ความอับอายเย้ยหยัน ดูแคลน…
อารมณ์มากมายหลั่งไหลเข้ามาในใจของเหย่จือโปไม่หยุดเขามองนัยน์ตาสีแดงเลือดที่ไม่สามารถคาดเดาได้ของมู๋เย๋ และในที่สุดก็เลือกคุกเข่าลงหมอบแทบเท้าของมู๋เย๋
ไม่มีการพูดไม่มีอะไรเลย มีแต่การยอมจำนนของเหย่จือโป…และตอนนี้เขาก็ได้กลายเป็นหมารับใช้ให้มู๋เย๋แล้วเรียบร้อย
มู๋เย๋มองร่างของเหย่จือโปที่หมอบอยู่ที่พื้นมุมปากข้างหนึ่งยกยิ้มอย่างสะใจ “ทั้งๆที่ตอนนั้นชูฮันถูกบีบให้เดินทางตามเส้นถนน แต่พวกแกกลับไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เพราะงั้นแกคิดว่าด้วยความสามารถของแกที่มีแล้วจะทำอะไรชูฮันได้จริงๆงั้นเหรอ?”
ในตอนที่มู๋เย๋และชูฮันเจอกันเป็นครั้งแรกคนหนึ่งเป็นลูกผสมระยะสูง ขณะที่อีกคนพึ่งเริ่มเข้าสู่การเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ ชูฮันยังเป็นแค่วิวัฒนาการระยะ 2 เท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม ชูฮันก็ยังกล้าที่จะสู้กับมู๋เย๋อย่างไม่เกรงกลัว
ในตอนนั้นชูฮันได้สร้างความประทับใจให้มู๋เย๋ไว้อย่างมาก
เมื่อได้ยินมู๋เย๋พูดแบบนั้นเหย่จือโปก็ยิ่งตื่นกลัวเข้าไปอีก เขากดหัวให้ลงต่ำกว่าเดิม
มู๋เย๋พูดถูกแล้วเขาจะทำอะไรชูฮันได้?
”ลุกขึ้น”ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ก่อนที่เสียงของมู๋เย๋จะเอ่ยขึ้นมา
เหย่จือโปรีบดันตัวลุกขึ้นมาจากพื้นมายืนเงียบๆอยู่ตรงหน้ามู๋เย๋ทันทีเขาสูญเสียทุกอย่างไปหมดแล้ว แม้แต่คนคอยคุ้มหัวอย่างตระกูลป่ายก็กลายเป็นคนสนับสนุนมู๋เย๋แทน ตอนนี้เหย่จือโปไม่มีสิทธิที่จะนั่งเทียบเท่ากับมู๋เย๋อีกต่อไปแล้ว
มู๋เย๋ไม่ได้รู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติกับสถานการณ์ในตอนนี้เลยเขาเพียงแค่เลียริมฝีปากตัวเอง เผยให้เห็นเขี้ยวฟันที่ซ้อนเรียงกันอย่างน่าเกลียด “ที่ฉันยังไม่ฆ่าแกก็เพราะว่าฉันมีงานให้แกทำ”
เหย่จือโปสะดุ้งทันทีอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองมู๋เย๋ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
การฆ่าชูฮันไม่ใช่ภารกิจที่ใหญ่ที่สุดแล้วงั้นเหรอ?
ในตอนนี้ภารกิจมันล้มเหลวไปแล้วเรียบร้อย แต่แล้วทำไมมู๋เย๋ถึงบอกว่ายังมีภารกิจอีกล่ะ?
มู๋เย๋เหลือบมองเหย่จือโปด้วยหางตา”แกส่งมนุษย์สายพันธุ์ใหม่สิบห้าคนเพื่อไปฆ่าชูฮัน?”
”ใช่ครับ”เหย่จือโปตอบตรงๆอย่างไม่กล้าจะตุกติกใดๆ
”และนักฆ่าที่ถูกส่งไปรอบสองก็เป็นคนที่แกส่งไป?”มู๋เย๋ถามต่อทันที เวลานี้ข่าวการลอบสังหารชูฮันที่ค่ายหนานตู้ได้กระจายไปทั่วแล้ว มีหลายคนที่อยากรู้อยากเห็น
เหย่จือโปส่ายหัวเบาๆ”ไม่ครับ แค่สิบห้าคนแรกที่ผมส่งไป” novel-lucky
”อ่า!”มู๋เย๋พยักหน้า “แล้วการลอบสังหารได้ประโยชน์อะไร?”
เหย่จือโปสังเกตท่าทางและคำพูดของมู๋เย๋และเขาก็เข้าใจได้ในทันทีว่าครั้งนี้เขาต้องตอบคำถามให้อีกฝ่ายพอใจให้ได้ “ครับ ผมหุนหันพลันแล่นเกินไป ผมไม่มีความคิดที่เหมาะสมกับอายุ”
มู๋เย๋เหลือบมองเหย่จือโปด้วยความพอใจและเอ่ยบอกแผนการให้เหย่จือโปฟังอย่างไม่กลัว”คลื่นซอมบี้มหาศาลโจมตีค่ายหนานตู้และบังคับให้ชูฮันต้องออกจากค่ายหนานตู้เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองหนานตู้ และเมื่อมาถึงเขาก็จะโดนคนของฉันฆ่าตามแผนที่วางไว้”
เหย่จือโปอึดอัดอย่างมากแต่เบื้องหน้าเขากลับแสดงสีหน้าชื่นชมเพื่อประจบมู๋เย๋ให้พอใจ “ท่านเป็นราชาลูกผสม เป็นเรื่องง่ายสำหรับท่านที่จะจัดการค่ายใหญ่ๆ และก็ง่ายที่ท่านจะเอาชีวิตชูฮัน”
มู๋เย๋ที่ได้ยินก็หัวเราะเยาะในลำคอ”ชีวิตชูฮัน? มันหมายความว่าไงที่ฉันต้องเอาชีวิตมัน?”
