บทที่354
ผู้แปล : N.
“มา! เดียวฉันจะช่วยนายเลือกสูทที่จะใส่เอง” บนชั้นแรกของเรือสำราญมันเต็มไปด้วยเครื่องแต่งกายสีสันสดใสมากมาย ที่พร้อมให้ผู้เข้าร่วมงานได้เลือก
เพื่อเพิ่มความสนุกสนานของงานในครั้งนี้ ธีมของงานจึงเป็นแบบย้อนยุค โดยที่ทางเจ้าภาพงานได้ทำการเตรียมชุดในสมัยโบราณจำนวนมากเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย.
ซูเฉิงนั้นเธอเลือกสวมชุดกี่เพ้า โดยที่ตัวชุดนั้นเป็นสีน้ำเงินตัดกับสีขาว และยังมีรายปักรูปดอกบัวสีขาวบานสะพรั่งอยู่บนตัวผ้า มันจึงทำให้ชุดนี้สง่างามและมีเกียรติอย่างมาก
ด้วยรูปร่างที่สุดจะเซ็กซี่ของเธอ มันเป็นการจับคู่ที่ลงตัวอย่างมาก
“ พี่ดูสวยมากในชุดกี่เพ้าแบบนี้!” ลูชินได้พูดชื่นชมออกมาจากใจทันทีที่เห็น
ไม่ใช้ว่าผู้หญิงทุกคนจะสามารถใส่ชุดกี่เพ้าได้ การที่จะใส่ชุดกี่เพ้าให้ดูดีได้นั้น พวกเธอจะต้องมีสี่องค์ประกอบที่สำคัญ ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป จะทำให้พวกเธอนั้นหมดสิทธิ์ทันที
และองค์ประกอบที่ว่านั้นก็คือ หน้าอกที่มีขนาดพอดีไม่ใหญ่เกินไปและไม่เล็กเกินไป, เอวบาง, ขายาว, และที่สำคัญที่สุดคือสะโพกจะต้องได้รูป, ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ จึงทำให้หาผู้หญิงที่จะใส่ชุดกี่เพ้าแล้วดูดีนั้นได้ยากเป็นอย่างมาก!
และเมื่อกี้นี้ เขาเองก็เผอิญเห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดกี่เพ้าเช่นกัน ถึงแม้ว่าเธอจะสวมรองเท้าที่ประดับด้วยเพชรมากมาย แต่เขากับไม่รู้สึกว่าเธอจะสวยเลย
“ลูชิน! ตอนนี้เป็นตาของนายที่จะต้องเลือกชุดแล้ว” ซูเฉิงไม่ได้แค่พูดเท่านั้น ระหว่างที่เธอพูดออกมานั้น เธอก็ได้เดินเข้าไปเลือกชุดให้กับลูชินแล้ว
“นายอยากจะแต่งเป็นนักเรียนในโรงเรียนขงจื้อไหม? หรือว่านายอยากจะแต่งเป็นนายพลจงซานดี? หรือชุดขุนนางก็ดูดีนะ?…” ระหว่างที่เธอพูดนั้น เธอก็ได้นำชุดมาทาบกับลูชินไปด้วย: “อ่า! ฉันคิดว่าชุดขุนนางมันเข้ากับนายที่สุดนะ!”
หลังจากที่ลูชินได้ยินแบบนั้น เขาก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เขาตรงเข้าไปหยิบชุดที่เธอเลือก ก่อนที่เขาจะไปเปลี่ยนชุด
เมื่อลูชินเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว มันก็เหมือนกับว่าบุคลิกของเขาเองก็ได้เปลี่ยนตามชุดที่สวมใส่เช่นกัน ตอนนี้เขาดูสุขุมมากขึ้นและเขายังดูมีชาติตระกูลอีกด้วย
“ไม่เลวเลย!” ซูเฉิงไม่สามารถหาคำมาบรรยายความรู้สึกที่เธอรู้สึกตอนนี้ได้ดีไปกว่าคำนี้อีกแล้ว และเธอยังไม่ลืมที่จะนำโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาเพื่อถ่ายรูปเขาเก็บเอาไว้
ระหว่างทางที่ลูชินเดินมานั้น เขาสังเกตว่าการจัดเตรียมงานนั้นดูเหมือนจะย้อนยุคเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะกินเลี้ยง โคมไฟเคลือบสีสันต่างๆ, โต๊ะและเก้าอี้ไม้แกะสลักด้วยมือ, แผ่นเสียง, ฯลฯ มันราวกับว่าตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในยุคสมัยอื่นที่ไม่ใช้สมัยปัจจุบันเลย
“คุณลู, คุณซู, ยินดีต้อนรับครับ” พนักงานตอนรับตรงหน้าประตูได้พูดทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้มอย่างมืออาชีพ
เมื่อพวกเขาเดินมาถึงหน้าประตู ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับงานเริ่ม และเพื่อที่จะไม่เป็นที่สงสัยมากเกินไป ซูเสียวและลูชินได้ตกลงกันไว้ว่า ตลอดงานนี้พวกเขาจะแกล้งเป็นคู่รักกัน ดังนั้นเธอจึงได้พูดขึ้นว่า: “ที่รัก! คุณอยากจะเต้นรำกับฉันไหม?”
