ตอนที่ 1931 มหกรรมตบหน้า (23)
กู่อี้พบว่าตัวเองถูกกดดันหนักขึ้นเรื่อยๆ เขาสอดส่ายสายตาไปรอบๆ พยายามจะหาทางพลิกสถานการณ์ แต่สิ่งที่เขาพบมีเพียงความสิ้นหวัง เขาหาโอกาสที่จะพลิกสถานการณ์ไม่พบเลยแม้แต่นิดเดียว
ขวัญกำลังใจของกองทัพสิบสองวิหารถูกทำลายลงแล้ว พวกเขารวมตัวกันขึ้นจากศิษย์สิบเอ็ดวิหารที่ขัดแย้งกัน อย่าว่าแต่สายสัมพันธ์อะไรเลย หลายคนมีความแค้นต่อกันด้วยซ้ำ จึงไม่จำเป็นต้องพูดถึงความร่วมมือในหมู่พวกเขา กองทัพที่แตกแยกไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจะสามารถต้านทานกองทัพที่ฝึกฝนมาอย่างดีและมีระเบียบวินัยได้อย่างไร?
ธูปหอมที่จวินอู๋เสียนำเข้ามาก่อนหน้านี้ก็มีผลอย่างมากต่อประมุขทั้งหลาย เมื่อเวลาผ่านไป พลังวิญญาณของพวกเขาก็ยิ่งหมดลงมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนถึงขั้นสูญเสียพลังวิญญาณสีเงิน……
ทุกอย่างดูเลวร้ายมากจนเขาไม่อาจทนดูได้
ใครจะคิดว่าเด็กสาวตัวเล็กๆแค่คนเดียวจะสามารถต้อนสิบสองวิหารมาจนถึงขั้นนี้ได้?
กู่อี้กัดฟันยืนหยัด แต่ถูกจวินอู๋เสียฟาดด้วยแส้เถาวัลย์จนกลิ้งไปกับพื้น เขากระอักเลือดออกมา ในหัวมีแต่เสียงอื้ออึง
จวินอู๋เสียที่ลอยสูงอยู่กลางอากาศสะบัดเถาวัลย์เล็กน้อย มันสานตัวเองกลายเป็นดาบที่แหลมคม พลังวิญญาณสีม่วงพุ่งเข้าไปในดาบ จากนั้นนางก็พุ่งดาบตรงไปที่หน้าอกของกู่อี้!
กู่อี้เบิกตากว้าง อยากจะหลบ แต่ก็สายเกินไปแล้ว
ในวินาทีสุดท้ายก่อนที่จวินอู๋เสียจะฆ่ากู่อี้ ร่างเพรียวบางก็พุ่งเข้ามาขวางหน้ากู่อี้อย่างกะทันหัน!
ดาบที่ห่อหุ้มด้วยแสงพลังวิญญาณสีม่วงแทงทะลุร่างเล็กนั้นทันที
จวินอู๋เสียมองกู่ซินเยียนที่จู่ๆก็วิ่งเข้ามารับดาบแทนกู่อี้อย่างตกตะลึง จิตสังหารในแววตาของนางหายไปทันที แทนที่ด้วยความตกใจ
[ทำไมเป็นนาง!]
“เยียนเอ๋อร์!” เมื่อกู่อี้เห็นลูกสาวของตนเข้ามารับดาบแทนเขา หัวใจของเขาก็ราวกับถูกบิดกระชาก
เลือดสีแดงเข้มพุ่งออกมาจากบาดแผลของกู่ซินเยียน ดาบที่จวินอู๋เสียแทงเข้ามานั้นมีพลังที่ใช้เพื่อจะฆ่ากู่อี้ให้ตายในดาบเดียว ไม่เพียงแต่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่สูงมากเท่านั้น แต่พลังวิญญาณที่อยู่ในนั้นก็รุนแรงมากอีกด้วย เมื่อมันแทงทะลุหน้าอกของกู่ซินเยียน เลือดสีแดงเข้มก็แผ่ขยายไปทั่วหน้าอกของนางทันที
“จวินอู๋……ไว้ชีวิตเขาด้วย……” หยดเลือดไหลออกมาจากมุมปากของกู่ซินเยียน นางขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด เมื่อจิตสังหารหายไปจากแววตาของจวินอู๋เสีย นางก็เห็นดวงตาที่คุ้นเคยได้อย่างชัดเจน ดวงตาคู่นั้นที่นางเห็นในฝันมาหลายครั้งหลายครานับตั้งแต่ออกจากสำนักธาราเมฆ
[นางลืมดวงตาคู่นั้นไปได้อย่างไร?]