เหย่จือโปตกใจและตะลึงค้างในตอนนี้เขาไม่สามารถคาดเดาความคิดของมู๋เย๋ได้เลย ไม่ใช่ว่ามู๋เย๋ตามหาตัวเขาเพราะต้องการแสดงการทำงานที่ดีให้ตระกูลป่ายเห็นเหรอ แล้วค่อยร่วมมือกับตระกูลป่ายจัดการชูฮันในทีเดียว?
มู่เย๋ไม่ปล่อยให้เหย่จือโปได้รอนาน”ฉันได้ส่งทีมลูกผสมระดับสูงไปแล้ว”
ความสับสนอลหม่านเกิดขึ้นกลางใจของเหย่จือโปทำให้เขาถามสิ่งที่คิดในใจออกไป”ท่านส่งพวกเขาไปที่ไหน?”
ไม่ใช่ค่ายหนานตู้?มู๋เย๋คิดจะทำอะไร?
มู๋เย๋เคาะนิ้วลงโต๊ะ”ตอนนี้ค่ายหนานตู้กำลังย่ำแย่ ถ้าฉันปล่อยข่าวว่าตอนนี้ชูฮันอยู่ที่เมืองหนานตู้ละก็ กองทัพเขี้ยวหมาป่าจะต้องปั่นป่วนแน่ และจะต้องรีบเร่งไปหาชูฮัน ทีนี้ค่ายเขี้ยวหมาป่าและเมืองอันลูก็จะง่ายต่อการโจมตี ว่ามั้ย?” มู๋เย๋ยิ้มบางๆก่อนจะพูดต่อ”มันไม่ใช่เรื่องสำคัญว่าชูฮันจะต้องตาย แน่นอนว่าถ้าชูฮันตายที่เมืองหนานตู้ครั้งนี้ประกอบกับกับค่ายเขี้ยวหมาป่าล่มสลาย ถ้างั้นฉันกับตระกูลป่ายก็ถือว่าสำเร็จไปอีกก้าว แต่ถึงชูฮันจะไม่ตายในครั้งนี้ แต่เราได้ทำลายกองกำลังหนุนของมันไปแล้วเรียบร้อย เพราะงั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่มันพยายามอย่างมากที่จะสร้างขึ้นมาก็จะสลายหายไปไม่เหลือซาก”
นี้แหละคือการโจมตีทุกรอบด้านของมู๋เย๋!
ถ้าจะตีงูต้องตีให้ตาย อย่าให้มันกลับมาแว้งกัดเราได้ แม้ว่าชูฮันจะไม่ตายแต่มันจะสูญเสียทุกอย่าง และถ้าโชคดีมันอาจจะฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ได้ แต่มันก็จะถูกทำลายลงอีกครั้ง
นี้มันสนุกและตื่นเต้นยิ่งกว่าการฆ่าชูฮันตรงๆซะอีก!
เมื่อได้ยินคำบอกเล่าของมู๋เย๋เหย่จือโปก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ออกสักคำ ทันใดนั้นเขาก็พบว่าที่ผ่านมาเขาพลาดมาตลอด ไม่ว่าจะต่อหน้ามู๋เย๋หรือป่ายยู เพราะเขาทระนงตัวเกินไป
เพื่อที่จะจัดการชูฮันข้อจำกัดเดียวที่เขาคิดออกคือการเพิ่มความแข็งแกร่งของนักฆ่าไปเรื่อยๆ ใช้จำนวนที่มากกว่าบีบล้อมเพื่อที่จะจัดการชูฮันให้ได้
ในทางตรงกันมู๋เย๋เลือกที่จะวางเป็นขั้นตอน ทีละขั้นๆ ใช้กลยุทธ์ต่างๆเพื่อทำลายชูฮัน ซึ่งมันทำให้เหย่จือโปรู้สึกทั้งชื่นชมมู๋เย๋และช็อคไปในเวลาเดียวกัน
จะจัดการกับชูฮันจะต้องใช้สมอง!
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตระกูลป่ายถึงตัดสินใจเปลี่ยนไปร่วมมือกับมู๋เย๋กลางคัน
ด้วยวิธีการของมู๋เย๋แม้ชูฮันจะไม่ตายในครั้งนี้ แต่แน่นอนว่ามู๋เย๋ได้สร้างความเสียหายใหญ่หลวงเอาไว้ และก็เป็นการสร้างความประทับใจให้ป่ายยูอีกด้วย
สมแล้วสมแล้วที่เป็นราชาลูกผสม!
”ตอนนี้รู้แล้วใช่มั้ยว่าทำไมแกถึงเป็นได้แค่หมารับใช้?”มู๋เย๋ไม่ลังเลที่จะกดและดูถูกเหย่จือโป เขาไม่สนใจอารมณ์ของอีกฝ่ายเลย ช่องว่างที่เกิดขึ้นทำให้เหย่จือโปได้แต่ตอบรับเสียงแผ่วด้วยความอาย
”ครับ”เหย่จือโปได้แต่ก้มหน้ารับอย่างถ่อมตน
มู๋เย๋ยิ้มอีกครั้ง”ดีมาก งั้นการส่งมอบนายหญิงแห่งตระกูลเกา จะถูกมอบให้เป็นหน้าที่ของแก”
เหย่จือโปเงยหน้าขึ้นทันทีด้วยความประหลาดใจ
”ผมจะทำให้สำเร็จผมจะรีบไปจัดการทันทีเลยครับ!” เหย่จือโปตอบรับทันที