เสียงบรรเลงอันเลือนลางล่องลอยจากชั้นบน และก้องสะท้อนลงมายังโถง  งานประพันธ์นั้นมิใช่ผลงานชิ้นเอกที่หาได้ยาก หากแต่ไม่มีผู้ใดเห็นนักบรรเลง  บางที มันก็เพิ่มความสง่าให้แก่บทเพลงเช่นนี้

บนพื้น มีพรมสีเขียวครามเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหนาเกินธรรมดา  ผู้ที่เหยียบลงไปรู้สึกถึงความอบอุ่นและหรูหรา แม้ว่าสีของมันจะมิได้พิเศษนัก

ทุกโต๊ะมีบัตร พร้อมชื่อ  เป็นปกติที่แถวแรกถูกจัดไว้รับรอง ราชวงศ์ พวกเขาเป็นดั่ง นกกระสา ในหมู่ไก่  โต๊ะทั้งสี่ ระบุตำแหน่งที่นั่งของพวกเขา

ทุกผู้อาจจะคิดว่า

หอชนชั้นสูง นี้ช่างเลิศเลอ แม้แต่เหล่าสมาชิกราชวงศ์ก็มิอาจมีพื้นที่ส่วนตัว …

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่อยู่ในโถงรู้สึกได้ว่าตัวเองนั้นสูงส่งในสังคม  พวกเขาเริ่มรู้สึกว่าเป็นชนชั้นสูงโดยแท้จริง เนื่องจากมิได้อยู่ห่างจากราวงศ์มากนัก 

นี่คงมิใช่สิ่งที่หมายถึงชนชั้นสูง ?

ทุกผู้คาดว่าสมาชิกราชวงศ์จะรู้สึกปิติอย่างมากเนื่องด้วยสิ่งเหล่านี้

แถวที่สองสำหรับเหล่าสกุลใหญ่  โดยไม่มีการแบ่งตามตำแหน่ง  แถวที่สาม สำหรับเหล่าลูกหลานของข้าหลวง รวมถึงขุนนางผู้ร่ำรวย และแถวที่สี่ ตระเตรียมไว้สำหรับเหล่าเศรษฐีและผู้ทรงอำนาจอื่นๆแห่ง นครเทียนเชียง

ระหว่างแถวนั้นจะมีม่านไข่มุขห้อยไว้เหนือหัว  ม่านเหล่านี้จะปิดบังอยู่บริเวณหัวขณะนั่งลง ซึ่งทำให้มองเห็นว่าผู้ที่นั่งอยู่แถวหน้าของพวกเขานั้นคือผู้ใดได้ยาก …

ทุกซอกและมุมมี กรถางธูปรูปปั่นนกกระเรียนมงกุฎแดงวางไว้  ดูคล้ายดั่งนกระเรียนเหล่านี้พ่นควันสีน้ำเงินออกมา  ควันลอยล่องขึ้นสู่อากาศ และกลิ่นควันแพร่กระกายส่งให้บรรยากาศสงบ

บางผู้ที่มาถึงก่อน และต้องรอยาวนานครึ่งค่อนวัน  แต่กระนั้นพวกเขาก็มิได้กระวนกระวายแม้แต่น้อย ความจริง ดูเหมือนพวกเขาจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

หญิงสาวในชุดสีเหลืองอร่ามยกน้ำชาบริการในจอกเล็ก  เสื้อผ้าและความสง่างามของพวกนางทำให้ดูคล้ายดั่งผีเสื้อ  พวกนางดูงดงามขณะเคลื่อนไหวอย่างมีมารยาท และความรู้สึกที่เหมาะควร

ด้านหน้าสุด มีสิ่งทอสีขาวนวลทอดยาวลงจากเบื้องบน จนดูเหมือนจะลงมาจากฟากฟ้า  สิ่งทอนี้ปกปิดสิ่งที่อยู่ด้านหลังมิดชิด ซึ่งดูคล้ายกำแพงซึ่งหน้าเกินกว่าปกติ

