บัญชามังกรเดือด บทที่ 778 เกมออกล่า
เมื่อเห็นตราประทับรูปมังกรส่องแสงบนเอกสารนั้น ทุกคนในมังกรซ่อนรูปทางตะวันตก ต่างก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายไปชั่วขณะหนึ่ง
คำสั่งไร้สาระดังกล่าว กลับได้รับการอนุมัติจากเฒ่าหัวมังกรเนี่ยนะ
มันเป็นไปได้อย่างไร?
เหตุใดเฒ่าหัวมังกรถึงทำแบบนี้กับผู้ใต้บังคับบัญชาได้ล่ะ?
นี่ไม่ใช่ วิธีการที่จะพยายามสร้างความลำบากให้กับฉินเทียนใช่ไหม
ฉินชวนพลันร้องตะโกนออกมาอย่างเดือดดาล “ไม่ยุติธรรมเลย!”
“ฉันต้องขอคัดค้าน!”
“ฉันต้องการพบกับเฒ่าหัวมังกร ให้เขารีบปลดคำสั่งที่ไร้ความยุติธรรมนี่ออกเสีย!”
สมาชิกในทีมมังกรซ่อนรูปพลันโห่ร้องออกมาด้วยความเดือดดาลเช่นกัน
หวังลิ่งพลันส่งเสียงฮึดฮัดออกมา ด้วยสถานะของเขาที่เป็นถึงผู้อาวุโสสาม ย่อมไม่มองฉินชวนที่เป็นเพียงผู้บัญชาการตัวเล็ก ๆ อยู่ในสายตาอยู่แล้ว
หวังลิ่งพลันมองไปที่ฉินเทียนพาพลางพูดออกมาได้ใจว่า “แส้มังกรฉิน คุณต้องการรับคำสั่งหรือไม่?”
“หากไม่รับก็ย่อมได้ แต่ก็แค่ลาออกจากตำแหน่งนี้ไปซะ แล้วแกก็จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมังกรซ่อนรูปอีก”
“ส่วนเรื่องในตระกูลของแกนั้น จะไปก่อเรื่องให้ใหญ่โตยังไงก็ได้”
ฉินเทียนที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่างนั้นก็พลันมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในทันที เมื่อเห็นว่าเป็นจูจูที่โทรมา ฉินเทียนพลันขมวดคิ้วลง หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกดรับสายในทันที
“ฉินเทียน!”
ทันทีที่ฉินเทียนกดรับสายนั้น น้ำเสียงตื่นเต้นของจูจูก็ดังออกมาจากโทรศัพท์ในทันที
“นายอย่าไปยอมรับคำสั่งนั้นนะ!”
“ตอนนี้ฉันอยู่ที่สำนักงานใหญ่กำลังเถียงกับคุณปู่อยู่! นี่มันมากเกินไปแล้ว!”
“ปู่ฉันแก่แล้ว เขากำลังสับสนอยู่ คำสั่งนี้มันไม่ยุติธรรมสำหรับนายเลย!”
“นายไม่ต้องห่วง หากเรื่องอะไรเกิดขึ้น ฉันจะแบกรับกับนายเอง!”
จากนั้นเป็นเสียงของจูจูที่ร้องตะโกนบอกกับเฒ่าหัวมังกรว่า “จูเสี้ยวเทียน!”
“ฉันไม่สนใจว่าจะต้องใช้วิธีไหนต่อสู้กับสมาคมผู้อาวุโสสูงสุด ตอนนี้ฉันขอให้ยกเลิกคำสั่งที่ไม่ยุติธรรมนั้นทิ้งซะ!”
“ฉินเทียนคือแส้มังกรที่พวกคุณเลือกมา เขาทุ่มเทให้กับมังกรซ่อนรูปมามากเท่าไหร่ ทั้งช่วยพวกคุณออกหน้ามาตั้งเท่าไหร่ นี่คือวิธีที่ปฏิบัติต่อเขาแบบนี้งั้นเหรอ?”
“สติของพวกคุณยังโอเคอยู่หรือเปล่า?”
