ไม่น่าประหลาดใจที่ หอชนชั้นสูง ขายสินค้า ที่มีคุณภาพสูงเช่นนี้  อย่างไรก็ดี ซ้งฉาง เทพแห่งสุรา หมักสุราสวรรค์นี้อย่างพิถีพิถัน !

 

แม้นว่าตัวซ้งฉางเองจะไม่เอ่ย หรือยอมรับว่าหมักสุรานี้ด้วยตัวเอง แต่ทุกผู้ในสถานที่นี้ก็อดมิได้ที่จะคิดว่าคือเขา  ซ้งฉางนั้นถือได้ว่าเป็นมือสังหารสวรรค์เชวียนผู้น่าเกรงขาม และมีชื่อเสียงในฐานะขุนพลผู้กล้า  แต่กระนั้น เทพแห่งสุรา เป็นชื่อที่ผู้คนจำเขาฝังใจ

 

สาวใช้หลายผู้เริ่มเคลื่อนที่ไป  แต่ละคนผลักรถเข็นขนาดใหญ่  ในรถเข็นแต่ละคันนั้น บรรจุไปด้วย จอกสุราขนาดเล็กจำนวน … ยี่สิบจอก

 

จอกสุราเหล่านี้ … เป็นหนึ่งในจอกสุราที่เล็กที่สุดเท่าที่เคยมีมา  อย่างไรก็ตาม มันยังคงความประณีตมากเนื่องด้วยทำจากเงิน  ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันดูละเอียดอ่อน ราวกับปีกจักจั่น เนื่องจากมีประกายส่องแสงระยิบระยับ

 

นอกจากจะดูรื่นรมย์แล้ว จอกสุราที่ทำจากเงินนี้ ทำให้ทุกผู้มั่นใจว่าในสุรามิได้มีพิษ เนื่องจาก เงินจะเปลี่ยนสีเมื่อสัมผัสกับพิษ  ผู้คนสามารถดื่มสุราชั้นดีโดยไร้ซึ่งกังวล เนื่องจากมันปลอดภัย

 

สุราสามจอกวางลงที่โต๊ะแต่ละตัว  จากนั้น สาวใช้จำนวนหนึ่งถือเหยือกออกมาและเริ่มรินสุราอย่างระมัดระวังโดยไม่หกเลยแม้แต่หยดเดียว  สุราที่พิเศษและเย็นไหลรินราวกับแม้น้ำ ขณะที่มันหลั่งออกจากเหยือกสู่จอกสุรา ทั่วทั้งโถงปกคลุมไปด้วยกลิ่นหอมหวานรุนแรงของสุราที่ล่องลอยออกมาจากจอก  ทุกผู้มองจอกสุราตรงหน้าของพวกเขา  โดยไม่สนใจสถานะและความมั่งคั่ง พวกเขาหลายคนมิอาจห้ามน้ำลายในปากของเขาได้

 

” รายการหลักในการประมูลนี้คือ สุรา ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในดินแดนนี้ สุราสวรรค์ !  พวกเราขอให้ทุกท่านลิ้มรสสุรา  ด้วยเหตุนี้ ท่านจะตระหนักได้ถึงสิ่งเดิมพันในระหว่างการเสนอราคา “

เสียงที่ดังขึ้นของ ซ้งฉาง สั่นสะเทือนผู้ชมในโถง  เดิมทีแล้ว เขานั้นแตกต่างจากถังหยวน  ราวกับทะเลสาปที่ลึกและสงบ ยืนอยู่บนเวทีขณะที่จริตแห่งสวรรค์เชวียนอันโด่งดังของเขาแผ่ขยายออกมาด้วยภาษากาย

 

” หลังจากได้ลิ้มรสสุรานี้แล้ว ข้ามั่นใจว่าทุกท่านจักตระหนักว่านี้คือผลผลิตแห่งจิตวิญญาณ และเป็นสมบัติซึ่งมิอาจประเมินค่า ไม่ว่าจักต้องจ่ายในราคาเท่าใหร่ก็ยังคงไม่ถือว่าเพียงพอสำหรับสุรานี้  มันคุ้มค่าตราบใดที่ได้ครอบครองความอัศจรรย์นี้ “

ซ้งฉางโบกมือ

 

” ได้โปรด “

 