มือที่จับดาบสั่นเล็กน้อย
ดาบที่สานจากเถาวัลย์ถอนตัวออกอย่างรวดเร็ว
หยดเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วพื้น
สายตาของจวินอู๋เสียยังคงจับจ้องอยู่ที่กู่ซินเยียนอย่างมึนงง เมื่อสูญเสียแรงพยุงจากดาบ เด็กสาวก็ล้มลงไปกองกับพื้นบนกองเลือดของตัวเอง
นางไม่เคยมีความคิดที่จะฆ่ากู่ซินเยียนเลย ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายกู่ซินเยียนเลยสักครั้ง แม้ว่านางจะมาจากวิหารมารโลหิต แต่ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับกู่ซินเยียนที่สำนักธาราเมฆ ทำให้จวินอู๋เสียรู้สึกว่ากู่ซินเยียนไม่ได้มีนิสัยชั่วร้าย สำหรับเรื่องนี้ นางได้ตรวจสอบยืนยันกับเฟยเหยียนแล้ว ข้อมูลทั้งหมดที่วิหารมังกรรวบรวมไว้ ไม่มีอาชญากรรมไหนที่กู่ซินเยียนเป็นผู้กระทำเลย
แต่……
คนที่นางไม่อยากทำร้ายมากที่สุด กลับได้รับบาดเจ็บเพราะนางโดยไม่ได้ตั้งใจ
สิ่งที่ทำให้จวินอู๋เสียประหลาดใจมากยิ่งขึ้นก็คือ นางไม่เห็นความเกลียดชังใดๆในสายตาของกู่ซินเยียนเลย มีแค่ความสิ้นหวังอย่างลึกซึ้งเท่านั้น
“เยียนเอ๋อร์! เยียนเอ๋อร์!” กู่อี้น้ำตาไหลเป็นสายด้วยความโศกเศร้าขณะมองกู่ซินเยียน มือของเขาเต็มไปด้วยเลือดของกู่ซินเยียน ดวงตาเปลี่ยนเป็นแดงก่ำทันที เขาพุ่งเข้าใส่จวินอู๋เสียอย่างไม่คำนึงถึงอะไรแล้ว
จวินอู๋เสียถอยหลบ แต่ทันทีที่หลบ นางก็รู้สึกถึงพลังมหาศาลที่พุ่งเข้าใส่นางจากด้านหลัง!
ตอนที่ 1932 มหกรรมตบหน้า (24)
จวินอู๋เสียต้องรับมือการโจมตีที่เกือบจะบ้าคลั่งของกู่อี้จากทางด้านหน้า และต้องให้ความสนใจกับพลังที่แข็งแกร่งจากด้านหลังไปพร้อมๆกัน ทำให้นางไม่สามารถหลบได้ทันเวลา!
ฝ่ามืออันหนักหน่วงทรงพลังฟาดเข้าที่หลังของนาง จวินอู๋เสียทนความเจ็บปวดและถอยห่างออกไปให้เร็วที่สุด
“จวินอู๋เสีย เจ้าบังอาจฆ่ากู่ซินเยียน!” ดวงตาของกู่อิ่งแดงก่ำ เขายืนอยู่ข้างหลังจวินอู๋เสีย จิตสังหารในแววตาของเขารุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ตอนที่เขาเห็นดาบในมือของจวินอู๋เสียแทงทะลุหน้าอกของกู่ซินเยียน ท่าทางที่เฝ้าดูอย่างสบายอารมณ์ของกู่อิ่งก็หายวับไปในสายลมทันที!
