความร่วมมือกับพวกคุณไม่ขาดสาย ทางผมเองที่โดนพวกเขาพูดโน้มน้าวข้างหูทุกวันก็เริ่มที่จะมีความคิดคล้อยตามไปเช่นกัน ฮาฮาฮา! “

“แล้วทำไมรุ่นพี่ถึงไม่มาละครับ!” ไดเหลียงได้ถามออกมาอย่างรวดเร็ว “ตราบใดที่รุ่นพี่มาอยู่กับเรา ผมสัญญาว่าเรื่องเงินเดือนนั้นจะต้องสูงกว่าที่นี่อย่างน้อยสามเท่า!”

“ที่หัวหน้าไดพูดมานั้นถูกต้องแล้วครับ! บริษัทลู่เทคโนโลยีของเรานั้นให้ความสำคัญกับนักวิจัยเสมอ” ลูชินเองก็รีบพูดสนับสนุนเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว

“ไดเหลียง! นายรู้ตัวไหมว่านายกำลังต้อนให้ฉันจนมุมอยู่นะ! และการที่ฉันเป็นถึงคณบดีมันก็มีบางสิ่งที่ฉันเองก็ไม่สามารถตัดสินใจได้” คณบดีจู้ยังคงพูดต่อว่า “นอกจากนี้ เมื่อฉันได้ก้าวเข้ามาสู่วัยนี้แล้ว มันก็มีอะไรที่สำคัญมากกว่าเรื่องเงินๆทองๆ “

“คณบดีจู้! งั้นคุณพอบอกผมได้ไหมว่าอะไรคืออุปสรรคของความร่วมมือในครั้งนี้?” ลูชินได้ถามออกมา

คณบดีจู้ได้หยุดไปนานแล้วพูดออกมาว่า: “พวกคุณทั้งสองอาจยังไม่รู้รายละเอียดที่แท้จริงเกี่ยวกับสถาบันการวิจัยนี้ งั้นเอาแบบนี้ละกัน ผมจะอธิบายให้พวกเขาฟังแบบละเอียดเอง”

“สถาบันวิจัยคอมพิวเตอร์ควอนตัมของเราก่อตั้งขึ้นโดยมีความร่วมมือสามฝ่ายด้วยกัน คือ สถาบันแนชั่นนอล เซคคิวลิที แอดมินิสเทรชั่น  มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประเทศจีน และ บริษัทคีร์ลิเทค”

“ดังนั้นจึงไม่เป็นเรื่องแปลกที่จะมีนักวิจัยแกนหลักที่มาจากทั้งสามสถาบันเหล่านี้ และที่สำคัญที่สุดคือเงินทุนการวิจัยและพัฒนาทั้งหมดเองก็ได้รับมาจากพวกเขา “

“จนถึงตอนนี้ทางสถาบันของเราก็ได้พัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมเครื่องแรกในประเทศจีนขึ้นมาได้สำเร็จ  ถึงแม้ว่าจะมีช่องว่างบางอย่างเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านของเราก็ตาม แต่เทคโนโลยีที่เราใช้ทำนั้นก็เป็นเทคโนโลยีที่ทางเราได้จดเป็นเจ้าของสิทธิบัตรเองทั้งหมด ดังนั้นมันใจได้เลยว่าในอนาคตจะไม่มีประเทศไหนมาทำการฟ้องร้องเรื่องนี้กับเราได้อย่างเด็ดขาด สำหรับอุปกรณ์ตัวส่งข้อมูลควอนตัมเอง ทางเราได้เปิดตัวบริการเข้ารหัสข้อมูลควอนตัมที่เป็นของเราขึ้นมาเอง… “

หลังจากที่ลูชินได้ฟังเรื่องนี้ไม่นาน เขาก็ได้เข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ทันที หากองค์ประกอบหลักของสถาบันนี้มีเพียง สถาบัน แนชั่นนอล เซคคิวลิที แอดมินิสเทรชั่น และมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประเทศจีน เท่านั้น เขารับรองว่าคณบดีจู้จะต้องตอบตกลงเข้ามาทำงานกับเขาอย่างแน่นอน

แต่คราวนี้ที่เขาได้ตอบปฎิเสธเขา ก็เนื่องมาจากมันเกี่ยวข้องกับบริษัทคีร์ลิเทค พวกนั้นถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการอินเทอร์เน็ตภายในประเทศจีน ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้มันเป็นปัญหาที่ต่อเนื่องมาจากเรื่องที่ก่อนหน้านี้บริษัทของเขาได้ทำการเปิดตัวเครือข่ายสัญญาณ6G และยังมีสัญญาณอินเตอร์เน็ต6Gอีกด้วย มันจึงส่งผลให้บริษัทของพวกนั้นได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้อย่างหนัก มันจึงไม่แปลกใจเลยที่พวกนั้นจะเห็นเขาเป็นศัตรูแบบนี้

“รุ่นพี่! คุณยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเรานั้นมีความแข็งแกร่งขนาดไหน ผมรับรองเลยว่าถ้ารุ่นพี่มาร่วมกับเรา รุ่นพี่จะต้องรู้สึกดีกับการตัดสินใจในครั้งนี้อย่างแน่นอน ” ไดเหลียงพยายามพูดเกลี้ยกล่อม

“เฮ้อ! นายไม่ต้องพูดแล้วละ!” คณบดีจู้ได้พูดต่อว่า “ฉันไม่สามารถไปร่วมกับนายได้จริงๆ!”

“ นายก็รู้ว่าแม้ว่าสถาบันวิจัยของเราจะเป็นองค์กรร่วมกันถึงสามแห่ง แต่นักวิจัยจำนวนมากก็มาจาก สถาบัน แนชั่นนอล เซคคิวลิที แอดมินิสเทรชั่น และมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ หากนายต้องการสร้างสถาบันวิจัยควอนตัมขึ้นมาจริงๆ ฉันก็คิดว่าฉันอาจจะสามารถให้ความช่วยเหลือนายได้บ้าง”

“จริงเหรอ?”

“แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง!”

……

หลังจากการหารือกันในครั้งนี้จบลงไปนั้น คณบดีจู้ก็ยินดีอย่างมากที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ศูนย์วิจัยคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่ทางลูชินจะจัดสร้างขึ้น และแน่นอนว่าคณบดีจู้ยังได้ส่งนักเรียนของเขาจำนวนหนึ่งเขามาช่วยอีกด้วย

เมื่อได้ยินข่าวนี้ลูชินก็รู้สึกดีใจอย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่าแค่เขาอยากจะนอน ก็มีคนส่งหมอนมาให้เขาถึงที่นอนแบบนี้

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถดึงตัวคณบดีจู้มาเข้าร่วมได้ แต่เขาก็ยังได้รับความช่วยเหลือจากคณบดีจู้แบบนี้ก็ถือว่าพอถูไถผ่านไปได้เช่นกัน

ดังนั้นลูชินจึงต้องพักอยู่ที่สถาบันนี้อีกสองหรือสามวัน เพื่อที่ว่าเขาจะได้พูดคุยเรื่องความร่วมมือนี้อีกครั้ง