ตอนที่ 466

The Novel’s Extra

บทที่ 466 ความหมายของอารมณ์ (2)

 

“น่าเบื่อมาก…เมื่อไหร่ถึงจะเป็นตาฉัน?”

 

ห้ามใช้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ทั้งหมดซึ่งหมายถึง smartwatches และเครื่องเล่นเกม แชนายอน คิดว่าเธออาจตายด้วยความเบื่อหน่าย….

 

“ว่าไง?”

 

ในขณะนั้นก็มีคนเข้าหาเธอ แม้ว่าเสียงของเขาจะคุ้นเคย แต่รูปร่างของเขาก็ไม่เหมือนกันเดิม เป็นชินจงฮัค

 

“ไง นายเครา”

 

แชนายอน ทักทาย ชินจงฮัก ด้วยเสียงหัวเราะ

 

“…นายเครางั้นเหรอ?”

 

“แน่นอนก็นายไว้ ‘เครา’ ยาวแล้วนี้น่า”

 

“เครา…มะ…ไม่มันแค่”

 

ชินจงฮัก หน้านิ่วและยืนอยู่ข้างๆเธอ แชนายอน มองไปที่ ชินจงฮักดูเหมือนเขาจะแก่กว่าที่ควรเป็นอาจเป็นเพราะหนวดเคราน่าเกลียดๆนั้น

 

“เธอเองก็มาที่นี่เหรอ?”

 

“…อะไรกัน นายจบการทดสอบแล้วเหรอ?”

 

“ฉันเป็นคนตัดสิน”

 

“…อะไรนะ? จริงๆเหรอ? ทำไม?”

 

ชินจงฮัคยิ้มและแสดงบัตรประจำตัวฮีโร่ให้ดู

 

[ชินจงฮัค ฮีโร่ขั้นสูง ระดับ 1 (อันดับ 315)]

[รองหัวหน้าของกิลด์ Desolate Moon]

 

กรามของ แชนายอน ตกลง

 

“…อะไรกัน นายอยู่ระดับ 1 ได้ยังไง ไม่สิที่สำคัญกว่านั้นนายอยู่ในอันดับที่ 315? นายไปติดสินบนใครมา?

 

“หาาาา มันง่ายมาก ฉันก็แค่เอาชนะฮีโร่ระดับ 1 อีกคนมาได้”

 

แชนายอน รู้สึกตะลึงกับความมั่นใจของชินจงฮัค

 

ในขณะนั้นก็มีการประกาศขึ้น

 

– ถัดไป, แชนายอน, ขั้นกลาง ระดับ 2

 

ขั้นกลาง ระดับ 2 ดูเหมือนจะน่าสงสารเกินไปเมื่อเทียบกับชินจงฮัค

เป็นปกติที่ห้องพักทั้งหมดจะเริ่มส่งเสียงพึมพำ

 

– มีขั้นกลางมาที่นี่ด้วยเหรอ ทำไมคนแบบนี้ถึงผ่านการคัดกรอง?

– เฮ้ นั่นไม่ใช่ แชนายอน หลานสาวของ แชจูชึล เหรอ?

– ไม่ เธออาจมีชื่อเหมือนกัน ไม่มีทางที่ แชนายอน จะเป็นเพียงฮีโร่ระดับกลาง….

 

แชนายอน ถอนหายใจออกมา

 

“…เธอยังคงเป็นขั้นกลางอยู่เหรอ”

 

ชินจงฮัค ถามอย่างตกตะลึง

 

“ใช่แล้วทำไมละ? ฉันสามารถเอาชนะนายได้ถ้าต้องการ ฉันไม่ได้มาทดสอบระดับนานมากแล้วนะ” แชนายอน พูดออกมา

 

ชินจงฮัคได้แต่ยิ้ม แชนายอนรู้สึกรำคาญมันเหมือนการเยาะเย้ยอย่างชัดเจน แชนายอน เดินไปทันที

 

“ฉันไปละนะ.”

 

ฮึมมมมม

 

ในขณะที่ แชนายอน มุ่งหน้าไปที่ห้องทดสอบ ชินจงฮัก ก็พึมพำจากด้านหลัง “…คิมฮาจินไม่ได้มาที่นี่”

 

แชนายอน หยุดเดิน ชินจงฮักยักไหล่ของเขา

 

“ฉันแค่อยากให้เธอรู้”

 

แชนายอน ยังคงยืนนิ่ง แชนายอน หันหน้าของเธอมาเพื่อเผชิญหน้ากับชินจงฮัค

 

“ฉันรู้อยู่แล้วน่า.”