เสียงดนตรีหยุดลง

ทุกผู้ตื่นตา

ในที่สุด เสียงฆ้องเปิดการแสดงดังขึ้น

สิ่งทอด้านหน้าลอยขึ้นอย่างเงียบเฉียบเผยเวทีสีสาวสะอาด  จากนั้น มีแสงระยิบระยับส่องเข้ามาอย่างรวดเร็ว  แสงเหล่านี้ส่องสะท้อนออกมาจากเหล่าเพชรพลอยที่ประดับอยู่ตามตำแหน่งค่างๆของเวที

มีโต๊ะตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง

เหนือโต๊ะมี ค้อน ค้อนเพื่อการตัดสิน

การเตรียมการนี้อัศจรรย์ยิ่ง  ความจริง ทั้งหมดนี้เป็นการตระเตรียมที่แตกต่างกับหอมณีวิจิตร ซึ่งรู้จักกันว่าเป็นหอประมูลที่ดีที่สุดในนครอย่างสิ้นเชิง ดูราวกับไก่ฟ้าที่ปะทะเข้ากับหงส์ทอง … หรือขอทานที่เผชิญหน้ากับองค์ชาย …

เกิดเสียงฝีเท้าดังก้องขึ้นฉับพลันทำให้ทุกคนเกิดความสนใจ  เสียงฝีเท้าเหล่านี้ทำให้ทุกคนกระหายใคร่รู้

ผู้ที่เป็นเจ้าของฝีเท้านี้จะยิ่งใหญ่แค่ใหนกัน ?

แสงส่องสว่างขึ้น

ก้อนเนื้อขนาดใหญ่เท่าภูเขาเดินออกมา มองไปรอบๆครู่หนึ่ง ทุกย่างก้าวของเขาสง่างาม  ผิวขาวผ่องภายใต้ชุดสีดำของเขา ทำให้เขาดูคล้ายกับหมูต้มที่อยู่ระหว่างขนมปัง  ทั่วทั้งร่างของเขาเด้งกระเพื่อมตามจังหวะการก้าว

” เนื่องจากทุกผู้ในที่นี้ได้รับบัตรเชิญจากหอของเรา หมายความว่าพวกท่านนั้นคือเหล่าชนชั้นสูงแห่ง นครเทียนเชียง  และด้วยเหตุนี้ ท่านจึงเป็นแขนผู้มีเกียรติของเรา !  ข้า ถังหยวน หัวหน้านายประมูลแห่ง หอชนชั้นสูง  ตัวแทนแห่งหอนี้ จะเป็นตัวแทนแห่งสกุลทั้งสาม สกุลองค์รัชทายาท สกุลจวิน และสกุลถัง  ข้ามาเพื่อต้อนรับเหล่าชนชั้นสูงในนามของสกุลเหล่านี้ และขอต้อนรับทุกท่านด้วยความอบอุ่น ! ”

ถังหยวนเอ่ยคำปราศรัยเสียงดังจากใจ   หลังจากพูดจบเขาโค้งตัวลงอย่างน่าประหลาดใจ

ความจริงแล้วเจ้าอ้วนถังได้ทำในสิ่งที่เขาซ้อมมากก่อนหน้านี้  เขาพูดในสิ่งที่นายน้อยจวินได้เขียนไว้ในกระดาษ  คำพูดที่ยืดยาวเหล่านี้สร้างสภาวะที่ศิวิไล

เหล่าผู้ชมปรบมืออย่างอบอุ่นแต่ตื่นตา ให้สำหรับคำว่า ชนชั้นสูงแห่งนครเทียนเชียง  ไม่ว่าการสรรเสริญของเขาจะแท้จริงหรือไม่ เพราะว่าจากนี้ไป ผู้คนเหล่านี้จะใช้ชื่อเสียงนี้เพื่อต่อสู้กับกับผู้ที่พวกเขามิเคยประจันหน้าได้

” หอชนชั้นสูง ตามชื่อนี้ เป็นโถงที่มีเพียงแต่เหล่าชนชั้นสูงเท่านี้ที่จะเข้ามาได้  แล้ว ชนชั้นสูงคือสิ่งใด ? ”

