EG บทที่ 668 สงครามเครื่องดื่ม 2

เฝิงหยู่ได้ลองชิมรสชาติของผลิตภัณฑ์ใหม่จากลีฮาฮาแล้ว มันเป็นเครื่องดื่มร้อนรสส้ม รสชาติมันก็ดูปกติ มันไม่ได้มีรสชาติดีหรือไม่ดี มันค่อนข้างเปรี้ยวอมหวาน มันมีรสชาติคล้ายกับสิ่งที่เฝิงหยู่เคยดื่มในชีวิตก่อน อย่างน้อยรสชาตินี้ก็น่าจะมีคนชอบ

แต่เฝิงหยู่ไม่พอใจ! เครื่องดื่มชนิดนี้จะไปแข่งกับโคล่าเฉาได้อย่างไร? หากเป้าหมายของลีฮาฮาเน้นไปที่ซู่ริสเช็งกรุ๊ป พวกเขาก็คงตั้งเป้าไว้ต่ำเกินไป ถ้าลีฮาฮาต้องการแข่งขันกับบริษัทใดสักแห่งก็ต้องเป็นบริษัทที่ดีที่สุดเท่านั้น การแข่งขันกับบริษัทที่ด้อยกว่าตนเองมันจะได้ประโยชน์อะไร?

ชีวิตก่อนของเฝิงหยู่เครื่องดื่มร้อนซึ่งเป็นที่นิยมในประเทศจีน ไมใช่ทั้งชาหรือกาแฟ แม้แต่โคล่าเฉาก็ไม่ใช่เช่นกันแต่มันคือชานม!

แบรนด์ชานมที่มีชื่อเสียงคือ ‘ยู เลิฟ อิท’และ‘เซียงเพียวเพียว’ซึ่งในตอนนี้แบรนด์ทั้งสองยังไม่ได้ทำการเปิดตัวเข้าสู่ตลาดจีน

ข้อดีของชานมต่างจากโคล่าเฉาเพราะเครื่องดื่มโคล่าเฉาเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเครื่องดื่มโภชนาการที่มีรสชาติดี จุดขายของชานมมีเพียงเรื่องรสชาติเท่านั้น ในอนาคตจะมีการเพิ่มกาแฟและช็อคโกแลตลงในชานมอีกด้วย

ใบหน้าของซ่งจิงเซียนบึ้งขึ้นด้วยความเครียด

“คุณคิดอย่างไรครับผู้จัดการเฝิง?..เด็กๆมักจะชอบรสชาติแบบนี้แต่ผู้ใหญ่อาจคิดว่ามันหวานเกินไปแต่ถ้าเราลดปริมาณน้ำตาลลงเด็กๆก็อาจจะไม่ชอบมันได้ ตอนนี้เราไม่สามารถหาจุดกึ่งกลางของเครื่องดื่มนี้ได้และเราไม่สามารถบอกให้ลูกค้าเติมน้ำตาลเข้าไปทีหลังได้เช่นกัน”

เฝิงหยู่ก็ตั้งใจที่จะบอกเช่นกันว่าเป็นเรื่องยากที่จะให้ผู้บริโภคเติมน้ำตาลเข้าไปในเครื่องดื่มสำเร็จรูปเช่นนี้ ในอนาคตจะมีเครื่องดื่มเป็นจำนวนมากที่มาพร้อมกับซองใส่น้ำตาลขนาดเล็กแต่ถ้ายึดตามบรรจุภัณฑ์ของแบรนด์ถังก็จะเห็นว่ามันมีขนาดใหญ่อยู่แล้ว มันอาจเป็นปัญหาในการบรรจุซองใส่น้ำตาลเข้าด้วยกันได้

“ถ้าเช่นนั้นกลุ่มเป้าหมายของเราก็ควรเน้นไปที่เด็กๆเสียก่อน..ถ้าจะเน้นไปที่เด็กๆก็ไม่ควรมีเพียงรสส้มเท่านั้น เราควรมีรสสับปะรด แอปเปิ้ล สตรอเบอรี่และรสผลไม้อื่นๆ”

