ตอนที่ 873 - เซียนมณ

The Divine Nine Dragon Cauldron

DND.
  “อาจารย์เกาอย่าปล่อยให้เราสงสัยอยู่เลย! ของในกล่องนั่นคืออะไร?”
  มีคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา
  ซึ่งความจริงแล้วเป็นทุกคนที่สนใจมันถ้ากล่องหยกเพลิงล้ำค่าเป็นแค่ของที่ใช้เก็บเศษผลึก พวกเขาก็มิอาจจินตนาการได้เลยว่าเศษผลึกสีเลือดในกล่องหยกนั้นล้ำค่าแค่ไหน!
  “หึหึตอนที่ข้าได้สิ่งนี้มา ข้ามิอาจรู้ว่ามันคือสิ่งใดเพราะความรู้อันจำกัดของข้า ข้าคิดว่ามันเป็นแค่ผลึกธรรมดาและเกือบจะพลาดไป! แต่พอข้าได้พลิกบันทึกลับมณี ตอนนั้นถึงได้รู้ที่มาของมัน”
  อาจารย์เกาอธิบายขณะหัวเราะเบาๆ
  ความสงสัยของเหล่าผู้ร่วมประมูลทะยานขึ้นไปอีกเมื่อได้ฟังคำพูดของอาจารย์เกาแม้แต่อาจารย์เกาผู้รอบรู้ยังนึกไม่ออกเมื่อมองครั้งแรก! มันจะต้องเป็นของที่หายากถึงขีดสุดอย่างแน่นอน!
  “สิ่งนี้มีชื่อพิเศษในบันทึกลับ…มันคือเลือดศักดิ์สิทธิ์!”
  อาจารย์เกาพูดบอกทุกคน
  เลือดศักดิ์สิทธิ์รึ?เหล่าผู้คนสับสน พวกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องเลือดศักดิ์สิทธิ์มาก่อน
  “ทุกท่านอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนแต่ข้าจะบอกอีกชื่อของมันให้พวกท่าน พวกท่านอาจจะรู้จักมันอยู่แล้ว”
  อาจารย์เกาพูดอีกชื่อช้าๆ
  “มันก็คือ…ผลึกเทพ!”
  ทั้งโรงประมูลเงียบกริบมีเพียงเสียงสะท้อนของคำว่า ‘ผลึกเทพ’ ก้องกำแพงโรงประมูล เมื่อทิ้งไปหลายช่วงจึงมีเสียงผู้คนเริ่มหายใจ สายตาร้อนผ่าวหลายคู่พุ่งตรงไปยังผลึกราวกับกาวที่ประกบติดจนมิอาจละสายตาไปได้
  “ว้าว!”
  กงซุนหวูซื่อหรี่ตาสดใสของนาง
  “ไม่คิดเลยว่าสมบัติที่จะนำไปประมูลที่โรงประมูลใหญ่ของจิวโจวจะมาอยู่ในโรงประมูลเล็กๆเช่นนี้!แล้วมันยังเป็นของที่จะหาได้จากแดนมณีมหัศจรรย์เท่านั้น!”
  ซือหยูเป็นคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องแดนมณีมหัศจรรย์มากนักเขาเลยไม่แปลกใจหรือตกใจในตอนนี้
  “ใช่แล้ว!มันคือผลึกเทพ!”
  อาจารย์จ้องมองผลึกความตื่นเต้นของเขาแสดงอยู่ในน้ำเสียง
  “เมื่อครั้งที่เซียนมณีตายร่างที่มิอาจถูกทำลายได้ของนางได้ถูกฝังอยู่ในส่วนลึกสุดของแดนมณีมหัศจรรย์ และดวงวิญญาณที่มิอาจทำลายได้ของนางก็ได้กลายเป็นผลึกเทพนับไม่ถ้วน มันกระจัดกระจายไปทั่วที่นั่น”
  เขาพูดต่อ
  “ผลึกเทพก็คือเสี้ยววิญญาณของเซียนมณีมีคำกล่าวว่าความทรงจำของนางและวิชาทั้งหมดที่นางได้บ่มเพาะในโลกอยู่ภายในผลึกนั้น ถ้าหากได้ผลึกเทพ มันก็เท่ากับได้สิ่งสืบทอดจากเซียนมณี! ส่วนราคาข้าคงไม่ต้องพูดไม่มากความ พวกท่านคงจะรู้มูลค่าของมันอยู่แล้วใช่หรือไม่?”
  หลายคนตาร้อนผ่าวพวกเขามองผลึกเทพด้วยความริษยา เซียนมณีเคยเป็นจักรพรรดิจิวโจวที่เหนือกว่าราชาทุกคนด้วยพลังของนาง นางปกครองทั้งเก้าเขตในฐานะของราชินี พลังการต่อสู้ของนางก้าวข้ามราชาคนก่อนๆจนถึงขอบเขตที่ไร้ผู้ต่อกร!