ทุกผู้เริ่มกระหายต่อสุราที่มีชื่อว่า ไม่เคยมีมาก่อน นี้  พวกเขายกจอกสุราขึ้นร้อนรนขณะสถบถึงความตระหนี่ของ หอชนชั้นสูง สำหรับจอกสุราขนาดเท่านิ้วมือนี้

 

” ทุกท่านจักต้องคิดว่าจอกสุรานี้เล็กเกินไป พวกมันไม่ใหญ่พอเหมาะเจาะ “

ซ้งฉางพูดไม่รีบร้อน

” ข้าอยากจะขอยอมรับในความนับถือนี้ … หอนี้รู้สึกผิด  กระนั้น ข้าใคร่ขอให้ทุกท่านใคร่ครวญ หากทุกผู้ดื่มสุรานี้มากเกินควร พวกมันจักได้รับขนานนามว่าสุราสวรรค์ได้เช่นไร ?  ยิ่งไปกว่านั้น พวกท่านจักจ่ายให้สุรานี้ในราคาที่สูงกระนั้น ?  ความเห็นแก่ตัวนี้เป็นสิ่งจำเป็นในการขจัดความโลภต่อ ผลิตผลแห่งจิตวิญญาณนี้ ! “​

 

แขกทุกคนได้รับประสบการณ์ที่เป็นธรรมในเส้นทางของชีวิต  อย่างไรก็ตาม พวกเขามิได้เข้าใจถึงความสำคัญของประโยคนั้น และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงขับมันออกมาด้วยการหัวเราะ

 

พวกเขาดื่มอวยพร และรินจอกของพวกเขาขณะหัวเราะ  องค์หญิงหลิงเมิง มิได้ดื่มจอกของนาง นางไม่ประสงค์จะดื่มในที่สาธารณะ  กระนั้น นางก็มิกล้าดื่มโดยปราศจากการขออนุญาติก่อนเช่นกัน  ชายชุดดำสองผู้ที่นั่งอยู่หลังนางค่อนข้างน่ากลัว  ยิ่งไปกว่านั้น การที่นางกระทำเกินกว่าขอบเขตของนางต่อหน้าพวกเขาก็ทำให้นางหวาดกลัว  หากมิใช่คำสั่งของพวกเขา นางจากไปนานแล้ว  ดังนั้น นางจึงไม่มีทางเลือกได้แต่เลื่อนจอกสุราไปให้ชายสองคนด้านหลังของนาง  ในตอนนี้ ชายทั้งสองมีสุราสามจอก

 

ชายชุดดำด้านหลังนางทั้งสองมีท่าทีร้อนรน ยิ่งไปกว่านั้นพกวเขาเกือบจะฉกฉวยเอาจอกไป  พวกเขารินจอกเหล่านั้นภายในหนึ่งคำไม่นานหลังจากได้รับมัน  สุราทำให้พวกเขาตื่นเต้นหลังจากที่มันไหลลงไปในกระเพาะ  ชายเหล่านี้เคยดื่มสุรามาทั่วทั้งอาณาจักร หากแต่พวกเขามิเคยพบเจอสุราชั้นเลิศเช่นนี้มาก่อน  ความปรารถนาที่จะดื่มของพวกเขานั่นรุนแรง  ทั้งสองมองไปยังจอกที่เหลือพร้อมกัน และจากนั้นมองหน้ากัน ไม่มีผู้ใดอ่อนข้อ

 

นายน้อยจวินคาดว่า ชายชุดดำสองผู้ที่ติดตามองค์หญิงหลิงเมิ่งมานั้นมิใช่คนธรรมดา  หนึ่งในสอง คือ คนผู้นั้น อย่างไรก็ตาม หากเป็นจริง ผู้ใดในนครเทียนเชียงที่ถือได้ว่าเทียบเท่าเขา ?  ผู้ใดไม่ยอมจำนนต่อหน้าเขา ?  ชายอีกคนคือผู้ใด ?

