ตอนที่ 660 ความจริงถูกเปิดเผย / ตอนที่ 661 ไม่รู้จักประมาณตน​​​​​​​

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 660 ความจริงถูกเปิดเผย 

 

 

มู่ซืออวี่ไม่ได้ตอบทันที แต่ยังลังเล “ให้ข้าคิดดูก่อน” 

 

 

“คุณหนูยังจะคิดอะไร นี่เป็นโอกาสดีที่หายาก ถ้าคุณหนูไม่ทำอะไรเลย ก็ต้องออกจากวังตะวันออกตามที่องค์รัชทายาทบอก คุณหนูยอมจากไปอย่างนี้จริงหรือ สวรรค์ช่วยคุณหนูอยู่” 

 

 

“ตอนที่เจ้าทำมีคนรู้หรือไม่” 

 

 

หรงเอ๋อร์สั่นหัว “บ่าวระวังมาก ไม่มีใครสงสัยแน่ พระชายารัชทายาทฉลาดอย่างไร ก็คงคิดไม่ถึง ซย่าจู๋ไม่พอใจปิงซินกับพระชายารัชทายาท เรื่องนี้ไม่ยากสำหรับซย่าจู๋” 

 

 

เดิมทีมู่ซืออวี่อยากออกไปจากวังตะวันออก พอรู้ว่าซูจิ่วซือไม่สามารถมีลูกได้นางก็เปลี่ยนความคิด 

 

 

ลูกจะเป็นฐานที่ให้นางยืนอย่างมั่นคงในวังตะวันออก เดิมทีนางอยากหาโอกาสอยู่กับองค์รัชทายาทแบบสามีภรรยา แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย นางไม่สามารถเข้าใกล้ฟู่เฉินหรงได้เลย และฟู่เฉินหรงเองก็ห่างเหินกับนางมาก 

 

 

พอได้ยินว่าซูจิ่วซือต้องกินยากันท้อง รู้ว่าสุขภาพของซูจิ่วซือมีปัญหาไม่สามารถมีลูกได้ 

 

 

ถ้านางแอบเปลี่ยนยาให้ซูจิ่วซือตั้งท้อง เป็นไปได้มากว่าจะทำให้ถึงแก่ชีวิต นี่ก็เป็นวิธีหนึ่ง และเวลานี้โอกาสมาถึงแล้ว แม้จะเสี่ยงอันตราย แต่ก็ดีกว่าวิธีแรก 

 

 

พอคิดได้อย่างนี้ มู่ซืออวี่จึงตัดสินใจทำตามที่หรงเอ๋อร์บอก นางจะดิ้นรนเพื่อตัวเองสักครั้ง 

 

 

พี่สาวร่วมตระกูล ขออภัย คนเราย่อมเห็นแก่ตัว ในเมื่อวังตะวันออกไม่มีที่สำหรับข้า ข้าก็ต้องหาทางอยู่วังตะวันออกให้ได้ 

 

 

พอคิดได้อย่างนี้ มู่ซืออวี่ก็พยักหน้าให้หรงเอ๋อร์ 

 

 

พอเห็นมู่ซืออวี่พยักหน้า หรงเอ๋อร์ก็รีบออกไปจัดการ 

 

 

หลังจากหรงเอ๋อร์ไปแล้ว มู่ซืออวี่ก็ไม่มีใจจะปักดอกบัวต่อ นี่เป็นครั้งแรกที่นางริเริ่มทำร้ายคนอื่น และคนที่ถูกทำร้ายเป็นพี่สาวร่วมตระกูล นางรู้สึกไม่สบายใจอยู่ลึกๆ 

 

 

พอนึกถึงความหล่อเหลาร่าเริงของฟู่เฉินหรง นางก็เก็บความเมตตาไว้ แม่ของนางเคยสอน คนเราถ้าไม่รู้จักทำเพื่อตัวเองฟ้าดินจะลงทัณฑ์ นางเพียงแต่ชิงโอกาสทำเพื่อตัวเอง ไม่เช่นนั้นคงกลับไปจิ่นโจวด้วยความอับอาย 

 

 

รุ่งขึ้น มู่ซืออวี่ไปหาซูจิ่วซือที่ตำหนักกลิ่นสุคนธ์ ซูจิ่วซืออยู่ที่ตำหนักกลิ่นสุคนธ์ ซึ่งเป็นตำหนักใหญ่ที่สุดในวังตะวันออก รองจากตำหนักก่วงเจิ้งของฟู่เฉินหรง 

