บทที่ 1498 ไม่ต้องการต่อสู้

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1498 ไม่ต้องการต่อสู้

แปลโดย iPAT

 

อาณาจักรแห่งความฝัน

 

ในสนามประลอง ฟางหยวนควบคุมร่างกายของเทพปีศาจปล้นสวรรค์วัยเยาว์ต่อสู้อย่างยากลำบาก

 

คราวนี้คู่ต่อสู้ของเขาเป็นเด็กที่มีร่างกายสูงใหญ่และแข็งแกร่ง เขาใช้ฝ่ามือในการต่อสู้ ทุกครั้งที่เขาฟาดฝ่ามือ มันจะปล่อยแสงสว่างพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวน

 

คนผู้นี้เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

 

หากเขาต่อสู้กับเด็กทั่วไป พวกเขาอาจถูกฟันและพบกับความพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว

 

แต่ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับฟางหยวน

 

วิธีการของเด็กหนุ่มไม่เพียงพอที่จะหลบการโจมตีด้วยแสง แต่ทุกการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้อยู่ในสายตาของฟางหยวนทั้งหมด เขาสามารถอนุมานทิศทางของการโจมตีจากการเปลี่ยนแปลงเล็กๆของร่างกาย

 

ผลลัพธ์คือฟางหยวนสามารถหลบทุกการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม นั่นทำให้ผู้คนรู้สึกประหลาดใจมาก

 

“เจ้าทำได้เพียงหลบงั้นหรือ?” ฝ่ายตรงข้ามตะโกนอย่างหมดควมอดทน

 

“ฮ่าฮ่า หากแน่จริงก็จับข้าให้ได้และเข้ามาทุบตีข้า!” ฟางหยวนเย้ยหยัน

 

แน่นอนว่าคู่ต่อสู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะโกรธจัดและพุ่งเข้าไปหาฟางหยวน “สู้กับข้าหากมีความกล้า!”

 

แต่ฟางหยวนยังหลบเลี่ยง

 

ผู้ชมไม่สามารถอดทนและวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของฟางหยวนว่าขี้ขลาด

 

บางคนตะโกน “ความแข็งแกร่งแตกต่างกันเกินไป ยอมแพ้ซะเจ้าคนน่ารังเกียจ!”

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนทำราวกับไม่ได้ยินสิ่งใด

 

อาจดูเหมือนเขากำลังหลบแต่ในความเป็นจริงเขาสามารถควบคุมจังหวะของการต่อสู้ได้อย่างสมบูรณ์

 

คู่ต่อสู้ของเขาไม่มีประสบการณ์มากนัก เขายังเด็กเกินไป ดังนั้นเขาจึงเคลื่อนไหวไปตามความต้องการของฟางหยวนโดยไม่รู้ตัว

 

หลังจากต่อสู้เป็นเวลานาน พลังวิญญาณส่วนใหญ่ก็ถูกใช้ไปขณะที่เขาหอยหายใจด้วยความเหนื่อยล้า

 

‘ดี ได้เวลาโต้กลับแล้ว’ ในที่สุดโอกาสที่ฟางหยวนรอคอยก็มาถึง เขาบุกโจมตีทันที

 

“อันใด!?” คู่ต่อสู้ของเขาตอบสนองช้าเกินไปและถูกบังคับให้รับการโจมตีของฟางหยวน

 

แต่เขายังเหลือพลังวิญญาณอยู่บ้าง เขาพยายามต่อต้านอย่างยากลำบาก

 

ฟางหยวนตระหนักว่าสถานการณ์ของเขาไม่ดีนัก พรสวรรค์ของเด็กหนุ่มอยู่ในนภาที่สี่เท่านั้น มันต่ำเกินไป ดังนั้นเขาจึงมีพลังวิญญาณเพียงเล็กน้อย

 

หลังจากต่อสู้มานาน พลังวิญญาณของฟางหยวนกระทั่งต่ำกว่าฝ่ายตรงข้าม

 

‘ข้าต้องจบการต่อสู้อย่างรวดเร็วที่สุด!’ เมื่อคิดได้เช่นนี้ฟางหยวนก็ตะโกนออกไป “เข้ามา เจ้าโง่ มาลิ้มรสน้ำลายของข้า!”