 

” .. “

กลุ่มคนเงียบลงอย่างมิอาจคาดเมื่อได้ดื่มอึกแรก

 

แต่แล้วไม่น่าก็มีเสียงดังขึ้นอย่างรวดเร็ว  ท่ามกลางความเงียบงันนี้ ชายแข็งแกร่งร่างสูงตะโกนขณะยืนขึ้น  เสียงของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกขณะคร่ำครวญ  เขามีบางอย่างผิดแปลก

 

ทุกคนหันไปยังที่มาของเสียง และพบชายร่างกำยำอายุสี่สิบปีพร้อมสีหน้าเคลิบเคลิ้มบนใบหน้า  เขาวางมือบนถ้วยและกระโดดขึ้นยืน  สายตาอันโง่เขลาบนใบหน้า ขณะเขาเงยหัวและเอ่ย

” เจ้าสมควรได้รับการขนานนามว่า เทพแห่ง หลังจากหมักสุราลึกลับนี้อย่างแท้จริง พวกเราหลายคนล้มคว่ำหลังจากดื่มไปเพียงหนึ่งจอก  บอกข้า การประมูลเริ่มเมื่อไหร่ ?  ราคาต่ำสูดคือเท่าไหร่ ?  ไม่สำคัญว่าจักต้องใช้เงินเท่าไหร่ เพื่อให้หัวหน้าสกุลผู้นี้นำมันกลับไปอย่าน้อยสักสิบโถ ! “

 

ชายตัวใหญ่ผู้ที่ยืนขึ้นนั้นคือ พ่อค้าเกลือชั้นแนวหน้าแห่งนครเทียนเชียง  อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าหอการค้าแห่งนครเทียนเชียง โจวเมิงหลง

 

แม้นคำพูดของคนผู้นี้จักดูหยาบคาย แต่ไม่มีผู้ใดตำหนิเขาเนื่องจากพวกเขาก็อยากจะทำเช่นเดียวกัน   ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงพยักหน้าเห็นพ้อง  หากมิใช่เพราะพวกเขาเป็นเหล่าขุนนาง อัครมหาเสนาบดี และสมาชิกในสกุลใหญ่ ไม่มีผู้ใดฝืนใจจากการเอ่ยในสิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างแท้จริงเป็นแน่

 

เพียงแค่ ตู่กู้วูตี้  ผู้ที่นั่งอยู่ในแถวสอง ตะโกนขึ้นด้วยสีหน้ามืดมน

” นั่งลง !  พูดให้เหมาะสมกับตำแหน่งของเจ้า !  เอะอะโวยวายกระไรเช่นนี้ ?!  ไม่เห็นผู้อื่นรอบตัวเจ้าหรือกระไร ?!  เจ้าคิดว่านี่คือกริยาของผู้ได้รับการสั่งสอนกระนั้นหรือ ? “

ตู่กู้วูตี้ กระวนกระวายและสลดใจอย่างมาก

 

ยอดขุนพลตู่กู้มาที่นี่เพียงไม่กี่เหตุผล  หนึ่งเขาประสงค์จะแสดงการสนับสนุนจวินวูอี้  แต่กระนั้น เจตนาที่แท้จริงของเขาคือการได้เห็นความอับอายของจวินโม่เซี่ย  เขาต้องการเล่นงานเขา และตัดสินการเดิมพันในวันเดียวกัน

เหยือกละหมื่นตำลึง ?  ล้อเล่นกระมั้ง !  เขานั้นเจ้าเล่ห์ยิ่งหากจะขายมันในราคานั้น  อย่างไรก็ตามข้าจักชนะการพนันนี้ เป็นแน่แท้

 

ผู้ใดจะรู้ว่า ในตอนนี้ราคาเหยือกละหมื่นตำลึงนั้นถือได้ว่าไม่แพง  ไม่เพียงแค่สุราจะขายได้มากเช่นนั้น แต่ราคายังสูงเกินกว่าที่กำหนดไว้  อีกทั้ง หากการขายนี้สำเร็จ เขาจะเป็นหนี้ยี่สิบห้าล้านตำลึงเงิน  ชีวิตนั้นมิอาจคาดเดา !

 

ขุนพลตู่กู้จักไม่สลดใจได้อย่างไรกัน ?  แม้นว่าเขาจะลบล้างมโนธรรมในเรื่องนี้ มันก็ยังมิอาจทำให้เขาหลุดจากปัญหานี้ได้  ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้รบกวนการชุมนุมของผู้คนมากมายในที่นี้  เขาเอียงคอและหรี่ตาขณะเพ่งมองอย่างขุนเคืองไปยังห้องที่มีน้าหลาน จวินโม่เซี่ย และจวินวูอี้นั่งอยู่

พวกเขาคงไม่หัวเราะเยาะข้าอยู่ใช่ไหม ?