 

 

หลังจากซูจิ่วซือแต่งเข้าวังตะวันออกแล้ว ทุกวันฟู่เฉินหรงจะอยู่ที่ตำหนักกลิ่นสุคนธ์ ปล่อยให้ตำหนักก่วงเจิ้งว่างเปล่า ผู้คนและข้าวของถูกย้ายไปที่ตำหนักกลิ่นสุคนธ์ 

 

 

ซูจิ่วซือชอบอ่านหนังสือ พอว่างก็จะนั่งอ่านหนังสือที่ริมหน้าต่าง 

 

 

ตั้งแต่มาอยู่วังตะวันออก มู่ซืออวี่จะมานั่งกับซูจิ่วซือทุกเช้า พอเห็นนางเข้ามา ซูจิ่วซือก็วางหนังสือในมือลง ยิ้มให้มู่ซืออวี่ “ซืออวี่ มาแล้ว นั่งสิ!” 

 

 

“พระชายารัชทายาทชอบอ่านหนังสือจริงๆ ทุกวันเวลามาที่นี่จะเห็นพระชายารัชทายาทอ่านหนังสือ ข้ามาที่นี่ทุกวันรบกวนการอ่านหนังสือของพระชายารัชทายาทหรือไม่” 

 

 

“ซืออวี่เอาใจใส่ข้าอย่างนี้เอง เฉินหรงจึงชมเจ้าไม่ขาดปาก แต่ซืออวี่ดูเหมือนจะซนไปบ้าง” 

 

 

ซูจิ่วซือสีหน้ายังคงยิ้ม แต่แววตากลับเย็นชา พอเห็นรอยยิ้มอย่างนี้ มู่ซืออวี่ก็ขนลุก 

 

 

“คุณหนูมู่ซนจริงๆ ถึงกับให้ซย่าจู๋แอบเปลี่ยนยาที่พระชายารัชทายาทกินทุกวัน ยังดีที่ข้าเห็น ไม่เช่นนั้นคงแย่แน่” 

 

 

ปิงซินพูดต่อจากซูจิ่วซือ ขณะพูดก็จงใจมองหรงเอ๋อร์แวบหนึ่ง 

 

 

คำพูดนี้ทำให้มู่ซืออวี่กับหรงเอ๋อร์หน้าซีดทันที หรงเอ๋อร์ฝืนตอบ “คุณหนูปิงซินพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร ฟังแล้วน่าตกใจ” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 661 ไม่รู้จักประมาณตน​​​​​​​ 

 

 

“ข้าพูดหมายความว่าอย่างไร หรงเอ๋อร์ไม่เข้าใจหรือ” 

 

 

ปิงซินยิ้มหยัน ตะโกนออกไปข้างนอก “ซย่าจู๋ เข้ามาพูดให้ชัดเจน คุณหนูหรงเอ๋อร์บอกว่าไม่เข้าใจที่ข้าพูด” 

 

 

ซย่าจู๋เข้ามาทันที พอมาถึงก็คุกเข่าอยู่ข้างหน้าซูจิ่วซือ ก้มหน้าพูด “บ่าวสมควรตาย ถูกหรงเอ๋อร์เป่าหู จนแอบขโมยยาของพระชายารัชทายาทไปให้หรงเอ๋อร์ แล้วยังเอายามาเปลี่ยนให้พระชายารัชทายาทตามคำสั่งของหรงเอ๋อร์” 

 

 

“คุณหนูซย่าจู๋ เราสองคนไม่มีความแค้นต่อกัน เจ้าอย่าใส่ร้ายข้า” 

 

 

หรงเอ๋อร์ร้อนใจ ทั้งที่แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่น เมื่อวานซย่าจู๋ยังบอกนางว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว ทำไมวันนี้จึงถูกพระชายารัชทายาทจับได้ 

 

 

มู่ซืออวี่สีหน้าซีด พยายามสะกดอารมณ์ให้สงบ 

 

 

นางสังเกตซย่าจู๋อย่างละเอียด เห็นซย่าจู๋แสดงท่าทีประหลาด ตามหลักแล้วเมื่อเรื่องถูกเปิดเผย ซซย่าจู๋ควรจะร้อนรนรีบขอโทษ 

 

 

แต่ปรากฏว่าซย่าจู๋ไม่ร้อนรนแม้แต่น้อย ได้แต่ก้มหน้ารายงาน เหมือนกับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตน 

 

 