จวินอู๋เสียขมวดคิ้วมองกู่อิ่งที่จู่ๆก็ปรากฏตัวออกมา ตลอดเวลามานี้นางไม่ได้สังเกตเห็นกู่อิ่งเลยจริงๆ หยดเลือดไหลลงมาผ่านช่องว่างในหมวกของจวินอู๋เสีย สีของมันดูสดใสเป็นพิเศษเมื่ออยู่บนเกราะสีเงินวาววับ
พลังจากหนึ่งฝ่ามือของกู่อิ่งยังแข็งแกร่งกว่าของกู่อี้ซะอีก!
“กู่อิ่ง……” กู่อี้มองกู่อิ่งด้วยความตกใจ เขาไม่คิดไม่ฝันว่ากู่อิ่งจะปรากฏตัวที่นี่ กู่อิ่งมาช่วยเขางั้นหรือ?
ทันใดนั้นร่างของกู่อิ่งก็กลายเป็นลำแสงสายหนึ่ง กู่อี้ยังพูดไม่จบ กู่อิ่งก็ปรากฏตัวที่ด้านหลังของเขา มือกู่อิ่งพุ่งตรงไปที่หลังของกู่อี้ทันทีโดยไม่ให้เขาได้มีเวลาตอบโต้!
มือที่เต็มไปด้วยเลือดทะลุออกมาจากหน้าอกของกู่อี้ เลือดอุ่นๆหยดจากมือของกู่อิ่งลงไปบนเท้าของกู่อี้ มือของเขากำหัวใจที่ยังเต้นอยู่
“อย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้มาช่วยเจ้า” กู่อิ่งถอนมือกลับ เขามองดูร่างไร้ชีวิตของกู่อี้ล้มลงบนกองเลือดของตัวเอง ดวงตาปีศาจของเขามองไปที่จวินอู๋เสีย เขากำมือแน่นขยี้หัวใจของกู่อี้จนระเบิดเละคามือ!
จวินอู๋เสียหรี่ตามองกู่อิ่ง จนกระทั่งกู่อี้ถูกฆ่าตาย นางไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าแม้แต่ก้าวเดียว แต่กลับพุ่งไปทางกู่ซินเยียนแทน
กู่อิ่งเข้ามาขวางหน้าจวินอู๋เสียทันที มือที่เปื้อนเลือดของเขาพุ่งเข้าใส่จวินอู๋เสียอย่างไร้ความปราณี!
จวินอู๋เสียหลบการโจมตี นางชำเลืองมองร่างของกู่ซินเยียนจากทางหางตา ดวงตาฉายแววกังวลอยู่ภายใน
“ข้าไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของเจ้า แต่เจ้าไม่ควรทำร้ายกู่ซินเยียน พันไม่ควร หมื่นไม่ควร ถึงเจ้าจะฆ่าทุกคนในสิบสองวิหาร ข้าก็ไม่สนใจ แต่เจ้าไม่ควรทำร้ายนาง” กู่อิ่งหรี่ตา พอสิ้นเสียงของเขา ชายชุดดำเกือบร้อยคนก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆเขา ในบรรดาชายชุดดำเหล่านั้น คนที่อ่อนแอที่สุดก็คือพลังวิญญาณขั้นสีม่วงแล้ว พลังวิญญาณสีเงินนั้นมีไม่น้อยเลย
ความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณสีเงินเหล่านั้นก็คือระดับเดียวกับประมุขของสิบสองวิหาร!
