EG บทที่ 667 สงครามเครื่องดื่ม 1

 

หลายวันผ่านไป เฝิงหยู่ก็ได้รับสายโทรศัพท์จากลิ่วหย่งห่าว มันมีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย

ข่าวดีก็คือเฝิงหยู่ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในโครงการกวงซีและรัฐบาลได้อนุญาตให้จัดตั้งคณะกรรมการในโครงการนี้ได้เลย นี่คือองค์กรที่ได้รับการยอมรับจากฝั่งรัฐบาล

จะมีคณะกรรมการดำเนินงานอย่างเป็นทางการและลิ่วหย่งห่าวสัญญากับเฝิงหยู่ว่าเขาจะได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการอย่างแน่นอน โดยที่ประธานและรองประธานจะถูกคัดเลือกจากผู้ก่อตั้งโครงการทั้ง10คนก่อน และในอนาคตเฝิงหยู่จะมีสิทธิ์ได้รับคัดเลือกให้เป็นประธานกรรมการได้เช่นกัน นี่เป็นสิ่งที่ให้ความยุติธรรมสำหรับสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการทุกๆคน

หากจะว่าไปแล้วความสำเร็จในธุรกิจของเฝิงหยู่ก็มากเกินพอที่เขาจะถูกรับเลือกให้เป็นประธานกรรมการได้อย่างง่ายดาย เขามีคุณสมบัติที่เหนือกว่าสมาชิกคนอื่นๆที่เข้าร่วมโครงการนี้แม้ว่าลิ่วหย่งห่าวจะไม่รู้จำนวนหุ้นในบริษัทต่างๆที่เฝิงหยู่ถืออยู่ แต่บริษัทของเฝิงหยู่ทั้งหมดต่างทำกำไรได้ดี! แม้ว่าเฝิงหยู่จะมีหุ้นเพียงแค่ 10%ต่อหนึ่งบริษัท แต่ทรัพย์สินโดยรวมของเขาจะมีมูลค่าสูงกว่าสมาชิกทั้งหมดในโครงการ กวงซีอย่างแน่นอน!

เฝิงหยู่พอใจกับข่าวดีชิ้นนี้ เขาไม่สนใจว่าตัวเองจะได้เป็นประธานหรือรองประธานหรือไม่? เพียงได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการเขาก็พอใจแล้ว เขาต้องการรับผิดชอบด้านการศึกษา เขามั่นใจว่าจะไม่มีใครสามารถแย่งชิงหน้าที่นี้จากเขาไปได้ แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะรวมตัวเพื่อแย่งหน้าที่นี้ไปจากเขาก็ไม่มีทางสู้เขาได้เช่นกัน การรวมตัวของพวกเขาเป็นสิบเป็นร้อยก็ไม่มีทางสู้เขาเพียงคนเดียวได้!

เฝิงหยู่ต้องการมุ่งเน้นไปที่การศึกษาเป็นเพราะเขารู้ดีว่าองค์กรหรือมูลนิธิภายนอกทำงานกันอย่างไร? หากคุณคิดที่จะบริจาคเงินเพื่อสร้างอาคารเรียนคุณจะต้องควักเงินในกระเป๋าถึง 1 ล้านหยวนแต่ถ้าคุณบริจาคเงินผ่านโครงการนี้เงินบริจาคจะไม่ถึง5 แสนหยวน

เฝิงหยู่ไม่ต้องการบริจาคเงินเพื่อสร้างอาคารเรียนในนามของตัวเองเพียงคนเดียว หากในอนาคตอาคารเรียนเกิดถล่มขึ้นมา มันคงลำบากเกินไปหากเขาต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงลำพัง ชีวิตของเขาจะต้องสูญเสียไปไม่น้อย!