“คำสั่งเมื่อครู่ที่ออกไป ยกเลิกคำสั่งนั้นทิ้งเดี๋ยวนี้!”
น้ำเสียงของหญิงสาวพลันสั่นไปด้วยความโมโหมากมายแม้แต่ชื่อปู่ของเธอก็สามารถเรียกมันออกมาได้ไม่ยาก
จากนั้นฉินเทียนก็ได้ยินเสียง “โอดครวญ” ของเฒ่าหัวมังกรบอกว่า “สาวน้อย อย่างที่ฉันพูดไป ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์โดยรวม คุณช่วยเห็นใจปู่สักครั้งได้ไหม?”
“เธอรู้อะไรเกี่ยวกับความยากลำบากของปู่บ้าง”
“ฉินเทียนนั้นยังเด็กอยู่ดังนั้นควรปล่อยให้เขารู้จักดิ้นรนด้วยตัวเองบ้างเถอะ ถือว่าเป็นการฝึกฝนตัวเองอีกทางหนึ่งไม่ได้เหรอ? ”
“นอกจากนี้เรื่องระหว่างเขากับตระกูลฉินสายเก่าก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวจริง ๆ มันไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะใช้มังกรซ่อนรูปเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้”
พุ้ย!
เมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างคุณปู่กับหลานของเขานั้น ฉินเทียนแทบอยากจะหัวเราะออกมาในทันที
เขารู้ว่าสิ่งที่ผู้นำเก่าเหมือนจะพูดกับจูจูนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเขากำลังพูดกับตัวเขาเอง
“ฉันไม่สน!”
“ถ้าปู่ยังไม่ยอมยกเลิกคำสั่ง ฉันจะ—” จูจูยังคงขัดขืน
ดูเหมือนว่าเฒ่าหัวมังกรอาจจะโกรธขึ้นมาแล้วจริง ๆ น้ำเสียงของเขาพลันกดต่ำลงและกล่าวว่า “ไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่เลยเสียจริง!”
“หลานต้องการอะไรกัน?”
“ฉัน–”
ฉินเทียนเป็นกังวลว่าจูจูจะพูดอะไรบางอย่างที่รุนแรงออกมาอีกครั้ง นั่นจึงทำให้ฉินเทียนรีบเอ่ยขัดจังหวะเธอออกมา
“โอเค โอเค”
“ฉันรับรู้ได้ถึงความลำบากของท่านประธานแล้ว ฉันรับคำสั่ง ไปบอกจูเสี้ยวเทียนด้วยว่า ฉันฉินเทียนจักยอมรับโทษแทนเขา ”
“ถึงอย่างไรเขาเป็นอาวุโสที่เฒ่าชรา บางครั้งก็ต้องประนีประนอมให้เขาบ้าง ฉันเข้าใจเรื่องนั้นดี”
“เธอไปบอกเขาซะ ว่าคำสั่งนี้ ฉันจะยอมรับมันแต่โดยดี”
“ไอ้ห่านี่!”
เฒ่าหัวมังกรพลันสบถออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว
“แก ไอเด็กแซ่ฉิน แกเรียกข้าว่าอะไร?”
“อย่าลืมว่า แม้แต่อาจาร์ของแก มาอยู่ต่อหน้าข้า ก็ยังต้องให้ความเคารพนอบน้อมแก่ข้า!”
“เจ้าสร้างปัญหาให้กับมังกรซ่อนรูปมากมาย ในตอนนี้แกมีอำนาจมากพอแล้วใช่ไหม? ถ้าแกแน่จริงไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!”
“เชื่อหรือไม่ว่า ข้าสามารถบีบเจ้าให้แหลกคามือได้!”
ฉินเทียนรู้สึกละอายใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ พร้อมทั้งรีบกดวางสายโทรศัพท์ในทันที
จากนั้นเขามองไปที่ผู้อาวุโสสาม หวังลิ่งด้วยท่าทีเย้ยหยัน
หวังลิ่งที่ไม่ได้ยินสิ่งที่อยู่ในโทรศัพท์นั้น ในตอนที่เขามาถึงที่นี่ ก็ได้รู้ข่าวที่จูจูได้ไปทำการคัดข้นต่อคำสั่งของผู้อาวุโสนั้น ทั้งยังเพื่อไปบีบให้ผู้นำคนเก่ายกเลิกคำสั่งนี้ทิ้ง
ในยามนี้พลันมีความกังวลมากมายฉายในดวงตาของเขาในทันที พลางตั้งใจเอ่ยคำพูดที่เคร่งขรึมออกมาว่า “ฉินเทียน ยังไม่รีบรับคำสั่งอีก!”
“ในคราวนี้ เฒ่าหัวมังกรไม่สามารถปกป้องคุณได้แล้ว!”
“ถ้าเจ้ากล้าฝ่าฝืนละก็ฉัน—”
“ก็แค่ของไร้ค่า!” ฉินเทียนพลันเอ่ยวาจาเยาะเย้ยขึ้นมา “มันก็เพราะกลอุบายเล็ก ๆ น้อยของตระกูลฉินสายเก่าไม่ใช่เหรอ ต้องการให้มังกรซ่อนรูปยืนดูอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม ?”
“ฉัน ฉินเทียน นับตั้งแต่แรกก็ไม่เคยคิดที่จะพึ่งพาพลังของมังกรซ่อนรูปอยู่แล้ว”
“ฉันยอมรับคำสั่งนี้”
“ จริงเหรอ?” หวังลิ่งดีใจเป็นอย่างมาก: “อย่ามาหาว่าฉันไม่เคยบอกเล่า”
“ในอนาคต หากมังกรซ่อนรูปมาปรากฏตัวอีกครั้งในการต่อสู้กับตระกูลฉินสายเก่า ก็อย่ามาตำหนิผู้อาวุโสของเราที่ตัวหยาบคาย!”
“ใครก็ตามที่กล้าช่วยคุณจะถูกสมาคมผู้อาวุโสลงโทษอย่างรุนแรง!”
ฉินชวนเงียบไปครู่หนึ่งพลางพูดขึ้นมาอย่างหนักแน่นว่า “ถ้าหากเป็นกรณีแบบนี้ฉันขอลาออกจากตำแหน่งของซีจุนและออกจากมังกรซ่อนรูปดีกว่า!”
“อะไรนะ?”
“ฉินชวน แกมันบ้าไปแล้วเหรอ?” หวังลิ่งมองไปอย่างไม่เชื่อ
“พวกเราก็เหมือนกัน!”
“พวกเราก็ขอออกจากมังกรซ่อนรูปด้วย!”
ในที่ตอนนี้ มีเหล่าสมาชิกมังกรซ่อนรูปมากมายต่างพากันร้องพูดขอลาออกออกมาเต็มไปหมด ดวงตาของพวกเขาลุกเป็นไฟ ทั้งยังพูดขอลาออกอย่างเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจยิ่งนัก!
ฉินเทียนเป็นคนนำความหวังในการเกิดใหม่มาให้พวกเขาในเมื่อตอนนี้ฉินเทียนกำลังมีปัญหา หากให้พวกเขายืนมองดูอยู่เฉย ๆ นั้น พวกเขายอมลาออกจากมังกรซ่อนรูปดีกว่า
ทุกคนรู้ดี ว่านี่เป็นกลอุบายของตระกูลฉินสายเก่า หลังจากที่เขาพยายามระงับอำนาจของมังกรซ่อนรูปนั้น พวกเขาก็จะมุ่งหน้าจัดการกับฉินเทียนในทันที
ทุกคนในที่นี้ไม่สามารถยอมรับสิ่งนี้ได้
“บ้าแล้ว!”
“พวกแกมันบ้าไปแล้ว!”
“พวกแกจะลาออกงั้นหรือ? ฉันจะรายงานไปยังเฒ่าหัวมังกรในทันทีและจัดการไล่แกออกจากมังกรซ่อนรูปทั้งหมด!” หวังลิ่งตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
ฉินเทียนพลันรีบโบกมือโบกไม้ออกมา พลางแย้มยิ้มกล่าวออกมาว่า “ฉินชวนและพี่น้องทั้งหลาย ฉัน ฉินเทียนซาบซึ้งในความมีน้ำใจของทุกคนมาก ๆ ”
“แต่นั่น ทุกคนไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น”
“แม้ว่าทุกคนจะออกจากมังกรซ่อนตัว แต่ฉันก็จะไม่ใช้ทุกคนอยู่ดี”
ฉินเทียนพลันมองไปที่ฉินเปียว และพูดออกมาด้วยความเย็นชาว่า “นายใช้เวลาคิดแผนการนี้มากเท่าไหร่เพื่อที่จะพยายามระงับอำนาจของมังกรซ่อนรูปกัน พูดมาเลย ว่านายคิดจะทำอะไรต่อไปกันแน่ ?”
ฉินเปียวพลัยยกสุราที่อยู่ตรงหน้าจดหมดและยืนขึ้น
เขาและฉินเทียนพลันมองหน้ากัน ราวกับทั้งคู่มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ไม่อาจต้านทานได้อยู่ในดวงตาของพวกเขา!
“สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในโลกก็คือ สงครามระหว่างพี่น้องนี่แหละ ”
“ฉันรอวันนี้มาหลายปีแล้ว พี่ชายคนดี คราวนี้มาสนุกกันเถอะ”
“พวกเขาเป็นยอดฝีมือที่พี่พามาจากทางใต้หรือเปล่า?”ฉินเปียวกวาดตามองอย่างสนุกสนาน พร้อมทั้งค่อย ๆ ไล่มองไปที่เถี่ยหนิงซวง หม่าหงเทาและคนอื่น ๆ ทีละคนอีกมากมาย
“ฉันได้ยินมาว่า พี่ฝึกพวกเขาด้วยวิธีที่พิเศษมาก”
“มันบังเอิญจริง ๆ ที่ฉันก็มีกำลังพลที่ได้รับการฝึกอบรมที่คล้ายกันเหมือนกัน”
“ถ้าอย่างนั้นรอบแรกนี้พวกเรามาเล่นเกมล่าสัตว์กันดีไหมล่ะ?”
“พี่เทียนฉันทนไม่ได้แล้ว!” เถียหนิงซวงพลันกัดฟันกล่าวออกมา พร้อมกับก้าวไปข้างหน้าด้วยดาบในมือในทันที ด้วยท่าทีที่ดูดุร้าย
นอกจากนี้ ทั้งถงชวนและเถียปี้ที่ยืนอยู่ข้างกัน นัยน์ตาของพวกเขาเองก็วาวโรจน์ไปด้วยความโมโหไม่แพ้กัน
พวกเขาที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้นั้น พลันจ้องมองไปที่ฉินเทียนอย่างอ้อนวอน เสมือนกับว่า ขอเพียงแค่ฉินเทียนพยักหน้าเท่านั้น พวกเขาจะรีบเร่งรุดไปข้างหน้าทันที พร้อมกับออกลอดลายอย่างมีสีสันให้กับฉินเปียวได้เห็นความสามารถของพวกเขา
ฉินเทียนพลันโบกมือไปมา และพูดด้วยความเย็นชาออกมาว่า “ให้ล่ายังไงดีล่ะ?”
ฉินเปียวพูดออกมาอย่างเสียงดัง: “สามวันให้หลัง ที่ภูเขาต้าหวาง!”
“ต่างคนต่างพาคนของตัวเองมา เมื่อถึงเวลานั้น จะได้เริ่มการประลองกัน!”
“ถ้าพี่ชนะ ผมจะขอโทษและคุกเข่าอ้อนวอนให้พี่กลับไปหาตระกูลฉินสายเก่า!”
“และคืนสถานะของพี่ ในฐานะหลานชายคนโตของตระกูลฉินสายเก่าให้ด้วย!”
“แต่ถ้าพี่แพ้—”