 

จากนั้นเขาก็พ่นน้ำลายออกไป ดวงตาของฝ่ายตรงข้ามเบิกกว้าง หากสิ่งนี้ตกลงใบหน้าของเขา มันจะน่าขยะแขยงเกินไป! เด็กน้อยรีบหลบ

 

แต่นี่คือสิ่งที่ฟางหยวนต้องการ

 

เขาบังคับให้คู่ต่อสู้หลบไปในทิศทางนั้น

 

‘ได้เวลาแล้ว!’ ฟางหยวนก้าวไปข้างหน้าและส่งลูกเตะออกไป

 

คู่ต่อสู้ของเขายกแขนขึ้นป้องกัน แต่ฟางหยวนยังสามารถส่งเขาลอยออกจากสนามประลองได้โดยตรง

 

ฟางหยวนชนะ!

 

“เด็กคนนี้ชนะจริงๆ!”

 

“สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?”

 

“น่าขยะแขยง เขาถ่มน้ำลายออกมาจริงๆ นี่มันหยาบคายเกินไป!”

 

“ถูกต้อง แม้เขาจะชนะ แต่ข้าก็เกลียดเขา เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ใช้วิญญาณ!”

 

เสียงย้ยหยันและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังเข้าหูของฟางหยวน

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้ฟางหยวนสูญเสียการควบคุมร่างกายไปแล้ว

 

เทพปีศาจปล้นสวรรค์วัยเยาว์ต้องเผชิญหน้ากับประสบการณ์นี้ด้วยตนเอง มันเป็นชัยชนะที่ไม่ง่ายเลยจริงๆ

 

ท้ายที่สุดเขาใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังขณะที่คู่ต่อสู้ของเขามีภูมิหลังบางอย่าง พ่อแม่ของฝ่ายหลังอาจเป็นผู้ใช้วิญญาณหรืออย่างน้อยหนึ่งในสองก็ต้องเป็นผู้ใช้วิญญาณ

 

ผู้ที่สามารถเข้าร่วมในการแข่งขันย่อยครั้งนี้ต้องเป็นผู้เยาว์ที่พึ่งกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณ พวกเขามีรากฐานต่ำมากและเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากภายนอกเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการต่อสู้ให้กับตนเอง

 

ด้วยเหตุนี้เด็กที่เกิดมาพร้อมช้อนเงินช้อนทองจึงได้รับการสนับสนุนและคำแนะนำจากรุ่นพี่ นั่นทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย

 

นี่คือเหตุผลที่ฟางหยวนเผชิญหน้ากับความยากลำบากในการต่อสู้ นอกจากนั้นยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง รูปแบบการต่อสู้ของฟางหยวนเป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย คู่ต่อสู้ของเขาจะระวังและเตรียมตัวมาอย่างพิถีพิถัน มันทำให้ฟางหยวนต่อสู้ได้ยากลำบากมากขึ้น

 

‘ข้า…ข้าทำไปได้อย่างไร?’ เด็กหนุ่มยืนอยู่กลางสนามประลองและอยากจะร้องไห้ด้วยความละอายใจ

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาไม่เคยทำเรื่องไร้ยางอายและไร้อารยธรรมเช่นการถ่มน้ำลาย

 

แต่ในการต่อสู้ครั้งนี้ไม่เพียงเขาจะทำเช่นนั้นแต่เขายังทำอย่างยิ่งใหญ่และอวดดีต่อหน้าผู้คนมากมาย

 

แล้วตอนนี้เขาจะรู้สึกอย่างไร?

 

‘ข้ากลายเป็นคนเช่นนี้ไปได้อย่างไร? นี่คือตัวตนที่แท้จริงของข้าจริงๆงั้นหรือ?’ เด็กหนุ่มรู้สึกสับสนและพยายามปฏิเสธมัน

 

ผู้ชมยังคงเย้ยหยัน

 

“เขากำลังตื่นเต้นงั้นหรือ?”

 

“ขยะประเภทนี้เข้าสู่รอบแปดคนได้จริงๆ!”

 

“ฮืม ศีลธรรมของผู้คนตกต่ำลงทุกวัน คนเช่นนี้ควรถูกโยนออกจากการแข่งขัน!”

 

“แต่แปดอันดับแรกคือขีดจำกัด ข้าไม่อยากเห็นเขาชนะอีกต่อไป!”

