ตอนที่ 113 รุกถอยฉับไว 

 

 

 

 

 

หงหลิงเอ๋อร์ซึ่งรอดูเรื่องสนุกอยู่ในห้องเหลือบมองถงถงเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า 

 

 

“ข้าบอกแล้วว่าเจ้าเด็กเวรนี่ไม่ธรรมดา โง่จริง รู้แค่อุบายตื้นๆ อย่างนี้ กะว่าจะให้เจ้าเล่นงานนางสักหน่อยก็ยังทำไม่ได้ ไม่เอาไหนจริงๆ” 

 

 

หงหลิงเอ๋อร์ปฏิบัติต่อถงถงเอ๋อร์อย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย กระทั่งอาจใช้คำว่าเลวร้ายก็ว่าได้ แม้ถงถงเอ๋อจะเกลียดชังแต่ก็จำเป็นต้องรับไว้ทั้งหมด นางจ้องมองถังเฉียน กลับโยนความคับแค้นใจทั้งหมดไปที่ถังเฉียน 

 

 

“ศิษย์พี่ ข้าคืออาหรูน่า เข้าไปได้หรือไม่” 

 

 

ถังเฉียนรู้สึกว่าตนเองควรจะระวังตัวดีกว่า ไม่รู้ว่าตนเองละเมิดข้อห้ามอะไรของอีกฝ่ายหรือไม่ จึงไม่กล้าที่จะขยับตัว 

 

 

แต่การที่นางระวังตัวเช่นนี้ ในสายตาของหงหลิงเอ๋อร์กลับมองว่าถังเฉียนเป็นคนเจ้าเล่ห์นัก 

 

 

“เข้ามาเถอะ ศิษย์พี่แค่ล้อเล่นกับศิษย์น้องเท่านั้น” 

 

 

หงหลิงเอ๋อร์ลุกขึ้นผละออกไป ทิ้งสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนไว้ให้ถงถงเอ๋อร์ นางมองดูถังเฉียน พลางสวมหน้ากากบุปผาทองสามดอกที่เพิ่งได้มา 

 

 

“ข้าเป็นศิษย์พี่หกของเจ้า ถงถงเอ๋อร์ อาจารย์ไปข้างนอกหลายวัน กำชับข้าเป็นพิเศษให้ถ่ายทอดวิธีนั่งสมาธิรับไอทิพย์จากฟ้าดินให้เจ้า ถึงแต่ก่อนเจ้าศึกษาหมอผีสมุนไพร หากแต่เวลานี้ถือว่าเจ้าเป็นหงส์ทองที่บินออกมาจากรัง เกรงว่าเจ้าจะยังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ของหมอผีศักดิ์สิทธิ์เช่นเรา” 

 

 

ถังเฉียนค้อมคารวะทันที แล้วพูดว่า 

 

 

“ถ้าเช่นนั้นทำตามที่ศิษย์พี่บอกก็แล้วกัน” 

 

 

ถงถงเอ๋อร์ได้ฟังเช่นนี้ก็รู้สึกแปลกใจ แล้วพูดว่า 

 

 

“เจ้าพูดแปลกๆ เหตุใดฟังดูเหมือนชาวเซวียนกั๋วที่เจ้าคารม ไม่เหมือนหญิงสาวชาวม้งเช่นเรา” 

 

 

ถังเฉียนนึกขั้นได้ทันที ดินแดนเผ่าม้งไม่พูดจาตามแบบแผนอย่างนี้ นางแอบกัดลิ้น แล้วพูดว่า 

 

 

“ระยะนี้อยู่กับท่านอ๋องนาน เลยติดมาบ้าง คิดว่าศิษย์พี่ผ่านประสบการณ์มามาก บางทีคงจะพูดกันอย่างนี้” 

 

 

ฮ่าฮ่า… 

 

 

ถงถงเอ๋อร์ถูกหงหลิงเอ๋อร์กดขี่มาโดยตลอด ฟังแต่คำพูดเลวร้ายและขัดหู กลับคิดไม่ถึงว่าเวลานี้มีถังเฉียน ถึงกับได้ยินคนบอกว่านางเป็นคนที่ผ่านโลกมามาก 

 

 

“นับว่าเจ้าเป็นคนฉลาดมีไหวพริบ มิน่าเล่าอาจารย์จึงเอ็นดูเจ้ามาก อ่านหนังสือเล่มนั้นแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง รู้ว่าเจ้ามีพรสวรรค์ไม่มากพอ คงต้องพยายามมากหน่อย” 

 

 

ถังเฉียนได้ฟังเช่นนี้ก็รู้สึกว่าศิษย์พี่ผู้นี้อ่อนโยนใจดี ศิษย์ร่วมสำนักกันควรจะคอยช่วยเหลือกัน นางจึงรู้สึกผิดมากขึ้นต่อความเข้าใจผิดเมื่อวาน 

 

 

ต้องเป็นวิญญาณร้ายรังควานเป็นแน่ หรืออาจเป็นภาพหลอนกลางวันแสกๆ จะอย่างไรก็เป็นอาจารย์ไปไม่ได้ 

 

 

ถังเฉียนปลอบใจตัวเองเช่นนี้ นางเป็นเด็กสาวที่มีความอดทน พลังทิพย์ของนางไม่แข็งกล้าพอ จึงนั่งสมาธิเพื่อสัมผัสกับไอทิพย์ของฟ้าดินมาเพิ่มพลังให้ตัวเอง 

 

 

ดังนั้นนอกจากเรื่องที่นางต้องทำแล้ว นางจะนั่งสมาธิ แม้แต่เสี่ยวจินก็รู้สึกถึงความทุ่มเทของนาง ยังบินออกมาเกาะที่นิ้วถังเฉียนเพื่อดูดรับพลังทิพย์ด้วย ทุกครั้งที่นั่งสมาธิ นางจะรู้สึกถึงมังกรสองตัวซ้ายขวาหายใจเข้าออกตามนางไปด้วย 

 

 

ทุกวันถงถงเอ๋อร์จะมาตรวจดูความก้าวหน้าของถังเฉียน หลายวันนี้พูดได้ว่านางก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทุกวันจะรู้สึกว่าสภาพจิตใจตัวเองสมบูรณ์เต็มที่ แขนเปี่ยมด้วยพละกำลัง รู้สึกว่าสมองแจ่มใสปลอดโปร่งขึ้นมาก 

 

 

ถงถงเอ๋อร์บอกกับถังเฉียนว่านางทำได้ดีมาก แต่สายตาที่มองดูถังเฉียนกลับดุร้ายขึ้น 

 

 

ราวกับว่าดอกไม้ใบหญ้าบนโลกใบนี้ล้วนชัดเจนขึ้นกว่าแต่ก่อน 

 

 

“ที่แท้ที่นี่ช่างงดงามเช่นนี้เอง” 

 

 

ถังเฉียนนั่งสมาธิที่เรือนฮั่นต้านทุกวัน ฮว่าเหยียนยืนอยู่ที่ประตู มองดูท่าทางมุมานะของนาง สีหน้าแสดงอาการดูถูก อีกาบนต้นกุ้ยตัวนั้นส่งเสียงร้อง ฮว่าเหยียนเงยหน้าขึ้นมอง ในดวงตาฉายแววอำมหิต