ตอนที่ 116 ผู้มีพระคุณ 

 

 

 

 

 

ถังเฉียนหันกลับมาวางกิ่งไม้ทองใบไม้หยกไว้ตรงหน้าฉู่จิ่งเหยา เกิดเรื่องน่าอัศจรรย์ขึ้น ใบไม้คลี่ตัวออก าวกับกำลังบิดขี้เกียจ ฉู่จิ่งเหยายิ้มเมื่อเห็นเช่นนั้น แล้วพูดว่า 

 

 

“เจ้าคงต้องรอให้ใบมันร่วงจึงจะใช้ได้ใช่หรือไม่ อย่างนั้นก็ตั้งไว้ที่นี่เถิด ข้ารับประกันว่านอกจากเจ้าแล้วจะไม่มีใครได้แตะต้อง จะอย่างไรเจ้าก็มาดูทุกวันอยู่แล้ว ถ้าหายไป เจ้ามาขอให้ข้าชดใช้ก็ย่อมได้” 

 

 

ถังเฉียนดูท่าทางฉู่จิ่งเหยา ใบหน้ายิ้มแย้ม ยื่นมือไปแตะใบของกิ่งไม้ทองใบไม้หยกเล่นเบาๆ ถังเฉียนพยักหน้าแล้วว่า 

 

 

“ท่านอ๋องเป็นยอดวีรบุรุษที่คนนับหมื่นเคารพยกย่อง อาหรูน่าไว้ใจท่านอ๋อง อย่างนั้นก็ตั้งกิ่งไม้ทองใบไม้หยกไว้ในห้องหนังสือของท่านอ๋อง ต้องรบกวนท่านอ๋องช่วยดูแลเสบียงให้เสี่ยวจินของข้าด้วย” 

 

 

ฉู่จิ่งเหยาสีหน้าเรียบเฉย พูดกับนางว่า 

 

 

“เรื่องเล็กน้อย ห่างไกลจากบุญคุณที่เจ้าเคยช่วยชีวิตข้ามากนัก” 

 

 

ถังเฉียนมองแววตาของฉู่จิ่วเหยา ดวงตาของเขาช่างสวยงามจริง ใบหน้าเปี่ยมด้วยความอาจหาญเยี่ยงวีรบุรุษ แม้แต่เวลายิ้มก็ยังคงดูองอาจเคร่งขรึม ยากที่จะจินตนาการถึงท่วงท่าขณะที่เขาบัญชาการทหารนับหมื่น สำหรับถังเฉียนแล้วจินซิวอ๋องคือผู้ที่คู่ควรต่อการเคารพนับถือมากที่สุด 

 

 

ถังเฉียนมอบกิ่งไม้ทองให้เขา ค้อมคารวะแล้วผละออกมา นางรู้สึกอิ่มเอิบใจมาก แต่เจิ้งจยาเฉิงรออยู่นอกห้องด้วยความร้อนรนจนใบหน้าขาวซีด รอจนนางไปแล้วจึงรีบเข้าไปในห้อง พูดว่า 

 

 

“ท่านอ๋อง ฐานะนางยังไม่แน่ชัด ท่านไม่ควร…” 

 

 

“ชู่ว…” 

 

 

สายตาฉู่จิ่งเหยาอ้อมผ่านเจิ้งจยาเฉิงไปด้านหลังของเขา ฮว่าเหยียนยืนอยู่ที่ประตู นางกรอกตารอบหนึ่ง แล้วเดินเข้ามา 

 

 

“ท่านอ๋อง รบกวนแล้ว ฮว่าเหยียนมาส่งขี้ผึ้งยาและยาลูกกลอนให้ท่าน อาหรูน่าอายุยังน้อย อารมณ์ร้อน คงสร้างความลำบากให้ท่านอ๋องไม่น้อย ฮว่าเหยียนคิดว่าไม่ควรชักช้าต่ออาการป่วยของพระชายารอง ไม่เช่นนั้นแม่นางจื่อเย่ว์จะคอยมาเร่งเร้าไม่หยุด ทำให้นางร้อนใจเปล่าๆ เพคะ” 