จวินอู๋เสียตกตะลึง อำนาจที่อยู่เบื้องหลังกู่อิ่งไม่ใช่เล่นๆเลย
“จวินเสียจากสำนักวายุประจิมก็คือเจ้า จวินอู๋จากสำนักธาราเมฆก็คือเจ้า จวินอู๋เสีย เจ้าเก่งมากที่ทำให้ข้าตกหลุมพรางได้หลายต่อหลายครั้ง” รอยยิ้มกระหายเลือดผุดขึ้นที่ริมฝีปากของกู่อิ่ง เขาไม่มีความคิดที่จะปะทะกับจวินอู๋เสียในตอนนี้ แต่การตายของกู่ซินเยียนได้ไปแตะเส้นที่ไม่ควรแตะเข้าแล้ว
เขาจะให้จวินอู๋เสียชดใช้!
พลังของกลุ่มชายชุดดำที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันทำให้พวกเฉียวฉู่ที่ต่อสู้อยู่กับเหล่าประมุขตกตะลึง เมื่อเห็นว่าคนกลุ่มนั้นล้อมจวินอู๋เสียเอาไว้ พวกเขาก็เริ่มร้อนใจ สาเหตุที่พวกเขาสามารถยืนหยัดต่อสู้กับเหล่าประมุขของสิบสองวิหารได้ นอกจากจะเป็นเพราะกินยาแปลงวิญญาณเข้าไปแล้ว ยังเป็นเพราะธูปหอมนั้นด้วย แต่ในบรรดาคนชุดดำกลุ่มนั้น มีอย่างน้อย 20 คนที่มีพลังเทียบได้กับประมุขสิบสองวิหาร และพลังของพวกเขาไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย!
ตอนที่ 1933 มหกรรมตบหน้า (25)
หากถูกชายชุดดำพวกนี้รุมโจมตีจากทุกด้าน แม้แต่จวินอู๋เสียก็ยากที่รอดออกไปแบบมีชีวิตได้!
พวกเฉียวฉู่เริ่มร้อนรน แต่เหล่าประมุขที่สู้อยู่กับพวกเขาก็สังเกตเห็นการปรากฏตัวของกู่อิ่งและคนของเขาเช่นกัน ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร พวกเขาจะปล่อยให้พวกเฉียวฉู่ไปช่วยจวินอู๋เสียได้อย่างไร?
เหล่าประมุขของสิบสองวิหารระเบิดพลังออกมาด้วยกำลังสุดท้ายที่เหลืออยู่เพื่อรั้งตัวพวกเฉียวฉู่เอาไว้
“หัวหน้า! ไปช่วยคุณหนูเร็ว!” เย่ฉาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาใจหายวาบทันที
เย่กูฟาดฝ่ามือเข้าใส่ภูติประจำตัวตนหนึ่งกระเด็นออกไป แล้วร่างของเขาก็พุ่งตรงไปที่จวินอู๋เสียอย่างรวดเร็ว!
แต่ประมุขทุกคนสั่งให้ภูติประจำตัวของตนถ่วงเย่กูเอาไว้ให้ได้ทุกวิถีทาง เย่กูแข็งแกร่งมากก็จริง แต่ภูติประจำตัวก็มีร่างกายที่ใหญ่โตมาก เมื่อพวกมันพุ่งเข้าใส่เขาพร้อมกันด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่มี พวกมันก็ขวางทางเย่กูได้อย่างสมบูรณ์!
“หลีกทาง!” เย่กูกัดฟันแน่น พลังวิญญาณปีศาจของเขาเปลี่ยนเป็นดาบยิงออกมาอย่างต่อเนื่อง!
คุณหนูจะบาดเจ็บไม่ได้เด็ดขาด!
ภูติประจำตัวได้รับคำสั่งให้ยืนหยัดสู้จนตัวตาย พวกมันจึงไม่ยอมแพ้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
คนที่กู่อิ่งพามาเริ่มโจมตีจวินอู๋เสียแล้ว
ถูกผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีเงินมากกว่า 20 คนและผู้ใช้พลังวิญญาณสีม่วงมากกว่า 10 คนรุมจากทุกด้าน แม้แต่ประมุขวิหารปีศาจเพลิงที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีเช่นนี้ได้!