เฝิงหยู่เริ่มอธิบายให้ซ่งจิงเซียนฟังจากนั้นก็อธิบายต่อทันที

“ผมขอแนะนำให้พนักงานของคุณทดลองทำรสชาติอื่นๆได้เลย..แม้ว่ายอดขายจะไม่ได้ดีมากแต่อย่างน้อยเราก็เพิ่มความหลากหลายให้ผลิตภัณฑ์ของเราได้และสามารรถป้องกันไม่ให้คู่แข่งรายอื่นๆปรากฏตัวได้อีกด้วย”

ซ่งจิงเซียนพยักหน้ารับ

“ผมได้สั่งให้พนักงานพัฒนารสชาติอื่นๆแล้วล่ะครับ..รสส้มเป็นรสที่ง่ายที่สุดในการพัฒนาและผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ชอบรสนี้ แต่ถ้าใช้เครื่องดื่มรสผลไม้อย่างเดียวก็คงไม่สามารถเอาชนะโคล่าเฉาได้ เครื่องดื่มโคล่าเฉาถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้โภชนาการสูงและรสชาติอร่อย ในวงการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็จัดให้เครื่องดื่มโคล่าเฉาอยู่ในกลุ่มนี้เช่นกัน ทั้งฐานลูกค้าก็แน่นและยังเป็นสินค้านำเข้าที่ได้รับการออกอากาศในช่อง CCTV อีกด้วย มันเป็นเรื่องยากที่จะไปแข่งกับพวกเขาได้”

“คุณคิดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราให้คล้ายคลึงกับโคล่าเฉาเพื่อมาแข่งกับพวกเขาหรือครับ?”

เฝิงหยู่เอ่ยถาม

“คุณกำลังหมายถึงพวกนมผงช็อคโกแลตหรือเปล่าครับ? เราเองก็มีความเชี่ยวชาญในการผลิตนมผงเช่นกันแต่รสชาติของมันไม่ดีเท่าไหร่นัก นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องยากในการควบคุมคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้ โคล่าเฉาคงเป็นผลิตภัณฑ์เดียวที่เราสามารถเอามาเป็นต้นแบบเพราะผลิตภัณฑ์ของเรายังไม่มีแบบนี้”

ซงจิงเซียนเลิกคิ้วสูงก่อนรีบอธิบายให้เฝิงหยู่ฟัง เขาเองก็คิดเรื่องนี้มาก่อน เว้นแต่ว่าเขาจะใช้โฆษณาเชิงรุกเพื่อแข่งกับโคล่าเฉาให้ได้แต่นั่นจะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น หากผลิตภัณฑ์ตัวใหม่เกิดล้มเหลวขึ้นมามันจะขาดทุนเป็นจำนวนมาก เงินทุนที่ใช้ในการโฆษณาของลีฮาฮาจะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตและเครื่องดื่มประเภทชามากกว่าเพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีการแข่งขันที่สูงและมีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก

“คุณได้ไปสำรวจตลาดที่ไต้หวันหรือเปล่าครับ? คุณเคยเห็นชาไข่มุกที่ขายในไต้หวันหรือเปล่า?”

ชาไข่มุกได้วางขายในท้องตลาดมาเกือบ 3 เดือนแล้วและมันสามารถเข้าครองตลาดเครื่องดื่มในไต้หวันได้ทันที ซงจิงเซียนควรจะได้ลองชิมมันมาก่อน

“ชาไข่มุก? ผมเคยดื่มมันแล้วครับ..ว่าแต่มีอะไรหรือครับ?”

“คุณคิดยังไงกับชานมนั่น?”

