TQF:บทที่ 526 ปวดร้าวเกินทน ความหวังยังมีอยู่ (3)

 

เวลาไหลผ่านไปเรื่อยๆท่ามกลางน้ำตา

 

ผู้คนที่มาเพราะได้ข่าวเมื่อได้เห็นคนที่น้ำตาไหลไม่หยุด ต่างอดน้ำตาไหลตามไม่ได้

 

ผู้หญิงในบ้านสลับกันอยู่เป็นเพื่อนนาง ไม่ว่าใครจะเกลี้ยกล่อมยังไงก็ไม่มีประโยชน์ ทุกคนเริ่มร้อนใจขึ้นอีกครั้ง

 

วันที่ 10

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่นัยน์ตาว่างเปล่ามองไปด้านบนนิ่งๆ น้ำตาไหลอยู่หลายวัน ต่อให้นางอยากจะร้องไห้ก็ไม่เหลือน้ำตาแล้ว ราวกับน้ำตาทั้งหมดได้ไหลไปจนหมดในช่วงที่ผ่านมานี้แล้ว

 

กงซีหยวนที่อยู่ข้างๆกำลังพูดบางอย่างอยู่เบาๆ ต่อให้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ตอบอะไรกลับมาทั้งนั้นนางก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด

 

จนกระทั่ง…

 

“คุณหนู….”

 

เสียงที่อ่อนแรงจนแทบจะไม่ได้ยินดังอยู่ข้างหู สายตาว่างเปล่าของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวเริ่มมีจุดเป้าหมายขึ้น นางนึกขึ้นได้ถึงหยูเฮงที่บาดเจ็บสาหัส

 

“หยูเฮง เจ้า เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

 

เสียงที่อ่อนแรงจนแทบไม่ได้ยินเหมือนกันลอยเข้ามาในมิติ หยูเฮงที่กำลังรักษาตัวอยู่ในร่างเดิมส่ายเถาวัลย์ไปมา ถามอย่างร้อนรน “คุณหนู ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ท่านบาดเจ็บเหมือนกันใช่มั้ย รีบเข้ามารักษาตัวเร็ว ข้าต้องการพบท่าน….”

 

“…..”

 

“คุณหนู ท่าน ท่านเป็นอย่างไรบ้าง คิดถึงคุณชายอยู่ใช่มั้ย….”

 

แม้หยูเฮงจะไม่รู้เรื่องหลังจากนั้น แต่ด้วยสมองอันชาญฉลาดของนางก็พอจะคาดเดาสถานการณ์ได้แล้ว เนื่องจากนางอ่อนแอมากจนออกจากร่างเดิมไม่ได้ ไม่อย่างนั้นนางคงออกไปปรากฏตัวต่อหน้าเฉิงเสี่ยวเสี่ยวแล้ว

 

“…..”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่อยู่ด้านนอกมีความรู้สึกน้ำตาจะไหลอีกครั้ง ตาที่แห้งเหือดของนางไม่เหลือน้ำตาให้ไหลแล้ว หัวใจเจ็บจนชา ในนาทีนี้ก็มีความรู้สึกเจ็บปวดเหมือนโดนทิ่มแทงที่ใจ

 

“คุณหนู คุณหนู ท่านพูดสิ คุณหนู….”

 

“คุณหนู ทำไมท่านไม่พูดล่ะ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง รีบบอกข้าเร็ว ท่านรีบเข้ามาหาข้าเร็ว คุณหนู…”

 

“….”

 

เสียงขอหยูเฮงก้องอยู่ในหัวนางตลอด เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่รู้จะตอบนางไปว่าอะไรดี

 

“คุณหนู ท่านอย่าเป็นแบบนี้ ไม่ต้องเสียใจหรอก ไม่เป็นอะไรสักหน่อย คุณหนู เราต้องหาคุณชายเจอแน่ คุณชายต้องกำลังรอให้พวกเราไปหาเขาแน่ๆ คุณหนู….”

 

“คุณหนู ท่านอย่าลืมสิ เรามีความสามารถพอนะ ต่อให้คุณชายไม่อยู่ที่ผืนดินนี้เราก็หาเขาได้ คุณหนู ท่านลืมที่ข้าเคยพูดไปแล้วหรือ ข้าสามารถฉีกมิติที่นี่ออกได้ ขอแค่พวกเราฟื้นฟูกลับมาได้เราก็ไปหาคุณชายได้แล้ว คุณหนู…”

 

“เจ้าว่าอะไรนะ….”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวสั่นเทิ้มไปทั้งตัวและเสียง ใจที่เหมือนตายไปแล้วกลับมาเต้นอีกครั้ง สั่นไปหมดทุกอย่าง

 

“ข้า ข้าบอกว่าหาคุณชาย…” หยูเฮงชะงักไป ไม่เข้าใจปฏิกิริยาของนาง

 

“ไม่ ไม่ใช่ประโยคนี้ เจ้าบอกว่า….”

