ส่วนที่ 4 ตอนที่ 95 สวยโดดเด่นกว่าใคร

ความลับแห่งจินเหลียน

จ่านมู่ฮวายิ้มถามขึ้น “จินเหลียน พวกเราจะวางเดิมพันอันไหน หรือว่าดีทั้งหมดเลย?” 

 

 

ซีเหมินจินเหลียนเงยหน้าขึ้นมามองจอแสดงผล แม้ว่าลักษณะหินหยกของเจียหยวนฮวาจะดูธรรมดา แต่เพราะว่าเขามีฉายาราชาแห่งนักเดิมพันหยกมาค้ำหัว ส่งผลให้อัตราต่อรองราคาของเขาไม่สูง แค่หนึ่งต่อสามเท่านั้น ที่เหลือที่ลักษณะดีขึ้นหน่อยมีหนึ่งต่อสอง หนึ่งต่อสาม หนึ่งต่อสี่ มีแค่ก้อนท้ายสุดที่เปิดอัตราต่อรองไว้ที่หนึ่งต่อเก้า 

 

 

เธอคิดดูแล้วก็สมเหตุสมผล เพราะการที่มาเข้าร่วมการเดิมพันใหญ่นี้ไม่ใช่บริษัทจิวเวอรี่ที่ไหนที่จะมีนักเดิมพันส่วนตัวที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าใครก็ไม่ได้รังเกียจที่ตัวเองจะมีเงินเยอะขึ้น ถือเงินสิบล้านเฉกเช่นไม่มีค่าอะไรเอามาใช้ เพราะฉะนั้นอัตราต่อรองที่ผู้จัดงานเปิดมาก็ไม่ถือว่าเกินไป 

 

 

ก้อนสุดท้าย ผู้เข้าร่วมงานไม่เขียนแม้กระทั่งชื่อจริง อีกทั้งลักษณะของหินที่เผยให้เห็นก็ดูไม่ค่อยดีนัก เรียกได้ว่าเป็นวัตถุดิบก่อสร้างทั่วไปยังจะดีกว่าเสียด้วยซ้ำ 

 

 

หินหน้าตาอัปลักษณ์แบบนี้ ไม่ได้เปิดอัตราต่อรองไว้ที่หนึ่งต่อสิบห้า ผู้จัดงานก็ถือว่าให้เกียรติผู้ร่วมงานมากแล้ว 

 

 

แต่แม้ว่าจะมีอัตราต่อรองหนึ่งต่อเก้า แต่ก็ยังทำให้ทุกคนประหลาดใจ เพราะว่าอัตราต่อรองนี้ กลับทำให้คนที่ดูตามทิศทางลมกลับเตร่ไปเตร่มา ไม่กล้าวางเดิมพันอะไรลงไป     

 

 

อีกอย่างทางฝั่งผู้เดิมพัน อย่างน้อยที่สุดก็ต้องลงหนึ่งหมื่นหยวน แม้จะเป็นคนมีเงินก็คงไม่ใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุหร่ายเช่นนี้แน่ 

 

 

“พวกเราวางเดิมพันอันไหนดีครับ” จ่านมู่ฮวาถามขึ้นอีกครั้ง 

 

 

ซีเหมินจินเหลียนพูด “บอกตามตรงแล้วฉันก็ยังดูไม่ออกเลย ถ้าอย่างนั้นพวกเราวางเงินไปที่อัตราการต่อรองสูงที่สุดดีไหม?”     

 

 

จ่านมู่ฮวานิ่งอึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็ยังยิ้มขึ้นมาแล้วพยักหน้าพูดว่า “ได้สิครับ แค่คุณบอกมาว่าอยากวางเงินลงก้อนไหนเราก็จะวางก้อนนั้น ตอนค่ำพวกเราวางเดิมพันไปสามสิบล้าน ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เราวางเจ็ดสิบล้านที่เหลือไปให้หมดเลยดีไหม?” 

 

 

“นั่นก็ไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนไม่ได้อยากที่จะอยากเรียกความสนใจจากผู้คนขนาดนั้น “วางสักยี่สิบล้านก็พอ ส่วนที่เหลืออีกห้าสิบล้านคอยรอดูคืนพรุ่งนี้ต่อไป” 

 

 

“วันนี้ก็คุณหวังให้ผมสูญเสียเงินห้าสิบล้านใช่ไหม?” จ่านมู่ฮวาฟังแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไร 

 

 

“เรื่องนี้น่ะ ยังไงก็ต้องเตรียมใจไว้สำหรับการแพ้เดิมพันด้วยไม่ใช่เหรอ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม 

 

 

