บทที่ 462 การรวบรวม (2)
[วันรุ่งขึ้นที่คฤหาสน์ของ ยูยอนฮา]
สมาคมและสมาคมปีศาจล้มเหลวในการเอาชนะออร์เดนจนต้อง
ถอยกลับมา ออร์เดนมีพลังมากขึ้นกว่าเดิมและความแข็งแกร่งของเขาทำให้ประชาชนต้องตกใจ สมาคมได้เรียนรู้แล้วว่า ‘การลอบโจมตีไม่ใช่วิธีที่ดีในการจัดการกับ ออร์เดน’
“…เฮ้อออออออ”
เป็นผลให้สื่อเริ่มหารือถึงความเป็นไปได้ของ ‘การล่มสลายของมนุษยชาติ’ ในขณะเดียวกันผมมาเยี่ยม ยูยอนฮา ส่วน ยุนซึงอา และ คิมซูโฮ เองก็อยู่ข้างผม ทั้ง 2 ดูซีดเซียว น่าตกใจที่เห็นพวกเขาเป็นแบบนี้
“นายบอกฉันได้ไหมว่าตอนนั้น พวกนายเห็นอะไร”
ดูเหมือนว่า ยูยอนฮา จะรู้สึกหงุดหงิดเหมือนผม เธอกดดันให้ดูทั้งคู่พูด ยุนซึงอาค่อยๆเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ เธอถอนหายใจและเธอพูดต่อ
“…เธอกลับมามีชีวิตอีกครั้ง”
“กลับมามีชีวิตเหรอ? ใครกัน?”
ยุนซึงอาลังเลที่จะตอบ ยูยอนฮา และผมพับแขน จับแขนของเธอให้เธอพูดอีกครั้ง คำพูดที่ออกมาจากปากของเธอในวินาทีต่อมาทำให้พวกเราตกตะลึง
“ลูกสาวของปาร์กฮันโฮ”
“…ฮะ? ใครนะ?”
คราวนี้ผมถามกลับด้วยความตกใจ ลูกสาวของ ปาร์คฮันโฮ น่าจะตายไปแล้ว และแม้แต่ในโลกนี้การฟื้นคืนชีพคนตายก็เป็นไปไม่ได้
“นั่นหมายความว่าอย่างไร?”
“…ก็ตามที่บอกเลย ลูกสาวอาวุโสของปาร์ก ยังมีชีวิตอยู่ ในรูปแบบของมนุษย์ ฉันจำได้ว่าไปเยี่ยมเธอตอนที่เธออยู่ในโรงพยาบาลและฉันก็ไปงานศพของเธอ แต่….”
ยุนซึงอาอธิบายต่อไป เมื่อพวกเขาไปช่วยตัวประกันพวกเขาค้นพบปาร์คฮันโฮทรยศต่อมนุษย์ ขณะที่เธอต่อสู้กับ ปาร์คฮันโฮ พร้อมกับทหารของ Genkelope เธอเห็นลูกสาวของ ปาร์คฮันโฮ ขดตัวอยู่บนเตียงในมุมห้อง อย่างไรก็ตามอีกไม่นานเด็กผู้หญิงก็วิ่งหนีไปและ
ยุนซึงอาในขณะที่ยังคงงงงวยกับสิ่งที่เธอเห็นก็ถูกกระแทกโดยโล่ของปาร์คฮันโฮที่หัวจนเป็นลมไป
“ฉัน…ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่…นั้นเป็นใบหน้าของเธอแน่ๆ ….”
ยุนซึงอาซุบอกคิมซูโฮ เขาเองก็ดูไม่ดีเท่าไร
ผมมองพวกเขาซักพักก่อนจะลุกขึ้น ผมพูดกับ ยูยอนฮา
“…มีอะไรงั้นเหรอ?”
ยูยอนฮาถามผมหายใจเข้าลึกๆดูเหมือนว่าตอนนี้เป็นเวลาเหมาะสมในการรวบรวม 9 ดารา
“ฉันอยากที่จะขอความช่วยเหลือจากเธอ”
“อะ อ่า? เรื่องอะไรละ”
ยูยอนฮา เอียงศีรษะของเธออย่างสงสัย
“พวกเราไม่สามารถจัดการกับสถานการณ์นี้ได้ด้วยตัวเอง พวกเราต้องการความช่วยเหลือจากคนรุ่นเก่า”
“ฮะ? คนรุ่นเก่า นายหมายถึง…?”