จวินอู๋เสียรู้สึกราวกับว่าพลังวิญญาณมากมายมหาศาลมืดฟ้ามัวดินได้พุ่งเข้าใส่นาง เกราะภูติไม้ของนางเปลี่ยนรูปแบบอย่างต่อเนื่องโดยอยู่ในสถานะการป้องกันขั้นสูง ป้องกันการโจมตีที่แข็งแกร่งและทรงพลังครั้งแล้วครั้งเล่า!
แต่ไม่ว่าเกราะภูติไม้จะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม ก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ได้ ความเร็วในการเปลี่ยนร่างของมันเริ่มตามไม่ทันการโจมตีจากผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีเงินจำนวนมาก
ในวินาทีที่ชุดเกราะภูติไม้รวมพลังไปป้องกันการโจมตีที่ด้านหลัง ผู้ใช้พลังวิญญาณอีกคนก็เห็นโอกาสโจมตีที่หัวของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียติดคนอื่นๆและไม่มีทางถอย ทำได้เพียงรับการโจมตีนั้น!
เสียงกระแทกดังสนั่นชัดเจน!
เกราะภูติไม้ที่คลุมศีรษะของจวินอู๋เสียแตกเป็นเสี่ยงๆ หน้าผากของจวินอู๋เสียเกิดบาดแผลลึกจนมองเห็นกะโหลกศีรษะ
หลังจากโดนโจมตีที่ศีรษะอย่างรุนแรง ในหัวของจวินอู๋เสียก็มีเสียงดังอื้ออึง ดวงตาพร่าเลือน ทุกอย่างเป็นภาพมัวไปหมด นางทำได้เพียงพึ่งพาจิตสำนึกของตนในการป้องกันการโจมตี แต่เมื่อสูญเสียการมองเห็น ถึงอยากจะหลบเลี่ยงการโจมตีที่รุนแรงจากหลายทิศทาง ก็เป็นไปไม่ได้!
เสียงแตกร้าวดังขึ้นเป็นชุด เกราะภูติไม้บนร่างของจวินอู๋เสียแตกหักหลายแห่ง พลังป้องกันของมันลดลงจนเกือบเป็นศูนย์!
ทั่วทั้งร่างของจวินอู๋เสียเต็มไปด้วยบาดแผลใหญ่และเล็ก นางฝืนทนความเจ็บปวดและกัดยาที่ซ่อนไว้ในฟันของตนกินเข้าไป เพียงเท่านี้นางก็ล้มลงอย่างสิ้นท่า
พวกเฉียวฉู่เห็นจวินอู๋เสียถูกยอดฝีมือที่แข็งแกร่งจำนวนมากรุมโจมตี ใจของพวกเขาก็แทบระเบิดด้วยความกังวลและร้อนใจ แต่พวกประมุขวิหารรั้งพวกเขาไว้ด้วยทุกอย่างที่มี แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต เหล่าประมุขก็จะไม่ยอมให้พวกเขาเข้าใกล้จวินอู๋เสียได้แม้แต่ก้าวเดียว!
กู่อิ่งมองสภาพอันน่าเวทนาของจวินอู๋เสีย ความกระหายเลือดส่องประกายอยู่ในดวงตาของเขา
ดวงตาของจวินอู๋เสียมองเห็นได้ไม่ชัดเจน บาดแผลบนหน้าผากส่งผลกระทบกับนางอย่างมาก นางรู้สึกว่าศีรษะของตนถูกกระแทกอย่างรุนแรง กระทั่งจะคงความคิดเอาไว้ก็ยังทำไม่ได้
เย่กูฆ่าจนเลือดขึ้นตา หลังจากฆ่าภูติประจำตัวจนหมดแล้ว เขาก็เห็นสภาพที่เต็มไปด้วยเลือดของจวินอู๋เสีย ความโกรธเกรี้ยวทำให้เขาพุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็ว ร่างเด็กของเขาโอบกอดจวินอู๋เสียเอาไว้แน่น ใช้ร่างกายของตัวเองรับการโจมตีจากยอดฝีมือที่แข็งแกร่งหลายสิบคน!