“อืม!” จ่านมู่ฮวายิ้มแล้วหยิบบัตรธนาคารขึ้นมาไปวางไว้ที่เคาน์เตอร์ ซีเหมินจินเหลียนหามุมเงียบๆ ก่อนจะนั่งลงไป ดูเวลาแล้วเพิ่งจะสามทุ่มตรง คืนนี้เวลาวางเดิมพันสิ้นสุดประมาณสี่ทุ่ม เดิมพันสีและเดิมพันชนิดข้างนอกเวลาถึงสามทุ่มตรง สี่ทุ่มประกาศผล เวลาของทั้งสองฝั่งห่างกันประมาณหนึ่งชั่วโมงพอดี 

 

 

ผลของข้างนอกก็เธอไม่ต้องดูแล้ว เพราะว่าเธอแบ่งแยกเงินวางเดิมพัน เพราะฉะนั้นจึงไม่เป็นที่สนใจมาก คนที่สงสัยในตัวเธอคนเดียวน่าจะมีแค่จ่านมู่ฮวา แต่ถึงแม้ว่าจะปิดบังคนคนนี้ไว้ แต่อย่างไรเขาก็สงสัยเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  

 

 

 สองมือกุมเข่าก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ เห็นบรรยากาศคึกคักของการเดิมพันหยก เธอก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา เสน่ห์ของการเดิมพันหยกนั้นไม่ใช่แค่ยิ่งใหญ่ธรรมดา แต่ไม่ว่าคนแก่หรือเด็กเล็กหญิงชายต่างเป็นผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด 

 

 

เมื่อคิดไปคิดมา เธอก็โทรไปหาจ่านป๋ายเพื่อถามว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่ 

 

 

เมื่อหยิบมือถือขึ้นมากดโทร จ่านป๋ายก็รับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว “เสี่ยวป๋าย คุณทำอะไรอยู่” 

 

 

“อ้อ ผมจัดการเรื่องอะไรนิดหน่อยน่ะ ไม่เป็นไร คุณไม่ต้องเป็นห่วง” จ่านป๋ายพูดอย่างผ่อนคลาย ก่อนถามขึ้นว่า “แล้วคุณล่ะครับ” 

 

 

“ฉันกำลังเดิมพันหินกับจ่านมู่ฮวาคนเลวนั่น” ซีเหมินจินเหลียนพูด 

 

 

“ผมไม่ใช่คนเลวนะ!” จ่านมู่ฮวาเดินเข้ามาพอดีเมื่อได้ยินก็รีบแย้งขึ้น 

 

 

“ขอให้สนุกนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะไปเดิมพันเป็นเพื่อนคุณ” จ่านป๋ายพูดขึ้น “คืนนี้ผมว่าผมน่าจะเข้าไปไม่ทันแล้ว ส่วนไอ้เลวนั่นถ้าเรื่องชั่วเรื่องอื่นเขาอาจจะทำ แต่เรื่องหลอกผู้หญิงเขาไม่ทำหรอก” 

 

 

“อย่างเขานี่ยังต้องหลอกใครอีกเหรอ” ซีเหมินจินเหลียนกวาดสายตาไปชำเลืองมองจ่านมู่ฮวาก่อนจะยิ้มออกมา ใบหน้าเช่นนี้เพียบพร้อมไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแสนร้ายกาจ ไม่ต้องใช้คำพูดใดๆ มาพูดเลย 

 

 

จ่านป๋ายได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้ม เรื่องนี้เขายอมรับ เพราะอย่างนั้นในสถานการณ์แบบนี้เขาจึงยังไม่ค่อยกังวลที่ซีเหมินจินเหลียนกับจ่านมู่ฮวาอยู่ด้วยกัน เพราะคิดดูแล้วหลินเสวียนหลานถือว่าเป็นบุคคลรูปลักษณ์งดงามที่หาเจอได้ยากอยู่ สำหรับผู้ชายหน้าตาดี ซีเหมินจินเหลียนถือว่ามีภูมิต้านทานดีทีเดียว 

 

 

“เสี่ยวป๋าย…เสี่ยวป๋าย…” จู่ๆ ซีเหมินจินเหลียนก็จับโทรศัพท์แน่นแล้วร้องเรียกขึ้นมาอย่างตกใจ 

 

 

“เกิดอะไรขึ้น” จ่านป๋ายตกใจ คิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับซีเหมินจินเหลียน เลยร้อนรนถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?” 