 

นั่นคือทั้งหมดที่เธอพูดก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องทดสอบ เธอเปิดประตู ทันที

 

“ฉันคือแชนายอน”

 

ห้องทดสอบเป็นสนามที่กว้างใหญ่ ท้องฟ้าและท้องทุ่งแผ่กว้างอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในทุกทิศทางโดยให้ผู้สมัครใช้พื้นที่เพียงพอที่จะอวดอะไรก็ตามที่พวกเขาต้องการจะอวดออกมาให้ผู้ตัดสินเห็น

 

“ตอนนี้พวกเราจะเริ่มการประเมินฮีโร่ขั้นกลาง ระดับ 2 แชนายอน”

ผู้ตัดสินนั่งตรงข้าม แชนายอน ประกาศออกมา

 

เธอคุ้นเคยกับทั้ง 2 คน ไอลีน และ ยูชีฮยอก แชนายอน ยิ้มเยาะไปที่

ยูชีฮยอก

 

“เก็บรอยยิ้มเยาะจากใบหน้าของเธอซะและแสดงให้ฉันเห็นเองว่าเธอทำอะไรได้บ้าง”

 

ฮีโร่ระดับปรมจารย์ อันดับ 23 ยูชีฮยอก ประกาศอย่างโหดเหี้ยม

แต่ถึงอย่างนั้น แชนายอน ก็พบว่ามันยากที่จะให้เธอทำหน้าจริงจัง

 

“ตกลง ตกลง.”

 

แชนายอน หยิบดาบออกมา เคลย์มอร์ของเธอซึ่งสูงประมาณ 2 เมตรใหญ่กว่าตัวเธอเองมาก แชนายอน ใส่พลังเวทมนต์ลงไปในอาวุธที่เธอนำมาจาก Tower of Wish

 

ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา…

 

ในทันทีพลังเวทมนต์ก็พรวดพราดไปทั่วฟ้าดิน การปะทุครั้งใหญ่นี้มีความสูงประมาณ 10 เมตรจนเกือบสัมผัสกับท้องฟ้า ยูชีฮยอก ยิ้มและ ไอลีน มองดูอย่างใจเย็น

 

“นี่คือประมาณ 30% …เอาละนะ!”

 

แชนายอน ตะโกนพร้อมสะบัดดาบของเธอ

 

ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

 

การโจมตีของเธอขยายตัวและสร้างเป็นพายุไปที่ผู้ตัดสินทั้ง 2

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่การโจมตีของเธอกำลังจะถึงตัวผู้ตัดสิน

 

“จนหยุด.”

 

เสียงเล็กๆหยุดพลังดาบทั้งหมดเอาไว้

 

เศษส่วนเล็กๆของคำพูดจากวาจาสิทธิ์ของไอลีนเปลี่ยนเป็นพลังเวทขนาดยักษ์เอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

 

ผู้ใช้ ไอลีนวาจาสิทธิ์จ้องมองนักดาบที่อยู่เบื้องหน้าเธอและประกาศอย่างเย็นชา

 

“ฮีโร่ แชนายอน ขั้นกลาง ระดับ 2 เธอผ่าน”

*************************************************************************

กลางดึกบนทุ่งกว้างในเอเชียกลาง

 

ผมนอนใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ดวงดาวและดวงจันทร์ส่องแสง ลมอ่อนๆ พัดผ่านแก้มของผม สัมผัสจากหญ้าบนหลังของผมเหมือนกอดรัดผมเบาๆ ท้องฟ้าสวยงามราวกับมีแสงสาดกระเซ็นบนผืนผ้าใบที่เต็มไปด้วยความมืด ปรากฏการณ์ธรรมดาที่ไม่สำคัญ ฉากแบบนี้หายากจากผม ถึงแม้ว่าจะเป็นธรรมชาติ แต่ผมก็ไม่ได้คิดที่จะมองทิวทัศน์นั้น

 

“…การฝึกฝนวันนี้สนุกมากเลยนะ”

 

ผมถูกดึงจากทิวทัศน์อันสวยงามจากเธอ….เสียงที่ฟังดูแข็งแก่รงและหนักแน่นไม่เหมือนผม คนที่เหนื่อยล้าหลังการฝึกก็คือ…บอส

 

“ใช่.”

 

ผมให้เธอยิ้มเบาๆบอสและผมได้ฝึกฝนด้วยกันในสัปดาห์ที่ผ่านมา บอสเป็นคู่ต่อสู้ที่ดีสำหรับผมในการทดสอบพลังวิญญาณของผม ผมไม่ต้องไปยุ่งกับเธอเพราะเธอสามารถป้องกันการโจมตีได้ทั้งหมดแแถมผมยังสนุกกับการล้อเล่นกับเธอเป็นครั้งคราวแม้ว่าเธอจะไม่ได้ตระหนักว่านั่นเป็นสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่

 

“พวกเราควรจะทำแบบนี้อีกในวันพรุ่งนี้?”