เจ้าอ้วนถังพยายามอย่างมากเพื่อประสานมือไว้ด้านหลัง  มันเป็นสิ่งที่ต้องใช้พลังอย่างมาก  ไม่อาจพูดได้มากมายนักในการจัดการกับน้ำหนักของเจ้าอ้วน  เขามิได้ตัวเตี้ยมาก และแขนขาก็เป็นสัดส่วนตาความสูง  แม้นว่าเขามิได้สูงและแข็งแกร่ง แต่ร่างของเขาก็ยังอ้วนเกินไป  อย่างไรก็ตาม เขามิอาจกำจัดไขมันเหล่านั้นไปได้  และเขาพยายามเท่าที่ทำได้ในการไพร่มือไปด้านหลัง  แต่กระนั้น เจ้าอ้วนก็ทำตามคำแนะนำของจวินโม่เซี่ย เพื่อให้ดูสง่างาม สงบนิ่ง และมีเล่ห์เหลี่ยมเล็กน้อย

อัตตาของถังหยวนก่อตัวขึ้นเนื่องจากเขารู้ว่านี่คือช่วงเวลาที่เขาได้เฉิดฉาย  แม้นว่าสำหรับผู้อื่น เขาจะดูคล้ายหมีดำซึ่งพยายามประสานมือไว้ด้านหลังและเดินอย่างงดงาม  ในความจริง ทุกย่างก้าวของเขาดูงุ่นง่ามสำหรับพวกเขา  แต่กระนั้น ทุกผู้ที่ได้เห็นสิ่งนี้จำต้องยับยั้งมิให้ตัวเองหัวเราะออกมา

เจ้าอ้วนถังเหลือบมองไปทุกด้านด้วยความเคารพ

” สิ่งที่เรียกว่าชนชั้นสูง คือผู้ที่เหนือผู้อื่นด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่น !  อย่างเช่น ”

ถังหยวนหงายมือ บนฝ่ามือของเขาคือวัตถุทรงกลม

” ข้าเชื่อวาทุกคนเคยได้ลิ้มรสสิ่งนี้และรู้ว่ามันคือมันเทศ  ทุกผู้รู้ว่าเจ้าสิ่งนี้จำนวนครึ่งกิโลสามารถหาซื้อได้ในตลาดทั่วไปในราคาสามอีแปะ  ด้วยเหตุนี้ มันจึงถือได้ว่าเป็นผักธรรมดา  แต่กระนั้น !  … ”

ถังหยวนหยุดชั่วครู่ เนื่องจากมันผลนี้กระตุ้นความหิวของเขา

ทุกคนสับสนเนื่องจากชายผู้นี้กำลังพูดถึงชนชั้นสูง … เหตุใดเขาจึงเอามันเทศออกมา ?  ของสิ่งนี้มิใช่อาหารของเหล่าเศรษฐีและผู้มีอำนาจ !

” ครึ่งกิโลของสิ่งที่มีราคาสามอีแปะนี้ไม่เพียงแต่ราคาถูกเท่านั้น แต่มันยังสามารถทำอาหารได้อย่างง่ายดาย  หลังจากที่พวกท่านกลับบ้าน และเพียงต้มมันในน้ำ  ท่านก็สามารถกินมันได้  หรือบางทีท่านอาจจะตัดมันออกเป็นแผ่นบาง  ความจริงแล้ว ท่านสามารถหั่นมันได้มากเท่าที่ต้องการ “​

ถังหยวนรู้สึกราวกับเป็นบัณฑิตขณะที่พูดคำแหล่านี้  เขาอดภูมิใจในตัวเองมิได้  ด้วยเหตุนี้เขาจึงยิ้มด้วยทีท่ามีมารยา  อย่างไรก็ตาม ในสายตาของเหล่าชนชั้นสูงในสถานประมูลนี้ มันดูเหมือนว่ามันเทศหนักครึ่งกิโลนี้ถูกดึงออกมาจากหมูแก่ตัวเมีย พวกเขาเขม่นเพราะมันเป็นภาพที่มิอาจทนได้ !