 

โจวเมิงหลงสะอึกขณะเขานั่งลงด้วยความเสียใจ  แม้นว่าเขาจะเป็นพ่อค้าผู้ทรงอำนาจใน นครเทียนเชียง เขาก็มิกล้าโต้แย้งกับหัวหน้าสกุลที่ทุกคนรู้กันดีว่า หยาบคายและไร้เหตุผล  เขาเก็บจอกที่ว่างเปล่าขณะนั่งลง  จากนั้นดื่มสองจอกที่ยังเหลือบนโต๊ะ และถอนหายใจพึงพอใจ

 

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุข

 

ตู่กู้วูตี้ หันหน้าไปและมองลูกสาวสุดที่รักของเขากำลังยิ้ม  ใบน้าของนางสะท้อนความสุข และพึงพอใจ ขณะนางมองไปยังสีหน้าของท่านพ่อ ราวกับนางมีความสุขในโชคร้ายของเขา   เขาอดคำรามทางจมูกและขู่มิได้

” หากเจ้ายิ้มเช่นนี้อีก ข้าจะจัดการหาคู่ให้เจ้าในวันพรุ่งนี้ ! “

 

เสียงหัวเราะของ ตู่กู้เซี่ยวอี้  หยุดลงทันใด  ดวงตากลมโตที่เปล่งประกายของนางอัดแน่นด้วยความโกรธ และใบหน้าอันงดงามของนางกลายเป็นสีดำ  นางหันหน้าไปขณะที่โมโห   จากนั้น นางมองกลับไปที่เขาขณะพูดพร้อมขมวดคิ้ว

” ฮึ่มม !  ดูท่านสิ  ท่านกลัวที่จะพ่ายแพ้กระนั้น ?  ฮึ่ม !  การพนันที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้น … ข้าจะรอดูว่าท่านจะชดใช้อย่างไร  ท่านมิอาจชดใช้ ยี่สิบห้าล้านตำลึงเงินได้ แม้นว่าท่านจะขายทุกสิ่งที่เรามี  “

 

ตู่กู้วูตี้ โมโหอย่างมาก และเอ่ย

” ชดใช้อะไร ?  พ่อของเจ้ามีวิธีมากมาย !  เจ้าบอกว่าแม้นว่าเราจะขายทุกสิ่งที่มี ก็มิอาจใช้หนี้ได้หมด ?  เป็นจำนวนเงินที่มากมายกระนั้นเลยหรือ ?  หากข้าไม่มีเงินจริงๆ ข้าจะใช้ลูกสาวของข้าทำให้เจ้าเด็กนั่นเป็นลูกเชย  นั่นคงจะชดใช้หนี้ได้ และทำให้เจ้ามีความสุข กระนั้น ?  หึ ! “

 

ใบหน้าของ ตู่กู้เซี่ยวอี้ กลายเป็นสีแดงขณะนางยืนขึ้นต่อต้าน  ด้วยสีหน้าดูหมิ่น นางตะโกน

” ข้าไม่ต้องการสิ่งนั้น !  ผู้ใดกันจะหวงแหนสิ่งนั้น ?! “​

 

นางทั้งโมโหและกระวนกระวาย  แม้นว่านางจะชอบจวินโม่เซี่ย นางก็ไม่ต้องการจะถูกมอบให้เขาเพื่อการเดิมพันนี้  หากเป็นเช่นนั้น … ที่รักของนางจักเคารพนางได้อย่างไร ?

 

นางเริ่มหลั่งน้ำตาทันที  ดวงตาของนางเริ่มพร่างพราวไปด้วยน้ำใสๆขณะกระทืบเท้า  จากนั้นนางส่ายเอวเล็กๆของนางออกไปโดยไม่สนใจพ่อของนาง และน้ำตายังคงหลั่งไหล

 

ตู่กู้วูตี้ หดหู่เพราะเขาลืมนึกถึงตัวเอง และทำลายทุกอย่าง เขาเร่งรีบปลอบประโลมนาง วีรบุรุษและตำนานผู้มุ่งต่อไป ทั้งเจ็ดมิอาจเข้าร่วมได้เนื่องจากเก้าอี้นั้นมีจำกัด  ดังนั้น จึงเหลือเพียง ตู่กู้อญิงยี่ ที่มากับเขา  เดิมทีนางหัวเราะด้วยความตลก แต่ไม่นานก็พบว่าตัวเองโดนเตะเข้าที่ก้น

 

” เจ้าจะไม่ลงไปกระนั้น ? “

จวินวูอี้ถามหลานชายของเขา

 