“แน่นอนสิ!” ลูชินได้พยักหน้าตอบรับเล็กน้อย
ที่ลูชินกล้าที่จะทำแบบนี้ ก็เนื่องมากจากเขารู้ว่าในงานนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้จักเขา เพราะก่อนหน้านี้นั้นเขาไม่เคยออกงานหรือให้สัมภาษณ์กับพวกสื่อข่าวมาก่อน
ดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่าจะไม่มีใครในงานนี้ที่จะรู้จักเขาได้ และถึงแม้ว่าจะมีคนคนนั้นรู้จัดเขาก็จะไม่มีทางนำเรื่องของเขาไปพูดทีอื่นอย่างเด็ดขาด
“คุณคือประธานลูใช้ไหม?” ในขณะที่ลูชินกำลังชื่นชมกับภาพเขียนชื่อดังบนผนังอยู่นั้นเอง ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา
ลูชินเองก็ได้หันไปรอบๆ ก่อนที่เขาจะพบกับชายหนุ่มสวมเสื้อคลุมสีดำ พร้อมกับหมวกทรงสูงสีดำ ที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่ด้านหลังของเขาพอดี
และถัดจากเขาไปไม่ไกลก็มีผู้หญิงที่สวยมากอยู่คนหนึ่ง ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นดารา
ส่วนชายคนที่ทักเขานั้น ลูชินก็เหมือนจะรู้จักอยู่เล็กน้อย ถ้าเขาจำไม่ผิดในช่วงสองปีมานี้ เขาได้ทำการไลน์สดจำนวนมาก และส่วนใหญ่เนื้อหาที่เขาไลน์สดนั้นก็เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทของเขาเช่นกัน
ชื่อของชายคนนี้คือ จางไกค์ ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยเป็น “เน็ตไอดอล” ยอดนิยมในเวยเป๋อ นอกเหนือจากความนิยมแล้ว เขาเองก็ถือว่าเป็นคนที่มีความมั่งคั่งเป็นพิเศษเช่นกัน โดยที่ครอบครัวของเขาประกอบธุรกิจจำนวนมาก และเขาเองก็ยังเป็นดาวเด่นของผู้ประกอบการรุ่นใหม่เช่นกัน
แต่ลูชินเองก็ไม่ได้ถือว่าคุ่นเคยกับเขามาก่อน ถึงแม้ว่าครอบครัวของเขาจะทำธุรกิจจำนวนมาก แต่ธุรกิจที่พวกเขาทำนั้นก็ไม่เคยเกี่ยวข้องกัน
“คุณคงเป็นจางไกค์! ยินดีที่ได้รู้จัก!” ลูชินได้ทักทายออกไปพร้อมกับการจับมือแบบเรียบง่าย
จางไกค์ที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดว่า: “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ประธานยักใหญ่อย่างคุณลูชินรู้จัดชื่อของผมด้วย “
“ฮาฮาฮา! ก็คุณเป็นถึงเน็ตไอดอลชื่อดังนี้น่า จะไม่ให้ผมรู้จัดคุณได้ยังไงกัน”
“ คุณรู้ไหมว่าผมนั้นอยากเจอคุณมานานแล้ว แต่ผมก็ไม่เคยมีโอกาสซักที ผมไม่คิดเลยว่าจะมาเจอคุณในงานแบบนี้ วันนี้มันเจ๋งมากเลย!” จางไกค์เองก็ถือว่าเป็นคนสบายๆ และเมื่อเขาได้ฟังการพูดของลูชินก่อนหน้านี้ก็รู้ว่าอีกฝ่ายก็เป็นคนสบายๆเช่นเดียวกัน ดังนั้นการพูดครั้งนี้ของเขาจึงทำให้ดูไม่เป็นทางการมากนัก
“คุณรู้ไหมว่าผมนั้นถือเป็นแฟนตัวยงของบริษัทของคุณเลย ไม่ว่าคุณจะทำอะไรออกมาขาย ผมก็ซื้อเก็บเอาไว้หมด!” จางไกค์พูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“ฮาฮาฮา! ผมรู้แล้วว่าคุณไกค์นั้นเป็นแฟนคลับตัวยงของผม ผมดูคุณไลน์สดอยู่บ่อยๆ” ลูชินยังได้พูดทีเล่นทีจริงว่า “แล้วคุณสนใจอยากมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ตัวผลิตภัณฑ์ของผมไหมละ?”