เฝิงหยู่ได้หารือเรื่องที่เขาอยากรับผิดชอบเรื่องทุนการศึกษากับลิ่วหย่งห่าวซึ่งลิ่วหย่งห่าวเองก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เขายังรับปากกับเฝิงหยู่อีกว่าจะช่วยโน้มน้าวผู้ก่อตั้งคนอื่นๆในเรื่องนี้เช่นกัน

เฝิงหยู่รู้สึกยินดีกับข่าวดียิ่งนัก ส่วนข่าวร้ายเขาก็ยอมรับกับมันได้เช่นกัน เขาไม่ได้หัวเสียกับมันมากนัก

ข่าวร้ายก็คือบริษัทที่มีชาวฮ่องกงเป็นหุ้นส่วนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมลงทุนในธนาคารมินเช็งได้ชั่วคราว แม้ว่าบริษัทนั้นจะมีหุ้นส่วนใหญ่เป็นชาวจีนก็ตาม ดังนั้นบริษัทของเฝิงหยู่หลายๆแห่งไม่ได้รับอนุญาตให้ร่วมลงทุนในธนาคารได้เนื่องจากฟู่เกิงเฉิงถือหุ้นหลักร่วมกับเฝิงหยู่

บริษัทที่มีเจ้าของหุ้นเพียงคนเดียวก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ร่วมลงทุนเช่นกัน

นั่นหมายความว่าเฝิงหยู่จะไม่สามารถนำหลายๆบริษัทเข้าร่วมลงทุนในธนาคารมินเช็งจนทำให้เขาได้รับตำแหน่งคณะกรรมการได้ เฝิงหยู่นึกถึงบริษัทต่างๆของเขา หากพิจารณาตามเกณฑ์ดังกล่าวจะมีบริษัทของเขาเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่จะเข้าร่วมในกิจการนี้ได้

วินด์แอนด์เรนโลจิสติกส์ไม่ควรได้เข้าร่วมลงทุนเพราะพี่เขยของเขาไม่ได้สนใจในกิจการนี้ ไท้หัวการเกษตรก็มีสิทธิ์เข้าร่วมแต่บริษัทนี้ไม่ได้มีสภาพคล่องทางการเงินมากนัก ไท้หัวเทรดดิ้งก็มีโอกาสเช่นกันแต่ถ้าไท้หัวเทรดดิ้งร่วมลงทุนในธนาคารมินเช็ง เฝิงหยู่ก็ต้องเปลี่ยนธนาคารที่ใช้บริการและอาจมีปัญหาในการชำระเงินกับคิริเลนโกะได้ ซึ่งตอนนี้ธนาคารไอซีบีซีได้ไฟเขียวให้กับไท้หัวเทรดดิ้งในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศและค่าใช้จ่ายก็ลดน้อยลง การทำธุรกรรมต่างๆก็เร็วขึ้นเนื่องจากเอกสารจำนวนมากได้รับการยกเว้น

องค์กรยาเมืองปิงก็มีคุณสมบัติที่เหมาะสมเช่นกันแต่จำเป็นต้องได้รับการยินยอมจากฝ่ายบริหารงานของเมืองปิงเสียก่อน แล้วจางหลิงเซียงจะยินยอมเข้าร่วมงั้นหรือ? แม้ว่าเขาจะเห็นด้วยก็ใช่ว่าจะร่วมลงทุนเป็นเงินจำนวนมาก

วินด์แอนด์เรนแบตเตอรี่ก็มีสิทธิ์เช่นกันแต่เงินของบริษัทก็ไม่ได้มีมากนัก พวกเขาได้ใช้กำไรทั้งหมดเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งยอดขายก็อยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น

บริษัทต่อไปที่เฝิงหยู่นึกถึงก็คือลีฮาฮา แน่นอนว่าซ่งจิงเซียนอาจไม่เต็มใจให้ใช้เงินทุนของบริษัทร่วมลงทุนในธนาคารมินเช็งเพราะไม่มีอะไรรับประกันว่าท้ายที่สุดธนาคารแห่งนี้จะทำกำไรให้กับพวกเขาได้

เฝิงหยู่จึงตัดสินใจระงับการลงทุนในธนาคารนี้ลงชั่วคราว อย่างไรก็ตามลิ่วหย่งห่าวได้แจ้งแก่เฝิงหยู่ว่าเขาสามารถร่วมลงทุนในนามของนักธุรกิจอิสระได้ นั่นหมายความว่าเฝิงหยู่สามารถร่วมลงทุนเป็นเงินมูลค่า 100 ล้านหยวนด้วยการควักเงินในกระเป๋าของตนเองเพื่อแลกกับหุ้น 1 %