“รสชาติมันก็ใช้ได้ มันก็เหมือนกับชาปกติทั่วๆไปซึ่งผมไม่ค่อยจะชอบมันเท่าไหร่แต่ผมก็ยอมรับนะครับว่าคนจำนวนมากชอบชาไข่มุกนั่น อย่าบอกนะครับว่าผู้จัดการเฝิงต้องการให้เราผลิตชานมไข่มุกออกมาขาย?! ”

“มันจะเป็นอะไรล่ะครับ? มันไม่ใช่เรื่องยากสักนิดถ้าเราจะสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา เราแค่ไปซื้อสูตรจากพวกเขาหรือไม่ก็พัฒนามันขึ้นมาเอง”

ปัจจุบันมีผงชาวางขายในท้องตลาดแต่มันไม่ได้ผสมกับนมชนิดผงซึ่งลูกค้าจะต้องนำไปผสมเอง

สิ่งที่ลีฮาฮาต้องการคือการอัตราส่วนที่เหมาะสมระหว่างชาและนมเพื่อผสมให้ได้รสชาติที่ดี มันสามารถเอาไปผสมกับวัตถุดิบจากข้างนอกโดยที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องผลิตเอง แม้แต่เม็ดไข่มุกหรือเยลลี่ในชานมก็สามารถหาซื้อได้จากข้างนอกหรือไม่ก็นำเข้าจากบริษัทที่ผลิตท้อปปิ้งโดยเฉพาะ สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือการติดโลโก้ของลีฮาฮาลงบนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งสามารถทำได้อย่างง่ายดาย

“เอ่อ…มันก็สามารถทำได้อย่างที่คุณว่าแต่คนจีนจะชอบมันหรือครับ?”

ซ่งจิงเซียนยังคงลังเล

“ถ้าคุณไม่ลองทำแล้วจะรู้ได้อย่างไรล่ะครับว่าจะมีคนชอบหรือไม่ชอบมัน? ชานมจะต้องมีกลิ่นหอมนำเพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคชอบ แม้ว่ามันจะไม่ได้รับความนิยมในจีนเราก็สามารถส่งออกไปขายในต่างประเทศได้เช่นไต้หวันหรือฮ่องกง มันยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถแข่งขันกับโคล่าเฉาได้ เราสามารถนำเสนอชานมรสช็อคโกแล็ตได้ด้วยซ้ำ”

ชานมรสช็อกโกแล็ต? มันสามารถเรียกว่าชานมได้ด้วยหรือ?

“ไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้ไปหรอกครับ ตราบใดที่ผู้บริโภคชอบก็ถือว่ามันประสบความสำเร็จแล้ว! คุณเองก็เคยดื่มกาแฟไม่ใช่หรือครับ? ชาวตะวันตกต่างชื่นชอบการดื่มกาแฟทำให้มีร้านกาแฟอยู่ทั่วทั้งเมือง หากเป็นร้านกาแฟที่อยู่ตามชนบทหรือตามชายฝั่งทะเล ราคาอาจจะแพงไปบ้างหากเทียบกับรายได้ของคนส่วนใหญ่ แล้วถ้าเราจะช่วยให้พวกเขาได้ลิ้มลองเครื่องดื่มแบบชาวต่างชาติในราคาย่อมเยาด้วยการผลิตเครื่องดื่มชานมรสกาแฟออกมาขายล่ะครับ”

ซ่งจิงเซียนยิ่งสับสนหนักกว่าเดิม เขารู้สึกว่าสิ่งที่เฝิงหยู่พูดไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนัก

ชานมไข่มุกแบบดั้งเดิมยังพอเป็นไปได้ เช่นเดียวกับที่เฝิงหยู่จะให้ส่งออกไปขายที่ไต้หวันมันก็เป็นไปได้เช่นกัน พวกเขาไม่ต้องกังวลว่ามันจะเสี่ยงต่อการขาดทุนมากนัก แต่ชานมผสมช็อกโกแลตและกาแฟจะเป็นไปได้อย่างไรกัน? มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ว่าจะเป็นจีนหรือที่ไหนก็คงไม่มีใครชอบ?

