บทที่ 1754 - เทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ เสน่ห์ของราชันย์ปูหยก

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

AST
  บทที่1754 – เทือกเขาศักดิ์สิทธิ์? เสน่ห์ของราชันย์ปูหยก
  เมื่อหยางเคินได้ยินสิ่งที่ชิงสุ่ยพูดเขาก็แสดงสีหน้าตกใจและรีบเดินเข้าไปใกล้ชิงสุ่ย “เออ…..ข้าเคยได้ยินเรื่องราวของมันมาก่อน แต่ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้ารับรู้นั้นถูกต้องหรือไม่”
  คำพูดของหยางเคินเต็มไปด้วยความลังเลเพราะเขาก็ไม่เชื่อในข้อมูลที่เขาได้รับ ในทางตรงกันข้าม ชิงสุ่ยกลับแสดงสีหน้าและดวงตาที่สดใส “ตราบใดที่ประตูยังมีรู ลมก็ยังคงพัดผ่านเข้าไปข้างใน” ในเมื่อมีมูลข่าวลือ แน่นอนว่าจะต้องมีเหตุผลบางอย่างที่มีคนสร้างข่าวลือเหล่านี้ขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า “ท่านบอกข้าได้หรือไม่? ข้าพร้อมจะมอบสิ่งของเป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อขอบคุณ”
  ”น้องชายในเมื่อพวกเราเป็นพี่น้องกันแล้ว เหตุใดเจ้าถึงพูดย้อนแย้งกับตัวเอง ข้าไม่ได้ต้องการสิ่งใดจากเจ้า และข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าข่าวลือที่ข้าได้รับมานั้นถูกต้องหรือไม่ แต่ตามตำนานกล่าวไว้ว่าดอกมุทราศักดิ์สิทธิ์นั้นครอบครองพลังที่น่าเกรงขามและน่าหวาดกลัว”
  ”พี่ชายช่วยบอกข้าทีเถิดข้าจะได้รู้ว่าข้าควรทำอย่างไรต่อไป” ชิงสุ่ยแค่ต้องการรู้ว่าใครคือผู้ครอบครองมัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อได้ครอบครองดอกมุทราศักดิ์สิทธิ์
  ”ถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์มีอิทธิพลที่น่าเกรงขามพวกเขาไม่ได้มีความคิดที่จะต่อสู้กับผู้อื่น แต่ไม่ใช่เพราะเขาอ่อนแอ แต่เพราะพวกเขาทรงพลังเกินไป ถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์เปรียบเสมือนสวนหลังบ้านของภูเขา ถ้าหากน้องชายหาภายในถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์แล้วไม่พบเจอสิ่งที่ต้องการ ก็ลองไปดูที่ภูเขาสวรรค์ แต่จงจำไว้ว่า อย่าพยายามสร้างความขัดแย้งกับพวกเขา”หยางเคินกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
  ชิงสุ่ยพยักหน้าลึกๆในใจของเขากำลังถูกเติมเต็มไปด้วยความสุข อย่างน้อยเขาก็รู้ว่า มันยังคงมีหวัง แม้จะต้องเผชิญพลังที่ซุกซ่อนอยู่ในถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ก็ตาม
  ถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์คือสถานที่ที่อยู่ภายในส่วนลึกของแดนทะเลเหนือสถานที่ตั้งของมันน่าจะอยู่ใกล้กับเขตแดนทะเลเหนือแต่อาจจะลึกกว่านั้นอีกเล็กน้อย ตามตำนานเล่าว่ามันคือส่วนที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรอย่างแท้จริง และมันคือที่ตั้งของดินแดนแห่งความมืดมิด อันตรายที่จะพบเจอภายใน นั้นเกินกว่าที่จะจินตนาการได้ และน่ากลัวกว่าบนพื้นดินทั้ง 9 มหาทวีป และตำนานยังเคยบอกเล่าอีกว่าอดีตกาลนานมาแล้ว สถานที่แห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของพื้นแผ่นดิน 9 มหาทวีป
  ชิงสุ่ยเองก็อยากจะตรวจสอบความจริงทั้งหมดแต่ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการตามหาดอกมุทราศักดิ์สิทธิ์ ฉะนั้นเขาจึงต้องมุ่งมั่นใจในจุดเดียว
  หยางเคินไม่ได้พยายามชักชวนให้ชิงสุ่ยไปที่พระราชวังเขาอีกต่อไปเพราะเขารู้ดีว่าชิงสุ่ยมีสิ่งสำคัญต้องทำและตัวเขาเองก็มีสิ่งสำคัญที่ต้องทำเช่นกัน ดังนั้น ก่อนที่ชิงสุ่ยจะออกเดินทาง เขาได้ให้คำมั่นสัญญาว่าในอนาคต เขาจะไปเยี่ยมเยียนหยางเคินที่พระราชวังหยางแดนเหนืออย่างแน่นอน
  ชิงสุ่ยแยกทางแล้วจากไปพร้อมกับมูหยุนชิงเก้อตอนนี้เขามีเป้าหมายที่มั่นคง แม้ว่าการดำรงอยู่ของถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์จะมีขุมกำลังซ่อนอยู่ภายใน แต่ชิงสุ่ยก็เชื่อว่าเขายังมีแผนสำรองคือการตามหาภายในภูเขาสวรรค์
  ………………..
  ครึ้นนนนนน!!
  ในวันที่4 หลังจากที่ชิงสุ่ยและมูหยุนชิงเก้อปิดการใช้งานทักษะย่างก้าวเทวา และทะยานร่อนลงสู่พื้นดิน พวกเขาได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว หลังจากนั้นเสียงคํารามของสัตว์อสูรก็ดังขึ้น
  ชิงสุ่ยกำลังจะใช้ทักษะย่างก้าว9 เทวาอีกครั้ง แต่ดูเหมือนจะสายไป เขาจึงรีบดึงมูหยุนชิงเก้อไปอยู่ด้านหลังของเขา จากนั้นก็สะบัดมือดึงเอาง้าวทองทะลวงศัตรูออกมาและฟันออกไปข้างหน้าทันที
  ทักษะวชิระจู่โจม!!
  ชิงสุ่ยระเบิดพลังอย่างฉับพลันแล้วปล่อยมันออกไปโดยไม่รีรอ พลังของเขาก่อให้เกิดคลื่นพลังแผ่นดินไหว ภายใต้สถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ บางครั้งการโจมตีที่ดีที่สุดอาจจะดีกว่าการเลือกที่จะป้องกัน
  พลังที่ชิงสุ่ยปลดปล่อยออกมาตอนนี้มีความรุนแรงมากถึงระดับ 500,000 เต๋า
  ครึ้นนนนนน!! novel-lucky
  โฮกกกก!!
  ร่างกายของชิงสุ่ยยังคงสภาพสมบูรณ์ในขณะที่เจ้าอสูรร้ายถูกอัดกระเด็นไปด้านหลังขณะที่มันลอยอยู่กลางอากาศ มันก็ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ในไม่ช้าท้องฟ้าก็ถูกยอมไปด้วยสีเลือด การโจมตีที่ชิงสุ่ยปลดปล่อยออกมาสามารถทำลายภูเขานับ 10 ลูกให้พังทลายจนกลายเป็นเพียงแค่เศษฝุ่นได้
  ในขณะเดียวกันชิงสุ่ยก็เริ่มมองเห็นร่างขนาดยักษ์ที่ชัดเจน
  มันคือราชันย์ปูหยก!!
