EG บทที่ 664 บริษัทเหล่านี้มีคุณสมบัติเพียงพอหรือไม่?

 

การขัดจังหวะขึ้นกลางครันของหลิวชุนซีเตือนให้ลิ่วหย่งห่าวนึกจุดประสงค์ของการประชุมครั้งนี้ขึ้นมาได้ การนัดพบกันในครั้งนี้ก็เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการจัดตั้งธนาคารมินเช็ง เขาลืมไปเสียสนิทเมื่อยกเรื่องโครงการกวงซีขึ้นมาพูดคุยกัน

“ผู้จัดการเฝิง..ผมไม่คิดมาก่อนว่าธุรกิจของคุณจะประสบความสำเร็จขนาดนี้”

“มันไม่ได้ประสบความสำเร็จมากมายขนาดนั้นหรอกครับ เมื่อเทียบกับบริษัทข้ามชาติหลายๆแห่ง ธุรกิจของผมแทบจะไม่มีอะไรเลย ผมเพียงแค่ทำธุรกิจหลายหลายรูปแบบก็เท่านั้นเอง”

“ถ้าบริษัทของผู้จัดการเฝิงไม่ประสบความสำเร็จ? แล้วบริษัทของผมล่ะครับ?คุณถ่อมตัวเกินไปแล้ว! ชุนซีคงคุยเรื่องธนาคารมินเช็งกับคุณมาบ้างแล้ว คุณมีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ครับ?”

“ผมยินดีร่วมลงทุนในธุรกิจนี้ครับแต่ผมมีคำถามอยู่ข้อหนึ่ง บรรดาหุ้นส่วนทั้งหมดมีใครรู้วิธีบริหารธนาคารบ้างครับ?”

คนที่เฝิงหยู่รู้จักและพอจะมีความคุ้นเคยกับธุรกิจธนาคารก็คงจะเป็นหลี่เซ่อเค่ยเพราะเขาเคยทำงานในธนาคารที่ประเทศแคนาดา

“เราไม่ต้องกังวลเรื่องการบริหารไปหรอกครับเพราะถึงอย่างไรผู้ถือหุ้นรายใหญ่ก็ต้องเป็นบริษัท ไชน่าประกันชีวิตอยู่แล้ว พวกเขาย่อมมีประสบการณ์มากกว่าเราและเราก็แค่ร่วมลงทุนกับพวกเขาเท่านั้น”

มันเหมือนกับชีวิตครั้งก่อนของเฝิงหยู่ แม้จะเป็นธนาคารเอกชนแต่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดก็ยังคงเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ธนาคารนี้เพียงแค่จัดแจงเรื่องการถือหุ้นให้โปร่งใสขึ้นเท่านั้น

เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีเนื่องจากธนาคารมินเช็งค่อนข้างประสบความสำเร็จในชีวิตที่ผ่านมาของเฝิงหยู่หลังจากปี 1998 ธนาคารนี้จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่ามันคือช่วงเวลาที่ธนาคารเกือบทั้งหมดของจีนพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่ยังมีปัญหาที่คอยขัดขวางการเติบโตของธนาคารมินเช็งอยู่เช่นกัน ในยุคนี้มีกฎระเบียบและนโยบายของธนาคารจำนวนมากที่จำกัดการเติบโตของธนาคาร รวมถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ในช่วงเริ่มต้นธนาคารมินเช็งไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งกองทุนเหล่านี้และมันเป็นสิ่งที่จำกัดการเติบโตของธนาคารได้มากทีเดียว

หากธนาคารมินเช็งมีแผนการดำเนินงานเหมือนธนาคารอื่นๆของรัฐบาล การพัฒนาก็จะดีขึ้นมากทีเดียว

ในอนาคตข้างหน้าบริษัทไชน่าประกันชีวิตจะกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดสุดของประเทศจีน มันจะเป็นบริษัทประกันที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก บริษัทแห่งนี้จะมีเงินสำรองเป็นจำนวนมากเพราะเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของธนาคารมินเช็งซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างไม่อั้นจากธนาคาร ในปีหน้า<กฎหมายบังคับใช้>จะถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการและจะเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัยของจีน กำไรของบริษัทไชน่าประกันชีวิตจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

การผสมผสานในด้านการประกันภัยและการธนาคารเป็นรูปแบบที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในต่างประเทศ ธนาคารจะใช้เบี้ยประกันภัยของลูกค้าในการให้สินเชื่อและการลงทุน ผลกำไรจะถูกนำมาใช้เพื่อจ่ายค่าสินไหมทดแทน หากไม่มีธนาคารบริษัทจะสามารถหาเงินมาจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยได้จากไหน? ฝากเงินในธนาคารเพื่อกินดอกเบี้ยแล้วเอามาจ่ายเบี้ยประกันงั้นรึ??