 

 

ฉู่จิ่งเหยาเห็นฮว่าเหยียนจึงลุกขึ้นเชิญนางเข้ามาในห้อง ฮว่าเหยียนเพียงแต่วางของสองสิ่งลงบนโต๊ะ 

 

 

ฉู่จิ่งเหยาพูดว่า 

 

 

“ท่านหมอ ตั้งใจมาเพราะเรื่องนี้หรือ” 

 

 

มือฮว่าเหยียนวางทับกัน นางครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วพูดว่า 

 

 

“ความจริงมีเรื่องอื่นด้วย แต่เป็นเรื่องเล็กน้อย ฮว่าเหยียนเห็นว่าเวลานี้ท่านอ๋องไม่สะดวก ไว้วันอื่นค่อยพูดดีกว่า” 

 

 

ฉู่จิ่งเหยามองดูเจิ้งจยาเฉิงแล้วพูดว่า 

 

 

“ท่านหมอกล่าวมาเถอะ จยาเฉิงออกไปก่อน” 

 

 

“ท่านอ๋อง” 

 

 

“หือ” 

 

 

“ฮว่าเหยียนขออภัยด้วย ที่จริงเรื่องนี้ไม่ควรรบกวนท่านอ๋อง แต่ท่านก็คงดูออกแล้ว ลูกข้าคนนี้แม้จะมีนิสัยดื้อรั้นแต่เป็นเด็กที่มีน้ำใจ ตอนนางเป็นเด็กข้าเคยพาไปเซวียนกั๋ว เกิดป่วยหนัก ได้หมอที่นั่นช่วยรักษา ต่อมาได้ข่าวว่าหมอท่านนี้เกิดเรื่องกับผู้สูงศักดิ์ เวลานี้ถูกขังคุก ลูกข้าวิตกแต่ไม่กล้ารบกวนท่านอ๋อง…” 

 

 

เจิ้งจยาเฉิงแอบฟังที่ประตู นึกในใจว่านางตั้งใจพูดให้พวกเขาได้ยิน ก็ยิ่งรู้สึกสงสัยถังเฉียนยิ่งขึ้น แต่เขาไม่อาจอยู่ที่นี่ต่อได้ ฉู่จิ่งเหยากระแอมทีหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเป็นการเตือนเจิ้งจยาเฉิง 

 

 

ฮว่าเหยียนกวาดสายตาไปข้างนอก แล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า 

 

 

“ท่านอ๋อง ฮว่าเหยียนไม่กังวลเรื่องนี้ ใครๆ ก็รู้ว่าใต้เท้าเจิ้งคนใกล้ชิดของท่านอ๋องเป็นคนละเอียดรอบคอบที่สุด ฮว่าเหยียนเพิ่งมาถึงไม่นาน ก็มารบกวนท่านอ๋อง ไม่แปลกที่เขาจะไม่พอใจ” 

 

 

ฉู่จิ่งเหยายกมือขึ้นห้ามนาง เขายืนขึ้นแล้วพูดว่า 

 

 

“ท่านหมอ เหตุใดจึงพูดเช่นนี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าหมอผู้นั้นชื่ออะไร บ้านอยู่ที่ใด หากข้าสามารถหาพบ ย่อมต้องช่วยเหลือ” 

 

 

ฮว่าเหยียนยืนขึ้นกล่าวขอบคุณ แล้วพูดว่า 

 

 

“คนผู้นี้ชื่อถังหรงเจิน เคยรักษาคนอยู่ที่แถบเจียงเจ้อ บ้านเดิมเป็นคนที่ไหนข้าไม่อาจรู้ เพียงแต่ได้ยินว่าเขาเข้าวังเป็นหมอหลวง เดิมทีอาหรูน่าคิดจะช่วยดูแลลูกสาวของเขา คิดไม่ถึงว่าพอมาถึงก็หาพวกนางไม่เจอ คงเป็นเพราะโชคชะตาแท้ๆ”