คนรุ่นเก่าที่ช่วยโลกนี้เอาไว้ในอดีตและคนรุ่นใหม่ที่เป็นผู้นำในปัจจุบัน
แต่ผมไม่สามารถพูดได้ว่าคนรุ่นเก่าถูกแทนที่ พวกเขาแข็งแกร่งเกินไป ในยุคปัจจุบันมีเพียงคิมซูโฮ,จินซาฮยอค,อาจจะมี ไอลีน กับ แชนายอน ที่พอจะแข่งขันกับคนรุ่นเก่าได้แต่ก็ต้องเป็นในอนาคตหลังจากนี้
ยูยอนฮาพึมพำอย่างงุนงง
“…นายกำลังพูดถึง 9 ดารา หรือเปล่า”
“ใช่ 9 ดารา”
ความแข็งแกร่งของออร์เดนเกินกว่าจินตนาการของผม ออร์เดน มันเกินกว่าที่ผมจะจัดการเองได้ เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว มันจะสายเกินไปถ้าพวกเราติดต่อกับ 9 ดารา หลังจากการสืบเชื้อสายของมาร
“…นายล้อเล่นใช่มั้ย”
ยูยอนฮา ตกตะลึง
“เรื่องแบบนี้ แม้แต่ฉันเองก็….”
“แค่หาที่อย่ของพวกเขาแล้วบอกฉันแล้วฉันจะไปพูดด้วยตัวเอง อ้อ
สำหรับ ไคร์เน่ เฮย์เนค ฉันรู้ว่าอยู่ที่ไหนดังนั้นอย่าไปสนใจเขาเลย”
ผมตอบกลับในขณะที่เตรียมเดินทาง แต่ ยูยอนฮา ขวางทางของผมเอาไว้
“นายกำลังจะไปไหน? นายไม่ได้บอกฉันเกี่ยวกับชั้นที่ 15 และยังเกี่ยวกับยานรบบนท้องฟ้า แต่ที่ฉันอยากจะพูกก็คือ-”
ลิ้นของเธอบิดเพราะพยายามพูดเร็ว ๆ ยูยอนฮา ไอแค่กๆก่อนที่จะจ้องมองมาที่ผม
“สมาคมกำลังเรียกหานายเกี่ยวกับเรื่องนั้น นายรู้ไหมว่าฉันเหนื่อยมากแค่ไหนในการห้ามพวกเขาเอาไว้?”
“อ้าๆ ฉันจะเล่าเรื่องเรือให้ฟัง ฉันมีหลายสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้”
“จริงสิ.”
ยูยอนฮา ขมวดคิ้ว
“มีอะไรเหรอ?”
“อืม … .”
ใบหน้าผมเคร่งขรึมราวกับว่าผมซ่อนอะไรบางอย่างมาไว้ตลอด
“ฉันคิดว่า…ฉันจะต้องจริงจังกับเรื่องนี้”
‘พลังวิญญาณ’ เป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถเข้าใจได้ ตอนนี้สถานการณ์ได้ทวีความรุนแรงขึ้นผมไม่สามารถทิ้งทุกอย่างให้กับคิมซูโฮได้ ผมจำเป็นต้องฝึกฝนและหาความรู้เพื่อเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ที่จะมาถึง
“…อะไรละนั้น?”