รัฐบาลจีนต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัยและเป็นการอนุญาตให้ธนาคารมินเช็งสามารถจัดการในเรื่องนี้ได้ทางอ้อม รัฐบาลไม่ได้เอื้อผลประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการซึ่งร่วมทุนก่อตั้งธนาคารแห่งนี้ขึ้นมาแต่อย่างใด

“ทุนจดทะเบียนเริ่มต้นของธนาคารแห่งนี้เป็นจำนวนเท่าไหร่และต้องมีบริษัทร่วมลงทุนกี่บริษัท?แล้วจำนวนหุ้นสูงสุดที่เราจะเป็นเจ้าของได้คือเท่าไหร่ครับ?”

เฝิงหยู่เอ่ยถามรายละเอียดยาวเหยียด

เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่หรือมีอำนาจสูงสุดในการบริหาร แต่เฝิงหยู่สามารถใช้เงินจากบริษัทในเครือของเขาทั้งหมดเพื่อร่วมลงทุนในธนาคารแห่งนี้ มันจะทำให้เขาได้ที่นั่งสูงสุดของฝ่ายกรรมการบริหารและเขาจะยังคงมีอิทธิพลเหนือผู้บริหารเหล่านี้

เฝิงหยู่ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับการบริหารธนาคารและรัฐบาลจะไม่มีทางให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้แต่เขาก็ไม่ต้องการให้คนอื่นมีอภิสิทธิ์ในการตัดสินใจโดยไม่ฟังความคิดเห็นของเขาเช่นกัน

“ทุนจดทะเบียนเริ่มต้นมีมูลค่า 10,000 ล้านหยวนและหุ้นที่เราสามารถมีได้มากที่สุดคือ49%ซึ่งยังไม่มีกฎข้อบังคับในการซื้อขายหุ้นในอนาคตออกมา ส่วนบริษัทที่จะร่วมลงทุนก็ไม่ได้ถูกกำหนดไว้แต่เราต้องการอย่างน้อย 10-20 บริษัทเพราะวิธีนี้เราจะสามารถกระจายความเสี่ยงได้ ”

ลิ่วหย่งห่าวอธิบายให้เฝิงหยู่ฟัง

10,000 ล้านหยวนไม่ได้เป็นจำนวนเงินที่มากเกินกว่าเฝิงหยู่จะหาไม่ได้แต่มันก็ไม่คุ้มค่าที่จะลงทุนมากนักในตอนนี้

เฝิงหยู่สามารถดึงเงินก้อนนี้จากกองทุนรัสเซียกองทุนสหรัฐและกระเป๋าของตัวเองได้ แต่สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันของจีนและจำนวนคู่แข่งของธนาคารมินเช็งจะทำให้กำไรที่ได้รับลดน้อยลง อย่างไรก็ตามหากธนาคารดำเนินการตามปกติ ความเสี่ยงในการขาดทุนก็จะอยู่ในเกณฑ์ต่ำ

การลงทุนในธุรกิจธนาคารก็เพื่อความสำเร็จในอนาคต ถ้าเฝิงหยู่สามารถเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของธนาคารมินเช็งได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาในการจัดการด้านการเงินและหาเงินทุนเพิ่มสำหรับธุรกิจต่างๆของเขา นอกจากนี้ธุรกิจธนาคารยังมีการดำเนินงานที่ใกล้ชิดกับรัฐบาล เฝิงหยู่จะสามารถรับข่าวสารและนโยบายต่างๆของรัฐบาลได้โดยตรง ซึ่งนโยบายต่างๆของรัฐบาลจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจทั่วประเทศ

เฝิงหยู่นึกสงสัยว่าการที่นักธุรกิจเหล่านี้ต้องการเข้าร่วมในธุรกิจธนาคารก็เพื่อต้องการรู้แผนการและทิศทางในอนาคตของรัฐบาลล่วงหน้า เนื่องจากธุรกิจธนาคารไม่ได้เป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไรมากนักแต่ในอนาคตหากธนาคารได้รับการจดทะเบียนมันจะกลายเป็นธุรกิจที่มั่นคงและสร้างผลกำไรได้อย่างมหาศาล

“คุณลิ่วครับ ผมสามารถแนะนำบริษัทอื่นๆให้เข้าร่วมได้หรือไม่?หากเป็นนักธุรกิจชาวฮ่องกงสามารถเข้าร่วมได้หรือเปล่า?”

