ทุกคนคิดว่ามันมีเหตุผล
มันจักต้องเป็นการยากในการหาวัตถุดิบในการหมักสุราชั้นเลิศ ?
ใช่ เป็นธรรมดีที่มันจะมีเพียงแค่ครั้งเดียว
” เนื่องจากมันมีเพียงแค่ชุดเดียว … ทั้งหมดมีโถกระนั้นหรือ ? “
คำถามนี้ถามขึ้นโดยผู้ที่ไม่มีความรู้ในสุรา แท้จริงแล้ว นางมิเคยแม้แต่ลิ้มรส นั่นคือ องค์หญิงหลิงเมิง
เจ้าอ้วนถังตอบคำถามของนางแม้นจะประหลาดใจก็ตาม
” จำนวนทั้งหมดของสุรานี้คือ สามพันโถ และไม่ว่าจะมีราคาเท่าไหร่ สุราดั่งเช่น สุราสวรรค์ นี้จะปรากฏขึ้นในเวลาไม่นาน ดังนั้น จงดื่มด่ำ ! แม้นจะหมายความได้ว่าสุรานี้จะหมดลงไปแล้วก็ตามที ! “
” สามพันโถ … ! “
เหล่าผู้ที่หลงไหลในสุราต่างประหลาดใจ สามพันโถนั้นมากมาย ถือได้ว่าเป็นจำนวนมหาศาล แต่กระนั้น ต้องจำไว้ว่ามีผู้คนจำนวนมากที่ได้รับเชิญให้มางานประมูลนี้ และผู้ที่มานั้นมีอย่างน้อยหนึ่งร้อยคน ดังนั้น แต่ละโต๊ะจึงสามารถนำกลับไปได้เพียงสามสิบโถ
อย่างไรก็ตาม จำนวนที่แต่ละโต๊ะสามารถซื้อไปได้นั้นคือ ห้าสิบโถ ยิ่งไปกว่านั้น แถวแรกคือราชสกุล และด้านหลังของพวกเขาคือ เหล่าสกุลอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักร คนเหล่านี้จะต้องเริ่มคิดและใช้จ่ายเงินมากมายเพื่อมิให้กลับไปมือเปล่า มีแนวโน้มว่าพวกเขาจักต้องจัดหาในสิ่งที่ต้องการ ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าผู้แทนแห่งสกุลอันยิ่งใหญ่นั้นอยู่ที่นี่ พวกเขาจึงต้องการสุราอย่างน้อย แปดร้อยโถ
ด้วยเหตุนี้ สกุลที่เหลือกว่าแปดสิบนั้นจักต้องแข่งขันกันเพื่อสองร้อยยี่สิบโถ ชัดเจนว่า จะต้องมีหลายคนที่จะมิได้ สุราสวรรค์ นี้กลับไป
หากไม่สามารถเสนอราคาได้ เป็นไปได้ที่พวกเขาจะเสียโอกาสในการลิ้มรสสุราชั้นเลิศเช่นนี้
การแข่งขันระหว่างเหล่าพ่อค้าจะต้องดุเดือดอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
หลายผู้แอบกำหมัด พวกเขาพร้อมจะตะโกนราคาออกไปเมื่อเวลามาถึง
” ตอนนี้การประมูลอย่างเป็นทางการเริ่มขึ้น ในชุดแรกประกอบไปด้วยสุราห้าสิบโถ ! จะมีผู้ชนะสำหรับจำนวนนี้เพียงผู้เดียว “
ท้องของถังหยวนกระเพื่อม ขณะเขาประกาศอย่างพึงพอใจ เขารู้สึกราวกับช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตถือกำเนิดขึ้น ขณะถือค้อนและทำการตัดสิน
” ข้าเสนอหนึ่งล้านตำลึงสำหรับห้าสิบโถนี่ ! “
ชายผู้หนึ่งตะโกนขึ้น ประหลาดใจนัก ผู้แรกที่ประมูล … เสนอราคาเป็นสองเท่า บางคนสาปแช่งชายผู้นี้ในใจหลังจากได้ยิน
อวดดี นายท่าน นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเสนอราคา … อย่าปฏิบัติเหมือนเป็นเกมส์มากนัก ราคาจะไม่สูงเสียดฟ้าเมื่อถึงตาของพวกเราเพราะเจ้าตะโกนออกไปเช่นนี้กระนั้นหรือ ?