ยูยอนฮา มองมาที่ผมด้วยใบหน้าที่สงสัย
*************************************************************************
[เมษายน, 1980]
แชจูชึล รู้สึกถึงธรรมชาติท่ามกลางอารยธรรมที่ถูกทำลาย จังหวะของการเริ่มต้นซึ่งมีต้นกำเนิดจากการทำลายล้างนั้นชัดเจน ผู้เป็นอมตะ
ได้ปล่อยเจตจำนงของเขาสู่ธรรมชาติกองกำลังทั้ง 2 สู้กันอย่างดุเดือดพลังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆและกลายเป็นพลังที่รวมเข้ากับแชจูชึลในไม่ช้า
เขากลายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
แชจูชึล เปิดตาของเขาในฐานะผู้เชื่อมต่อกับธรรมชาติ แม้ว่าเขาจะเริ่มตอนพระอาทิตย์ตกดิน แต่ตอนนี้ดวงอาทิตย์อยู่เหนือหัวเขา ร่างกายของเขาเปียกโชกไปด้วยเลือดและเหงื่อ
เขาไม่ได้สังเกตว่าเวลาที่ผ่านไปเท่าไร สนามหญ้าโดยรอบแชจูชึลได้เป็นแหล่งซับพลังเวทย์ของเขา
ตู้มมมมมมมมมม-!
พลังเวทมนต์ระเบิดอย่างรุนแรงจากภายในและเจาะเส้นเลือดของเขา แชจูชึล ทลายขีดจำกัดของตนเอง
วิ้งงงงงงงง-!
แชจูชึล ขยับมือ พลังแห่งธรรมชาติเปล่งประกายกลายเป็นลมหมุนวนขึ้นไปในอากาศ ทันใดนั้นมันก็กลายเป็นพายุไต้ฝุ่นขนาดมหึมาที่
ล้อมรอบไปด้วยเปลวเพลิงขนาดใหญ่ภายในพายุไต้ฝุ่น
ความกลมกลืนกันของลมและไฟสร้างเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ มันเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกินกว่าความเข้าใจของมนุษย์
ภัยพิบัติดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สีแดง สีเขียวและสีเทารวมตัวกันเพื่อสร้างพลังแห่งการทำลายล้าง ทั้งหมดเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่จากพรสวรรค์ของเขา [เซียนพลังธาตุ]
– ดูไม่เหี่ยวเฉาเลยนะ
ในขณะนั้นเสียงเบาๆไหลผ่านพายุเข้าไปในหูของ แชจูชึล เขาหันไปรอบๆ
เขาเดาได้จากเสียง ชินมยองชุล เจ้าของกรุงโซลและชายที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคปัจจุบัน ยืนอยู่ตรงนั่น
แชจูชึล จ้องมองเขาอย่างเงียบๆ
– ฉันหมายถึงดอกไม้นี้ไม่ใช่นาย
ชินมยองชุล ยิ้มและเล่นกับดอกไม้ที่ร่วงหล่นอยู่ข้างถนน แชจูชึล ปิดกั้นการไหลเวียนของพลังเวท ร่างกายของเขาหลอมรวมเข้ากับธรรมชาตินั้นทำให้ความเป็นมนุษย์ของเขาลดลงไปอีกครั้ง
– พลังของนายวิเศษมาก แต่อย่าฝึกฝนหนักเกินไปเลย
ชินมยองชุล พูด แต่ แชจูชึล ไม่ตอบ เขาไม่คิดว่า ชินมยองชุล มาที่นี่เพื่อยุ่งกับการฝึกฝนของเขา เขาไม่ได้เป็นคนเจ้าเล่ห์อย่างนั้น เขามีแต่ความขี้เกียจและขี้เกียจเท่านั้น ชินมยองชุล ตบลงบนพื้น
– น่าสนใจ โดยปกติแล้วคนที่รักธรรมชาติจะถูกอธิบายว่าอารมณ์นั้นจะอ่อนไหว แต่คนที่สัมผัสกับธรรมชาติมากที่สุดนั้นไม่รู้สึกถึงตัวตนแล้ว
‘คนที่สัมผัสกับธรรมชาติมากที่สุด’
แชจูชึล รู้ว่า ชินมยองชุล พูดถึงเขา เขาตอบด้วยความเฉยเมย
– นั้นเป็นเพราะธรรมชาติไม่มีความรู้สึก ธรรมชาติมาและไปโดยไม่เรียกร้องความเห็นอกเห็นใจหรือปฏิเสธการทำลาย
นั่นเป็นคำตอบที่มาจา แชจูชึล ชินมยองชุล ยิ้มเล็กน้อย
– นายจะกลายเป็นเสาหลักในสักวันหนึ่ง
แชจูชึล ยิ้มออกมาเบาๆ แม้เพียงอึดใจนึงเขาได้พยายามเลียนแบบ
ชินมยองชุล ใบหน้าของชินมยองชุลเปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึมอีกครั้งและเขาถามแชจูชึล
– จริงๆแล้ว…นายจะกลับไปเมื่อไหร่ โซลต้องการนายในตอนนี้
แชจูชึล ส่ายศีรษะของเขา ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เขาวางแผนที่จะกลับมาหลังจากเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังของเขาอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่านี้
– ฉันเข้าใจแล้ว.