 

นาทีนี้ เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกว่าตัวเองสั่นไปถึงวิญญาณ มีความคิดหนึ่งแว้บเข้ามาในหัวเฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่ยังนอนอยู่บนเตียง แล้วนางก็หายเข้ามิติไปทันที

 

กงซีหยวนที่อยู่ด้วยชะงักเมื่อเห็นคนตรงหน้าหายไป แต่ก็รู้ได้ทันทีว่านางเข้ามิติไปแล้ว ไม่คิดว่าเฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่ไม่กิน ไม่ตอบสนองอะไรมาหลายวันจะเข้ามิติไป ทั้งดีใจและสับสน

 

ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้นางก็ตอบสนองแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องดี

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้สนใจกงซีหยวนที่อยู่ด้านนอก นางมาถึงตรงหน้าหยูเฮงที่อยู่ในร่างเดิม ต้นหยูเฮงไม่สว่างไสวเหมือนเคย สีเขียวขจีบัดนี้ดูหม่นหมอง

 

“คุณหนู….”

 

ในที่สุดก็ได้เจอนางแล้ว หยูเฮงดีใจมากๆ เห็นท่าทางเสียศูนย์ของนางแล้วก็ใช้เถาวัลย์ทั้งหมดห่อหุ้มนางเอาไว้ “คุณหนู อย่าเป็นแบบนี้สิ ถ้าคุณชายรู้เข้าจะเป็นห่วงนะ”

 

หยูเฮงเป็นภูติ ความรักของ 2 คนนี้เรียกได้ว่าหยูเฮงรู้ดีกว่าเฉิงเสี่ยวเสี่ยวอีก

 

เห็นท่าทางหมดอาลัยตายอยากของนาง หยูเฮงรับรู้ได้ว่าเจ้านายตัวเองเจ็บไปถึงจิตใจข้างใน ถ้าไม่คลายปมในใจนางละก็ จะยิ่งทำให้นางตกอยู่ในความเจ็บปวดและความมืดมิด

 

“หยูเฮง เจ้า เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง…”

 

ยื่นมือออกไปลูบเถาวัลย์ที่ดูอ่อนแรง เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกเจ็บปวดที่ใจอีกแล้ว แม้นางจะรักคนๆนึงมาก แต่ในใจนางหยูเฮงก็ไม่ได้สำคัญน้อยไปกว่าโม่ซวนซุนเลย

 

ในใจของเฉิงเสี่ยวเสี่ยว มีเพียง 1 คน 1 ภูตินี้เท่านั้นที่สำคัญที่สุด คนอื่นไม่สามารถเทียบเคียงได้

 

“คุณหนู อีกไม่นานข้าก็หายแล้ว ท่านวางใจเถอะ พลังวิญญาณในมิติของเราเพียงพอสุดๆ อีกไม่นานข้าก็ออกมาได้แล้ว”

 

“ดี” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวพยักหน้ารับ และก็นึกถึงคำถามเมื่อกี้อีกครั้ง

 

ในตอนนั้นมีร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้น อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์ที่เก็บตัวเองรับรู้ถึงการมาของนางจึงรีบออกมา เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นสภาพอิดโรยของนาง รีบยืนมือถ่ายทอดพลังเซียนของตัวเองให้นาง

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวกำลังจะขยับปากเขารีบปรามไว้ “ไม่ต้องพูดอะไร เจ้ารีบรักษาตัวเองเถอะ”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้ว่าปฏิเสธความหวังดีของอาจารย์ปู่ไม่ได้ พลังเซียนได้ถูกถ่ายทอดเข้ามาแล้ว นางจึงต้องท่องคาถาใจเพื่อดูดซับพลังเซียนมากมายนี้

 

ผ่านไปสักพัก

 

หน้าซีดๆของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็มีสีเลือดอีกครั้ง นางลืมตาขึ้น “อาจารย์ปู่ พอแล้ว”

 

เรี่ยวแรงและสติกลับมาแล้ว เฉิงเสี่ยวเสี่ยวถอนหายใจเศร้าๆ จิตใจสงบลงได้ในเวลานี้

————————————-