ชายผู้ที่ร้องออกมา ลุกจากเก้าอี้อย่างช้าๆจากแถวที่สาม เขาใส่เสื้อคลุมยาวสีคราม ดูเหมือนกับทะเลที่มีระลอกคลื่นอย่างไร้ที่สิ้นสุด ความจริง ดูเหมือนว่า มีมหาสมุทรสีฟ้าครามปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา
ชายผู้นี้ยิ้มใจเย็น และเอ่ย
” ข้า ไฮ่เฉินเฟิง และผู้นำก๊กจินหยางแห่งนครเทียนเชียง ข้าลุ่มหลงสุรามาเสมอ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงปรารถนาสุราสวรรค์ ความจริงแล้ว ข้าไม่คิดว่าหนึ่งล้านตำลึงจะเป็นจำนวนมากมายอะไรสำหรับสุรานี่ ข้าขอให้ทุกผู้ที่อาจขุ่นเคืองโปรดจงอภัย “
เดิมที ไฮ่เฉินเฟิง นั้นถูกจวินโม่เซี่ยดึงตัวเข้ามาเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เขาต้องการผู้ที่สามารถเชื่อใจได้ เป็นงานที่ง่าย ไฮ่เฉินเฟิงยืนขึ้นเพื่อรับการวิพากษ์เป็นผู้แรก
เดิมทีแล้ว ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งเบื้องหลังการกระทำของ ไฮ่เฉินเฟิง เขากระทำเช่นนี้ เพื่อประกาศว่า เป็น ขบวนการใต้ดินอันดับหนึ่งแห่งนครเทียนเชียง ก๊กจินหยาง ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขาประกาศว่า ผู้นำก๊กไฮ่ จะทำให้ ก๊กจินหยางเป็นใหญ่ใน นครเทียนเชียง
การปรากฏตัวของ ไฮ่เฉินเฟิง ทำให้ทุกผู้เพ่งมองไปยังเขาอย่างรวดเร็ว ราวกับชิ้นโลหะที่สนใจแม่เหล็ก ไฮ่เฉินเฟิงยืนนิ่ง แต่ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สบายเล็กน้อยเนื่องจากสีหน้าซีดลง ความจริงแล้ว จวินโม่เซี่ย ผู้ที่กำลังเฝ้ามองเรื่องทั้งหมดจากชั้นบน ยังสับสน
อย่าบอกข้าว่าเขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงในสองวันนี้ ? มันจะบ่อยเกินไปไหม ? ดูเหมือนว่าข้าจะต้องฝึกฝนและเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้เขาสักหนึ่งหรือสองขั้น มิเช่นนั้นทุกสิ่งจะตกอยู่ในความเสี่ยง
มีเพียงแค่ นายน้อยจวิน เท่านั้นที่กล้าคิดเช่นนี้ …การเพิ่มความแข็งแกร่งของยอดฝีมือสวรรค์เชวียนสองขั้นตามอำเภอใจได้นั้น … ใครจะเชื่อ ?