ชินมยองชุล พยักหน้าและลุกขึ้นจากที่นั่ง
– ฉันจะไม่รบกวนนาย ส่งจดหมายมาถึงฉันด้วยหลังจากที่นายกลับมา
แชจูชึล เฝ้าดู ชินมยองชุล จากไป ชินมยองชุล เป็นคนสบายๆและมักสง่างามอยู่เสมอ ทุกครั้งที่ แชจูชึล มองดูเขามุมหนึ่งของเขาก็เต้นรัว
แต่ แชจูชึล ไม่บอกได้ว่าความรู้สึกของเขาคืออะไร มันเป็นความอิจฉาริษยาหรือความเกลียดชังหรือแม้แต่ความโกรธแค้นงั้นหรือไม่…เขาบอกไม่ได้
แชจูชึล เลือกที่จะเปิดใจของเขาในการฝึกฝน
เขาหลับตาอีกครั้งและกลายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติในวันนี้มันดีขึ้นเล็กน้อย
1 วัน 2 วัน 4 วัน……ในที่สุดก็ผ่านไป 2 ปี
ตอนนี้ แชจูชึล เข้าใจพรสวรค์ของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ ในทางกลับกันความสามารถในการรับรู้อารมณ์และความรู้สึกของเขานั้นแย่ลงกว่าเดิม
เขาปีนลงเขาและกลับสู่สนามรบที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์
แต่มอนสเตอร์ไม่เข้าคู่กับเขาเลย
เพียงสะบัดมือไต้ฝุ่นก็ปรากฏตัวขึ้น ด้วยการสั่นไหวของลมพายุ สายฟ้าก็ตกลงมา เพียงก้าวเดิน แผ่นดินก็สั่นไหวกวาดผ่านมอนสเตอร์ทั้งหมด
เช่นเดียวกับที่มนุษย์ปฏิบัติต่อมด แชจูชึล เอาชนะกรุงโซลได้ด้วยความแข็งแกร่งของเขา….
วิ้งงงงงงงงงง
“… .”
แชจูชึล ลืมตาของเขาอย่างช้าๆเมื่อลมพัดผ่าน
ต่อหน้าเขาไม่ใช่ทิวทัศน์อันไกลโพ้นของในอดีต แต่เป็นเพดานอันหรูหรา เมื่อเผชิญหน้ากับความจริงแชจูชึลก็รู้ว่าเขามีความฝัน
มันเป็นความฝันแรกหลังจากที่ไม่ได้เห็นมานาน
อย่างไรก็ตามเมื่อ แชจูชึล ลุกขึ้นจากเตียงของเขา เขาก็สงบเหมือนปกติ เขาไม่ได้รับผลกระทบจากความฝันของเขา เขาอาบน้ำอย่างรวดเร็วและตรวจดู Smart Watch ของเขา
วันนี้มีข้อความมากมาย
[คิมซูโฮ ต้องการพูดคุยกับคุณเกี่ยวกับการลักพาตัว
‘Girl of Authority’]
[มีบางสิ่งที่แปลกเกี่ยวกับ คุณหนู นายอน ดูเหมือนว่าเธอได้พบกับ
คิมจุงโฮ แล้ว]
[สมาคมได้เรียกประชุมเกี่ยวกับ ออร์เดน]
[ยูยอนฮา จาก Essence of Strait ต้องการพบคุณ]
[หนังสือพิมพ์หลายฉบับได้ขอสัมภาษณ์….]
เมื่อมองผ่านๆแชจูชึลก็เห็นประโยคหนึ่ง มันคือชื่อของเด็กน้อย
‘ยูยอนฮา’ ที่โดดเด่นที่สุด