คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 851

แม้ว่าแอมโบรสจะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา แต่เพราะว่าแอมโบรสเป็นเด็กดี แล้วเขาจะไม่ชอบแอมโบรสได้อย่างไร?

ใบหน้าของโมนิก้าดูราวกับว่าเธอกำลังระลึกถึงอะไรบางอย่าง

ถึงแม้ว่าแดร์ริลจะจากไปแล้วหนึ่งปีและเขาก็จะไม่สามารถมาปรากฏตัวในชีวิตของเธอได้อีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นหัวใจของเธอก็รู้สึกเจ็บปวด เมื่อเธอได้ยินแอมโบรสเรียกเคนนี่ว่าพ่อ

เธอเงยหน้าขึ้นมองดูเมฆสีขาวบนท้องฟ้าสีครามในขณะที่เธอครุ่นคิด

‘แดร์ริล ฉันอยากจะอยู่กับนายตลอดไป แต่ใครจะรู้ว่าโชคชะตาจะเล่นตลกกับเรา ถ้านายได้ยินฉันจากข้างบนนั้น ได้โปรดอวยพรลูกชายของเราให้เขาเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงและเป็นวีรบุรุษในสักวันหนึ่งเหมือนดั่งเช่นที่นายเป็น’

อีกด้านหนึ่ง ณ พระราชวังแห่งโลกใหม่

จักรพรรดิแห่งโลกใหม่กำลังนั่งนิ่งอยู่บนบัลลังก์มังกรของเขา

โดยมีองครักษ์ยืนอยู่ทั้งสองฝั่งภายใต้บัลลังก์

มันเป็นวันสำคัญที่จักรพรรดิได้ตัดสินใจว่า โลกใหม่จะบุกโจมตีจักรวาลโลกอีกครั้ง

การโจมตีครั้งก่อนนั้นล้มเหลวและสร้างความเสียหายต่อพลังชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างมาก แต่หลังจากการฝึกฝนและบ่มเพาะมาหนึ่งปีเต็ม ความแข็งแกร่งของพวกเขาจึงเริ่มดีขึ้น และที่สำคัญ แดร์ริล ดาร์บี้ ก็ตายจากไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจะต้องสามารถพิชิตจักรวาลโลกได้อย่างแน่นอน!

“ฝ่าบาท กระหม่อมมีความคิดเห็นว่า เราควรจะส่งทหารออกไปพิชิตจักรวาลโลกในวันพรุ่งนี้!”

“ฝ่าบาท แต่กระหม่อมคิดว่าเราควรจะรออีกสักหน่อย เราควรจะหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการทำสงครามก่อน แล้วเราค่อยส่งกองทหารไปที่นั่นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า”

องคมนตรีแต่ละคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน มันจึงเป็นการอภิปรายที่ค่อนข้างดุเดือด บางคนคิดว่าควรจะส่งทหารออกไปในทันที ในขณะที่บางคนคิดว่าควรจะรออีกสักหน่อย

ภายในห้องโถงใหญ่ของพระราชวัง การอภิปรายยังคงดำเนินต่อไป

จักรพรรดิขมวดคิ้วในขณะที่เขายกมือขึ้น เพื่อหยุดการโต้เถียงของพวกเขา จากนั้น เขาก็หันหน้าไปหาสโลนและถามว่า “สโลน เทพธิดาแห่งนักรบของข้า เจ้ามีความคิดเห็นว่าอย่างไร?”

สโลนกล่าวทันทีว่า “เราสามารถส่งกองทหารของเราไปที่นั่นได้ทุกเมื่อ และในครั้งนี้ เราก็จะเอาชนะพวกเขาได้” ดวงตาของเธอแสดงถึงความมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง

ในเวลาเดียวกัน เลขาธิการแคว้นก็เดินเข้ามาหาพวกเขาและกล่าวอย่างสุภาพว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่ามันไม่สำคัญว่าจะส่งกองทหารออกไปเมื่อไหร่ แต่กระหม่อมมีความคิดเห็นว่า เราควรจะจัดพิธีบูชา ที่แท่นบูชาสวรรค์บนดินก่อน! มันยังไม่สายเกินไปที่เราจะส่งกองทหารออกไปหลังจากที่เราทำพิธีเรียบร้อยแล้ว”

“ดี!” จักรพรรดิพยักหน้า เขากล่าวต่อว่า “เมื่อครั้งที่แล้ว เราไม่ได้สวดภาวนาต่อสวรรค์และโลก และในครั้งนี้ ข้าควรจะต้องไปที่แท่นบูชาสวรรค์บนดินเพื่อบูชาต่อบรรพบุรุษ สวรรค์และโลกของเรา! เพื่อที่พวกเขาจะได้ปกป้องกองทัพของข้ และเราก็จะชนะในทุกการต่อสู้ เราจะต้องพิชิตจักรวาลโลกได้อย่างแน่นอน!”

“ขอให้ฝ่าบาทมีอายุยืนหมื่นปี!” จากนั้นเหล่าองคมนตรีก็คุกเข่าเพื่อสรรเสริญจักรพรรดิของเขา

จักรพรรดิแห่งโลกใหม่ยืนขึ้นจากบัลลังก์มังกรของเขาและหัวเราะ จากนั้นเขาก็กวักมือในขณะที่เขาพูดว่า “ตามข้าไปที่แท่นบูชาสวรรค์บนดิน! เราจะจัดพิธีบูชาของเราที่นั่น!”

“พะยะขะ ฝ่าบาท!” ทุกคนตอบรับพร้อมกัน

หลังจากนั้น จักรพรรดิแห่งโลกใหม่ องคมนตรีและเหล่าองครักษ์หลายพันคน ก็ได้ขึ้นไปยังแท่นบูชาสวรรค์บนดินพร้อมกัน

เวลาบ่ายสามโมง จักรพรรดิแห่งโลกใหม่ได้ก้าวขึ้นไปยังแท่นบูชาพร้อมกับธูปสามดอกในมือ

ในขณะที่เขาก้าวขึ้นไปบนแท่นบูชานั้น สีหน้าของเขาก็มืดมนลง

หินทิเบตที่ควรจะอยู่บนแท่นบูชาหายไปไหน? เกิดอะไรขึ้น?

หินทิเบตนั้นเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของแท่นบูชาและเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่มาจากมงกุฎของจักรพรรดิคนก่อนหน้านี้!

ในโลกใหม่ ไม่มีใครสำคัญไปกว่าจักรพรรดิ! ดังนั้น สิ่งเดียวที่เขาจะสวมใส่อยู่บนศีรษะก็คือมงกุฎและหินทิเบตนั้นก็จะต้องอยู่บนมงกุฎของเขา

ชาวโลกใหม่นั้นเชื่อเรื่องของโชคลาง พวกเขาก็เชื่อว่า ถึงแม้ว่าจักรพรรดิจะถึงแก่กรรมลงแล้ว แต่วิญญาณของเขาจะยังคงอยู่ในหินทิเบตและหินทิเบตที่หายไปนั้น ก็เป็นของจักรพรรดิคนก่อน มันไม่ได้ถูกวางไว้ที่ท่านบูชาสวรรค์บนดินเพื่อการสวดบูชาเท่านั้น แต่มันยังเป็นวิธีการรำลึกถึงเขาอีกด้วย

แต่ทว่า หินทิเบตนั้นได้หายไปแล้ว และมันก็เป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุด ใครกันที่มีความกล้าได้ถึงเพียงนี้?