องค์ชายทั้งสามและเหล่าสมาชิกสกุลใหญ่ๆ เฝ้ามองเขาอย่างถี่ถ้วน พวกเขารู้ว่า ก๊กจินหยาง ได้ผ่านการเปลี่ยนผู้นำแล้ว แต่กระนั้น พวกเขาก็มิได้คาดว่า ผู้นำลึกลับผู้นี้จะเป็นยอดฝีมือ สวรรค์เชวียน
มันสำคัญที่จะรู้ว่า เทพเชวียนถือว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าทุกผู้ และไม่ค่อยแทรกแซงเรื่องพิพาทในทางโลก ผู้ที่ต่ำต้อยกว่าเทพเชวียนนั้นคือสวรรค์เชวียน พวกเขาคือผู้ค้ำจุนอำนาจของเหล่าสกุลต่างๆในโลก อย่างเช่นสกุลถัง ซึ่งเป็นหนึ่งในสกุลผู้ทรงอำนาจที่สุดใน นครเทียนเชียง แต่กระนั้น แม้แต่สมาชิกผู้ทรงพลังที่สุดยังเป็น ยอดฝีมือปฐพีเชวียน และตอนนี้ คาดไม่ถึงว่าจะมียอดฝีมือสวรรค์เชวียนมาเป็นผู้นำก๊ก หากว่าก๊กจินหยางได้ก้าวขึ้นมาเป็นก๊กอันดับหนึ่งในนคร ก็ยังไม่ทรงอำนาจเพียงพอที่จะแข่งขันในภายหลัง ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงพบว่าสิ่งนี้อันตรายยิ่ง
อย่างไรก็ตาม การทนดูยอดฝีมือสวรรค์เชวียนผู้นั้นคว้าเอาสุราชั้นเลิศห้าสิบโถนี้ไปเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีผู้ใดร่วมเสนอราคาอยู่ชั่วครู่
ในขณะที่ฝุ่นร่วงลงสู่พื้น ทุกผู้เห็นเด็กหนุ่มในชุดสีดำยืนขึ้นไม่รีบร้อนในแถวที่สอง แม้นว่าจะมีผ้าคลุมหน้า กริยาท่าทางของเขายังคงสง่างาม ทุกท่วงท่าของเขา ดูเหมือนจะกระทำอย่างผ่อนคลาย ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าเขาได้กักเก็บความงดงามทั้งหมดภายใต้สุริยานี้ไว้ ยิ่งไปกว่านั้น กริยาอาการของเขายังเป็นแบบอย่างจากหนังสือชั้นยอด
ชายหนุ่มในชุดดำผู้นี้คือ ลี่โย่วหลานแห่งสกุลลี่
ลี่โย่วหลานมาเข้าร่วมงานสาธารณะหลังผ่านไปหลายปี
” ข้าเสนอราคาหนึ่งล้านห้าแสนตำลึงเงิน “
จากเสียงของเขาดูเหมือนว่า ลี่โย่วหลานกำลังยิ้ม เสียงของเขาคล้ายดั่งลมหนาวพัดผ่านสาทรฤดู มันชัดเจน และไม่มีร่องรอยแห่งโทสะ
” นี่คือรอบแรกในการประมูล สุราสวรรค์ มันจึงเป็นสิ่งสำคัญ นายน้อยผู้นี้หลงใหลในสุรานี้เช่นกัน ดังนั้น ข้าจะต้องขอให้ ผู้นำก๊กไฮ่ โปรดอภัย “
ลี่โย่วหลานยิ้มขณะมองไปยัง ไฮ่เฉินเฟิง ท่าทางของเขาประหนึ่งชมเชย
อย่างไรก็ตาม เขามิได้เผยถึงความจริงใจ และความรู้สึกเบื้องลึก
มันเป็นเพียงแค่ช่วงเย็นของเมื่อวานที่สองผู้อาวุโสของเขาถูกส่งออกไป แต่พวกเขา จำต้องล่าถอยออกมาหลังจากได้รับบาดเจ็บรุนแรง และผู้ร้ายนั้นคือชายที่อยู่ตรงหน้าของเขา ผู้นำคนใหม่แห่งก๊กจินหยาง แม้นเขาจะรู้ว่าทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บ เขาจักปล่อยให้การประมูลนี้เป็นไปตามประสงค์ของ ไฮ่เฉินเฟิง ได้อย่างไร ? โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อศิษย์พี่ใหญ่ กำลังนั่งอยู่ด้านหลัง …