เฝิงหยู่เอ่ยถามอีกครั้ง

“หากเป็นนักธุรกิจชาวฮ่องกงผมเกรงว่าจะไม่ได้หรอกครับ! แม้ว่าฮ่องกงจะเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่นโยบายต่างๆในปัจจุบันยังคงแตกต่างกันเล็กน้อย อีกอย่างฮ่องกงเองก็ยังไม่ได้กลับคืนสู่ประเทศจีน มันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะครับ?ถ้าจู่ๆนักธุรกิจเหล่านั้นคิดที่จะเปลี่ยนสัญชาติขึ้นมา?”

“แต่ประเทศจีนของเราก็มีธนาคารต่างชาติไม่ใช่หรือครับ?”

“บริษัทไชน่าประกันชีวิตมีส่วนเกี่ยวข้องกับธนาคารมินเช็งด้วยทำให้ธนาคารนี้ต่างออกไปจากธนาคารอื่นๆ มันไม่สามารถร่วมทุนกับกองทุนหรือองค์กรจากต่างประเทศได้ แต่ก็ไม่เป็นไรเช่นกันหากคุณจะแนะนำนักธุรกิจหรือองค์กรขนาดใหญ่ให้กับธนาคารมินเช็ง ขอแค่ให้บริษัทเหล่านั้นมือสะอาดและมีเงินสนับสนุนมากพอ! ที่สำคัญที่สุดบริษัทเหล่านั้นต้องเป็นของคนจีน”

“แล้วถ้าบริษัทนั้นมีหุ้นส่วนเป็นคนฮ่องกงล่ะครับ? แต่ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นคนจีนจะสามารถร่วมลงทุนได้หรือเปล่า?”

เฝิงหยู่ถามอีกครั้ง

“มันไม่ได้ถูกระบุเอาไว้ครับ เอาไว้ผมจะไปหาคำตอบนี้ให้กับคุณทีหลังเอง ว่าแต่? มันเป็นบริษัทอะไรหรือครับ?”

หลิวหย่งห่าวถามกลับเพราะสงสัยว่าบริษัทเหล่านี้คือบริษัทอะไร ทำไมเฝิงหยู่จึงพยายามที่จะให้ร่วมลงทุนในธนาคารแห่งนี้ด้วย

“บริษัทเครื่องจักรเมืองปิง,วินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์,ไอว่าอิเล็กทรอนิกส์,ร้านจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าวินด์แอนด์เรน อ้อ! มีลีฮาฮากรุ๊ป,เครือไอว่า,ลิตเติ้ลไทร์อั้น,ไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ต,ไท้หัวการเกษตร,ไท้หัวเทรดดิ้ง,ไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตกรุ๊ป,องค์กรยาเมืองปิง,วินด์แอนด์เรนโลจิสติกส์และเฉวียนจวี้เต๋อกรุ๊ป”

ลิ่วหย่งห่าวได้ยินชื่อเพียง 2-3 บริษัทก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นบริษัทที่เฝิงหยู่ร่วมลงทุนด้วย ไม่แน่ว่าเฝิงหยู่อาจเป็นหัวเรือใหญ่เพราะจากชื่อบริษัททั้งหมดต่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาไม่ว่าจะเป็นวินด์แอนด์เรน ไอว่า ไทหัว ฯลฯ บริษัทเหล่านี้จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเฝิงหยู่อย่างแน่นอน!แต่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเฝิงหยู่จะมีบริษัทมากมายขนาดนี้

ลิ่วหย่งห่าวพอรู้มาบ้างว่าเฝิงหยู่ร่วมลงทุนกับเครื่องจักรเมืองปิง แต่ลีฮาฮากรุ๊ปและองค์กรยาเมืองปิงก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเฝิงหยู่ด้วยเช่นกัน

ลิ่วหย่งห่าวชื่นชมในตัวซ่งจิงเซียนของลีฮาฮากรุ๊ปในการพัฒนาบริษัทของเขาให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดจนกลายเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศจีน เฝิงหยู่เป็นหุ้นส่วนในลีฮาฮากรุ๊ปด้วยหรือเพียงแค่รู้จักกับซ่งจิงเซียนเท่านั้น?

องค์กรยาเมืองปิงเพิ่งตั้งขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาต่างเป็นที่ที่นิยมและน่าจะสร้างกำไรได้จำนวนมาก บริษัทนี้ก็เกี่ยวข้องกับเฝิงหยู่ด้วยหรือ?

เดี๋ยวก่อนนะ! ทำไมเฝิงหยู่ถึงอยากแนะนำบริษัทมากมายขนาดนี้? เขาต้องการให้บริษัทเหล่านี้ร่วมลงทุนในกิจการธนาคารมินเช็งและให้ได้ที่นั่งในตำแหน่งคณะกรรมการบริหารมากกว่าใครงั้นรึ?!