 

“…”

 

ผมไม่ตอบ แต่ผมจำได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ เกี่ยวกับวิธีที่ผมมอบบอสให้กับ [กระสุนวิญญาณ] ของผมเกี่ยวกับวิธีที่ผมจัดการระบบประสาทของเธอในการย้อนกลับ สัญญาณสำหรับแขนและขาของเธอจนผมต้องเข้าไปพยุงเธอในตอนท้าย….

 

“มาทำกันอีกพรุ่งนี้…..พรุ่งนี้”

 

บอสพูดอีกครั้ง ผมคิดว่ามันน่ารำคาญที่เธออยากจะจัดการกับผม

แต่ผมคิดว่าบอสพบว่าการทำแบบนี้มันค่อนข้างน่าขบขัน

 

“พวกเราฝึกมาตลอดสัปดาห์ที่แล้วผ่านมา 12 ชั่วโมงต่อวันเลยนะ”

 

“…ดังนั้นนายเลยไม่อยากฝึกต่อเหรอ”

 

บอสหัวเราะเยาะ ผมยิ้มเบาๆอย่างเงียบๆ

 

“คุณช่วยถอดหัวหมีตัวนี้ออกก่อนได้ไหม”

 

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบอสสวมหัวหมีทุกวัน ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงชอบมันมากขนาดนี้

 

“มันยังใช้ได้อยู่”

 

บอสส่ายหัวของเธอ

 

“คุณหมายความว่ามันใช้งานได้ดี? มีหมวกดีกว่ามากมาย”

 

“นายสามารถทำให้ฉันหลงได้ ฮาจินมนต์ 4 ธาตุของนายเป็นทักษะที่ดี”

 

เธอกัดริมฝีปากของเธอก่อนที่จะปิดปากหมีลง ใบหน้าของบอสหายไปแทนที่ด้วยหมี

 

ผมยิ้มให้บอส จากนั้นผมก็หันกลับมามองท้องฟ้า ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ปรากฏ [แว่นขยายลึกลับ] ตรงเข้ามาในความคิดของผม

 

“…บอส?”

 

– อะไรเหรอ.

 

===

[แว่นขยายลึกลับ] [คุณสมบัติ ลวงตา ชั้นสูงสุด]

▷การระบุจุดอ่อน

– ใช้พลังเวทมนต์เพื่อระบุจุดอ่อนของเป้าหมาย

▷การระบุอารมณ์

– ใช้พลังเวทย์มนตร์ในการระบุความรู้สึกของเป้าหมายที่มีต่อคุณ

* เมื่อพลังเวทมนต์ของผู้ใช้ต่ำกว่าอีกฝ่าย จุดอ่อนและอารมณ์จะไม่สามารถระบุได้

===

 

มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถอ่านอารมณ์ของผู้อื่นได้

‘สงสัยจังว่าบอสกำลังคิดอะไรอยู่’ ผมยิ้มอย่างชั่วร้ายและส่องแว่นขยายไปที่บอส

 

“รอก่อน รอก่อนเถอะ~ จงแสดงมันออกมา….”

 

– หืม?

 

ผมต้องใช้ทั้งรอยสักไปถึง 5 เส้นเพื่อหาจุดอ่อนของบอส แต่อารมณ์ของเธอในปัจจุบันนั้นใช้แค่ 2 เส้นก็น่าจะเพียงพอ

ผมฉีดรอยสัก 2 เส้นลงไปในแว่นขยาย

 

“…”

 

หลังจากนั้นไม่นานตัวอักษรก็ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของแก้ว

 

– นั่นอะไรน่ะ?

 

เสียงของบอสดังก้องอยู่ในหน้ากากหมีสายลมเย็นๆทำให้ผมของเธอสั่น

ผมตัวแข็งค้างโดยไม่รู้ตัวและยังคงนิ่งเงียบจนกระทั่งลมพัดผ่านตัวผมจนใบไม้ร่วงหล่นกระจาย

 

– …อะไรกัน?

 

มีเพียง 3 ประโยคเท่านั้นที่จารึกไว้บนเลนส์ แต่พวกมันไม่ใช่อารมณ์ที่ผมสามารถเพิกเฉยได้

 

[ความรู้สึกผิด อยากอยู่ด้วยกันตลอดไป รักใคร่หลงไหล]