” แต่กระนั้น ในโรงเตี๊ยมเล็กๆ ไม่สำคัญว่าผักจะถูกหั่นกี่ครั้งตราบใดที่มันยังสามารถทำอาหารได้  ดังนั้น แม้แต่มันเทศราคาถูกก็สามารถสร้างกำไลได้นับร้อยเท่า ! ”

ถังหยวนพูดออกมาดั่งน้ำเชี่ยวกราด 

” ผู้ที่กินมันเทศราคาครึ่งตำลึงเงินนี้ในโรงเตี้ยม ถือได้ว่าเขาคือคนชั้นสูงหากเทียบกับผู้ที่กินมันที่บ้าน  สิ่งที่เหล่าชนชั้นสูงบริโภคคือราคา !  อย่างไรก็ตาม แม้นว่ามันจะเป็นของชั้นต่ำ

หากโรงเตี๊ยมชั้นสูงเสิร์ฟสิ่งเดียวกันนี้ แต่ในราคาสองหรือสามตำลึงเงิน ก็จะถือได้ว่ามันมีคุณภาพที่สูงกว่า  และอีกเช่นเคย มันก็ยังเป็นธรรม หากผู้ใดเกี้ยวพาผู้ที่มีฝีมือด้านศิลปะในซ่องที่ ทะเลสาปหมอกวิญญาณ แม้นเมื่อนางวาดมันเทศฝานและขายมันในราคายี่สิบตำลึงเงิน  ความจริงแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถขัดขวางได้หากมีผู้ใดตัดสินใจจะขายพวกมันในภายหลัง และเสนอเพียงมันสำปะหลังที่ตระเตรียมในวิธีการที่เหมือนกันนี้  แม้นว่าจะเป็นราคาห้าสิบตำลึงเงินก็ยังไม่มากเกินไป  ไม่ว่าอย่างไร เมื่อชนชั้นสูงไปยัง ทะเลสาปหมอกวิญญาณ ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ … ”

ถังหยวนพูดอย่างตื่นเต้นเนื่องจากเขารู้สึกราวกับอยู่ในซ่องและพูดถึงเหล่าลูกค้า  เขากระพริบตาและยิ้มอย่างต่อเนื่องด้วยท่าทางของผู้ที่เข้าใจสิ่งนี้เป็นอย่างดี

ทั้งโถงหัวเราะเพราะเข้าใจถึงสิ่งนี้เช่นเดียวกัน  และตามคาด มันทำให้เหล่าสตรีในโถงต้องขมวดคิ้ว  แต่มีเพียงแค่ผู้ติดตามองค์ชายสองผู้หนึ่ง … ใบหน้าอันงดงามของนางเขียวด้วยความโกรธ …

องค์หญิงหลิงเมิงได้ยินเสียงหัวเราะจากด้านหลังของนางในทันที ในขณะที่หันหน้าไป นางเห็นท่านพ่อ องค์จักรพรรดิ หรี่ตาขณะลูบเครา  ดวงตาของเขาเปล่งประกายราวกับได้พบกับสหายเก่าคนสนิท  ดูราวกับพระองค์รู้สึกเกษมอยู่ภายใน  พระองค์อดที่จะกระแอมมิได้ และจากนั้นก็แรงขึ้น  พระองค์พูดด้วยเสียงต่ำและน้ำเสียงขุ่นเคือง

” อะแฮ่ม !  ผู้ชายมิใช่สิ่งมีชีวิตที่ดี ! ”

องค์จักรพรรดิไอด้วยความเขิลอายเป็นครั้งแรก  จากนั้นพระองค์ก้มหัว และประคองมันด้วยมือสองข้าง ก่อนเงยขึ้นอีกครั้งหลังจากนึกถึงความทรงจำในอดีตได้  จากนั้นนั่งหลังตรงบนเก้าอี้ ด้วยใบหน้านิ่งเฉย  จากนั้นพระองค์คิด

โถ่ !  เจ้าอ้วนนี่เกือบทำข้าเสียสมาธิ !  แต่กระนั้น สิ่งเช่นนี้เกิดขึ้นกับข้าเมื่อนานมาแล้ว ….

” … เดิมทีหากเข้าไปยังโรงเตี๊ยมที่หรูหราที่สุดในนครเทียนเชียงเพื่อมันเทศงฝาน … เจ้าจะพอใจในการใช้จ่ายเงินนับร้อยตำลึงเงิน แม้ว่ามันเทศเหล่านั้นจะมิได้พิเศษ ! “

​ถังหยวนชูนิ้ว และ กระดิกไปมาดั่งลูกตุ้ม

การเคลื่อนไหวนี้เลียนแบบมาจากจวินโม่เซี่ย  นายน้อยจวินนั้นสูง และนิ้วของเขาเรียวงาม  ดังนั้นมันจึงสง่างามเมื่อเขาทำเช่นนี้  ยิ่งไปกว่านั้น สามารถสัมผัสได้ถึงความอวดดีในอากาศเมื่อจวินโม่เซี่ยเคลื่อนไหวเช่นนี้  ถังหยวนแอบชื่นชมในสิ่งนี้มานาน  ใบหน้าของเขาเชิดขึ้นขณะชูมันขึ้นมาต่อหน้าผู้คนมากมาย