” ข้ารู้สึกว่าบางอย่างไม่ถูกต้อง “

จวินโม่เซี่ยขมวดคิ้วและชี้นิ้วไป

” ชายผู้นั้นมา  ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้พาใครบางคนมากับเขาด้วย  มันจักดีกว่าหากข้าไม่ต้องเผชิญกับปัญหาถ้าไม่จำเป็น  ดังนั้น ข้าจึงวางแผนจะกระทำอย่างรอบคอบ

 

” โอ้ว ? “

ร่างจวินวูอี้กระตุก

 

” ข้าคิดว่าทุกอย่างจะเป็นปกติ ! จวินโม่เซี่ยหัวเราะชั่วร้าย

” ข้ามั่นใจว่าถังหยวนและซ้งฉางสามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้  ข้าจะปรากฏตัวออกไปเพียงแค่ช่วงเวลาคับขันเท่านั้น “

 

จวินวูอี้ยิ้มอย่างรู้ทัน เลิกคิ้วขึ้น

” ข้ากลัวว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเจ้าจะถูกแพร่งพรายออกไปในไม่ช้า  ในที่สุดพวกเขาทั้งหมด …. จะรู้ “

 

จวินโม่เซี่ยเห็นพ้องขณะพยักหน้า

” ดังนั้น พวกเราควรเร่งรีบเสริมสร้างความแข็งแกร่งของสกุลจนไม่มีผู้ใดกล้ารุกราน  วิธีนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถทำอะไรได้แม้นว่าพวกเขาจะรู้  ท้ายที่สุดแล้วความแข็งแกร่งที่ไม่ลดลงเลยนั่นคือ อำนาจที่ยิ่งใหญ่ของเงิน “

 

ขณะที่ ซ้งฉางกำลังยกย่องถึงสุราชั้นเลิศนี้เสร็จสิ้น และถอยออกไปด้านข้าง เทพแห่งสุรานั้นพูดได้ดีเนื่องจากเขาเข้าใจถึงรสแห่งสุรา และแม้นว่าคำอธิบายของเขาจะสั้นกว่าจวินโม่เซี่ย แต่ทุกคนที่ได้ยินก็ไม่อยากจะเดินออกไป  ความจริงพวกเขาต้องการจะดื่มสุราชั้นเลิศนี้  หัวใจของพวกเขาเริ่มเต้นรัว ในขณะที่บรรยากาศได้มาถึงจุดสูงสุดแห่งความตื่นเต้น

 

เวลานี้ ในฐานะนายประมูล มันเป็นเวลาของถังหยวนบนเวที

 

” การประมูล สุราสวรรค์ อย่างเป็นทางการเริ่มขึ้นแล้ว !  ราคาเริ่มต้นของแต่ละขวดนั้นคือ หนึ่งหมื่นตำลึงเงิน  ราคาสามรถเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีขีดจำกัด  และด้วยจำนวนที่มีจำกัดของสุราชั้นดีนี้ แต่ละโต๊ะสามารถนำกลับไปได้เพียงห้าสิบขวด  และอาจมีหลายคนที่จะมิได้รับสุรานี้กลับไป “

ถังหยวนประกาศออกไปอย่างกระตือรือร้น

 

” ข้าขอบังอาจถามนายประมูลถัง … เขาหมายความว่าจะมีหลายคนที่จะไม่ได้รับสุรานี้ ? “

หลายคนถามขึ้นขณะเสียงของถังหยวนค่อยๆจางหายไป

 

” ไม่มีความหมายใดที่พิเศษ  เพียงเท่านั้น นายท่านซ้งใช้เวลาทั้งชีวิตเดินทางไปทั่วทั้งแผ่นดินเพื่อรวบรวมวัตถุดิบชั้นเลิศ  เขาใช้มันทั้งหมด เพื่อกลั่นสุรานี้  ดังนั้นจึงไม่มีสุราชั้นเลิศเช่นนี้อีกแล้ว  ด้วยเหตุนี้ นี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้านของการประมูล สุราสวรรค์ ! “

ถังหยวนถอนหายใจ

 

” เพียงแค่ครั้งเดียว … ! “

ทุกคนร้องอุทาน  พวกเขามองหน้ากันอย่างหวาดกลัว

สุราชั้นเลิศเช่นนี้จะขายหมดภายในวันนี้ ?