  ชิงสุ่ยเคยเผชิญหน้ากับราชันย์ปูเงินขาวและราชันย์ปูทองคำ แต่เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะต้องมาเจอกัราชันย์ปูหยก ณ ที่แห่งนี้
  ชิงสุ่ยสามารถบ่งบอกความแตกต่างของพวกมันได้ทันทีราชันย์ปูหยกมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่า มันคือร่างกลายพันธุ์ของราชันย์ปูเงินขาว
  ชิงสุ่ยทำการตรวจสอบราชันย์ปูหยกที่อยู่เบื้องหน้าร่างกายของมันใสสว่างเหมือนผิวหยก เมื่อผสานกับโครงสร้างร่างกายที่ใหญ่โต ยิ่งทำให้มันดูสง่างาม
  สิ่งที่ทำให้ชิงสุ่ยประหลาดใจกว่าคือขณะที่เขาตรวจสอบร่างกายของเจ้าราชันย์ปูหยกก็เริ่มพร่ามัว กลายร่างกายเป็นหญิงสาวที่งดงาม พร้อมกับรอยคราบเลือดที่ติดอยู่บนเสื้อผ้า และผิวหนังที่งดงามผิวหิมะของเธอ แม้ว่าใบหน้าของเธอจะดูซีดจางเล็กน้อย
  แน่นอนว่าตราบใดที่สัตว์อสูรสามารถบรรลุในระดับทรงปัญญาพวกมันก็จะสามารถเปลี่ยนร่างให้กลายเป็นมนุษย์ได้ แม้ว่าเธอจะกลายร่างเป็นมนุษย์ แต่เขาก็ไม่อยากรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่ปล่อยออกมาจากตัวเธอ ดวงตาของเธอเป็นไปด้วยความเย็นชา แต่ร่างกายของเธอนั้นช่างดึงดูดใจมนุษย์เพศชายทุกคน ร่างกายของเธอค่อนข้างผมบางแต่มาพร้อมกับหน้าอกคู่ใหญ่ ที่เห็นได้ชัดแม้จะอยู่ภายใต้เสื้อผ้าและคราบเลือดจาง อาการบาดเจ็บของเธอแม้จะไม่หนักมากแต่ก็ไม่ได้น้อยเลย
  ร่างกายของเธอกำลังสั่นเครือด้วยความเจ็บปวด
  ”พวกเราแค่เข้ามาในที่แห่งนี้ทำไมเจ้าถึงต้องลอบโจมตีพวกเรา”ชิงสุ่ยตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบ ขณะที่เขากล่าว และพบถ้ำขนาดใหญ่ที่อยู่หาไม่ไกลจากที่เขาอยู่ เขาคาดเดาว่าถ้ำแห่งนั้นคงจะเป็นที่อยู่อาศัย
  ”จะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้ามาในสถานที่แห่งนี้เด็ดขาด”แม้ว่าเธอจะบาดเจ็บแต่เธอก็พยายามพูด
  ชิงสุ่ยจ้องมองฝ่ายตรงข้ามด้วยความสงสัยทำไมเธอถึงยังคงดื้อรั้น เธอไม่กลัวว่าเขาจะลงมือสังหารเธอเลยหรือ….
  ”เจ้าเองก็กำลังบาดเจ็บเจ้าไม่กลัวว่าข้าจะลงมือสังหารปิดปากเจ้าอย่างนั้นสินะ?”ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าวถาม
  ”ข้าไม่เคยเกรงกลัวความตายและตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้เจ้าก็ยังไม่ได้สังหารข้า นั่นก็หมายความว่าเจ้าคงไม่ฆ่าข้า” หญิงสาวผู้นั้นกล่าวขณะจ้องมองชิงสุ่ย
  ชิงสุ่ยรับรู้ถึงกลิ่นอายบางอย่างที่ไม่อยากบรรยายเป็นคำพูดได้เขามองหญิงสาวคนนี้และรับรู้ได้ถึงเสน่ห์จำนวนมากที่กำลังดึงดูดใจเขา การเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นทั่วร่างกาย พร้อมกับภาพหยิน-หยางที่เริ่มเปล่งพลังไอเย็น ซึ่งช่วยกำจัดความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในใจของชิงสุ่ย
  เมื่อชิงสุ่ยกลับสู่โลกปกติเขาก็พบว่ามูหยุนชิงเก้อเองก็กำลังตกอยู่ในภวังค์ ใบหน้าของเธอแดงกล่ำอย่างรุนแรง ชิงสุ่ยจึงเอื้อมมือของเขาออกไปสกัดจุดที่จุดชีพจรหลินไท เพื่อคืนสติให้กลับมูหยุนชิงเก้อ