อาจจะเอ่ยได้ว่า สีหน้าของเจ้าอ้วนนั้นเปิดเผยอย่างมากในความเป็นจริง …

เมื่อมองเขาในฐานะของผู้ชม … ถังหยวนดูราวกับหมู ที่มีแครอท โผล่ออกมาจากกีบเท้าซึ่งเขากระดิกมันราวกับลูกตุ้ม   ผู้ชมจำนวนมากเริ่มขนลุกในสิ่งที่เห็น  อีกทั้ง สีหน้าไร้สาระที่เผยขึ้นบนใบหน้าของเขาทำให้ ขนของเหล่าชนชั้นสูงลุกชูชัน  แม้แต่เหล่าผู้ที่แข็งแกร่งก็มิอาจเว้น 

สหายผู้นี้น่ารังเกียจยิ่ง

” เงินนับร้อยตำลึงเงินนั้นมากพอจะซื้อมันเทศเพื่อเป็นอาหารให้คนในครอบครัวได้สี่หรือห้าปี !  อย่างไรก็ตาม ผู้คนสามารถกินมันฝานในโรงเตี๊ยมชั้นสูงด้วยราคานั้นได้ ยิ่งไปกว่านั้น อาหารจานนี้ยังคงเป็นอาหารที่ถูกที่สุดไม่ว่าเจ้าจะกินมันที่ใหน ! ”

แขนของถังหยวนกระเพื่อนขณะหัวเราะลั่นและเอ่ย

” ชนชั้นสูงกินมันเทศกระนั้นหรือ ?  ไม่ !  สิ่งที่ท่านกิน …

คือความงดงาม มันคือความสง่างาม ! 

สิ่งที่เจ้ากิน คือสถานะ ! 

สิ่งที่เจ้ากิน คือรสนิยมของเจ้า ! 

สิ่งที่เจ้ากิน เป็นราคา ! 

สิ่งที่เจ้ากิน คือความโดดเดี่ยวบนที่สูงสุด !

และชนชั้นสูงที่แท้จริง จะมีความสุขไปกับความรู้สึกนี้ !

และในจุดนี้ พวกเราสามารถพูดได้ว่า นายท่านและนายหญิง ผู้ที่นั่งอยู่ ณ. หอชนชั้นสูง ของเราแห่งนี้ เป็นเหมือนกับการนั่งอยู่ใน โรงเตี๊ยมชั้นเลิศแห่ง นครเทียนเชียง ! ”

ถังหยวนตะโกนลั่น  ทุกมัดกล้ามเนื้อของเขาสั่นสะท้านขณะเขากระโดดขึ้นด้วยอารมณ์พุ่งพล่านพร้อมใบหน้าดุร้าย

” ที่นี่คือสวรรค์แห่งชนชั้นสูงที่แท้จริง !  แม้แต่น้ำที่เจ้าดื่มถือได้ว่าเป็นสินค้าแห่งชนชั้นสูง !  ตามที่เอ่ยก่อนหน้านี้ สิ่งที่พวกเราดื่มมิใช่เพียงแค่น้ำ แต่มันคือความเหงาบนที่สูงสุด !  การอยู่อย่างโดดเดี่ยว เพื่อสัมผัสถึงความสันโดษ เป็นเครื่องหมายที่แท้จริงของชนชั้นสูง ! ”

เสียงปรบมือสั่นสั่นสะท้าน เนื่องจากคำพูดของเจ้าอ้วนได้รับการตอบรับที่ดีจาผู้ชม  ความจริง เสียงปรบมือนี้ยังคงดังก้องต่อไปอีกชั่วครู่

ในอีกห้องชั้นบน จวินโม่เซี่ยหัวเราะ

” เจ้าอ้วนเพิ่งจะพูดว่า ชนชั้นสูงที่แท้จริงกินมันเทศฝานและน้ำเปล่าอย่างโดดเดี่ยว ! “​