ซ่งจิงเซียนไม่กล้าลองสิ่งใหม่ๆแต่เฝิงหยู่จำได้ว่าลีฮาฮาเมื่อชีวิตก่อนของเขามักจะลองเสี่ยงกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของพวกเขาเสมอ พวกเขาได้ผลิตกาแฟผสมโคล่า,ชาผสมเบียร์,ควาสส์[1]และอื่นๆอีกมากมาย แม้จะมีใครวิจารณ์สินค้าของพวกเขาแต่มันก็ทำกำไรได้ดี

“เอาตามที่คุณพูดก็ได้ครับ! เดี๋ยวผมจะให้พนักงานทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ศักยภาพของโรงงานเราอาจไม่เพียงพอ แม้ว่าเราจะขยายโรงงานของเราได้แต่เราก็ไม่เคยผลิตสินค้าแบบนี้มาก่อนและยังไม่มีไลน์การผลิตสินค้าพวกนี้อีกด้วย มันคงเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ทีเดียว”

“คุณสามารถเลือกตั้งโรงงานใหม่แถวภาคตะวันตกได้นี่ครับ คุณเคยได้ยินโครงการกวงซีหรือเปล่า?”

“โครงการกวงซี? ผมเคยได้ยินมันอยู่ครับ คุณกำลังจะให้ผมเข้าร่วมในโครงการนี้หรือครับ?”

เคยมีคนชวนซ่งจิงเซียนให้เข้าร่วมโครงการนี้เช่นกันแต่เขาปฏิเสธไปเพราะยังไม่มีแผนที่จะสร้างโรงงานสาขาใหม่ในตอนนั้น

“มันก็น่าลองดูไม่ใช่หรือครับ? เราสามารถช่วยเหลือสังคมและเพิ่มภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ของเราไปในเวลาเดียวกันได้ นอกจากนี้โรงงานใหม่ที่เราจะสร้างขึ้นก็ยังผลิตเครื่องดื่มชนิดผง เราไม่ต้องกังวลเรื่องการขนส่ง ไม่ต้องพะวงว่าจะใช้เวลาในการขนส่งนานเพียงใดเพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและไม่บูดเสียง่ายๆ ทั้งต้นทุน แรงงานและค่าที่ดินก็มีราคาที่ถูกมาก หากคิดรวมๆแล้วเราจะไม่ต้องเสียเงินลงทุนมากนัก สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างความประทับใจให้กับเหล่าผู้นำระดับประเทศ คุณไม่อยากเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ประกอบการที่มีจิตสำนึกดีหรือครับ?”

“ตกลง! ผมจะลองดู! หากทุกอย่างดำเนินการไปได้ด้วยดี ลีฮาฮาจะเข้าร่วมโครงการกวงซีด้วย มันจะช่วยเหลือประเทศของเราได้อีกทางหนึ่ง!”

“คุณคิดถูกแล้วล่ะครับ! มา! เรามาฉลองกันล่วงหน้าดีกว่าครับ”

ซ่งจิงเซียนชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถามเฝิงหยู่เสียงแผ่ว

“ผู้จัดการเฝิงครับ?..จะมีคนชอบชานมรสชาติแบบนั้นจริงๆหรือครับ?”

เฝิงหยู่เงียบเสียงลงและเริ่มบ่นในใจทันที

‘คุณไม่เชื่อสิ่งที่ผมพูดงั้นรึ!?’

 

[1]Kvass / ควาสส์ เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมเล็กน้อย ผลิตในรัสเซียและยุโรปตะวันออก ทำจากข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์และแป้งข้าวไรย์ ลักษณะของควาสส์จะเป็นของเหลวสีน้ำตาล มีกลิ่นถั่วเล็กน้อย เป็นกรด มีแอลกอฮล์ต่ำ อาจมีการเติมสาระแหน่ลงไปด้วยเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติ