เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 725
“รีบไปหาคน ไปหาทุกถนน ทุกบ้าน หาคนกลับมาให้ได้!”

ศิษย์พี่หานเฟิงหันมามองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน เรารออยู่ที่นี่เหรอ”

ลู่ฝานถือเสื้อผ้าของหลิงเหยา ลูบฝุ่นด้านบนเบาๆ จากนั้นส่งให้ศิษย์พี่หานเฟิงแล้วพูดว่า “มีฝุ่นเกาะแล้ว อย่างน้อยหลิงเหยาคงไม่ได้กลับมาสองสามวันแล้ว ขืนรอที่นี่ คงไม่เจอคนหรอก”

หานเฟิงพูดอย่างร้อนใจว่า “งั้นเราจะทำยังไง จะไปที่ไหน ฉันรู้สึกว่าคนพวกนี้เชื่อไม่ได้!”

ลู่ฝานมีแววตาประหลาด “ตามผู้เฝ้าเมืองคนนั้นไป เขาจะนำทางให้เรา”

หานเฟิงอึ้งเล็กน้อย จากนั้นหัวเราะออกมา “ศิษย์น้องลู่ฝาน ที่แท้นายดูออกนานแล้ว!”

ลู่ฝานยิ้มแล้วพยักหน้า จากนั้นทั้งสองคนใช้วิชากาย เด้งตัวขึ้นไปบนหลังคา จ้องผู้เฝ้าเมืองซ่งที่อยู่ไกลๆ

……

อีกด้านหนึ่ง ผู้เฝ้าเมืองซ่งรีบกลับมาด้วยความรีบร้อน

ผู้เฝ้าเมืองซ่งรีบร้อนคว้าองครักษ์มาหนึ่งคน “เด็กสองคนนั้นไม่ได้ตามมาใช่ไหม รีบให้ซ่งจงมาเจอฉัน!”

องครักษ์ออกไปอย่างรวดเร็ว สีหน้าผู้เฝ้าเมืองซ่งไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก เขากำหมัดครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกระชากองครักษ์อีกคนมาพูดว่า “แกรีบออกจากเมืองไปหาพลเอกเฟิงที่เขาอวี่ฮั่ว บอกเขาว่าฉันมีเรื่อง ให้เขาพายอดฝีมือมาช่วยฉัน มิตรภาพหลายปี เขาคงไม่อยากเห็นฉันตายเพราะเด็กน้อยสองคนหรอก!”

องครักษ์พยักหน้าแล้วพูดว่า “วางใจได้เลยครับคุณท่าน ผมจะไปเดี๋ยวนี้ จะพาพลเอกเฟิงกลับมาแน่นอนครับ”

ผู้เฝ้าเมืองซ่งกัดฟันพูดว่า “เด็กสองคนนี้น่าจะเป็นยอดฝีมือแดนปราณชีวิต อีกทั้งยังมีมังกรที่มีพละกำลังแข็งแกร่งมาก นายต้องพูดกับพลเอกเฟิงให้ชัดเจน ให้เขาพาคนมาให้พร้อม ไปเถอะ!”

องครักษ์หันหลังวิ่งไปทางประตูเมือง เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ความตกใจบนใบหน้าผู้เฝ้าเมืองซ่งจึงลดลงไปเล็กน้อย

ผู้เฝ้าเมืองซ่งรีบกลับมาที่จวนผู้เฝ้าเมือง แล้วตรงไปห้องหนังสือที่สวนหลังบ้านทันที

“ปิดประตูๆ ห้ามใครเข้ามา!”