  มีคนที่กล่าวว่านางได้กลายเป็นเซียนไปแล้วอายุขัยของนางยาวนานกว่าหมื่นปี! ดวงตาของนางได้เห็นภัยพิบัติของทวีป การล่มสลายและการเจริญรุ่งเรืองของราชาหลายคนของจิวโจว อีกทั้งยังได้เห็นความรุ่งเรืองและตกต่ำของเผ่ามนุษย์มาเป็นระยะเวลานาน พูดได้เลยว่านางคือเทพผู้ปกป้องจิวโจว
  ราชินีผู้นี้ล่วงลับไปเมื่อหลายร้อยปีก่อนวิญญาณเทพของนางได้สลายไปตามกาลเวลา ส่วนร่างกายของนางนั้นถูกฝังอยู่ในก้นบึ้งของแดนมณีมหัศจรรย์
  แดนมณีมหัศจรรย์จึงได้กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของยอดฝีมือเพราะสิ่งสืบทอดจากนางได้ถูกทิ้งเอาไว้ที่นั่นทุกคนอยากจะยังแดนมณีมหัศจรรย์โดยหวังว่าจะได้เจอกับสิ่งที่เปลี่ยนชะตาชีวิตตนเอง แปรเปลี่ยนจากมัจฉาเป็นมังกร
  ร้อยปีก่อนราชินีคนใหม่แห่งเขตกระบี่ไร้ใจได้ส่วนหนึ่งของสิ่งสืบทอดจากนาง และนั่นทำให้นางได้บ่มเพาะจนเปลี่ยนขอบเขตและรักษาบัลลังก์ของตัวเองได้อย่างมั่นคง
  ร้อยปีเกือบจะผ่านมาแล้วประตูแดนมณีมหัศจรรย์กำลังจะเปิดอีกครั้ง นั่นทำให้ทุกสิ่งมีชีวิตในจิวโจวตั้งตารอ
  และขณะนี้ผลึกที่อาจจะซ่อนอยู่ในก้นบึ้งของที่นั่นได้ปรากฏต่อหน้าต่อตาพวกเขา! แรงสั่นสะเทือนนั้นอาจจะยิ่งกว่าแผ่นดินไหว!
  “โรงประมูลตำหนักโลหิตมีของแบบนี้ด้วยเรอะ?”
  หูหวังกุยที่นั่งอยู่ในห้องรับรองพิเศษเบิกตากว้าง
  ดวงตาของเขาเฉียบคมเขาไม่รอให้อาจารย์เกาประกาศก่อนจะตะโกนเสียงดัง
  “หอวิญญาณฟ้าของข้าต้องการผลึกเทพ!”
  ผู้คนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินพวกเขาคิด…หอวิญญาณฟ้าช่างหยาบช้านัก! อาจารย์เกายังไม่ได้ประกาศเริ่มประมูลด้วยซ้ำ!
  แต่มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าโต้แย้งเพราะหอวิญญาณฟ้าได้กลายเป็นร้านโอสถลำดับหนึ่งของเมืองเทียนหยาไปแล้ว ไม่มีใครกล้าจะผลีผลามออกไป..novel-lucky
  “หอวิญญาณฟ้ารึ?ข้าไม่เห็นรู้จัก…แต่ตำหนักเมฆาม่วงของพวกเราต้องการมัน!”
  เสียงหวานๆของสตรีดังขึ้น
  ผู้คนตกใจและคิดอย่างไม่เชื่อหู…แม้แต่คนจากตำหนักเมฆาม่วงก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?
  แต่เมื่อพวกเขาคิดจนถี่ถ้วนก็สรุปได้เพราะถึงเขตกลางจะเพ่งเล็กตำหนักโลหิตอย่างดุดันอย่างฝ่ายเดียว มันก็จะส่งผลต่อการค้าของตำหนักเมฆาม่วงในเมืองเทียนหยาด้วย พวกเขาจึงมองข้ามงานนี้ไม่ได้!
  ส่วนเรื่องที่ตำหนักเมฆาม่วงส่งใครมานั้นมิอาจทราบได้พวกเขาเห็นแค่เพียงว่าเจ้าของเสียงเป็นสตรีน่ารักที่มีร่างกายสง่างาม ส่วนใบหน้าของนางปิดบังไว้ด้วยม่านคลุมสีขาวซึ่งปิดบังตัวตนของนางไว้
  “ข้าก็อยากได้ผลึกเทพเกรงใจข้าสักหน่อยจะได้หรือไม่?”
  เสียงเบาๆดังถึงหูทุกคนมันเป็นเสียงหวานที่ไพเราะน่าฟัง
  ผู้คนหันไปมองสตรีวัยกลางคนผู้งดงามนางดูอิ่มเอมและใจเย็น แต่ก็ดูมีเกียรติอย่างมากเช่นกัน มันสื่อถึงฐานะสูงส่งของนาง
  “แม่นางหลิง!”
  มีคนอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจสตรีผู้นี้คือแม่นางหลิง เจ้าของโรงประมูลเทียนหยา!
  “โรงประมูลเทียนหยามาด้วยตัวเองเชียวรึ?งานประมูลนี้จะไม่เกินไปหน่อยหรือ?”