ถ้าหากเฝิงหยู่ได้ร่วมลงทุนด้วยก็เท่ากับเขามีสิทธิ์เป็นเจ้าของในธุรกิจนี้เช่นกัน มันไม่น่าจะมีปัญหาในการเข้ารับตำแหน่งคณะกรรมการแม้จะเป็นเจ้าของหุ้นเพียง 1 % ก็ตาม

ลิ่วหย่งห่าวกล่าวขอโทษต่อเฝิงหยู่ แม้ว่าเฝิงหยู่จะมีศักยภาพทางด้านการเงินเพียงใดลิ่วหย่งห่าวก็ไม่สามารถให้บริษัทเหล่านั้นเข้าร่วมลงทุนในธนาคารมินเช็งได้

เฝิงหยู่เองก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร เขาไม่สนใจที่จะใช้เงินลงทุนไปกับมันมากนัก ธนาคารมินเช็งจะยังไม่ให้ผลตอบแทนในขณะนี้และเขาค่อยเพิ่มการลงทุนกับธนาคารแห่งนี้ในอีก 8-9 ปีให้หลังก็ยังไม่สายเกินไป

เฝิงหยู่เรียกซ่งจิงเซียนเข้าพบเพื่อแจ้งให้ทราบว่าเขาระงับการลงทุนของลีฮาฮาในธุรกิจธนาคารมินเช็งและมันคงดีกว่าหากปล่อยให้ลีฮาฮาดำเนินการพัฒนาตามแผนที่ทางบริษัทวางไว้ต่อไป

ซ่งจิงเซียนรู้สึกโล่งอก หากลีฮาฮาต้องร่วมลงทุนในธนาคารมินเช็ง แผนงานต่างๆของพวกเขาจะหยุดชะงักทันที ในเวลานี้ถือเป็นโอกาสทองของลีฮาฮาที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว

หากเป็นเครื่องดื่มประเภทชาคู่แข่งของลีฮาฮาก็คือ‘ซู่ริสเช็งกรุ๊ป’

ในชีวิตก่อนของเฝิงหยู่‘ซู่ริสเช็งกรุ๊ป’ถือเป็นผู้นำตลาดจีนในด้านเครื่องดื่มประเภทชาและยังเป็นบริษัทแรกที่วางจำหน่ายเครื่องดื่มชาอีกด้วย บริษัทนี้ครองตำแหน่งอันดับ 1 จนถึงปีค.ศ.2000

แต่ในเวลานี้ผู้นำในตลาดเครื่องดื่มชากลับกลายเป็นลีฮาฮา ไม่เพียงแต่ลีฮาฮาเป็นเจ้าแรกที่วางจำหน่ายเครื่องดื่มชาเท่านั้นแต่พวกเขายังเป็นเครื่องหมายการค้าของชาแดงอีกด้วย

แต่ซู่ริสเช็งกรุ๊ปยังคงเดินหน้าแนะนำผลิตภัณฑ์ของพวกเขาต่อไปและมันถูกตั้งชื่อว่าชาแช่เย็นแต่จริงๆแล้วมันเป็นชาแดงแช่เย็น!

ชาแช่เย็นของซู่ริสเช็งกรุ๊ปวางขายใน 2 มณฑลเท่านั้น เป็นเพราะการผลิตของพวกเขาไม่ได้สูงมากและแบรนด์ของพวกเขาก็ไม่ได้จัดตั้งอย่างเป็นทางการ

หากไม่ใช่เพราะชาแช่เย็นของซู่ริสเช็งกรุ๊ปถูกบรรจุในกระป๋องน้ำอัดลมก็คงไม่มีใครซื้อเครื่องดื่มของพวกเขาอย่างแน่นอน

ในยุคนี้น้ำอัดลมเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศจีน ปล่อยให้เรอออกมาดังๆหลังจากดื่มน้ำอัดลมจนหมดกระป๋อง! มันจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น นอกจากนี้เครื่องดื่มที่มีกลิ่นอายของความเป็นจีนถือเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นสูงและดีกว่าเครื่องดื่มบรรจุขวด!