 

เด็กหนุ่มรู้สึกพูดไม่ออก “…”

 

เขาต้องการชี้แจงสถานการณ์นี้และบอกทุกคนว่าเขาไม่ใช่คนเช่นนั้น แต่เขาก็ไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมาเพราะกระทั่งเขาก็ยังสงสัยในตัวเอง

 

เกียรติยศและศักดิ์ศรีที่ฝังแน่นอยู่ในตัวเขาตั้งแต่ชีวิตก่อนหน้าถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำอีก ตอนนี้เขารู้สึกแทบไม่สามารถจดจำมันได้

 

‘ก็ดี ข้าไม่ต้องการต่อสู้อีกแล้ว ด้วยชัยชนะครั้งนี้ ตอนนี้ข้าก็สามารถเข้าไปที่ทะเลสาบแล้ว’ เด็กหนุ่มรู้สึกเหนื่อยล้า

 

เขาไม่ต้องการต่อสู้อีกต่อไป

 

แต่ฟางหยวนคิดอีกอย่าง

 

‘แปดอันดับแรก สี่อันดับแรก สองอันดับแรก และผู้ชนะ แต่ละอันดับมีโครงสร้างที่ชัดเจนและจะได้รับรางวัลที่แตกต่างกัน’

 

‘แม้นี่จะเป็นอาณาจักรแห่งความฝัน แต่หากข้าช่วยให้เขาได้อันดับที่ดีขึ้น ข้าก็จะได้รับรางวัลที่ดีขึ้นเช่นกัน’

 

‘และรางวัลเหล่านั้นอาจสามารถใช้งานในเหตุการณ์ถัดไป’

 

อาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ไม่ธรรมดา มันมีความยืดหยุ่นและไม่ตายตัว

 

ดังนั้นยิ่งเทพปีศาจปล้นสวรรค์วัยเยาว์แข็งแกร่งเท่าใด มันก็จะส่งอิทธิพลต่อเหตุการณ์ต่างๆในอาณาจักรแห่งความฝันเท่านั้นและการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันของฟางหยวนก็จะสะดวกสบายมากขึ้น

 

ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันมีประสิทธิภาพไม่มากนักในการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ มันทำให้ฟางหยวนราวกับคนพิการ

 

‘ฉากที่สองยาวนานกว่าฉากที่หนึ่งมาก ข้าควรพยายามต่อสู้เพื่อให้ได้รับอันดับที่หนึ่งในการแข่งขัน นี่อาจเป็นบททดสอบของมัน’

 

ฟางหยวนไตร่ตรองและตัดสินใจ

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนมีโอกาสและเวลาจำกัดในการควบคุมร่างกายของเด็กหนุ่ม ดังนั้นเขาจึงต้องรอคอยโอกาสอย่างอดทน

 

อาณาจักรแห่งความฝันยังดำเนินต่อไป

 

เด็กหนุ่มได้รับชัยชนะแต่ชื่อเสียงที่เลวร้ายกดดันจิตใจของเขาอย่างมาก

 

เด็กคนอื่นๆกำลังเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันโดยรวบรวมข้อมูลของคู่ต่อสู้ แต่เทพปีศาจปล้นสวรรค์วัยเยาว์กลับหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตนเอง

 

ในความเป็นจริงเขากลัวที่จะเผชิญหน้า ความสงสัยในตัวเองทำให้เขารู้สึกทรมาน

 

สิ่งนี้ทำให้เด็กหนุ่มหดหู่และผอมลงทุกวัน

 

เสียงของชาเซี่ยวดังขึ้น “หลายชายที่ดีของข้า เจ้าควรหลอมรวมวิญญาณ หากไม่มีวิญญาณดวงใหม่ มันจะเป็นเรื่องยากที่เจ้าจะจัดการคู่ต่อสู่หลังจากนี้ โอกาสพ่ายแพ้ของเจ้าจะสูงขึ้น”

 

การหลอมรวมวิญญญาณระดับมนุษย์กับวิญญาณอมตะเป็นสองแนวคิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลอมรวมวิญญาณระดับหนึ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จค่อนข้างสูง

 

“ข้าไม่สามารถจัดหาวัสดุในการหลอมรวมให้เจ้าโดยตรง ข้าไม่สามารถมอบวิญญาณให้เจ้าได้ เจ้าต้องหลอมรวมมันด้วยตัวเจ้าเองเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นค้นพบการคงอยู่ของข้า” ชาเซี่ยวกล่าวเสริม

 

หลังกล่าวจบคำ เขาก็ส่งข้อมูลจำนวนมากเข้าสู่สมองของเด็กหนุ่ม

 

อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มกลับตกใจเมื่อตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับ “ไม่ วิญญาณดวงนี้น่ากลัวเกินไป ข้าต้องฆ่าเด็กทารกและใช้ดวงวิญญาณของพวกเขาเป็นวัสดุในการหลอมรวม ข้าจะไม่ทำเรื่องเช่นนี้ มันเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย!”