  มีคนรู้สึกว่างานประมูลครั้งนี้เริ่มแปลกๆ
  เพราะแม่นางหลิงนั้นคือผู้ที่มีอำนาจอย่างมากและไม่ได้พบเห็นได้ง่ายๆทุกคนสงสัยว่าเหตุใดนางถึงมาชมการต่อสู้ทางการค้าระหว่างตำหนักโลหิตกับเขตกลาง ทุกคนเริ่มสัมผัสได้ว่าจะต้องมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังงานประมูลครั้งนี้อีก
  แม่นางหลิงเหลือบมองห้องรับรองพิเศษทั้งหมดบนชั้นสองนางยิ้มอย่างน่าดึงดูด ผลึกเทพนั้นยังไม่ถูกประกาศให้ประมูลแต่ก็มีสามสำนักใหญ่เริ่มแย่งชิงกันแล้ว!
  เหล่าแขกที่อยากจะแข่งกันประมูลได้แต่รู้สึกโศกเศร้าถึงพวกเขาจะโชคดีพอที่จะได้ซื้อมัน พวกเขาก็อาจจะไม่กล้าออกจากโรงประมูลด้วยซ้ำ! เพราะผลึกเทพนั้นล้ำค่าเกินกว่าต้นหอมอำพันสามรากมากนัก!
  อาจารย์เกายิ้มและพูดอย่างใจเย็น
  “ทุกท่านไม่ต้องรีบร้อนเศษผลึกนี้มีขนาดเท่ากองทราย มันอาจจะมีความทรงจำของเซียนมณีอยู่เพียงน้อยนิด นางมีชีวิตยาวนานกว่าหมื่นปี นางใช้ชีวิตอยู่กับการบ่มเพาะพลังโดยไม่มีความคิดใดแล่นผ่านสมอง ผลึกเทพนี้อาจจะว่างเปล่าก็ได้! ข้าไม่อยากให้พวกท่านมีความหวังมากนัก”
  ทุกคนรู้เรื่องนี้ดีและก็รู้ว่ามีความเป็นไปได้ที่เศษผลึกเล็กขนาดนี้อาจจะไม่มีสิ่งใดเลยก็ได้แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น มันก็คือความเสี่ยงที่พวกเขาต้องแบกรับ พวกเขายังนับว่ามันคุ้มค่าในการต่อสู้แย่งชิง
  “ข้าคงไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว…ข้าขอประมูลของชิ้นนี้ ณ บัดนี้ ราคาเริ่มต้นคือหนึ่งแสนดวง!”
  อาจารย์เกาประกาศเสียงดัง
  หูหวังกุยแววตาเฉียบคมเขาเร่งราคาขึ้นทันที
  “สองแสน!”
  หลังจากเขาเพิ่มราคาขึ้นทันทีไปหนึ่งเท่าหลายคนที่อยากจะลองเสี่ยงโชคก็หุบปากไปอย่างไม่เต็มใจ พวกเขามิอาจเอื้อมถึงอีกแล้ว
  “สามแสน!”
  สตรีลึกลับจากตำหนักเมฆาม่วงส่งเสียงเบาๆ
  แม่นางหลิงมองทั้งสองคนและพูดอย่างใจเย็น
  “พวกเจ้าอย่ามายุ่งจะดีกว่าไม่ว่าพวกเจ้าจะให้ราคาเท่าไหร่ ข้าจะเพิ่มไปอีกหนึ่งแสน”
  เมื่อได้ยินคำพูดอันหนักแน่นของนางผู้คนได้แต่ยอมรับ สมกับที่เป็นเจ้าของโรงประมูลเทียนหยา นางพกความมั่นใจมาเต็มอก! ไม่ว่าราคาของผลึกเทพจะพุ่งขึ้นสูงไปเท่าใด ผลึกเทพก็จะถูกหย่อนลงกระเป๋าของแม่นางหลิง
  สตรีลึกลับจากตำหนักเมฆาม่วงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบเบาๆ
  “เช่นนั้นก็แข่งกันต่อไปโดยไม่ต้องมมีข้าข้าขอถอนตัวจากของสิ่งนี้”
  หูหวังกุยจ้องมองแม่นางหลิงและหรี่ตา
  “ทำไมนางถึงล้มเลิกเล่า?”
  หลังจากครุ่นคิดหูหวังกุยไล่ราคาต่อไป
  “สี่แสน!ถ้าเจ้าให้ราคามากกว่านี้ข้าก็ยอมแล้ว”
  “ห้าแสน!ว่าอย่างไร…ยังมีใครอีกหรือไม่? มีไหม?”
  แม่นางหลิงถามพร้อมกับมองทุกคนรอบๆ
  ทุกคนได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นไม่มีใครสามารถแข่งความร่ำรวยกับเจ้าของโรงประมูลเทียนหยาได้เลย
  เมื่อเห็นดังนั้นอาจารย์เกาพยักหน้า ผลึกเทพถูกขายในราคาห้าแสนดวง! มันสูงกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้…ไปประมาณหนึ่งแสนดวง!