ผู้เฝ้าเมืองซ่งผลักคนทั้งซ้ายขวาแล้วตะโกนด่าออกมา เห็นประตูห้องหนังสืออยู่ข้างหน้า มีคนยืนรอเขาอยู่

คนคนนี้หน้าตาใช้ได้ มีมีดสั้นอยู่ตรงเอว ตามีพลังคิ้วเหมือนดาบ ในแววตาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย ยกยิ้มมุมปาก ท่าทางเหมือนพวกสำมะเลเทเมา เขาคือซ่งจง คุณชายใหญ่ตระกูลซ่ง

“ลูกชายแสนดีของฉัน นายเป็นลูกชายที่ดีจริงๆ บอกพ่อมาว่าแกเอาหลิงเหยาไปซ่อนที่ไหน”

ผู้เฝ้าเมืองซ่งจับไหล่ซ่งจง แล้วเขย่าอย่างแรง

ซ่งจงพูดด้วยความตกใจว่า “หลิงเหยาเหรอ พ่อพูดอะไร หลิงเหยาอะไรกัน!”

เพียะ!

เสียงดังชัดเจน ผู้เฝ้าเมืองซ่งตบหน้าซ่งจง

“ถึงตอนนี้แล้ว ยังคิดจะโกหกฉันอีก ศิษย์พี่ของเธอมาหาถึงที่แล้ว แกคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องเลวๆ ที่แกทำเหรอ พวกแกสามพี่น้องเหมือนกันหมด ทำอะไรไม่เป็นนอกจากหาเรื่องให้ฉัน!”

สีหน้าซ่งจงอึมครึม

ทันใดนั้นซ่งจงถามว่า “พ่อ ศิษย์พี่ของเธอมาหาจริงเหรอ เป็นผู้ชายวัยรุ่นสองคน คนหนึ่งแบกกระบี่ใหญ่ ส่วนอีกคนถือกระบี่สีครามหรือเปล่า”

ผู้เฝ้าเมืองซ่งพูดว่า “แกรู้ดีนิ แล้วแกรู้ไหมว่าพละกำลังของสองคนนั้น ฆ่าเราได้ทั้งจวนผู้เฝ้าเมือง เมื่อกี้พวกเขาเกือบทำไปแล้ว! แกรีบปล่อยคนออกมา บอกให้เธอไม่ต้องพูดอะไร รีบกลับไปที่บ้าน เราเก็บของไปซ่อนที่บ้านที่สำรองเอาไว้ รอให้พวกพลเอกเฟิงมาก็พอแล้ว”

ซ่งจงพูดว่า “ไม่ต้องหรอกพ่อ พ่ออาจไม่รู้ว่าผมจับหลิงเหยามายังไง”

ผู้เฝ้าเมืองซ่งก่นด่าออกมาว่า “ฉันไม่สนใจว่าแกจับมายังไง ตอนนี้แกรีบปล่อยคนออกมาเดี๋ยวนี้!”

ซ่งจงรีบโบกมือไปมา “พ่อฟังผมพูด ผมมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือ จึงจับหลิงเหยาได้ อีกทั้งยอดฝีมือคนนั้นยังบอกผมว่าถ้ามีคนมาช่วยเธอ ให้พวกเขาเข้าไปในคุกใต้ดิน เมื่อถึงตอนนั้น ยอดฝีมือคนนี้กับเพื่อนของเขาจะลงมือด้วยตัวเอง กำจัดพวกเขาไม่ให้เหลือ”

ผู้เฝ้าเมืองซ่งพูดอย่างอึ้งๆ “แกแน่ใจเหรอว่าเพื่อนที่เป็นยอดฝีมือของแกไม่ได้ล้อเล่น พละกำลังของเด็กสองคนนี้ไม่ธรรมดานะ”

ซ่งจงพูดว่า “เชื่อผมเถอะพ่อ ยอดฝีมือคนนี้เก่งมากจริงๆ!”

ผู้เฝ้าเมืองซ่งกัดฟันพูดว่า “โอเค งั้นเราไปกันก่อน ให้พวกเขาหาคุกใต้ดินกันเอง สรุปว่าเราหลบกันก่อน”

ซ่งจงครุ่นคิด แล้วพยักหน้าตาม

แต่ขณะนั้นเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูพวกเขา

“จะหลบเหรอ ตอนนี้สายไปแล้วล่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลของพวกนาย!”