“ฮ่าฮ่า! ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็คงจะตอบตกลงไปแล้วละ แต่ตอนนี้ผมต้องช่วยงานของครอบครัว มันจึงไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณให้ค่าจ้างที่มากพอ ผมก็อาจจะคิดดูก็ได้ ฮาฮาฮา!” จางไกค์เองก็พูดติดตลกออกมา
พวกเขาทั้งสองคนได้พูดกันอย่างสนุกสนาน จนเพื่อนผู้หญิงที่จางไกค์พามาด้วยนั้นเกิดสนใจขึ้นมา:“ พี่ใหญ่! คนนี้เป็นใครเหรอ?”
ผู้หญิงที่ถามนั้น เธอได้แต่งตัวเป็นนักเรียนหญิงในสาธารณรัฐประชาชนจีน ต้องถือว่าสายตาการเรียกชุดของเธอนั้นสุดยอดมาก เพราะมันทำให้เธอดูบริสุทธิ์และเหมือนกับเทพธิดายังไงยังงั้น
แต่ดูเหมือนว่าจางไกค์จะไม่ได้สนใจเธอเลย เขายังคงพูดกับลูชินต่อไป และลูชินเองก็ไม่อยากให้เรื่องที่เขามาที่นี้ให้คนอื่นรู้มากเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้สนใจที่จะตอบคำถามของเธอ และพวกเขาก็ยังคงพูดคุยกันต่อไป
“หลินหลิน!” จางไกค์หันไปหาผู้หญิงที่ถามคำถามก่อนหน้านี้ แล้วก็พูดขึ้นว่า: “เธอไปเดินเล่นก่อนนะ! พอดีฉันเจอต้องอยู่คุยกับเพื่อนใหม่คนนี้ต่ออีกเล็กน้อย!”
ดาราหญิงที่ได้ฟังแบบนั้น ก็รู้แล้วว่าคนที่คุยกับจางไกค์นั้นต้องเป็นคนใหญ่คนโต เธอจึงได้ยอมเดินจากไปอย่างเงียบๆ
“ผมลืมถามคุณลูไปเลย วันนี้คุณมางานกับใครกัน? “จางไกค์ที่เพิ่งจะสังเกตเห็นว่าข้างตัวลูชินไม่มีผู้หญิงอยู่ด้วย เขาจึงทนไม่ได้ที่จะถามออกมา
“เอ้อ! ผมมากับซูเฉิง เห็นว่าเธอจะไปหาเพื่อนๆ ผมเลยขอตัวมารออยู่บริเวณนี้ ” ระหว่างที่ลูชินตอบกลับไปนั้น พวกเขาทั้งสองก็ได้เดินขึ้นไปยังชั้นบนด่านฟ้าเรื่อเป็นที่เรียบร้อย
เรือสำราญที่ลูชินขึ้นมานั้น มีความสูงถึงห้าเมตรดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่ตัวเรื่อจะถูกแบ่งออกมาถึงแปดชั้นและมีพื้นที่ขนาดใหญ่พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทุกประเภท เช่น ห้องเต้นรำ บาร์นักร้อง สระว่ายน้ำพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ คาสิโน และพื้นที่ส่วนตัว
“โอ้! มันกลายเป็นว่าคุณมากับประธานซู! ผมเริ่มจะเดาอะไรได้แล้ว … ” จางไกค์พูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่นเล็กน้อย: “ถ้าเป็นผมผมก็คงจะเลือกเธอ เพราะเธอนั้นเป็นคนที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลย!”
พวกเขายังคงเดินไปคุยกันไป จนพวกเขามาถึงตรงด้านหน้าของด่านฟ้าเรื่อ ก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้าไปโซนที่นั่งตัวหนึ่งพร้อมกับดื่มไวน์ชมบรรยากาศ
“ นี่เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดบนเรือลำนี้” จางไกล์ได้พูดแนะนำออกมา
“อ่า! ที่คุณพูดแบบนี้แสดงว่าคุณคงเป็นหนึ่งในผู้จัดงานเลี้ยงค็อกเทลเพื่อการกุศลครั้งนี้ใช้ไหม?” ลูชินถามออกมา
“ ฮาฮาฮา! คุณลูสามารถพูดแบบนั้นได้” จางไกล์พยักหน้า “ ถ้าผมรู้ก่อนหน้าว่าคุณจะมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ผมคงจะจัดผู้หญิงสวยๆซักสองสามคนมาเป็นเพื่อนคุยของคุณด้วย”