เป้าหมายหลักของ ลี่โย่วหลาน คือการทำลายแรงกระตุ้นของ ไฮ่เฉินเฟิง และทดสอบ ความสามารถทางการเงินของ ก๊กจินหยาง ในท้ายที่สุดสินค้าที่ขายออกไปจะต้องมีราคานับล้านตำลึงเงิน ไฮ่เฉินเฟิงนั้นเป็นคนที่กล้าหาญ หากเขาจะเพิ่มราคาขึ้นไปอย่างไม่ระมัดระวัง เช่นนั้น ลี่โย่วหลาน จะกลับมามีโอกาสที่เหมาะสม และ ไฮ่เฉินเฟิง และ ก๊กจินหยางจะประสบกับปัญหาทางการเงิน นี่จึงเป็นการแก้แค้นสำหรับการบาดเจ็บของศิษย์พี่ทั้งสองของเขา
” ดังนั้นแล้ว นายน้อยแห่งสกุลลี่ก็หลงไหลในสุราเช่นกันกระนั้น ? “
ไฮ่เฉินเฟิงหัวเราะสุภาพ
” แต่กระนั้นก็มิใช่ปัญหา เป็นเรื่องปกติที่ราคาจะต้องสูงขึ้นไป และเมื่อเป็นเช่นนี่ ข้าของเสนอราคาสามล้านตำลึงเงิน ! “
ไฮ่เฉินเฟิง ไม่เคยสนใจในเรื่องของเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อในตอนนี้จุดประสงค์ของก๊กจินหยางนั้นเพื่อผลประโยชน์ของก๊กจินหยาง ดังนั้นจึงไม่สำคัญว่า ลี่โย่วหลาน จะเสนอราคาเท่าไหร่ ไฮ่เฉินเฟิง จะเสนอให้มากกว่า
อย่างไรก็ตาม ราคาเพียงเท่านั้นยังไม่มากพอที่ลี่โย่วหลานจะยอมแพ้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นห่วงว่าตอนนี้ไม่มีผู้ใดกล้าเสนอราคาแข่งกับ ไฮ่เฉินเฟิง อย่างไรก็ตาม โอกาศเช่นนี้ก็ไม่ได้มาหาเขาบ่อยนัก ดังนั้น เขาจึงต้องการจะเพิ่มราคาขึ้นอีกนิดหน่อย และสิ่งที่เขาจะเพิ่มนั้นทำให้ราคาเกือบจะเหมือนกัน
สามล้านตำลึง
ผู้ที่อยู่ในที่นี้เป็นเหล่าบุคคลผู้ทรงอำนาจ แม้นว่าสามล้านตำลึงจะมิใช่จำนวนเล็กน้อย แต่มันก็มิได้สูงนัก อย่างไรก็ตาม การใช้เงินมากมายเช่นนี้ซื้อสุราห้าสิบโถนั้น …. จะเป็นราคาโถละหกหมื่นตำลึง ยังเป็นการฟุ่มเฟือยเกินไป
ก๊กนี้ไม่เคยเปลี่ยน … เงินเป็นเพียงสิ่งสกปรกสำหรับพวกเขา
” ผู้นำก๊กไฮ่ มั่งคั่งยิ่ง ดั่งคาด ! “
ลี่โย่วหลานหัวเราะสุขุมขณะเขาเหลียวมองไปราวกับแม่น้ำที่ร่าเริง
” นายน้อยผู้ที่เสนอราคาสามล้านตำลึงเงิน … กับหนึ่งอีแปะ “
สามล้านตำลึงเงิน … กับหนึ่งอีแปะ ?!
การเสนอราคาเช่นนี้เป็นดั่งการดูหมิ่นอย่างเปิดเผย
ไฮ่เฉินเฟิงเดือดดาล และกระแสแห่งความชั่วร้ายปะทุขึ้นในตัวเขา เขาเริ่มหายใจรุนแรงขณะมองไปยัง ลี่โย่วหลาน ด้วยท่าทางเยือกเย็น เขาเอ่ย
” นายน้อยแห่งสกุลลี่ช่างเป็นเลิศ … เพิ่มจากสามล้านตำลึงเพียงแค่หนึ่งอีแปะ ฮี่ ฮี่ … แต่กระนั้น หัวใจข้าก็มิได้มีปัญหาในการนับถือนี้ และข้าจะไม่ลังเลที่จะใช้จ่ายเงินนับหมื่นตำลึงทอง ดังนั้นข้าจึงขอเสนอ ห้าล้านตำลึง ! “
ไฮ่เฉินเฟิง โมโห ลี่โย่วหลาน อย่างแท้จริง
เจ้าเด็กนี่ช่างน่ารำคาญนัก ! เจ้าเพิ่มราคา แต่เพียงหนึ่งอีแปะ ! ประหลาดมากเหลือ ! แม่เจ้าเอ้ย !
