ตอนที่ 115 ผู้มีประสบการณ์สูง 

 

 

 

 

 

หงหลิงเอ๋อร์ไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อยว่าเรื่องนี้เป็นความจริง แต่อีกไม่ช้าอาจารย์จะกลับมาแล้ว ก่อนหน้านั้นนางจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่าง ไม่เช่นนั้นนางก็จะถูกปิดบังความจริง ถูกคนอื่นเล่นงาน 

 

 

“ไม่ได้ ข้าต้องไปดูด้วยตัวเองให้ได้ ถ้านางเป็นอย่างนั้นจริง อย่างนั้นคืนนี้ก็ถึงคราวตายของนางแล้ว” 

 

 

ดวงตาของหงหลิงเอ๋อร์ฉายแววอำมหิตออกมา ท่าทางริษยาอย่างบ้าคลั่งทำให้ใบหน้านางดูน่ากลัว ถงถงเอ๋อร์กระซิบอะไรบางอย่างข้างหูนาง ทำให้หงหลิงเอ๋อร์สงบใจลงชั่วคราว 

 

 

ถังเฉียนกำลังค้นคว้ากิ่งไม้ทองใบไม้หยกอันนั้นอยู่ในห้อง ถังเฉียนกรอกน้ำพุถังหมิงลงไป แล้วเอากิ่งไม้ทองปักลงไป แต่ผ่านมาเจ็ดวันแล้ว ไม่เพียงใบร่วงเท่านั้น ซ้ำยังไม่มีใบงอกออกมา 

 

 

“ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป ถึงปีหน้าเสี่ยวจินของข้าก็ยังไม่ได้กินกิ่งไม้ทองใบไม้หยก เห็นชัดว่าของวิเศษอย่างนี้ไม่มีไว้ให้คนธรรมดาอย่างข้า” 

 

 

เดิมถังเฉียนตั้งใจจะเอากิ่งไม้ทองใบไม้หยกไปหาถงถงเอ๋อร์ เพราะอย่างไรนางก็เป็นศิษย์พี่ของตน เป็นคนมีประสบการณ์มากกว่า บางทีอาจจะรู้ว่าจะช่วยทำอย่างไรให้ใบงอกเร็วขึ้นได้ แต่อาจารย์กำชับไว้ว่าไม่ให้เอาของสิ่งนี้ให้คนเผ่าหมอผีดู ถังเฉียนคิดทบทวน แล้วนึกถึงคนที่น่าเชื่อถือคนหนึ่ง 

 

 

นางฉวยโอกาสที่ทำแผลให้ฉู่จิ่งเหยา ใส่กิ่งไม้ทองใบไม้หยกในถุงสีดำใบใหญ่ไปพบเขา ในจวนอ๋องคนที่มีประสบการณ์สูงและมีความรอบรู้มากและไม่ใช่เผ่าหมอผี แต่เป็นคนที่ถังเฉียนไว้ใจได้ นางคิดทบทวนแล้ว ก็มีแต่เขาเท่านั้น 

 

 

“หมอผีน้อยได้ของล้ำค่ามาหรือ” 

 

 

ฉู่จิ่งเหยาเห็นท่าทางระมัดระวังของถังเฉียนก็อดที่จะพูดหยอกล้อนางไม่ได้ หลายวันมานี้อาการของเขาดีขึ้นมาก ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนใหญ่เป็นผลงานของถังเฉียน ขณะที่ร่างกายเขาเองก็มีประสิทธิภาพในการฟื้นตัวได้ดี 

 

 

“ของล้ำค่าก็คือของล้ำค่า แต่ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงให้รอดได้อย่างไร ท่านอ๋องพบเห็นอะไรมามาก ท่านลองช่วยดูให้ข้าหน่อยเถิด อาจจะช่วยแนะนำได้บ้าง” 

 

 

ถังเฉียนค่อยๆ หยิบกิ่งไม้ทองออกมาจากอกเสื้อ รวมทั้งขวดน้ำพุถังหมิงแล้วยื่นให้ พร้อมกับเล่าคำพูดของอาจารย์ให้เขาฟัง ฉู่จิ่งเหยามองดูกิ่งไม้ทองอันนั้นแล้วพูดว่า 

 

 

“แมลงปีศาจที่เลือกกิน กิ่งไม้ทองใบไม้หยก หมอผีอย่างพวกเจ้ามีเรื่องแปลกพิสดารมากเสียจริงนะ ข้าเองก็เคยได้ยินเรื่องกิ่งไม้ทองใบไม้หยกมาบ้าง แต่ไม่เคยเห็นมาก่อน” 

 

 

ฉู่จิ่งเหยาพูดพลางยื่นมือมาลูบกิ่งไม้ทอง แต่พอเขายื่นมือเข้าใกล้ก็เผลอถูกหนามบนกิ่งไม้ท้องทิ่มเป็นแผล เลือดหยดลงบนกิ่งไม้ทอง ทันใดนั้นก็มีใบอ่อนสีเขียวงอกออกมา ขณะที่กิ่งอื่นๆ ก็เริ่มเป็นสีเขียว 

 

 

“เกิดอะไรขึ้น หรือว่าต้องเลี้ยงมันด้วยเลือด” 

 

 

ถังเฉียนขยับเข้ามาใกล้ จ้องมองกิ่งไม้ทองใบไม้หยกอันล้ำค่าของนาง แล้วมองดูเลือดบนมือฉู่จิ่งเหยา แล้วยกมือข้างนั้นขึ้นเตรียมจะบีบเลือดหยดใส่ บังเอิญเจิ้งจยาเฉิงเข้ามาเห็นเหตุการณ์นี้พอดี เขาจึงตะคอกว่า 

 

 

“หมอผี บังอาจ!” 

 

 

ถังเฉียนสะดุ้ง แต่ยังกุมมือฉู่จิ่งเหยาแน่น เจิ้งจยาเฉิงตรงปรี่เข้ามา ฉู่จิ่งเหยายกมือขึ้นห้ามพลางพูดว่า 

 

 

“อย่าโทษนาง ข้าไม่ระวังจึงถูกหนามทิ่มเอง ดูแล้วของชิ้นนี้พิเศษมาก”  

 

 

เจิ้งจยาเฉิงยิ่งร้อนใจ แต่ดูเหมือนฉู่จิ่งเหยาจะไม่ใส่ใจ ยังคงหยดเลือดลงไป มีใบไม้งอกออกมาอีกใบ 

 

 

ถ้าเจิ้งจยาเฉิงไม่อยู่ที่นั่น ถังเฉียนคงจะกระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ 

 

 

“ดีจัง ท่านอ๋องเก่งจริงๆ” 

 

 

ฉู่จิ่งเหยาค่อยๆ ดึงมือกลับ แล้วจ้องมองเจิ้งจยาเฉิงอย่างเจตนา จนทำให้เจิ้งจยาเฉิงต้องถอยออกไปด้วยสีหน้าห่อเ**่ยว ถังเฉียนหยิบกิ่งไม้ทองใบไม้หยกขึ้นมา เตรียมจากไป แต่เดินไปเพียงสามก้าว ใบไม้ก็ม้วนเข้าหากัน ท่าทางเหมือนจะเฉาตาย 

 

 

“หรือว่าเจ้าต้องพึ่งท่านอ๋อง”