 

 

“ฉันเจอคนสวย สวยมาก! ให้ตายเถอะ บนโลกนี้ยังมีผู้หญิงที่งดงามเช่นนี้อยู่อีกเหรอ เสี่ยวป๋าย เธอเดินมาทางนี้แล้ว ฉันมองเธอแล้วก็รู้สึกเหมือนมีออร่าพุ่งกระจายออกมาเลย เหมือนกับดวงดาวก็ไม่ปาน สวยมากจริงๆ…”  ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกว่าตัวเธอพูดวกวนซ้ำไปมาไม่รู้กี่ครั้ง 

 

 

แต่คนคนนี้ก็สวยมากจริงๆ แม้ว่าเธอเองจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ยังรู้สึกตกตะลึงขนาดนี้ สวยเด่นมีออร่าที่สุดท่ามกลางผู้หญิงทั้งหมดเลย 

 

 

“จินเหลียน คุณพบคุณนายซูแล้วเหรอครับ?” ในมือถือมีเสียงของจ่านป๋ายถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ 

 

 

ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกไม่เข้าใจ ความจริงเธอก็พอคาดเดาได้ว่าผู้หญิงที่สวยงดงามขนาดนี้น่าจะเป็นคุณนายซู แต่จ่านป๋ายรู้ได้อย่างไร? 

 

 

“คุณรู้ได้ยังไงกัน” ซีเหมินจินเหลียนถามขึ้น          

 

 

“จินเหลียน คุณฟังผมให้ดีนะครับ คุณต้องอยู่ให้ห่างจากผู้หญิงคนนั้น ใช่แล้ว คุณอย่าอยู่กับจ่านมู่ฮวานะ อย่าอยู่ใกล้เขาเด็ดขาด ให้ตายเถอะ จินเหลียน ถ้าหากคุณไม่มีเรื่องอะไรแล้วก็รีบกลับมา แล้วก็อย่าให้ผู้หญิงคนนั้นเจอหลินเสวียนหลาน…” จ่านป๋ายพูดกำชับอย่างกระวนกระวาย 

 

 

“ห๊ะ…” ซีเหมินจินเหลียนยังคงไม่เข้าใจ ผู้หญิงที่โดดเด่นกว่าใครที่อยู่ตรงหน้าเธอ เดินสง่าผ่าเผยเข้ามาทางเธอแล้ว 

 

 

“เธอเดินมาทางนี้แล้ว…” ซีเหมินจินเหลียนพูด 

 

 

“คุณรีบออกห่างจากไอ้เลวจ่านมู่ฮวานั่นเดี๋ยวนี้เลย!” จ่านป๋ายพูดขึ้นอีกครั้ง 

 

 

ในที่สุดซีเหมินจินเหลียนก็ได้สติคืนกลับมา รู้แล้วว่าเป้าหมายของผู้หญิงคนนี้คือคุณชายคนโตของตระกูลจ่าน จึงรีบพูดขึ้นทันทีว่า “เข้าใจแล้ว! คุณวางใจได้ ตอนนี้ฉันจะห่างจากคนเลวนั่นเลย”  

 

 

“ใช่แล้ว อย่าไปอยู่กับผู้ชายเลวคนนั้น ผู้ชายที่ดูดีเกินไปมักจะเป็นต้นตอก่อเรื่อง แล้วก็คุณคอยดูหลินเสวียนหลานให้ดี ถ้าไม่มีอะไรก็ให้เขากลับไป อย่ามาเที่ยวลอยหน้าลอยตาอยู่ในงาน ให้เขารีบกลับไปซะ” จ่านป๋ายพูดกำชับอีกครั้ง 

 

 

“อืม!” ซีเหมินจินเหลียนตกปากรับคำ แต่ก็อดที่จะมองไปยังคุณนายซูคนนั้นไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆ ถ้าเธอเป็นผู้ชาย เกรงว่าคงจะทุ่มสุดตัวเหมือนกัน  

 

 

จ่านป๋ายกำชับอย่างหนักแน่นอยู่หลายครั้งถึงวางสายไป ซีเหมินจินเหลียนรีบลุกขึ้นเดินออกไปให้ไกล แกล้งทำเป็นดูเดิมพันสีข้างหน้า จ่านมู่ฮวาก็รีบเดินตามเธอไป ซีเหมินจินเหลียนจึงพูดขึ้นว่า “คุณอย่าตามฉันมา” 

 

 

“จ่านมู่หรงคุยอะไรกับคุณ?” สีหน้าของจ่านมู่ฮวาเป็นกังวล 

 

 

“เขาบอกให้ฉันรีบอยู่ให้ห่างจากคุณและคุณนายซูคนนั้น…” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าพูดขึ้น  แต่เมื่อมองไปซีเหมีนจินเหลียนกลับตกใจเป็นอย่างมาก ข้างๆ ของคุณนายซูคนนั้นกลับเป็นหลินเสวียนหลาน… 

 

 

เมื่อครู่จ่านป๋ายเป็นหนักหนาว่าอย่าให้คุณนายซูคนนั้นเจอกับหลินเสวียนหลาน หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะชอบเข้าหาแต่ผู้ชายหน้าตาดี?