เขาตัดสินใจแตกหักกับลี่โยนหลานในเวลานั้น
เรื่องนี้กลายมาเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี
” ผู้นำก๊กไฮ่ ท่านเป็นคนพูดเองมิใช่หรือว่าเป็นธรรมดาที่ราคามันจะสูงขึ้น ? เช่นนั้นเหตุใดท่านจึงต้องว้าวุ่นกับมันเล่า ? พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ดีเลย ฮี่ ฮี่ “
ลี่โย่วหลานเอ่ยนุ่มนวล
” ทุกสกุลนั้นมีเกียรติ และทุกการกระทำจะส่อมันออกมา นายน้อยผู้นี้เพิ่มราคาขึ้นไปโดยไม่ขัดต่อกฏใด จึงไม่มีข้อกำหนดว่าพวกเราจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่ ด้วย สกุลลี่ของข้าเป็นสกุลเล็กๆ ดังนั้น พวกเราจึงมิอาจใช้จ่ายฟุ่มเฟือยได้ โปรดอภัย อย่างไรก็ตาม เนื่อง ผู้นำก๊กไฮ่ รู้สึกเช่นนี้ … ข้ายอมรับในความผิดนี้เนื่องจากข้าไม่ต้องการทำให้เขารำคาญ ! “
ใบหน้า ไฮ่เฉินเฟิง ซีด แต่ภายในกลับมีความสุข
ถ้าเจ้าพยายามเพิ่มราคาขึ้นอีก ข้าจะหยุดทันที ข้าจะทำให้เจ้าต้องแบกภาระอันหนักอึ่งนี้ในกระเป๋าตัง !
ลี่โย่วหลาน หยุดชั่วครู่ และจากนั้นเอ่ยอย่างสง่างาม
” ข้าขอเสนอห้าล้านตำลึงเงิน และ สองอีแปะ ! “
ไฮ่เฉินเฟิง เต็มไปด้วยโทสะ เขากระโดดขึ้นโต๊ะ และคำราม
” เจ้า เด็กน้อย มันจะมากไปแล้ว .. เจ้า … “
ในตอนนั้นเอง เขาได้ยินเสียงอันแผ่วเบาของ นายน้อยจวิน … ที่หูข้างขวา ซึ่งคล้ายกับเสียงของแมลงวัน
” ให้เขาไป “
ไฮ่เฉินเฟิง นิ่งงัน เขาเริ่มมองไปรอบๆ ในดินแดนเชวียนเชวียน ไม่มีเคล็ดวิชาที่จะส่งเสียงไปหาผู้อื่นด้วยวิธีการเช่นนี้ ไฮ่เฉินเฟิง ไม่รู้เลยว่าเสียงนั่นเข้ามาในหูเขาได้อย่างไร …
เหตุใดจึงดูเหมือนไม่มีผู้อื่นได้ยิน ? มันจะอัศจรรย์เกินไป ?
” ข้าบอกให้เจ้าปล่อยให้เขาไป อย่าเสนอราคาอีก นั่นคือคำสั่ง ! “
เสียงของจวินโม่เซี่ยดังขึ้นในหูของ ไฮ่เฉินเฟิง อีกครั้ง
เสียงนั้นเข้มงวดและจริงจังอย่างมาก แม้นมันจะเลือนราง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่อาจขัดคำสั่งได้
. ขอรับ ข้าจะทำตามคำสั่งของท่าน
จวินโม่เซี่ย สังเกต ลี่โย่วหลาน ในตอนที่เขามาถึง จากนั้น เขาจึงสืบค้นเข้าไปในความทรงจำของจวินโม่เซี่ย และตระหนักได้ว่านี่คือครั้งแรกที่เขาได้เห็น ลี่โย่วหลานตัวจริง
จวินโม่เซี่ย สัมผัสได้ถึงความกระวนกระวายในครั้งแรกที่สายตาของเขาตกไปยังชายผู้นี้ กริยาของ ลี่โย่วหลาน … สิ่งที่เขาพูด … หรือการเคลื่อนไหวต่างๆ ของเขานั้น สมบูรณ์แบบยิ่ง !
เขานั้นสมบูรณ์แบบ … ไม่ว่าสิ่งใดจักเกิดขึ้น
แต่กระนั้น
บุคลิกที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้มีอยู่ในโลกนี้จริงๆกระนั้นหรือ ?
จวินโม่เซี่ย ไม่เคยมั่นใจในเรื่องนั้น
สวรรค์และโลกยังไม่สมบูรณ์แบบ ทั้งโลกนี้ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์แบบ
ผู้ที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ไม่มีอยู่ทั่วไปในโลก !
แม้นว่า ลี่โย่วหลาน จะแสดงออกถึงพฤติกรรมที่สมบูรณ์แบบ จวินโม่เซี่ยก็รู้ได้ทันทีว่า เขากำลังเสแสร้ง
ทุกสิ่งเป็นการเสแสร้ง !