เสียงดังออกมาไม่หยุด แอบได้ยินเสียงร้องอย่างตกใจข้างในด้วย
ลู่ฝานกับหานเฟิงรออย่างเงียบๆ ขณะเดียวกันก็เอาอาวุธของตัวเองออกมา
แค่มีคนกล้าออกมาจากกำแพง ลู่ฝานจะโจมตีเขาด้วยกระบี่อย่างไม่ลังเล
เสียงในกำแพงดังขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่ปราณชี่บนตัวลู่ฝานลุกโชนขึ้นมา จู่ๆ เสียงก็หายไป
ลู่ฝานกับหานเฟิงมองหน้ากัน ไม่มีใครพูดอะไร
ทันใดนั้นข้างในไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรอีก
ลู่ฝานเอายาออกมาจากอกหนึ่งขวด ยื่นให้หานเฟิงแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่หานเฟิง กินยานี่ อาจไม่ได้ใช้ประโยชน์ แต่อย่างน้อยพี่จะไม่เป็นอัมพาต”
หานเฟิงรับยามา เปิดขวดเทใส่ปากทันที
เสียงเจดีย์เสวียนเก้ามังกรดังขึ้นในตัว
“สิ้นเปลือง สิ้นเปลืองจริงๆ ยาหนึ่งขวดเพื่อขจัดพิษ เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ เจ้านายให้ฉันใส่พลังแก้อัมพาตให้เขาก็จบแล้ว”
ลู่ฝานไม่สนใจคำบ่นของเจดีย์เสวียนเก้ามังกร เขาเปิดกำแพงออกอีกครั้ง
หมอกโถมเข้ามาใส่หน้า ลู่ฝานรู้สึกว่าแขนขาตัวเองเริ่มแข็งทื่อขยับไม่ได้
แต่ต่อมาเพราะพลังเยือกเย็นที่เจดีย์เสวียนเก้ามังกรส่งออกมา กำจัดความเป็นอัมพาตไปจนหมด
หานเฟิงพูดด้วยสีหน้าตะลึงอยู่ข้างๆ “ศิษย์น้องลู่ฝาน พิษของนายรุนแรงมาก!”
พูดจบ หานเฟิงเดินไปด้านหน้าเหมือนหุ่นเชิดไม้ การเคลื่อนไหวของเขาแข็งทื่อมาก
ลู่ฝานขยับร่างกายตัวเองเล็กน้อย จากนั้นเดินเข้าไปด้านใน
ลู่ฝานเดินพลางถามว่า “ไอ้เก้า พิษนี้อยู่ได้นานเท่าไร แพร่กระจายได้ไกลแค่ไหน”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรตอบว่า “อืม ในระยะสามลี้พิษจะรุนแรงมาก ยิ่งไกลยิ่งเบาบางลง ถ้าโดนลมพัดข้างนอก ประสิทธิภาพจะยิ่งลดลงเร็ว ถ้าโดนพิษในระยะสามลี้ น่าจะอยู่ได้หนึ่งชั่วยาม”
ลู่ฝานมีแผนในใจ ดูเหมือนพิษไม่ได้รุนแรงเหมือนที่เขาจินตนาการไว้ เขาถือกระบี่หนักไร้คมเอาไว้แน่น
ยังเดินได้ไม่ไกล ลู่ฝานเห็นคนชุดดำขณะที่กำลังเดินลงบันได
เขาเป็นอัมพาตไปแล้ว ขนาดลูกตายังขยับไม่ได้ บนตัวมีแสงสีเทาหม่น
ลู่ฝานดึงผ้าคลุมหัวของเขาออก เมื่อมองสองสามครั้ง เป็นผู้ชายที่เขาไม่รู้จัก
ลู่ฝานวางเจ้าดำที่อยู่บนไหล่ลงมา “หักแขนขา เฝ้าอยู่ที่นี่ ห้ามให้ใครเข้ามา รอฉันกลับมาค่อยสอบสวน!”
เจ้าดำพยักหน้า ใช้กรงเล็บตบขาของผู้ชายคนนี้จนหักอย่างรวดเร็ว
ลู่ฝานกับหานเฟิงรีบเดินเข้าไปด้านใน จู่ๆ ลู่ฝานรู้สึกเหมือนตัวเองเดินผ่านม่านน้ำ ความหนาวเหน็บจู่โจมเข้าไปในร่างกาย
“เดี๋ยว เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ เหมือนที่นี่มีค่ายกล!”
เสียงของเจดีย์เสวียนเก้ามังกรดังขึ้น ทันใดนั้นคุกใต้ดินสว่างขึ้น ส่องแสงเหมือนตอนกลางวัน
“ค่ายกลสังหารหมู่ ฮ่าๆ แต่เหมือนไม่มีใครออกคำสั่ง น่าจะเป็นอัมพาตหมดแล้ว เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ เจ้านายทำนายเหตุการณ์ได้ล่วงหน้าจริงๆ ถ้าเราเข้ามาแบบโง่ๆ ต้องโดนคนรวบรวมพลังฆ่าตายแน่นอน”
ลู่ฝานก็ยังรู้สึกกลัวอยู่เลย
ค่ายกลสังหารหมู่แบบนี้ คือการรวมพลังของเจ้าของค่ายกลเอาไว้ และจู่โจมให้ตายเพียงครั้งเดียว
แม้เขามีเครื่องรางที่สามารถทำลายค่ายกลได้อย่างเจดีย์เสวียนเก้ามังกร แต่เจอค่ายกลที่ไร้เหตุผลแบบนี้ ยังไงก็ต้องโดนโจมตีตาย เพราะอีกฝ่ายไม่มีทางให้เวลาเจดีย์เสวียนเก้ามังกรทำลายค่ายกล
“ยังโชคดีๆ!”
ลู่ฝานพูดพึมพำ
ศิษย์พี่หานเฟิงถือกระบี่ฟ้าครามในมือ เขาก็ตกใจกับแสงที่สว่างขึ้นอย่างกะทันหันเหมือนกัน