ซู่ริสเช็งกรุ๊ปถือเป็นผู้ลอกเลียนแบบผลิตภัณฑ์ของลีฮาฮา ซึ่งพวกเขาได้เริ่มต้นแนะนำเครื่องดื่มน้ำอัดลมเพื่อความสดชื่นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลีฮาฮามียอดขายเป็นอันดับ 2 สำหรับฤดูร้อนนี้โดยที่ 1 ยังคงเป็นของเจียนหลี่เป่า(Jianlibao)

มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับลีฮาฮาที่จะกำจัดซู่ริสเช็งกรุ๊ปลงได้แต่ทันใดนั้นซู่ริสเช็งกรุ๊ปก็นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา มันคือชาร้อน!

อีกไม่นานก็จะเข้าสู่ฤดูหนาวและยอดขายน้ำอัดลมก็จะลดลง แต่ซู่ริสเช็งกรุ๊ปกลับนำเสนอเครื่องดื่มชาร้อนออกมาทันที สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ซ่งจิงเซียนหัวเสียเป็นอย่างมาก!

ซ่งจิงเซียนไม่สามารถเอาชนะเจียนหลี่เป่า(Jianlibao)ได้ เนื่องจากเจียนหลี่เป่า(Jianlibao)ได้ส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังต่างประเทศแล้ว ทั้งยังเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศจีนมาหลายปีและตอนนี้ซู่ริสเช็งกรุ๊ปซึ่งเป็นบริษัทน้องใหม่กำลังเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดของลีฮาฮาไป

พวกคุณรู้หรือเปล่าว่าน้ำอัดลมเลบาชิก็ถูกเราโค่นลงไปแล้ว!

ลีฮาฮาจะแนะนำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มร้อนเช่นกัน! มันจะใช้กรรมวิธีเช่นเดียวกับเครื่องดื่มผลไม้ชนิดผงยี่ห้อถัง!

ชีวิตก่อนของเฝิงหยู่เคยดื่มเครื่องดื่มยี่ห้อถังมาแล้วเช่นกัน มันไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษในเรื่องของรสชาติแต่มันทำให้รู้สึกดีได้ในช่วงฤดูหนาว ชาวจีนในยุคนี้ก็คุ้นชินกับเครื่องดื่มชนิดผงเช่นกันเพราะถือเป็นสินค้ายอดนิยมชิ้นหนึ่งของประเทศจีน มันจะเป็นเครื่องดื่มคล้ายๆกับแบรนด์ต่างประเทศที่ชื่อว่าโคล่าเฉา! [1]

ลีฮาฮาได้ศึกษาสูตรของโคล่าเฉามาแล้วแต่พวกเขาไม่สามารถทำรสชาติซ้ำได้ แม้ว่าลีฮาฮาจะผลิตสินค้าที่มีรสชาติคล้ายกับโคล่าเฉาออกมา มันก็จะกลายเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ในทันที

โคล่าเฉาได้เข้าสู่ตลาดจีนในปีค.ศ. 1990 และได้ร่วมทุนตั้งโรงงานผลิตในประเทศจีนแล้ว ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาถือเป็นเครื่องดื่มที่มีโภชนาการในระดับสูง มันไม่ง่ายเลยที่จะเอาชนะโคล่าเฉาได้

แต่ซ่งจิงเซียนไม่คิดที่จะยอมแพ้ หากลีฮาฮาสร้างผลิตภัณฑ์บุกตลาดเครื่องดื่มประเภทร้อนได้ พวกเขาก็จะสามารถแข่งขันและแม้แต่เอาชนะเจียนหลี่เป่า(Jianlibao)ก็สามารถทำได้เช่นกัน

 

[1] Cola Cao/โคล่าเฉา/โคล่าคาว เป็นเครื่องดื่มช็อกโกแลตหวานที่มีวิตามินและเกลือแร่หลากชนิดมีจุดเริ่มต้นที่ประเทศสเปนและปัจจุบันผลิตและจำหน่ายในหลายประเทศซึ่งเป็นแบรนด์ของบริษัท Idilia Foods