ชายที่ถือมีดคมมีสีหน้าดุร้าย เขายิ้มอย่างชั่วร้าย และมีดในมือก็ตวัดไปมั่วอย่างน่าหวาดเสียว
ยู่ยี่พยายามเอามือปิดคอของเธอ และหลบเลี่ยง กำลังจะวิ่งไปที่ประตู แต่ก็ถูกชายคนหนึ่งขวางไว้ ปลายมีดตวัดมาที่ข้อมือของเธอ จนเธอรู้สึกเสียววาบ
รองเท้าส้นสูงของเธอสะดุดเก้าอี้ ทำให้ล้มลงกับพื้น และจากนั้นชายผู้นั้นก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะผิดปกติเล็กน้อย ดวงตาของเขาแดงก่ำ และเขาพูดเสียงดัง “ฉันอยากให้แกตาย ฉันอยากให้แกตาย ฉันอยากให้แกตาย…”
ดูเหมือนว่าเขากำลังร่ายมนต์ มือและเท้าของยู่ยี่เย็นยะเยือก ร่างกายของเธอสั่นเทา ทำได้เพียงถอยกลับ
แน่นอนว่าชายคนนั้นไม่ปล่อยเธอไป เขาเดินเข้าไปหาเธอทีละก้าว แล้วหัวเราะอย่างป่าเถื่อน “แกทำร้ายฉันจนอยู่ในสภาพนี้ เมียหนี ลูกทิ้ง แกคิดว่าฮันจะปล่อยแกไปไหม!”
ยู่ยี่รู้ดีว่าชายตรงหน้าต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!
เขาหัวเราะอย่างโหดเหี้ยม และตบหน้าอกอย่างแรงด้วยมือซ้ายพร้อมๆกัน ท่าทางแบบนั้นทำให้เธอรู้สึกกลัว
ในที่สุด ความบ้าคลั่งของเขาก็มาถึงจุดสูงสุด เขายกมือขึ้น ปลายมีดพุ่งลงมาทางท้องของเธอ แต่ก่อนที่มีดจะปักลง ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างและเป็นลมไป
ยู่ยี่รู้สึกว่าเธอกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เมื่อเธอมองไปรอบๆก็เห็นฉันทัชยืนอยู่ตรงนั้น และเตะชายคนนั้นออกไป
เธอสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปาก ใบหน้าซีดขาว และเมื่อเห็นเขาเธอก็รู้สึกโล่งใจ แต่ดวงตาของเธอก็แสดงถึงความเจ็บปวด เศร้า และอยากจะร้องไห้
สีหน้าของฉันทัชไม่ค่อยดีนัก มันมืดมน แต่การอุ้มเธอนั้นอ่อนโยนมาก และเสียงของเขาก็เบาลงหลังจากพยายามระงับอารมณ์แล้ว “ไม่เป็นไร ผมอยู่นี่แล้ว…”
ผมอยู่นี่ คำง่ายๆ แต่ก็พอจะทำให้ผู้หญิงที่บาดเจ็บประทับใจ…
หัวใจที่หวาดกลัว และหวาดผวาของยู่ยี่ กลับมาเต้นเป็นจังหวะเดิมอีกครั้ง เธอเอามือโอบรอบคอของเขา และซุกหน้าไว้แน่นในอ้อมแขนของเขา
ฉันทัชวางเธอบนโซฟา แล้วโทรเรียกหมอมา หลังจากนั้นไม่นานโก๋ก็พาหมอมา
ฉันทัชนั่งอยู่ข้างๆเธอ และกอดเธอไว้ในอ้อมแขน หมอได้ฆ่าเชื้อ และให้ยาเธอ ในขณะที่เขาจับมือเธอวางลงบนฝ่ามือของเขาตลอด
การฆ่าเชื้อเจ็บมาก ยู่ยี่กัดฟันไม่ส่งเสียง ทำเพียงเพียงกอดเขาแน่นและอดทน
หลังจากให้ยาเรียบร้อยแล้ว ตำรวจและยามของชุมชนก็มา และสรุปได้ว่าทั้งสองไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกัน
เพราะมีปัญหาทางการเงิน โจรจึงมาขโมยเงิน ส่วนคนร้ายก็แค่หนีออกจากโรงพยาบาลโรคจิตตามโจรมา
สีหน้าของฉันทัชเย็นชามาก ยามของชุมชนยังคงขอโทษไม่หยุด แต่ก็ไม่สามารถทำให้สีหน้าของเขาอ่อนลงได้เลยแม้แต่น้อย
“ชุมชนนี้มีค่าใช้จ่ายไม่น้อยทุกปี จ่ายค่าจ้าง แต่งานทำได้แย่แบบนี้ ฉันจะรอผู้จัดการพวกนายมาขอโทษและตอบคำถาม!”
ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานครบแล้วจึงกล่าวว่า “คุณฉันทัช เราจะพาผู้ต้องหาทั้งสองคนกลับไปด้วย”
ฉันทัชขยับสายตาไปมอง และพยักหน้าเล็กน้อย แต่เมื่อจ้องไปที่ผู้ป่วยโรคจิตที่สลบอยู่บนพื้น สายตาของเขาก็เย็นชาและสงบนิ่ง แต่กลับเหมือนพายุที่ค่อยๆก่อตัวขึ้น
ทุกคนออกไป ชายหนุ่มยื่นแขนยาวออกมาอุ้มเธอ ให้เธอนั่งบนต้นขาที่แข็งแรงและอบอุ่นของเขา แล้วถามเธอว่า “ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า”
หัวใจของยู่ยี่สงบลง เธอส่ายหัว “แล้วทำไมคุณยังไม่กลับล่ะ”
“ผมรอให้ไฟในห้องของคุณเปิดก่อนจะกลับไป แต่ไฟยังไม่เปิดสักที ผมรู้สึกผิดปกตินิดหน่อย ก็เลยขึ้นมา…” เสียงของฉันทัชเบาลง และการเคลื่อนไหวของเขาอ่อนโยน “คุณอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว”
“ไม่เป็นไร พวกมันถูกจับได้หมดแล้ว” ยู่ยี่คิด แต่โชคดีที่เขาออกไปช้าไปหนึ่งก้าว
“ครั้งนี้ ปัญหาด้านการจัดการและความปลอดภัยของชุมชนนี้ถูกเปิดเผยแล้ว คุณไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีก ถ้าผมออกไปก่อนหรือมาทีหลังจะเกิดอะไรขึ้น คุณเคยคิดบ้างไหม”
ยู่ยี่ไม่ตอบ ฉันทัชขมวดคิ้ว “คุณอาจคิดว่าจะไม่มีครั้งต่อไป แต่ผมไม่อยากตกใจอีก”
“คุณตกใจเป็นด้วยหรอ” ยู่ยี่มองมาที่เขา ใบหน้าของเขาสงบ อารมณ์คงที่ เขาดูเหมือนหวาดกลัวที่ไหน
ฉันทัชไม่พูดอะไรนอกจากคว้ามือเธอวางบนหน้าอกของเขา แล้วปล่อยให้เธอสัมผัสเอง “คุณสัมผัสได้ไหม”
ความถี่ของการเต้นของหัวใจค่อนข้างเร็ว และความถี่ที่เร็วเกินไปนี้ก็เป็นเพราะเธอ ยู่ยี่เลียริมฝีปากของเธอเล็กน้อย และหัวใจของเธอก็เต้นด้วย
“ความกลัวนั้นไม่ได้เกิดจากสาเหตุอื่น ผมแค่กลัวว่ามันจะสายเกินไปที่จะช่วยคุณ แล้วคุณจะพบกับสถานการณ์ที่เลวร้าย ย้ายไปอยู่ที่คฤหาสน์ผม ตามที่ผมบอก ผมจะปฏิบัติต่อคุณด้วยความเคารพ ความรู้สึกที่แท้จริงในใจของผมในเวลานี้ บอกผมว่าผมไม่สามารถปล่อยให้คุณเผชิญเรื่องแบบนี้คนเดียวได้อีก ฟังผมนะ ได้ไหม”
“…”
ชายอายุสามสิบสี่ปีผู้มั่นคง เป็นผู้ใหญ่ และสง่างาม ตอนนี้กำลังกอดเธอ และพูดคำที่อบอุ่นเช่นนี้
ยู่ยี่น้ำตารื้น พยักหน้า และตอบตกลงเขาโดยไม่ลังเลใดๆ
ฉันทัชอุ้มเธอลงไปข้างล่างอย่างนุ่มนวล และรถเบนท์ลีย์ก็ยังจอดอยู่ตรงนั้น
เมื่ออาคิระเห็นทั้งสองคน ฉันทัชก็บอกให้เขาขับรถ พร้อมอุ้มยู่ยี่เข้าไปนั่งเบาะหลัง
ระหว่างทางดวงตาของอาคิระก็เหลือบมองที่เบาะหลังของรถเป็นครั้งคราว และเขาเห็นได้ชัดเจนว่าสีหน้าของ ฉันทัชนั้นตึงเครียดและโกรธเล็กน้อย แต่เขาอ่อนโยนต่อผู้หญิงในอ้อมแขนของเขามาก
สิ่งนี้ทำให้ความคิดของอาคิระลอยไป เมื่อนึกถึงฉากก่อนหน้านี้…
แต่เมื่อเขาเห็นยู่ยี่ มือของเขาก็กำพวงมาลัยแน่นขึ้น และใบหน้าของเขาดูน่าเกลียดถึงขีดสุด
คฤหาสน์มีหลายห้อง ยู่ยี่นอนชั้นหนึ่ง อาคิระนอนชั้นสอง และฉันทัชก็ย้ายจากชั้นสองมานอนชั้นหนึ่ง
มือของยู่ยี่ได้รับบาดเจ็บ ทำอะไรไม่สะดวก มาอยู่ใกล้ๆ จะได้ได้ยินเสียงของเธอ เมื่อเธอต้องการความช่วยเหลือ จะได้มาได้ทัน
เธออายุยี่สิบเจ็ดปี เจอเรื่องต่างๆมามากมาย ทำให้เธอโตขึ้น แต่เมื่อตอนที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เธอหวาดกลัวมากจริงๆ
แต่ถึงเวลานี้ ความกลัวและหวาดผวาได้หายไปแล้ว ในใจของเธอมีแต่ความสงบและเย็นชา
ทั้งคืนเธอนอนหลับอย่างสบาย ไม่ได้ฝันถึงอะไรจนสว่าง โชคดีที่อาการบาดเจ็บที่ข้อมือของเธอไม่ร้ายแรง ที่คอก็เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องขอลา
เธอเข้าใจอาการของตัวเองดี เธอจะไม่ฝืนตัวเอง
เมื่อเดินออกจากห้อง ก็เห็นอาคิระกำลังนั่งดื่มกาแฟในห้องนั่งเล่น เธอจึงทักทาย “อรุณสวัสดิ์”
อาคิระพยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบ ดวงตาของยู่ยี่มองไปรอบๆห้อง มองหาร่างสูงของคนคนหนึ่ง แต่ไม่เห็น
อาคิระลุกขึ้นเดินไปหาเธอช้าๆ ถือหนังสือพิมพ์อยู่ในมือ และพูดว่า “เขาออกไปซื้ออาหารเช้าให้คุณ คุณอาจจะต้องอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนี้”
มีข่าวมากมายในหนังสือพิมพ์ ยู่ยี่รู้สึกว่าเขาไม่มีทางให้ตัวเองอ่านข่าวได้โดยไม่มีเหตุผลอื่น และสิ่งเดียวที่เกี่ยวข้องกับเธอก็คือข่าวที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชถูกไล่ออก
“เขาทำเพื่อคุณเมื่อเช้านี้ การละเลยหน้าที่ของผู้อำนวยการเกือบทำให้คนเสียชีวิต ในใจคุณรู้สึกยังไงล่ะ คุณรู้สึกมีความสุข ดีใจจนอยากจะร้องไห้เลยไหม”
ยู่ยี่วางหนังสือพิมพ์ไว้ข้างๆ แล้วมองไปที่อาคิระ เธอรู้สึกว่าคำพูดของเขาไม่ถูกต้อง “คุณต้องการจะพูดอะไร”
“ผมอยากเล่าเรื่องภายในให้ฟังด้วยเจตนาดี เขาเคยแต่งงานแล้ว เคยมีภรรยาแล้ว และภรรยาของเขาเสียชีวิตด้วยน้ำมือของโจร ฉากที่เกิดขึ้นในคืนนั้นคล้ายกับของคุณเมื่อคืนนี้มาก ต่างกันนิดเดียวคือ ภรรยาของเขามีเลือดออกเยอะมาก คุณคิดว่าสาเหตุที่เขากังวลเกี่ยวกับคุณเป็นเพราะว่าเขารักคุณจริงๆ หรือเขาถูกกระตุ้นจากเหตุการณ์ในตอนนั้น จนทำให้รู้สึกผิดต่อคุณ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ยู่ยี่ก็แข็งค้าง หยุดนิ่งอยู่กับที่ และไม่ส่งเสียงใดๆออกมา
อาคิระยิ้ม “ทำไม เจ็บปวดหรอ”
ยู่ยี่ฟื้นสติกลับมา และยักไหล่ “เปล่า ฉันแค่สงสัยและตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะเคยแต่งงานแล้ว อ้อ เขามีลูกมั้ย”
สิ่งที่เธอพูดคือความจริง แต่อย่างที่ฉันทัชพูดก่อนหน้านี้ ชายวัยสามสิบสี่ปีไม่สามารถดำเนินมาอย่างว่างเปล่าได้หรอก
เป็นเรื่องปกติที่เขาจะแต่งงาน
ปฏิกิริยาที่ไม่คาดคิดทำให้มือของอาคิระบีบถ้วยกาแฟแน่นโดยไม่รู้ตัว แต่เขายังคงยิ้มและตอบว่า “ไม่มี”
“ก็ดี แต่คุณมาพูดแบบนี้กับฉันเพื่ออะไร ฉันรู้สึกได้ว่าคุณอคติต่อฉัน ไม่เป็นมิตร ฉันสงสัยมากว่าทำไมคุณถึงทำอย่างนี้ คุณชอบเขาหรอ หรือเป็นเพราะเหตุผลอื่น” ยู่ยี่ถามกลับ
“สัญชาตญาณของคุณเฉียบแหลมมาก” อาคิระยังคงยิ้ม “สำหรับเหตุผลที่ผมทำแบบนี้ ผมจะไม่บอกคุณในตอนนี้ เพราะเกรงว่ามันจะกระทบคุณ ผมจะรอวันที่คุณรู้เหตุผลด้วยตัวเอง”
เขาไม่ได้พูด แม้ว่ายู่ยี่จะสงสัย แต่เธอก็ไม่ถาม หลังจากทั้งสองสนทนากันเสร็จ ก็ไปล้างหน้า แปรงฟัน จากนั้นฉันทัชก็นั่งที่โต๊ะอาหารอยู่แล้วก็จ้องมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “มากินข้าวเช้าสิ”
ยู่ยี่กินข้าวต้ม โดยไม่ได้แตะปาท่องโก๋เลย เธอไม่ชอบกินปาท่องโก๋ เพราะรู้สึกว่ามันมันเกินไป
ฉันทัชใช้นิ้วยาวแตะปาท่องโก๋เบาๆ รบเร้าให้เธอกินสองชิ้น
สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถกินทั้งสองจนหมดได้ เธอกินไปอันครึ่ง และยังเหลืออีกครึ่งหนึ่ง ฉันทัชจึงนำส่วนที่เหลือของเธอมากินจนหมด
ดวงตาของเขาเป็นประกาย อาคิระจ้องเขานานมาก และดวงตาของยู่ยี่ก็เป็นประกายเช่นกัน
เธอบอกว่าเธอจะไปทำงาน แต่ฉันทัชไม่ยอม เธอจึงบอกว่าเธอไม่มีปัญหา และเมื่อมีปัญหาเธอจะให้เขามารับเธอที่บริษัท
ไม่รู้ว่าคำในประโยคนี้คำไหนทำให้เขามีความสุข ฉันทัชจึงตกลง และไปส่งเธอที่บริษัท
เสื้อเชิ้ตสีขาว และชุดสูทสีดำแบบธรรมดาๆ แต่เมื่ออยู่บนตัวเขามันมีทั้งความประณีตโดดเด่น มีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์
เขากำลังขับรถอยู่ และบางครั้งก็รับโทรศัพท์ผ่านหูฟังบลูทูธ ใบหน้าด้านข้างของเขาทำให้เห็นมุมหน้าอย่างชุดเจน ยู่ยี่กำลังมองเขาอยู่
เธอคิดเยอะมาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับการแต่งงานของเขา ซึ่งเขาไม่เคยบอกเธอ
ภรรยาของเขาเสียไป มันเป็นเรื่องน่าเศร้า เขาไม่พูด เพราะรู้สึกผิด แต่เธอกำลังคิด เขาไม่ได้บอกเธอเพราะความเศร้า หรือเขารู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอไม่ลึกซึ้งพอที่จะบอกเธอได้
ด้วยเหตุผลทั้งสอง ไม่ว่าจะมองในมุมเขา หรือมองในมุมของเธอเอง การกระทำของเขาก็ถูกต้อง และไม่มีข้อผิดพลาด
เมื่อมาถึงชั้นล่างของบริษัท โก๋ก็รออยู่แล้ว เขาบอกว่าจะมาช่วยเธอ เช่นยกของหนักๆ หรือเรื่องอื่นๆ