สมองของนางเกิดความคิดขึ้นมาทันที แต่ก็ถูกความคิดอีกอย่างหนึ่งทำให้ตกใจ ริมฝีปากเริ่มสั่น ในที่สุดก็ถามขึ้น “พระชายารัชทายาท ซย่าจู๋เป็นคนของพระชายารัชทายาท ใช่หรือไม่” 

 

 

ซูจิ่วซือไม่ได้รับและไม่ได้ปฏิเสธ เพียงแต่มองหน้ามู่ซืออวี่ สายตาลุกวาว “ซืออวี่ ข้าให้โอกาสเจ้า แต่เจ้าไม่เห็นคุณค่า ยังมาเล่นเล่ห์ต่อหน้าข้า เจ้าไร้เดียงสาเกินไป 

 

 

เจ้าคิดว่าข้าวของในห้องข้าจะเอาไปได้ง่ายๆ หรือ คนใกล้ชิดถ้าถูกซื้อตัวง่ายๆ อย่างนี้ ข้าคงไม่ได้เป็นพระชายารัชทายาทแน่” 

 

 

มู่ซืออวี่เกือบนั่งไม่ติด พูดอย่างนี้ แสดงว่าตั้งแต่แรกซูจิ่วซือก็ตั้งใจจะทดสอบนาง และนางก็กระโดดลงไปจริงๆ ซูจิ่วซือขุดหลุมพรางไว้ นางไม่อาจแก้ตัวได้ 

 

 

นางไม่รู้ว่าซูจิ่วซือจะจัดการกับนางอย่างไร ในใจรู้สึกหวาดผวา รีบลุกขึ้นมาคุกเข่าลงกับพื้น 

 

 

หรงเอ๋อร์นึกไม่ถึงว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนลวง นางตกใจสุดขีด มู่ซืออวี่ยังไม่ทันแต่งเข้าประตูวังตะวันออก ซูจิ่วซือก็ใช้วิธีนี้มาทดสอบ ถ้าเข้าวังตะวันออกจริงๆ ไม่รู้ว่าซูจิ่วซือจะทำอะไรอีก 

 

 

“พระชายารัชทายาท ผู้น้อยผิดไปแล้ว ข้าถูกความละโมบเข้าครอบงำ จึงทำเรื่องอย่างนี้ ขอให้เห็นแก่ที่เราสองคนเป็นพี่น้องกัน พระชายารัชทายาทให้อภัยข้าสักครั้ง ต่อไปข้าจะไม่ทำอีกแล้ว” 

 

 

พอถึงตอนนี้ มู่ซืออวี่จึงรู้ตัวว่าตนเองน่าหัวเราะ นางช่างไม่รู้จักประมาณตนจริงๆ นึกว่าจะจัดการซูจิ่วซือได้ และไม่ได้นึกถึงว่าซูจิ่วซือเป็นพระชายารัชทายาทได้อย่างไร 

 

 

พอคิดได้อย่างนี้ มู่ซืออวี่ก็เสียใจมาก ถ้าตนอยู่อย่างสงบเสงี่ยมยอมรับตามที่ฟู่เฉินหรงบอก นางยังจะรอดชีวิตกลับจิ่นโจว เวลานี้นางกลัวว่าซูจิ่วซือจะฆ่านาง 

 

 

“ซืออวี่ เจ้าเป็นคนฉลาด เสียดายที่ใช้ความฉลาดผิดที่ เจ้าต้องการชีวิตข้า บอกมาว่าข้าควรจะจัดการกับเจ้าอย่างไรดี” 

 

 

มู่ซืออวี่สีหน้าซีดลงไปอีก 

 

 

หรงเอ๋อร์ฟังออกว่าซูจิ่วซือต้องการฆ่าคุณหนูของนาง นางรู้สึกเสียใจในเรื่องที่ตนทำลงไป 

 

 

เรื่องนี้ว่าไปแล้วนางเป็นคนผิดเอง นางเอาหัวโขกพื้น ขอร้อง “พระชายารัชทายาท ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของบ่าวเอง บ่าวเป็นคนลงมือ บ่าวเป็นคนจัดการทั้งหมด 

 

 

ต่อมาคุณหนูได้ห้ามไว้ แต่บ่าวก็ทำไปแล้ว คุณหนูห้ามไม่ทัน พระชายารัชทายาทถ้าจะฆ่าก็ฆ่าบ่าว บ่าวยินดีใช้ความตายเป็นการไถ่โทษ” 

 

 

“หรงเอ๋อร์ เจ้า…”